เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 185 เจ้าหมายความว่ายังไง
บทที่ 185 เจ้าหมายความว่ายังไง?
ฉู่ชูเหยียน รู้สึกปวดหัวกับชายคนนี้จริง ๆ เขาสร้างเรื่องอีกแล้ว
นี่ข้าคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่เลือกให้เขามาเป็นสามีของข้า? ผู้ชายคนนี้นี่มันเป็นยอดอัจฉริยะในการสร้างปัญหาจริง ๆ !
อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของพวกเขาที่นี่ในวันนี้ นางจึงตัดสินใจเล่นตามน้ำไปกับเขา “หยวนเหวินตง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซูอัน ก็ยังคงเป็นเขยของตระกูลฉู่ ของเรา ข้าไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกหน้าไหนรังแกเขาได้ หากเจ้าต้องการท้าทายเขา เจ้าต้องผ่านข้าก่อน!”
เมื่อพูดจบ ฉู่ชูเหยียน ก้าวออกมาข้างหน้า ส่วนทางด้านของ หยวนเหวินตง กลับก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับก่นด่าในใจ
ถ้าข้าสามารถเอาชนะเจ้าได้ เจ้าคิดว่าข้าจะลดเกียรติตัวเองประจบประแจง ซือคุน แบบในตอนนี้งั้นหรือ?
และอีกอย่างที่แน่นอนว่าก็คือเขาไม่มีทางจะกล้าโกรธ ฉู่ชูเหยียน ดังนั้นสายตาของเขา จึงจ้องเขม็งไปที่ ซูอัน และตวาดขึ้นเสียงดัง “ไอ้ขยะแซ่ซู เจ้าเป็นผู้ชายแบบไหนกันที่เอาแต่ซ่อนอยู่ข้างหลังผู้หญิงทุกครั้งที่เกิดเรื่อง!”
แค่นึกถึงตอนที่เขาพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถให้กับ เพ่ยเหมียนหมาน เมื่อคราวที่แล้วมันก็ เพียงพอที่จะทำให้เขายิ่งไม่กล้าต่อกรกับ ฉู่ชูเหยียน ที่มีชื่อเสียงมากกว่า
ซูอัน ยักไหล่อย่างไม่แยแสและตอบกลับทันที “ข้าเป็นผู้ชายแบบไหนงั้นหรือ? ข้าเป็นผู้ชายแบบที่มีผู้หญิงงดงามอันดับหนึ่งและมีอำนาจมากมายอยู่เคียงข้างข้า แต่สำหรับเจ้า ข้าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเจ้าเป็นผู้ชายแบบไหนเพราะข้าไม่เห็นว่าเจ้ามีผู้หญิงอยู่เคียงข้างสักคน?”
“ข้า…” หยวนเหวินตงพูดไม่ออก ทำไมข้าถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้!
ท่านยั่วยุ หยวนเหวินตง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +642!
ตอนนั้นเองที่ ซือคุน กระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของ หยวนเหวินตง ซึ่งมันทำให้ดวงตาของ หยวนเหวินตง สว่างขึ้นพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่นและโต้ตอบกลับมา “ตอนนี้ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีความสุขไปก่อนก็แล้วกัน เจ้าอยากจะซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผู้หญิงแค่ไหนก็ได้ตามใจเจ้า แต่พรุ่งนี้ในงานประลองระหว่างตระกูล มันจะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สามารถออกมาปกป้องเจ้าได้อีก และข้า จะทำให้มันเป็นวันนรกสำหรับเจ้า!”
ซูอัน ถอนหายใจยาวก่อนจะตอบว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าคงเป็นพวกชอบความเจ็บปวดสินะ? แต่ก็ช่างเถอะ ๆ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ข้าจะแสดงความสามารถที่แท้จริงของข้าบนลานประลองให้เจ้าเห็นก็แล้วกัน แต่สัญญากับข้าก่อนก็แล้วกันว่าเจ้าต้องพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ให้ดีที่สุดในตอนที่ข้า อัดเจ้าจนหมดสภาพตกลงไหม?”
“ความสามารถที่แท้จริงของเจ้า?” หยวนเหวินตง ระเบิดเสียงหัวเราะจนน้ำตาเล็ด “ดีมาก ดี ๆ ๆ ๆ! ข้าอยากเห็นความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อของนายน้อยซูในวันพรุ่งนี้เร็ว ๆ จริง ๆ ! ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”
ซือคุน เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของเขาเช่นกัน ตามคำบอกเล่าของเสวี่ยเอ๋อร์ ซูอันเป็นเพียงผู้บ่มเพาะระดับ 3 เท่านั้น ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดมันไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะ ผู้บ่มเพาะระดับ 5 อย่าง หยวนเหวินตง ได้
แน่นอน เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่ผิดพลาด เขาจะเตือน หยวนเหวินตง เกี่ยวกับ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ ซูอัน
“ข้าบอกเจ้าเอาไว้ตรงนี้ได้เลยว่าข้าถูกเลือกให้ลงประลองเป็นคู่สุดท้ายในฐานะอาวุธลับของตระกูลฉู่ ถ้าเจ้าแน่จริงเมื่อถึงเวลาเจ้าก็เลือกข้าเป็นคู่ประลองก็แค่นั้น!” ซูอันกล่าว
หยวนเหวินตงหัวเราะ “วางใจได้เลย ๆ ข้าจะประลองกับเจ้าแน่ ๆ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นความหมายที่แท้จริงของคำว่า ‘ความสิ้นหวัง’ มันเป็นยังไง!”
หยวนเหวินตง คาดเดาได้ถึงความตั้งใจของตระกูลฉู่ทันทีว่าการที่พวกเขากำนหนดให้ ซูอัน ประลองเป็นคนสุดท้ายเพราะต้องการปกป้องเขาเพราะตามปกติแล้วเวลาที่ตระกูลฉู่ชนะติดกัน6 รอบเรียบร้อยพวกคู่ประลองคู่หลัง ๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องประลองอีกต่อไป ฮึ่ม! เจ้าคิดว่า ตระกูลหยวนของข้ายังอ่อนแอเหมือนเดิมงั้นหรือ? เจ้าเตรียมตัวรอรับความประหลาดใจได้เลย ในปีนี้!
ในทางกลับกัน เมื่อเห็นว่าทุกอย่างลุล่วงไปตามแผน ฉู่ชูเหยียน จึงลาก ซูอัน เข้าไปในสถาบันอย่างรวดเร็วซึ่งทำให้ ซือคุน ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้
ความสัมพันธ์ของ ฉู่ชูเหยียน และ ซูอัน นั้นดูไม่ห่างเหินเหมือนที่ เสวี่ยเอ๋อร์ เล่าเอาไว้เลย? เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากที่ เสวี่ยเอ๋อร์ถูกเปิดเผยพวกเขาจะกลายเป็นใกล้ชิดกันมากขึ้น?
ซือคุน ร้อนผ่าวไปทั่วทั้งหน้าเมื่อคิดได้แบบนี้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าภรรยาของเขาเองกำลังไปกับผู้ชายคนอื่น!
ท่านยั่วยุ ซือคุน สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +222!
ในขณะเดียวกัน ซูอัน ไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจเกี่ยวกับ 8 คะแนนความโกรธแค้น ที่เขาได้รับจากระบบ เขาจดจ่ออยู่ที่มือของ ฉู่ชูเหยียน ซึ่งมันนุ่มและเรียบเนียนแต่กลับเย็นเฉียบ จนน่าประหลาดใจเมื่อสัมผัสชายหนุ่มรู้สึกยินดีเล็กน้อยที่ฝ่ายหลังกลับคว้ามือเขาไปด้วยตัวเองในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกเขาออกจากฝูงชน ฉู่ชูเหยียน ก็ปล่อยมือของนางและพูดว่า “เมื่อครู่เจ้าทำได้ดีมาก เจ้ากระตุ้นความโกรธของ หยวนเหวินตง ไปขนาดนั้นมันเป็นไปได้มากที่เขาจะเลือกเจ้าในวันพรุ่งนี้”
ซูอัน พอใจกับการแสดงเมื่อครู่ของเขาเช่นกัน “ข้าค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของข้าเองในเรื่องยั่วโมโหชาวบ้าน”
“จุดนี้ข้าเห็นด้วย!” เมื่อนึกถึงว่าเสวี่ยเอ๋อร์มักจะโกรธจนควันออกหูทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับ ซูอัน รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ ฉู่ชูเหยียน
ในทางกลับกัน ฉู่ฮวนเจา ยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ “พี่ใหญ่ มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้า ซูอัน ต้องสู้กับ หยวนเหวินตง จริง ๆ ? หยวนเหวินตง เป็นผู้บ่มเพาะระดับ 5 และตอนนี้เขาก็เกลียด ซูอัน เข้าไส้ ข้าแน่ใจว่าทันทีที่มีโอกาสเขาคงไม่ลังเลเลยที่จะฆ่า ซูอัน ให้ตาย!”
ฉู่ชูเหยียน ส่ายหัวและตอบกลับอย่างมั่นใจ “เจ้ามั่นใจเถอะ จากการเตรียมการของเรา ซูอัน จะไม่ได้ขึ้นไปบนลานประลองแน่นอน”
“แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดล่ะ” ฉู่ฮวนเจา ถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้ากังวล
“ถ้าสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามแผนจริง ๆ ซูอัน ควรตะโกนขอยอมแพ้ทันทีที่ขึ้นไป บนลานประลอง นอกจากนี้ พ่อกับข้าจะคอยดูอยู่อย่างใกล้ชิด เราจะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเขา” ฉู่ชูเหยียนตอบกลับ
ฉู่ฮวนเจา ขมวดคิ้ว “ถึงพี่จะพูดแบบนี้แต่ ซูอัน ได้ท้าทาย หยวนเหวินตง ต่อหน้า สาธารณชนแล้ว ถ้าเขายอมรับความพ่ายแพ้ในทันทีบนลานประลอง เขาจะเผชิญหน้ากับใครได้อีกในอนาคต?” “เจ้าคิดว่าศักดิ์ศรีมันสำคัญมากกว่าชีวิตงั้นหรือ?” ฉู่ชูเหยียนถามกลับ
หลังจากพูดจบประโยคนั้น นางก็หันไปหา ซูอัน และพูดว่า “เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าควรเตือน เจ้าด้วย ข้ารู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์ในการยั่วยุผู้อื่น เจ้าสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้จนถึงตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นเพราะโชคช่วย แต่มันคงอีกไม่นานนักหรอกที่โชคของเจ้าจะหมดลงในที่สุด เจ้าควรเปลี่ยนแปลงนิสัยของเจ้าบ้าง ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะพลาดไปทำให้บุคคลที่เจ้าไม่อาจล่วงเกินได้ขุ่นเคือง”
“วางใจเถอะ ข้ายั่วยุคนที่ข้าสามารถยั่วยุได้เท่านั้น” ซูอัน ตอบกลับอย่างรวดเร็ว หากข้า ไม่ยั่วยุผู้อื่น ข้าจะรับคะแนนความโกรธได้ยังไง? นอกจากนี้ข้าไม่ใช่คนปัญญาอ่อนสักหน่อยที่ยั่วยุคนไปทั่วโดยไม่ดูว่าคนไหนยั่วยุได้คนไหนยั่วยุไม่ได้จริงไหม?
จนถึงปัจจุบัน ซูอัน ไม่เคยคิดที่จะได้รีดเอาคะแนนความโกรธของ ผู้เฒ่ามี่ หรือ จี้เติ้งถู เพราะเขาได้คำนวณเอาไว้หมดแล้วว่ามันได้ไม่คุ้มเสีย หากเขาไม่คำนวณผลได้ผลเสียทุกอย่างในหัวมาตลอด ป่านนี้เขาคงตายไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ฉู่ชูเหยียน กลับเข้าใจความหมายในคำพูดของ ซูอัน แตกต่างออกไป นางคิดว่าเขาไม่สนใจคำแนะนำที่ดีของนาง และนางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบา ๆ ดูเหมือนว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะชี้แนะคนหัวทึบผู้นี้
“ข้าจะไปที่ห้องเรียนของข้า เอาไว้เราค่อยเจอกันหลังเลิกเรียน” เมื่อพูดจบ ฉู่ชูเหยียน เดินออกไปด้วยหัวใจที่หนักหน่วง
เมื่อนางจากไป ฉู่ฮวนเจาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและพูดว่า “เฮ้อ ข้ารู้สึกอึดอัดมากจริง ๆ ! ข้าเกือบจะหลุดบอกนางเกี่ยวกับเรื่องนั้นไปตั้งหลายรอบ!”
ซูอัน มองไปที่ ฉู่ฮวนเจา และถามด้วยความสงสัย “นี่เจ้ามีความสุขมากเลยหรือกับการหลอกพี่สาวของเจ้าเอง?”
“มันไม่น่าสนุกรึไง? ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉู่ฮวนเจา หัวเราะอย่างชั่วร้าย “ท่านไม่ได้ยินหรือไงพี่เขย พี่สาวของข้าบอกว่าจะพบกับท่านหลังเลิกเรียน ข้าสงสัยจริง ๆ ว่านางจะทำหน้ายังไงเมื่อเห็นท่านที่ห้องเรียนของนาง!”
“ข้าชักอยากจะรู้เหมือนกันแล้วแหะ…” ซูอัน ถูกสะกดจิตด้วยคำพูดของ ฉู่ฮวนเจา “ว่าแต่เจ้าคิดว่าข้าควรพูดอะไรดีเมื่อพบนางในห้องเรียนเพื่อทำให้สถานการณ์มันดูตราตรึงยิ่งขึ้น?”
“โธ่พี่เขย! นั่นไม่ใช่สิ่งที่ท่านถนัดที่สุดไม่ใช่หรือ? ทำไมเจ้าถึงมาถามข้าแทนแบบนี้!” ฉู่ฮวนเจา เบ้ปาก
“เฮ้อ ๆ ๆ เจ้าชมข้าอีกแล้ว แต่ปกติแล้วข้าเป็นคนใสซื่อมากนะเจ้ารู้ไหม?” ซูอัน แสดงสีหน้าเขินอายกับคำเยินยอของนาง
“ใสซื่อ?” ฉู่ฮวนเจา เผยรอยยิ้มลึกลับบนริมฝีปากของนาง “ท่านคิดว่าข้าไม่เคยเห็นงั้นหรือว่าท่านชอบแอบดูขาอ่อนของข้าบ่อย ๆ ! สารภาพมา! ท่านมีความคิดที่จะทำให้ข้ากับพี่ใหญ่เป็นภรรยาของท่านพร้อม ๆ กันจริง ๆ เหมือนที่คนอื่นเขานินทาใช่ไหม!”
“ไม่ ไม่ ไม่แน่นอน!” ซูอัน ตกใจกับความคิดนี้ ฉู่ฮวนเจา นี่เจ้าเป็นบ้าอะไรถึงได้จู่ ๆ ก็ถามคำถามแบบนี้ออกมาตรง ๆ ?
“ชิ! อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าท่านคิดอะไรอยู่ในหัวบ้าง!” ฉู่ฮวนเจา บ่นขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ข้าขอเตือนเอาไว้เลยว่าอย่าให้ความคิดนี้ของท่านรู้ไปถึงหูท่านแม่หรือพี่ใหญ่ของข้า ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถลกหนังหัวท่านทั้งเป็นแน่นอน!”
หลังจากพูดจบ ฉู่ฮวนเจา ก็เดินไปที่ห้องเรียนของนางทิ้งให้ ซูอัน ยืนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
เดี๋ยวนะ นี่นางหมายความว่ายังไงกับคำพูดพวกนั้น?