เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 21 อันตรายจากรอบด้าน (ต้น)
บทที่ 21 อันตรายจากรอบด้าน (ต้น)
แต่แน่นอน หากคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี้คือตัวฉู่ชูเหยียนเอง เขาก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำนน และเขาเองก็อาจจะต้องเปิดเผยข้อบกพร่องของตัวเองเพื่อลบล้างคำใส่ร้ายพวกนี้เช่นกัน
ซูอันรวบรวมความคิดทั้งหมดตัวเอง จากนั้นจึงหันไปพูดกับชุนฮวาว่า “รับเงินสำหรับค่าขนย้ายข้าวของของเจ้าไป หากพูดกันตามตรง เจ้ามาได้ถูกเวลาพอดี ผู้หญิงคนล่าสุดที่ข้าพามาที่บ้านกำลังจะหมดสภาพอยู่ในกองทัพ เจ้าจะได้ไปแทนที่นาง”
“เงินสำหรับขนย้ายข้าวของ?” ชุนฮวาเริ่มที่จะได้กลิ่นแปลก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ “เดี๋ยวก่อน…เหตุใดนางจึงไปอยู่ในกองทัพ?”
“เจ้าไม่รู้เหรอ?” ซูอัน แสดงสีหน้าสนุกสนาน “ภรรยาของข้านั้นสมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของนางก็คือนางมักจะชอบทำตัวติดกับข้าและขี้หึงหวงเล็กน้อย ครั้งสุดท้ายที่ข้าพาผู้หญิงที่เหมือนกับเจ้าเข้ามา นางก็หาข้ออ้างบางอย่างเพื่อนำตัวผู้หญิงคนนั้นไปในกองทัพของเราเพื่อบริการพวกทหาร ให้ตายเถอะ นางจะต้องรับแขกวันละหลายรอบแน่ ๆ ข้าเองก็สงสารนาง”
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนได้สำเร็จ
คะแนนความโกรธแค้น +433!
———————————————————————————————
ฉู่ชูเหยียนไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะใส่ร้ายป้ายสีนางเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นสายตาแปลกประหลาดที่ทุกคนที่มองมา ในตอนแรกนางก็อยากที่จะฆ่าอีกฝ่ายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตัวนางเองก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันที่ผ่านมานั้นแปลกเกินไป และซูอันก็ทำตามข้อตกลงของนางทุกอย่าง หากนางจะต้องหาเจ้าบ่าวคนใหม่ ตระกูลของนางคงจะต้องเข้าไปยุ่งพัวพันกับกับเล่ห์กลและอุบายต่าง ๆ อีก
และเพราะแบบนั้น นางจึงได้แต่นั่งมองภาพตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย นิ่งสงบ ไม่เอ่ยวาจาจาใด ๆ ทั้งสิ้น
“บริการกองทัพ? !” ใบหน้าของชุนฮวาฉายแววหวาดกลัว แม้แต่เหล่าผู้ที่อยู่ในสายงานของนางก็ยังมีลำดับชั้นทางสังคมอยู่ ดาวเด่นของหอคณิกาที่อยู่ระดับสูงสุดคือ ‘ราชินีดอกไม้’ รองลงมาคือระดับกลาง และลำดับสามคือคณิการาคาถูกอย่างตัวนาง ทว่ายังมีโสเภณีที่อยู่ระดับต่ำที่สุกอย่างโสเภณีที่อยู่ในกองทัพอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นการลงโทษสำหรับการละเมิดกฎหรือข้อบังคับบางอย่าง
เหล่าชายฉกรรจ์ที่อยู่ในกองทัพล้วนหื่นกระหายและมีความอึดอย่างน่าเหลือเชื่อ มีผู้หญิงไม่มากนักที่จะสามารถทานทนกับการถูกกระทำอย่างรุนแรงแบบนั้นได้ อย่างมากที่สุดพวกนางก็ทนได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น เมื่อชุนฮวานึกถึงเรื่องนี้…ใบหน้าของนางก็พลันซีดเผือด
ซูอัน พยักหน้า “เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก คนพวกนี้เป็นคนของตระกูลข้าเอง พวกเขาจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี! และพวกเขาเองก็กำลังตั้งตารอหญิงบริการคนใหม่อยู่พอดีเหมือนกัน”
ทันใดนั้น นายหญิงแห่งตระกูลฉู่ก็ไม่สามารถข่มอารมณ์โกรธของตัวเองได้อีกต่อไป “สารเลว! ตระกูลฉู่เรา…”
นางกำลังจะพูดว่าตระกูลฉู่และกองกำลังของนางไม่เคยมีส่วนร่วมกับเรื่องไร้ยางอายเช่นนั้น แต่นางคณิกาตรงหน้าของนางกลับเสียสติเสียก่อน นางส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัวและพูดขึ้นว่า “ข้าไม่อยากไปที่ค่ายทหาร! ทุกอย่างที่ข้าเพิ่งพูดไปก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องโกหก! ข้าไม่รู้จักท่านด้วยซ้ำ!”
ขณะที่พูด นางก็เริ่มหันไปฉุดดึงร่างของเตียวหยางที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก “เตียวหยาง นี่มันไม่เห็นเหมือนอย่างที่เจ้าเล่าให้ข้าฟังเลยสักนิด! พูดอะไรสักอย่างสิ! ข้าไม่อยากเข้าไปอยู่ในค่ายทหารนะ!”
ใบหน้าของเตียวหยางซีดเผือดทันทีเขารีบใช้เท้าถีบหญิงสาวให้ออกห่างจากตนและพูดว่า “อย่ามาใส่ร้ายข้า นางผู้หญิงสำส่อน! กองกำลังของตระกูลฉู่อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับทางศีลธรรมที่เข้มงวด พวกเราจะไป…”
เขาอยากจะเอ่ยต่อ แต่ทันใดนั้นพลังมหาศาลก็โอบล้อมร่างของเขาเอาไว้และทำให้เขาไม่สามารถพูดต่อได้
ใบหน้าของฉู่จงเทียนในยามนี้นิ่งสงบราวกับสายน้ำ เขามองชุนฮวาและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เขาเป็นคนขอให้เจ้ามาที่นี่และพูดในสิ่งที่เจ้าเพิ่งพูดไปอย่างนั้นหรือ?”
ชุนฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าโดยพลัน ราวกับไก่ที่ก้มลงจิกเมล็ดข้าว “ชายผู้นี้มาหาข้าและให้เงินข้า 20 เหรียญเงิน และบอกว่าข้าจะได้เงินมากกว่านี้หากข้ามาที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่และทำเรื่องนี้ให้กับเขาและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงแอบมาที่นี่! โปรดให้อภัยข้าด้วย!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่จงเทียนจึงปลดปล่อยพลังความโกรธทั้งหมดของตนลงที่เตียวหยาง “เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่?”
ใบหน้าของเตียวหยางซีดเผือด เขารีบคุกเข่าเพื่อร้องขอความเมตตาทันที “นายใหญ่! โปรดให้อภัยข้าด้วย! ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะข้าได้รับคำสั่งมา”
“ผู้ใดเป็นคนสั่ง?” ฉู่จงเทียนเอ่ยถามเสียงดัง
“ขะ ข้า…ข้ามิอาจรู้ได้” เตียวหยางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก จากนั้นจึงรีบเอ่ยต่อว่า “คน ๆ นั้นพูดกับข้าจากอีกด้านหนึ่งของกำแพง เขาให้เงินข้าแลกกับการทำสิ่งนี้! ตัวข้าเองก็เกลียดความจริงที่ว่าคุณหนูของพวกข้าต้องลงเอยด้วยการร่วมหอลงโรงกับคนที่ไร้ประโยชน์อย่างชายผู้นี้ ดังนั้นข้าจึงเอ่ยตกลงราวกับคนโง่ โปรดเมตตาข้าเพื่อเห็นแก่เวลาหลายสิบปีที่ข้ารับใช้พวกท่านด้วย!”
เมื่อได้ยินคำของเตียวหยาง เสวี่ยเอ๋อร์ก็คลายมือที่กำแน่นของตัวเองไว้
ฉู่จงเทียนที่ได้ยินเช่นนั้นเพียงส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะสะบัดมือไล่ให้คนมาพาตัวเตียวหยางออกไป จากนั้นจึงหันไปมองทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ด้วย “ในเมื่อทุกอย่างถูกไขกระจ่าง และเราก็ได้เห็นแล้วว่าซูอันถูกปองร้าย หากพิจารณาถึงบทลงโทษที่เขาได้รับไปก่อนหน้านี้ ข้าก็ขอให้เรื่องมันจบลงที่ตรงนี้ จะไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีก มีใครมีข้อโต้แย้งหรือไม่?”
ฉู่เทียนเซิงเพียงโยกพัดในมือเบา ขณะที่ฉู่เยว่พอยังคงเล่นกับเข็มทิศของตนเองต่อไป ทั้งสองไม่ได้เอ่ยอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากที่จะกระโจนออกไปและดึงความสนใจทั้งหมดมาที่ตนเอง
ซูอันเพียงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทว่านายหญิงตระกูลฉู่ยังคงโกรธอยู่ นางจึงเอ่ยว่า “แล้วท่านจะปล่อยเขาไปแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?”
“แน่นอนว่าไม่” ฉู่จงเทียนยิ้มอย่างเอาใจภรรยา
“ซูอันได้เอาตัวเข้าไปพัวพันกับเรื่องที่ไม่น่าดูนัก และเพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ก่อปัญหาให้เราอีกในภายภาคหน้า หลังจากที่เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ เราจะลงโทษเขาโดยการส่งเขาไปที่สถาบันจันทร์กระจ่างเพื่อบ่ม…” เขาอยากจะพูดคำว่าบ่มเพาะ แต่เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านั้นน่าสังเวชเพียงใด เขาจึงปรับเปลี่ยนคำพูดของตัวเองทันที
“อะแฮ่ม…เพื่อที่จะได้เป็นผู้ที่ได้รับการศึกษา ด้วยวิธีนี้ อย่างน้อย เขาก็อาจจะสามารถช่วยตระกูลของเราในฐานะของนักบัญชีหรืออะไรก็ตามได้”
“สถาบันจันทร์กระจ่าง?” ซูอันค่อนข้างตกใจ ทว่าเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าฉู่จงเทียนคือท่านอ๋องแห่งเมืองจันทร์กระจ่าง สถาบันจันทร์กระจ่างก็น่าจะเป็นกิจการในเครือของตระกูลนี้
อย่างไรก็ตาม ความสนใจของเขาทั้งหมดในตอนนี้นั้นอยู่ที่คะแนนความโกรธแค้นที่เขาเพิ่งได้มา หากรวมทั้งหมดเขาด้วยกัน เขาได้คะแนนความโกรธแค้นมาเพิ่มอีก 1646 แต้ม ได้เวลาสุ่มของรางวัลอีกครั้งแล้ว!
หลังจากที่เขาถูกหามกลับมาที่ห้อง ร่างบางในชุดสีแดงเข้มก็วิ่งเข้ามาด้านในซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เขากำลังจะเริ่มทำการสุ่มของรางวัลอย่างพอดิบพอดี
ใบหน้าของชายหนุ่มพลันเผยแววระแวดระวังออกมาเมื่อเขาเห็นว่าผู้มาใหม่คือคุณหนูสองแห่งตระกูลฉู่ “เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”
หรือว่านางจะรู้แล้วว่าเขาแค่แสร้งทำเป็นบาดเจ็บเท่านั้น?
ฉู่ฮวนเจาเพียงกระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลนัก ขาเรียวทั้งสองข้างแกว่งอยู่กลางอากาศ “ที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะขอโทษเจ้า”
“ขอโทษ?” ซูอัน ไม่แน่ใจว่าเขาควรจะเอ่ยอะไรตอบกลับไป
ฉู่ฮวนเจา แสดงสีหน้าอึดอัด “เรื่องการเดิมพันของเรา ข้าตกลงที่จะยกโทษให้เจ้าทั้งหมด แต่มาวันนี้ ข้ากลับไม่สามารถช่วยปกป้องเจ้าได้ ซ้ำร้าย เจ้ายังถูกลงโทษเพราะเรื่องนี้…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกตลกเล็กน้อย เด็กสาวตรงหน้าก็เป็นคนตรงไปตรงมาเหมือนกันสินะ แต่ตอนนี้เขาอยากจะรีบสุ่มของรางวัลใจจะขาด ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะเสียเวลาพูดคุยกับอีกฝ่ายและเพียงสะบัดมือไล่ “อ๋อ ไม่เป็นไร เจ้ายังเด็ก และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าจะไม่มีปากมีเสียงในตระกูล”
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุฉู่ฮวนเจาได้สำเร็จ
คะแนนความโกรธแค้น +66!
———————————————————————————————