เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 217 อายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี
นั่นมันบ้าอะไรกัน!?
ฝูงชนที่ยังคงส่งเสียงร้องโห่ให้กำลังใจกันอย่างบ้าคลั่งเมื่อครู่ต่างหุบปากลงจนบรรยากาศรอบ ๆ ลานประลองเงียบเหมือนป่าช้า
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ซ่างหง เจียงลั่วฝู เซี่ยอี้ และตัวตนระดับสูงคนอื่น ๆ ที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานหรือบรรดาผู้ที่มาจากตระกูลอู๋ ตระกูลเจิ้ง และตระกูลหยวนซึ่งกำลังมองฉู่จงเทียนอย่างมีความสุข รอให้เขาอับอาย รวมไปถึงซือคุนที่กำลังจิบน้ำชาด้วยความมั่นใจหลังจากเห็นซูอันขึ้นไปบนลานประลอง…
สีหน้าของพวกเขาทั้งหมดต่างแข็งค้าง
นี่ตาของข้าเล่นตลกกับข้ารึเปล่า ? เมื่อครู่ซูอันเพิ่งตบหยวนเหวินตงไปงั้นเหรอ ? มันเป็นไปได้ยังไงกัน!
ปฏิกิริยาแรกของทุกคนคือขยี้ตาอย่างสับสนก่อนจะสอบถามคนที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาอีกครั้งว่าเหตุการณ์เมื่อครู่พวกเขาเห็นเหมือนกันรึเปล่า ก่อนที่ท้ายที่สุดพวกเขาก็สรุปได้ว่าเรื่องเมื่อครู่มันเป็นความจริง ! และจากนั้นความโกลาหลครั้งใหญ่ก็ปะทุขึ้น
เขาทำได้ยังไง!!!
บรรดาผู้ที่มาจากตระกูลฉู่ เมื่อเห็นซูอันกระโดดขึ้นไปบนลานประลอง พวกเขาก็เตรียมที่จะกระโดดตามขึ้นไปหยุดอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำให้พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงเช่นกัน ฉู่จงเทียนมองไปที่หน้าของฉินหว่านหรูและฉู่ชูเหยียนด้วยความงุนงง พวกเขาทั้งสามคนไม่เข้าใจเลยว่านี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง
มีเพียงแค่ฉู่ฮวนเจาที่อยู่บนเปลหามเท่านั้นที่เริ่มปรบมืออย่างดีใจสุดขีด “เย้ !! ทำได้ดีมากพี่เขย ! เย้ ๆๆๆ อ…โอยยย~”
การเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของนางดันไปกระตุ้นอาการบาดเจ็บของนางให้กำเริบโดยไม่ตั้งใจ ทำให้นางครางขึ้นด้วยความเจ็บปวด
หยวนเหวินตงตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ ศีรษะของเขายังคงมึนงงจากการถูกโจมตี ถ้าไม่ใช่เพราะความแสบที่แก้ม เขาก็คงจะยังพยายามคิดต่อไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่กันแน่
“นี่ข้าโดนไอ้ขยะนั่นตบจริง ๆ งั้นเหรอ?”
ความโกรธพุ่งเข้ามาในหัวของเขาทันที
—
ท่านยั่วยุ หยวนเหวินตง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!
—
ก่อนหน้านี้เขาจินตนาการมาตลอดว่าเมื่อถึงเวลาเขาควรจะทรมานซูอันแบบไหนดีเพื่อระบายความแค้นให้ได้มากที่สุดโดยไม่เปิดเผยเจตนาฆ่า เขายังคิดเผื่อเอาไว้ด้วยว่าเขาควรจะพูดตอบโต้คนของตระกูลฉูอย่างไรหากผู้บ่มเพาะของตระกูลฉู่พยายามจะขึ้นมาแทรกแซงและหยุดเขา อย่างไรก็ตาม… สถานการณ์ตอนนี้มันกลับพลิกผันไปในแบบที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว!
เขาถูกไอ้ขยะคนนี้ตบหน้าต่อหน้าบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งหมดในเมือง!
“ข้าจะฆ่าเจ้าาาาา!!!”
หยวนเหวินตงตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวจากความโกรธจัดก่อนที่จะพุ่งเข้าหาซูอันอย่างสุดกำลัง
“ช้าก่อน !” แต่แล้วจู่ ๆ ซูอันกลับยกมือขึ้นเพื่อหยุดเขา
“ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วโว๊ยที่จะขอความเมตตา !!” หยวนเหวินตงถ่มน้ำลายด้วยความโกรธ
แม้ว่าเขาจะพูดออกไปแบบนั้น แต่เขากลับหยุดฝีเท้าตามที่ซูอันพูด ด้วยกำลังเขาใช้เวลานี้คิดว่าตนจะกู้หน้าตัวเองอย่างไรดี ข้าควรให้ชายผู้นี้คุกเข่าลงต่อหน้าข้า และให้ตะโกนร้องอ้อนวอนขอความเมตตาด้วยน้ำตาคลอเบ้าดีหรือไม่ ? ไม่ นั่นยังไม่เพียงพอ!
ซูอันใช้มือของตัวเองเสยผมของเขาให้ปัดไปข้างหลังพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เมื่อครู่ข้ารีบร้อนขึ้นมาบนนี้เกินไปจนลืมเปิดเพลงประกอบที่ข้าเตรียมไว้เป็นพิเศษ”
ในขณะที่พูดคำเหล่านั้น ซูอันก็หยิบเปลือกหอยของซางหลิวอวี้ออกมาจากเสื้อคลุมของเขา และดนตรีอันเร่าร้อนก็เริ่มบรรเลงบนลานประลอง
“…” หยวนเหวินตง
“…” ซือคุน
“…” อู๋ฉิง
“…” ฉู่ชูเหยียน
นักศึกษาทุกคนที่อยู่ในชั้นเรียนนภาต่างรู้ทันทีว่านี่มันดนตรีอะไร ! ไม่นานมานี้ระหว่างชั้นเรียนคณิตศาสตร์ ซูอันก็เคยเปิดมันมาแล้ว ! แต่ในทางกลับกันฝูงชนที่เหลือต่างสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ จนพวกเขาวิจารณ์กันอย่างกระตือรือร้น
“ดนตรีนี้มันคืออะไรกัน ? ทำไมใจของข้าถึงเต้นแรงเพียงแค่ฟังมัน?”
“ข้ารู้สึกได้ถึงเลือดที่กำลังสูบฉีดในร่างของข้า ไหนไอ้พวกคนชั่วอยู่ที่ไหน ! ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมดเพื่อกอบกู้โลก!”
…
เซี่ยเต๋าอวิ๋นนั่งเงียบ ๆ ในที่นั่งของนางมาเป็นเวลานานแล้ว นางไม่ชอบการต่อสู้มากนัก ดังนั้นการประลองที่ผ่านมาจึงมีแต่จะทำให้นางรู้สึกง่วงแค่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ดนตรีนี้ดังขึ้น ร่างกายของนางก็กระตุกขึ้นในทันที นางรีบเบนสายตาไปจับจ้องที่ซูอันด้วยความสนใจ
“กง ซาง เจียว เวย อวี้* …หืม ? ดนตรีนี้มีโน้ตมากกว่าที่ข้าเคยรู้จักซะอีกนี่นา มีโน็ตมากมายที่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ! เขาทำมันได้อย่างไร?”
**โน็ตเสียงเหล่านี้คือ Do, Re, Mi, So, La ตามลำดับ เพียงแต่ว่ามันเป็นรูปแบบดั้งเดิมสำหรับคนจีนโบราณ**
“ทำไมชายคนนี้มักมีเรื่องให้ประหลาดใจตลอดเลย ?” เซี่ยซิว รู้สึกอึ้งไปเช่นกัน แต่เขาไม่มีทางที่จะพูดเยินยอออกมาดัง ๆ แน่นอน แต่ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของเขา และนั่นทำให้เขาหันไปหาเซี่ยเต๋าอวิ๋นอย่างรวดเร็วและถามว่า “ท่านพี่ ท่านเก่งดนตรีด้วยใช่ไหม ? ทำไมท่านไม่ทำดนตรีแบบนี้ให้ข้าบ้างล่ะ?”
เซี่ยเต๋าอวิ๋นส่ายหัวและตอบว่า “มีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับดนตรีนี้ ถ้าให้ข้าเดา มันคงถูกแต่งโดยนักดนตรีระดับแนวหน้าของโลกแน่นอน ข้าเกรงว่าข้าคงไม่สามารถแต่งดนตรีในระดับเดียวกับที่เล่นอยู่ขณะนี้ได้”
เซี่ยซิวตกตะลึง “ซูอันมีความสามารถด้านดนตรีระดับนั้นเลยเหรอ?”
แต่แล้วเขาก็ต้องเสียใจกับพูดคำที่เพิ่งเผลอพูดออกไปทันที เพราะเขาเห็นดวงตาของเซี่ยเต๋าอวิ๋นเป็นประกายขึ้นอย่างฉับพลัน “ดนตรีนี้ ซูอันเป็นคนแต่งเองงั้นเหรอ?”
“ข้าคิดอย่างนั้น… ซูอัน เคยเล่นมันในห้องเรียนมาแล้ว และข้าเองก็ไม่เคยได้ยินมันจากที่ไหนมาก่อน…” เซี่ยซิวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจตอบความจริงกลับไป มีหลายคนใน สถาบันจันทร์กระจ่างที่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นหากเซี่ยเต๋าอวิ๋นสืบเรื่องนี้จริง ๆ ขึ้นมา ไม่มีทางที่เขาจะซ่อนมันจากนางได้
“คน ๆ นี้ดูน่าสนใจเหมือนกันนะ” เซี่ยเต๋าอวิ๋นมองไปที่ร่างของซูอันที่ยืนอยู่บนลานประลองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
เจียงลั่วฝูเองก็จ้องไปที่ซูอันเช่นกัน แต่ดวงตาของนางจดจ่อกับเปลือกหอยในมือของเขามากกว่า ของสิ่งนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นสมบัติส่วนตัวของซางหลิวอวี้นี่นา ? นี่นางถึงขนาดมอบของรักของหวงให้กับเขาเลยงั้นเหรอ ? ฮึ่ม ! นี่เจ้ากล้าโกหกข้าได้ยังไงว่าพวกเจ้าสองคนไม่เกี่ยวข้องกัน?
“เจ้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ? ไม่รู้สึกอายบ้างเลยเหรอไง!?”
ในขณะเดียวกันสีหน้าของหยวนเหวินตงเปลี่ยนเป็นมืดหม่นไม่ต่างกับถ่านไม้ เขาไม่คิดเลยว่าซูอันจะขอให้เขาหยุดเพื่อทำสิ่งนี้
“อย่างเจ้าจะไปรู้อะไร ? นี่มันถือเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งเลยนะ !” ซูอันพูดขึ้นก่อนที่จะหงายมือทั้งสองข้างพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้า คล้ายกับท่าของพระพุทธเจ้าที่กำลังแสดงปาฏิหาริย์ให้มวลชนดู “ระหว่างที่เพลงประกอบของข้าบรรเลง ข้าคือผู้ไร้เทียมทาน!”
“ในไม่ช้าเจ้าจะรู้ว่าการแสดงตลกของเจ้าทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ สิ่งนี้มันจะยิ่งทำให้เจ้าเป็นตัวตลกมากยิ่งขึ้น !” หยวนเหวินตงพยายามอย่างเต็มที่กับการเยาะเย้ยซูอัน เพื่อที่เขาจะได้กู้หน้าคืนมาได้บ้าง แต่น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดเขารู้สึกว่าทักษะของเขาในด้านนี้ยังด้อยกว่าอีกฝ่ายหลายขุม และสิ่งนี้ส่งผลให้เขารู้สึกยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
—
ท่านยั่วยุ หยวนเหวินตง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +400!
—
ซูอันถอนหายใจยาวและพูดว่า “ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเจ้ากล้าพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ยังไงทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เจ้าเพิ่งโดนข้าตบหน้าไปหยก ๆ เจ้าไม่รู้สึกอายบ้างเลยเหรอ?”
หยวนเหวินตงเกือบสำลัก เขาจ้องซูอันอย่างเดือดดาล “เมื่อครู่ข้าไม่ทันระวังตัวต่างหาก ! ข้าไม่คิดว่าจู่ ๆ เจ้าจะลอบกัดข้าแบบนั้น ! แต่ตอนนี้ข้าพร้อมแล้ว… ! มันไม่มีทางที่เจ้าจะมีโอกาสทำอะไรข้าได้อีกต่อไป!”
—
ท่านยั่วยุ หยวนเหวินตง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +511!
—
คำพูดนี้ทำให้เกิดเสียงโห่ร้องจากฝูงชน สำหรับผู้บ่มเพาะระดับ 5 การโดนฝั่งตรงข้ามโจมตีอย่างจังแล้วอ้างว่าตัวเองไม่ทันตั้งตัวมันเป็นคำพูดแก้ตัวที่ฟังดูไม่ขึ้นแม้แต่น้อย!
ทว่าหยวนเหวินตงเมินเฉยต่อปฏิกิริยาของฝูงชน เพราะเสวี่ยเอ๋อร์เคยบอกเขาว่าถึงแม้ซูอันจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับ 3 แต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นเหนือกว่าที่เห็น ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจเลยที่ซูอันสามารถโจมตีเขาได้สำเร็จอย่างฉับพลันแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เขาเพ่งสมาธิเต็มที่เพื่อป้องกันตัวเองจากซูอัน ดังนั้นเขาจะพลาดอีกรอบได้ยังไง ? ฮึ่ม ! รอก่อนเถอะ เมื่อไหร่ที่ข้าจับตัวเจ้าได้ ข้าจะฉีกแขนของเจ้าทิ้งซะแล้วจากนั้นข้าจะ…
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังคิดวางแผนต่าง ๆ ในหัว จู่ ๆ ก็มีเสียงดัง ‘เพี๊ยะ’ ดังขึ้นอีกรอบข้างหูพร้อมกับร่างกายของเขาที่เซถลาไปเล็กน้อยและหน้าของเขาก็รู้สึกแสบยิ่งกว่าเดิมซะอีก!