เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 232 มารยาชาย
ดวงตาของซูอันสว่างขึ้นทันที ก่อนหน้านี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากเกินไปจนเขาลืมเรื่องนี้ไปเลย!
“ไปกันเถอะ!”
ซูอันพุ่งออกจากประตูแต่แล้วขาของเขากลับหยุดกึก “ไม่…ไม่ได้…ข้าต้องหาคนไปกับข้าด้วยเพื่อความปลอดภัย!”
แม้ว่าการเดิมพันของเขาในครั้งนี้ไม่ได้อลังการเหมือนที่เขาได้รับจาก บ่อนโกยเงินครั้งล่าสุด แต่มันก็ยังเป็นจำนวนมากพอที่บ่อนจะพยายามหาทางเบี้ยวเขาและการพาทหารยามของตระกูลฉู่ไปด้วยไม่กี่คนอาจไม่เพียงพอที่จะกดดันอีกฝ่ายให้ยอมจำนน…ดังนั้นเขาจะต้องหาคนที่ดูน่าเชื่อถือไปด้วย!
ท้ายที่สุดหลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักซูอันก็รู้สึกว่าภรรยาของเขายังคงเป็นคนที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุดโดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์บ่อนโกยเงินนางน่าจะยิ่งมีประสบการณ์ในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนมากขึ้นกว่าเดิม…
…
ในขณะเดียวกัน ฉู่ชูเหยียนก็กำลังอยู่ในระหว่างนั่งโคจรพลังเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของนางเอง แต่แล้วทันใดนั้นหน้าของนางกลับเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอย่างผิดธรรมชาติและถัดมานางก็กระอักเลือดออกมาคำโตและที่น่าตกใจมากไปกว่าก็คือในเลือดที่นางกระอักออกมามันมีเศษน้ำแข็งเล็ก ๆ สองสามก้อนผสมอยู่ด้วย!
ความสับสนเกิดขึ้นบนใบหน้าของนางในขณะที่นางพึมพำด้วยสีหน้าตกตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร…เป็นไปได้อย่างไร…!”
“ที่รัก ที่รัก…” ในขณะที่นางกำลังตกตะลึงจู่ ๆ เสียงที่คุ้นเคยและร่าเริงก็ดังขึ้นจากนอกห้องของนาง
นางโบกแขนเสื้ออย่างรวดเร็วและกองเลือดก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นซูอันก็พุ่งเข้ามา “หืม? ที่รัก…เจ้ากำลังทำอะไรอยู่บนเตียงในตอนกลางวัน? ให้ข้าไปร่วมด้วยไหม?”
ฉู่ชูเหยียนเกือบสำลัก ทำไมทุกคำพูดที่ออกจากปากชายผู้นี้มันไม่เคยมีสิ่งดี ๆ ออกมาได้เลย?! “เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
ซูอันพูดด้วยรอยยิ้มเขิน ๆ “ข้าอยากจะชวนเจ้าออกไปเดินเล่น”
ฉู่ชูเหยียนปิดตาของนางลงอีกครั้งและตอบกลับอย่างสงบ “ข้าขอปฏิเสธ”
นางยังคงจำได้ว่านางถูกหลอกโดยซูอัน ครั้งล่าสุดอย่างไรแถมเหตุการณ์นั้นจบลงด้วยการกลายเป็นปรากฏการณ์บานปลายจนเกือบจะควบคุมไม่อยู่ นางคิดว่าคราวนี้เขาคงจะทำแบบเดียวกันเพื่อสนองความไร้สาระของเขา…
“เอ่อ…เอาล่ะ ข้าจะซื่อสัตย์กับเจ้า ข้าจะไปที่บ่อนเพื่อเก็บเงิน แต่ข้ากลัวว่าพวกเขาจะพยายามเบี้ยวข้าหรือทำร้ายข้าแทน ข้าจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นถ้าเจ้าไปกับข้าด้วย” ซูอันพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะแบ่งส่วนหนึ่งให้กับเจ้า!”
“เจ้าจะไปเล่นการพนันอีกแล้วงั้นเหรอ!?” ฉู่ชูเหยียนลืมตาขึ้นทันทีและจ้องไปที่ซูอันอย่างไม่พอใจ…
“ไม่ใช่ ๆ ข้าไม่ได้ไปเล่น! ข้าแค่ไปเก็บค่าเล่าเรียนเท่านั้นเอง เจ้าเห็นไหม พวกเขากล้าที่จะจ่ายเงินรางวัล 1 ต่อ 100! ในฐานะอาจารย์คณิตศาสตร์ ข้ารู้สึกว่าข้าจำเป็นต้องสอนคณิตศาสตร์พื้นฐานให้พวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจความสำคัญของการควบคุมความเสี่ยงในกรณีที่อาจจะมีเหตุประหลาดที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และที่สำคัญรอบนี้ข้าไม่ได้เอาเงินของพวกเขามากเหมือนคราวที่แล้วสักหน่อย” ซูอันตอบกลับอย่างใสซื่อ…
“ไม่ว่าเจ้าจะพลิกลิ้นไปขนาดไหน แต่มันไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเจ้ากำลังเล่นการพนัน!” ฉู่ชูเหยียนพูดเสียงดัง “ตระกูลฉู่ มีกฎที่เข้มงวดเกี่ยวกับการเล่นการพนัน ข้าได้ยอมละเลยกฎโดยการติดตามเจ้าไปที่บ่อนโกยเงินไปแล้ว นั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายและข้าจะไม่มีทางทำแบบนั้นอีก!”
“โธ่…อย่างน้อย ๆ ก็ถือซะว่าเจ้าทำเพื่อตอบแทนข้าในฐานะที่ข้าสร้างผลงานให้กับตระกูลเจ้าก็ได้ เจ้าลองคิดดูสิ…หลังจากที่ข้าช่วยเหลือตระกูลของเจ้าแทนที่พ่อกับแม่ของเจ้าจะให้รางวัลข้า แต่พวกเจ้าทุกคนกลับสอบปากคำข้าแทน แล้วพอมาตอนนี้เจ้ากลับจะไม่ไปกับข้าอีก เฮ้อ…ดูเหมือนว่ามันคงไม่มีประโยชน์ที่ข้าจะอยู่ในตระกูลฉู่อีกต่อไป!” ซูอันบ่นด้วยสีหน้าหดหู่ก่อนจะเดินออกไป
“เจ้าจะไปไหน?” ฉู่ชูเหยียนถามด้วยสีหน้างุนงง
“ข้าจะประกาศให้โลกรู้ว่าเรากำลังจะหย่ากัน!” ซูอันโบกมือก่อนที่จะเดินออกไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“กลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ!” ฉู่ชูเหยียนตะโกนออกมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนางที่จะหาสามีที่เหมาะสมเพื่อเป็นกันชนให้กับกับนางจากลูกหลานตระกูลใหญ่คนอื่น ๆ โดยเฉพาะพวกตระกูลที่กำลังเพ่งเล็งตระกูลฉู่ของนาง ถ้าซูอันจากไปจริง ๆ นางจะไปหาคนใหม่ที่เหมาะสมมากกว่านี้ในโลกนี้ได้อย่างไร?
นอกจากนี้ ต่อให้นางจะสามารถหาคนที่ตรงตามเกณฑ์ที่นางต้องการได้ แต่ในฐานะที่นางเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลฉู่ นางก็ไม่ควรที่จะแต่งงานถึงสองครั้งสองคราวได้ใช่ไหม นั่นมันจะกลายเป็นเรื่องน่าอับอายและอื้อฉาวไปทั้งอาณาจักรอย่างแน่นอน!
ในทางกลับกันซูอันกลับไม่สนใจนางเลย เขายังคงเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินนาง เมื่อเห็นเช่นนี้ฉู่ชูเหยียนจึงกัดริมฝีปากของนางและพุ่งไปด้านหน้าเพื่อหยุดเขาและพูดขึ้นเสียงดังด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ก็ได้! ข้าจะไปเจ้าก็ได้! แค่นี้เจ้าพอใจแล้วใช่ไหม?”
“จริงเหรอ?” ซูอันยากจะห้ามไม่ให้ตัวเองยิ้มร่าออกมา เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ากลอุบายพื้น ๆ แบบนี้จะได้ผล!
“ใช่!” ฉู่ชูเหยียนตอบกลับ “แต่นี่คือครั้งสุดท้าย!”
ซูอันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริมว่า “คืนนี้ข้าอยากนอนกับเจ้าด้วย แต่ถ้าเจ้าปฏิเสธ ข้าจะประกาศให้โลกรู้ว่าเรากำลังจะหย่ากัน!”
“ถ้างั้นเจ้าจะไสหัวไปที่ไหนก็ไป!” ฉู่ชูเหยียนมองซูอันด้วยสายตาเดือดดาล…
ซูอันเกือบสำลัก เฮ้…ทำไมแผนเดิมกลับไม่ใช่ไม่ได้ผลซะแล้วล่ะ? “เราไม่จำเป็นต้องนอนเตียงเดียวกันก็ได้ แค่อยู่ในห้องเดียวกันก็ยังดี…”
ฉู่ชูเหยียนหันหลังและเดินออกไปแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้ายังไม่เลิกพูดไร้สาระแม้แต่บ่อนข้าก็จะไม่ไปกับเจ้า!”
“เดี๋ยวสิ ๆ นี่หมายความว่าเจ้ายอมรับคำขอของข้าหรือเปล่า?”
“หุบปาก!”
…
เมื่อเรียนรู้จากบทเรียนรอบที่แล้ว ฉู่ชูเหยียนจึงยืนกรานที่จะนั่งรถม้าในครั้งนี้ซึ่งใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็ไปถึงทางเข้า ‘บ่อนสี่สมุทร’ นี่คือที่ที่ เฉิงโซวผิงวางเดิมพันเอาไว้…
“ไปแลกเงินรางวัลมา” ซูอันส่งตั๋วเดิมพันให้เฉิงโซวผิงและเอ่ยสั่ง
“รับทราบนายน้อย!” เฉิงโซวผิงตาเป็นประกายทันที เขาเต็มใจที่จะทำภารกิจสนุก ๆ แบบนี้ เขายืดอกและเดินไปที่จุดแลกเงินรางวัล จากนั้นเขาตบตั๋วเดิมพันลงบนโต๊ะพร้อมกับตะโกนเสียงดังพอสำหรับให้ทุกคนในบ่อนได้ยิน “ผู้จัดการ ข้าถูกรางวัลใหญ่จ่ายเงิน 1,000,000 ตำลึงเงินมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
อย่างที่คาดไว้…มันดึงดูดความสนใจของทุกคนในบ่อนในทันที
ผู้จัดการหน้าซีดทันที เขามองคนข้างหลังก่อนจะกัดฟันหยิบตั๋วเดิมพันขึ้นมาฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วตะโกนเสียงดังลั่น “ไอ้ลูกหมาตัวนี้มาจากไหนถึงกล้าเอาตั๋วเดิมพันปลอมมาหลอกพวกข้า เด็ก ๆ ไล่มันออกไป!”
เฉิงโซวผิงตกตะลึง เขาเดินไปที่จุดแลกเงินด้วยสีหน้าเบิกบานโดยคิดว่านายน้อยของเขาจะตอบแทนเขาอย่างงามสำหรับความพยายามของเขา แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่าเรื่องราวมันไม่เป็นไปดั่งที่เขาคาดเอาไว้เลย!
นั่นมันตั๋วเดิมพันมูลค่าหนึ่งล้านเชียวนะ!
ดวงตาของเฉิงโซวผิงกลายเป็นสีแดงก่ำทันที เขาพุ่งไปข้างหน้าและชกหน้าผู้จัดการบ่อนทันทีแต่แล้วหลังจากนั้นแค่เพียงชั่วอึดใจเขาก็ถูกชายฉกรรจ์หลายคนคุมตัวเอาไว้อย่างแน่นหนา
“ไอ้เด็กบ้านี่มาจากไหน? ลากมันออกไปทุบตีซะให้เข็ดหลาบ เอาให้แม่ของมันจำหน้าไม่ได้ไปเลย!” ผู้จัดการที่ปิดตาบวมชี้นิ้วไปที่เฉิงโซวผิง ด้วยความโกรธ…
“โอ้…นี่คือสิ่งที่บ่อนสี่สมุทรปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างนั้นเหรอ? ไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่จ่ายเงินรางวัล พวกเจ้ายังใส่ร้ายลูกค้าของตัวเองแถมทำแม้กระทั่งพยายามปิดปากโดยการรุมทำร้ายอีกด้วย!” เสียงพูดที่ดังกึกก้องดังขึ้นก่อนที่ซูอันจะค่อย ๆ เดินเข้ามาในบ่อนอย่างหยิ่งผยอง
ข้าง ๆ เขา ฉู่ชูเหยียนแสดงสีหน้าเย็นชาเมื่อเห็นชะตากรรมที่น่าสมเพชของเฉิงโซวผิง แม้ว่านางจะไม่ค่อยชอบเฉิงโซวผิงมากนัก แต่เขาก็ยังเป็นสมาชิกของตระกูลฉู่ นางไม่ยอมให้บุคคลภายนอกทำร้ายเขาอย่างไร้เหตุผลแบบนี้!
เมื่อได้รับสัญญาณจากฉู่ชูเหยียน ทหารของตระกูลฉู่ก็รีบวิ่งไปจัดการคนของบ่อนสี่สมุทร เพื่อช่วยเฉิงโซวผิงจากเงื้อมมือของพวกเขาทันที
“ว้าว ผู้หญิงคนนั้นสวยจริงๆ!”
“เจ้าตาบอดหรือไง เจ้าจำคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่ไม่ได้งั้นเหรอ?”
“อย่างที่คาดไว้จริง ๆ สมแล้วที่นางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองจันทร์กระจ่าง!”
“ว่าแต่พวกเขามาทำอะไรที่นี่กันล่ะ?!