เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 244 การตายง่าย ๆ ก็เหมือนได้รับพรจากสวรรค์
บทที่ 244 การตายง่าย ๆ ก็เหมือนได้รับพรจากสวรรค์
หลังจากพูดคำเหล่านั้นแล้ว เหมยเชาฟงก็ระเบิดพลังออกมาในขณะที่ก้าวไปข้างหน้า เขาตั้งใจมองดูซูอันตาไม่กระพริบ โดยหวังว่าจะเพลิดเพลินไปกับความหวาดกลัวที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของซูอัน
น่าเสียดายที่ซูอันไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงลงเอยด้วยการรับใช้ผู้อื่นมาทั้งชีวิต เจ้าเป็นแค่ลูกกะเบ๊ ที่คิดออกแค่แผนการเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มีอำนาจเหนือใครเช่นข้า มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องยกนิ้วสักนิ้วขึ้นเพื่อจัดการกับเจ้า”
“???” เจียงลั่วฝู
เหมยเชาฟงตกตะลึงกับคำพูดเหล่านั้น เขามองบริเวณโดยรอบอย่างใจจดใจจ่อ และหลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็หัวเราะอย่างดูถูก “ผู้คุ้มกันของตระกูลฉู่ กำลังรออยู่ที่ทางเข้า ไม่มีทางที่จะมาถึงที่นี่ได้ทันเวลา แม้ว่าพวกเขาจะมาทัน ก็ไม่คณามือข้าเช่นกัน”
“ใครบอกว่าข้ากำลังพูดถึงพวกผู้คุ้มกันตระกูลฉู่?” ซูอันยักไหล่ “เจ้าไม่ได้สืบภูมิหลังของข้าก่อนที่จะลอบสังหารเหรอ? เจ้าควรรู้ว่าชื่อเล่นของข้าในสถาบันจันทร์กระจ่างคือ ‘เจ้าแห่งแมงดา’ ข้ามักจะมีโชคเรื่องสตรีอยู่เสมอๆ”
“เจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายที่สุดที่ข้าเคยเห็น เจ้าไม่มีความละอายแม้แต่น้อยที่จะล้อเลียนสตรี!” เหมยเชาฟงเย้ยหยัน
“ข้าต้องอายเรื่องอะไรในเมื่อมันเป็นความสามารถส่วนตัวของข้าเอง?” ซูอันตอบอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ถ้าเจ้าอิจฉา ทำไมไม่ลองจีบผู้หญิงดูล่ะ? ถ้าเจ้าทำได้น่ะนะ”
—
ท่านยั่วยุเหมยเชาฟงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +514!
—
“ข้า…” เหมยเชาฟงสำลักกับคำพูดของซูอัน เขาใช้เวลาค่อนข้างนานก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ “หยวนเหวินตงอาจเป็นขยะ แต่เขาไม่เอาแต่พึ่งพาผู้หญิง ในท้ายที่สุดตอนนี้เจ้าก็ตัวคนเดียว ดูสิ ใครที่เจ้าสามารถเรียกมาช่วยตอนนี้? ฉู่ชูเหยียน? เพ่ยเหมียนหมาน? หรือซางหลิวอวี้? ลองเรียกหาพวกนางสิ ฮ่าฮ่า”
ตระกูลซือทำการบ้านมาล่วงหน้าแล้วฉู่ชูเหยียนและเพ่ยเหมียนหมานไม่ได้อยู่ในสถาบันจันทร์กระจ่างในวันนี้ และซางหลิวอวี้ไม่มีชื่อเสียงทางด้านการบ่มเพาะ ส่วนฉู่ฮวนเจา จี้เสี่ยวซีและคนอื่น ๆ ไม่ได้ถือเป็นอะไรสำหรับเขาเลย
“ลองเรียกหาผู้หญิงตอนนี้สิ เจ้าไม่ใช้ความเป็นแมงดาของเจ้าเหรอ?” เหมยเชาฟงเยาะเย้ย
ซูอันส่ายหัวและพูดว่า “เอาเถอะ ข้าจะทำตามความปรารถนาของเจ้าให้สำเร็จสักครั้ง อาจารย์ใหญ่สุดสวย ท่านออกมาได้!”
“อาจารย์ใหญ่สุดสวย? เจียงลั่วฝู?!” เหมยเชาฟงอ้าปากค้างด้วยความสยดสยอง
ถ้าซูอันไม่ได้โกหกเขา มันจะเป็นหายนะจริง ๆ ผู้ฝึกฝนระดับเจียงลั่วฝูสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายเหมือนกับการบี้มด ด้วยความตกใจ เขามองบริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว แล้วก็โล่งใจที่ไม่พบอะไรเลย
“ฮ่าๆ เจ้ากำลังทำให้ข้าหัวเราะ! เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าเจ้าสามารถเรียกอาจารย์ใหญ่เจียงให้มาได้? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? หยุดฝันกลางวันซะเถอะ!” เหมยเชาฟงเย้ย
“อย่างไรก็ตาม ขอบใจมากที่ย้ำเตือนข้าอีกทีว่าเราอยู่ใกล้กับสถาบันจันทร์กระจ่างมากเกินไปซึ่งอาจมีใครบางคนผ่านทางมา ถ้าข้ายังงุ่มง่ามอยู่ที่นี่ ดังนั้น…ตายซะเถอะไอ้สารเลว!”
หลังจากพูดจบรอบ ๆ หมัดของเหมยเชาฟงถูกล้อมรอบไปด้วยสายฟ้าอันรุนแรงและเมื่อเขาพุ่งไปข้างหน้าโถมเข้าใส่ซูอัน แรงกดดันอันมหาศาลของเขานั้นยิ่งใหญ่มากจนซูอันพบว่าตัวเองหายใจไม่ออก
“ซวยแล้ว!” เมื่อเห็นว่าเจียงลั่วฝูยังไม่ยอมเคลื่อนไหว ซูอันก็ตระหนักว่าเมื่อครู่เขาเล่นเลยเถิดเกินไปแล้ว!
ซูอันรีบใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันฉบับดัดแปลงหลบไปด้านข้าง ซึ่งมันทำให้เขารอดชีวิตจากการโจมตีครั้งแรกของเหมยเชาฟงได้สำเร็จอย่างหวุดหวิด
น่าเสียดายที่เหมยเชาฟงได้เห็นทักษะการเคลื่อนไหวของเขาเมื่อวันก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้วิธีที่จะเอาชนะมันเช่นกัน ตอนนี้เขาแน่ใจว่าได้ปิดเส้นทางหลบหนีของซูอันไว้หมดแล้ว!
เมื่อถูกต้อนเข้ามุม ซูอันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันจริงเพื่อหลบการโจมตีนี้ ขณะหลบการโจมตี เขาตะโกนเสียงดัง “อาจารย์เจียงผู้งดงาม ตอนนี้ข้ารู้ความผิดพลาดของข้าแล้ว! ช่วยข้าด้วย! ถ้าข้าตายที่นี่ จะไม่มีใครช่วยท่านยึดสำนักดอกบ๊วยนะ!”
“หืม?” เหมยเชาฟงงุนงง ไม่รู้ว่าซูอันสามารถหลบการโจมตีของเขาได้อย่างไร เขาเร่งโจมตีอีกครั้ง แต่ก็หยุดต้องด้วยความตกใจ
มีผู้หญิงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าซูอัน
เรียวขายาวที่สวยงามของนางดูน่าดึงดูดเช่นเคย
“อาจารย์ใหญ่เจียง!?”
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อาจารย์ใหญ่เจียง ในที่สุดท่านก็เต็มใจจะออกมา!”
“เจ้าว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจเช่นเจ้า ไม่จำเป็นต้องยกนิ้วเลยเหรอ? ข้าแปลกใจนะที่เห็นว่าเจ้าก็กำลังแย่ใช่ไหม หืม?” เจียงลั่วฝูพูดด้วยรอยยิ้มลึกลับ
“ฮ่า ๆ ปากพล่อย ๆ ของข้าแค่อดไม่ได้ที่จะอวด ท่านอย่าใส่ใจมากเลย!” ซูอันหัวเราะออกมาอย่างเขินอาย ผู้หญิงคนนี้ใจแคบน่าดู เรื่องแค่นี้ก็ทำให้นางขุ่นเคืองได้
“ข้าได้ยินว่าเจ้าตั้งใจจะล้อเลียนสตรี ข้าก็เป็นสตรีนี่ นับรวมด้วยไหม?” เจียงลั่วฝูไม่ยอมปล่อยให้เขาหลุดมือไปง่ายๆ
“แน่นอนว่าข้าตั้งใจ!” ซูอันตอบตามความเป็นจริง
“เจ้าจะล้อเลียนข้าว่าอะไร?” เจียงลั่วฝูขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่ ข้าหมายถึง ข้ายังไม่ได้ล้อเลียนท่านเลย” ซูอันรีบเปลี่ยนคำพูดของเขาอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย! เหมยเชาฟงกำลังจะหนีไปแล้ว!”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ เหมยเชาฟงได้ใช้โอกาสนี้วิ่งหนีออกไปอย่างสุดกำลังทันที แค่เขาเห็นว่าเจียงลั่วฝูปรากฏตัวต่อหน้าเขา เขาก็รู้แล้วว่าไม่มีทางที่เขาจะฆ่า ซูอัน ได้อีกต่อไป อันที่จริง เขาควรจะแหลกคามือนางไปแล้ว แต่โชคดีที่นางมัวยืนเถียงกับซูอัน จึงเปิดโอกาสให้เขาหนีได้
เจียงลั่วฝูเงยศีรษะขึ้นมามองอย่างสงบก่อนที่จะปาดินสอในมือผ่านอากาศมาทางเขา
เหมยเชาฟงรู้สึกเย็นยะเยือกที่ขา ก่อนที่ตัวของเขาจะพุ่งกระเด็นไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
เหมยเชาฟงงุนงงกับสถานการณ์ที่น่าพิศวงนี้ เมื่อเขาหันกลับมามองก็ได้เห็นขาทั้งสองข้างของเขาตั้งอยู่บนพื้นห่างจากร่างของตัวเองหลายเมตร จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงมองช่วงร่างของร่างกายตัวเองซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าแท้จริงแล้วตอนนี้ขาของเขาถูกตัดไปครึ่งหนึ่ง! จากนั้นเขาส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ซูอันกลืนน้ำลาย เขาแอบมองด้านข้างของเจียงลั่วฝู ขณะที่เขารู้สึกโล่งอก
เกือบซวยแล้ว! เขาไม่รู้ว่านางแข็งแกร่งขนาดนี้! ที่ผ่านมาถ้านางโกรธอะไรเขาจริง ๆ เขาไม่ตายไปหลายครั้งแล้วงั้นเหรอ?
ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหมยเชาฟง!
อา…แต่มันไม่หล่อเหมือนเขา ความเหลื่อมล้ำในรูปลักษณ์จะต้องช่วยเขาได้แน่นอน!
“ที่เหลือเจ้าจัดการเอาเอง” เจียงลั่วฝูไม่แม้แต่จะคุยกับเหมยเชาฟง นางนั่งในศาลาแล้วพาดขาของนางบนม้านั่งอย่างสบายใจ
ซูอันเดินไปที่ร่างท่อนบนของเหมยเชาฟงอย่างมีความสุขและจ้องมองเขาจากด้านบน “เจ้าคิดว่ามีแต่ข้างั้นสิ? แต่ขอโทษที อาจารย์ใหญ่ เจียงก็อยู่ที่นี่ด้วย ฮ่า ๆ! เป็นไงตกใจไหม?”
“…” เหมยเชาฟง
—
ท่านยั่วยุเหมยเชาฟงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!
—
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเวรกรรมจะตามทันเร็วขนาดนี้
“ไอ้เด็กเวร! ทำไมแกมันไร้ยางอายได้ขนาดนี้? แกมันไอ้คนอ่อนแอที่เอาแต่พึ่งพาผู้หญิง!” เหมยเชาฟงกัดฟันอย่างโกรธจัด
—
ท่านยั่วยุเหมยเชาฟงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!
—
ซูอันถอนหายใจและพูดว่า “เจ้าไม่คิดว่าข้าต้องพยายามอย่างหนักเช่นกันเพื่อที่จะใช้ความแข็งแกร่งของผู้อื่นมาสร้างประโยชน์ให้ข้าบ้างเหรอ?”
“แกไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ใหญ่เจียงได้ยังไง? มันเป็นไปไม่ได้…!” เหมยเชาฟงพึมพำอย่างไม่เชื่อ เขายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
“จิ๊จิ๊! นี่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับคนหน้าตาดีอย่างข้า ตัวน่าเกลียดน่ากลัวอย่างเจ้าไม่มีวันเข้าใจมันหรอก” ซูอันมองไปที่เหมยเชาฟงด้วยความสงสาร
“…” เหมยเชาฟง
—
ท่านยั่วยุเหมยเชาฟงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!
—
ซูอันก้าวไปด้านข้างเพื่อหลบเลือดที่พุ่งออกมาจากบาดแผลของเหมยเชาฟง
ว้าว…! คนในโลกนี้ถึกทนยิ่งกว่าแมลงสาบ แม้จะอยู่ในสภาพเช่นนี้ ก็ยังไม่ตายอีกเหรอเนี่ย!
“เจ้าทำให้ข้านึกถึงดอกบ๊วยสิบสอง เขายังอดทนอยู่ได้เป็นนานสองนานก่อนที่จะตาย” ซูอันกล่าวอย่างร่าเริง
“แกคือคนที่ฆ่าสิบสองจริงๆ!” เหมยเชาฟงจ้องซูอันอย่างโกรธจัด แค่คิดถึงเรื่องในศาลเมื่อวาน ทั้งที่พูดความจริงแล้วก็ยังไม่มีใครเชื่อ เขาก็โกรธจนเลือดแทบพุ่งออกจากหัว
—
ท่านยั่วยุเหมยเชาฟงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!
—
ซูอันเดินไปหาเหมยเชาฟงและนั่งลงตรงหน้าเขา “ดอกบ๊วยสิบสองพยายามจะฆ่าข้า ข้าก็เลยต้องป้องกันตัว มันก็สมเหตุสมผลดีนี่ ตอนนี้ข้าก็ตอบในสิ่งที่เจ้าอยากรู้แล้ว ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วที่เจ้าเองต้องตอบข้าบ้าง ไหนบอกข้ามาหน่อยสิว่าสมุดบัญชีและทรัพย์สินของเจ้าอยู่ที่ไหนบ้าง อ้อ…และอย่าลืมบอกข้อมูลสำคัญทั้งหมดเกี่ยวกับธุรกิจของเจ้ามาด้วย”
ร่างของเหมยเชาฟงราบอยู่กับพื้น ดูเหมือนว่าจะยอมรับชะตากรรมของตัวเองแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดของซูอันยังคงทำให้เขาหัวเราะออกมา “เจ้าคิดว่าข้าโง่แค่ไหนถึงจะบอกเจ้า?”
—
ท่านยั่วยุเหมยเชาฟงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +730!
—
“เจ้าไม่รู้หรือว่าการตายง่าย ๆ ก็เหมือนได้รับพรจากสวรรค์เช่นกัน” ซูอันถอนหายใจยาวขณะที่เขาจ้องมองไปที่ เหมยเชาฟง ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ