เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 258 กลุ่มนักฆ่า
ซูอันขยี้ตาด้วยความสับสน สงสัยว่าเขาตาฝาดไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็เดาได้ว่ามันน่าจะมีถ้ำอยู่ที่นั่นและทางเข้าของมันคงถูกพรางเอาไว้ด้วยเวทมนตร์หรืออะไรสักอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นพวกทหารผีดิบคงไม่สามารถหายเข้าไปในเนินเขาได้แบบนั้น!
เนินเขานี้ไม่ใหญ่มากนัก มันมีความสูงเพียงไม่กี่สิบเมตรและกว้างหลายร้อยเมตร แต่อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเนินเขานี้ เนินเขาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมักจะมีสันเขา ทำให้ดูขรุขระ แต่เนินเขานี้มีพื้นผิวเรียบ และต้นไม้ที่เติบโตอยู่ก็ดูมีระเบียบอย่างผิดปกติเช่นกัน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสวนที่ได้รับการจัดแต่งอย่างดีแทน…
เมื่อกองทัพผีดิบหายไป ซูอันก็ค่อย ๆ เดินเข้าใกล้เนินเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นเมื่อเขาเข้าไปใกล้ขึ้นเขาจึงเห็นว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่ถ้ำ แต่เป็นประตูหินขนาดใหญ่ที่มีรูปปั้นสัตว์รูปร่างแปลกประหลาดที่เขาไม่รู้จักจำนวนไม่น้อยยืนอยู่ด้านข้าง
ดูเหมือนเขาจะต้องให้ซางหลิวอวี้ จัดบทเรียนเสริมความรู้เรื่องสัตว์แปลก ๆ ในโลกนี้ซะแล้ว!
ประตูหินนี้ปิดอยู่ เขาจึงพยายามผลักมันเปิด อย่างไรก็ตาม…ทันทีที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสกับประตู เขาก็รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกวิ่งผ่านแขนของเขาขึ้นมาจนทั้งร่างของเขาหนาวสั่น
สถานที่แห่งนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!
หลังจากลองพยายามผลักประตูแล้วเปิดไม่สำเร็จ เขาก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณ และในไม่ช้าเขาก็เริ่มเข้าใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน สภาพแวดล้อมรอบตัวในตอนนี้ชวนให้นึกถึงสุสานโบราณเป็นอย่างมาก และเขาเริ่มคิดว่าเนินเขานี้ไม่ใช่เนินเขาจากฝีมือของธรรมชาติจริง ๆ แต่เป็นเนินดินขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาต่างหาก!
เฉพาะในราชวงศ์ถังเท่านั้นที่มีการเริ่มสร้างสุสาน สำหรับราชวงศ์อื่น ๆ เช่นราชวงศ์ฉินและฮั่น เนื่องจากความมั่งคั่งที่ไม่เพียงพอจึงมีแต่ประเพณีการฝังศพสมาชิกของราชวงศ์เท่านั้น…
ซูอันตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ อย่างระมัดระวัง แต่เขายังคงไม่สามารถหาวิธีเปิดประตูได้ ในที่สุดเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้
บางทีดอกบัวเร้นลักษณ์ไม่น่าจะอยู่ในสถานที่น่ากลัวเช่นนี้ ซูอันคิดปลอบใจตัวเอง…
ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วในตอนนี้ เขารู้สึกว่าเขาควรกลับไปหาจี้เสี่ยวซีได้แล้ว และถามนางว่านางรู้หรือไม่ว่าดอกบัวเร้นลักษณ์มีแนวโน้มเติบโตในสภาพแวดล้อมแบบใด?
ระหว่างทางกลับ ซูอันอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าจะเปิดประตูหินได้อย่างไร แต่แล้วทันใดนั้น ด้วยสัญชาตญาณเขาก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ขณะที่เขารีบใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันหลบไปด้านข้างทันที…
ประกายแสงเย็นเยียบพุ่งออกมาจากด้านหลังก้อนหินและพุ่งเข้าใส่เขาอย่างฉับพลัน!
ต้องขอบคุณวิชาร่างก้าวทานตะวัน ที่ทำให้ซูอันเอาชีวิตรอดได้อย่างหวุดหวิด หากหลบเลี่ยงได้ไม่ทันเวลา ร่างของเขาก็จะถูกแยกออกเป็นสองส่วน!
“หืม?” ศัตรูรู้สึกงุนงงเมื่อเห็นว่าการสังหารที่น่าจะหวังผลได้แน่นอนกลับกลายเป็นพลาดเป้าไป
ซูอันหันไปมองศัตรูที่เกือบจะปลิดชีวิตเขาเมื่อครู่ แทนที่จะเป็นผีดิบหรือสัตว์ดุร้าย แต่กลับกลายเป็นมนุษย์ที่มีชีวิต เสื้อผ้าที่เขาสวมและใบหน้าที่คุ้นเคยเล็กน้อยบ่งบอกถึงตัวตนของเขา “เจ้ามาจากสถาบันจันทร์กระจ่างนี่นา!”
“อ๋อ…อาจารย์ซูนี่เอง! ขอโทษด้วย ข้าเห็นซากผีดิบมากมายระหว่างทาง จึงซุ่มอยู่แถวนี้มาสักพักแล้ว พอข้าเห็นอะไรไหว ๆ ข้าเลยคิดว่าเป็นผีดิบ เลยเผลอโจมตีไปเพราะความตกใจ ข้าไม่คิดว่าจะเป็นท่านจริงๆ!” นักศึกษาผู้นั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงใจอย่างที่สุด
ซูอันเย้ยหยันอยู่ในใจ…เห็นได้ชัดว่าเจ้าวางแผนโจมตีข้ามาเป็นอย่างดีแน่นอน ดังนั้นเจ้าจะไม่เห็นข้าได้ยังไง? คิดว่าข้าโง่งั้นเหรอไอ้บ้าเอ๊ย!
อย่างไรก็ตาม…เขาไม่แสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้า แต่ยิ้มและถามว่า “เจ้าชื่ออะไร?”
“ข้าชื่อซือซางเฟย…จากชั้นเรียนปฐพี” นักศึกษาคนนั้นตอบ
“ซือซางเฟย?” ซูอันระเบิดเสียงหัวเราะ เขาตบไหล่ของนักศึกษาและหัวเราะ “เจ้ามีชื่อที่น่าสนใจดีนะ!”
หากวัดจากการโจมตีก่อนหน้านี้ระดับการบ่มเพาะของซือซางเฟย น่าจะอยู่ในระดับที่สามขั้นปลาย
“ท่านชมข้าเกินไปแล้ว” ร่างกายของซือซางเฟยเกร็งขึ้นทันทีที่ซูอันเริ่มตบไหล่ของเขา กลัวว่าจะถูกโจมตีจึงประหม่าจนลืมคิดว่ากำลังถูกซูอันล้อเลียนชื่ออยู่
“แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่คนเดียว? เจ้าควรจะอยู่ในกลุ่มที่มีอาจารย์ควบคุมไม่ใช่เหรอ?” ซูอันถาม
ซือซางเฟยตอบอย่างสุภาพว่า “อาจารย์ซู กลุ่มของข้าเจอฝูงหมาป่าระหว่างทาง พวกเราจึงวิ่งหนีกันไปคนละทาง และข้าก็หลงมาถึงที่นี่”
“มิติลับนี้ดูอันตรายกว่าที่ข้าคิดไว้” ซูอันกล่าว
“ข้าเห็นด้วย” ซือซางเฟยพยักหน้าเห็นด้วย “ว่าแต่…พวกผีดิบในหุบเขานี้ตายไปได้ยังไง ท่านรู้มั้ย?”
ซูอันทุบหน้าอกของเขาและคุยโว “ถ้าข้าบอกแล้วเจ้าไม่ต้องชมข้าให้มากไปนะ ข้าฆ่าพวกมันอย่างกล้าหาญด้วยกระบี่ของข้าเอง!”
“…” ซือซางเฟย
ไอ้ขี้โม้! หากเจ้ามีความสามารถขนาดนั้น ข้าจะกลืนกระบี่ของข้าลงท้องทันที! ถ้าเจ้ายอมรับความจริงได้ควรจะรู้ว่าความสามารถของเจ้าไม่คู่ควรกับคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่แม้แต่สักนิด มาทางไหนก็ควรกลับไปทางนั้น!
—
ท่านยั่วยุซือซางเฟยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +300!
—
“อาจารย์ซู ท่านมาที่นี่กับจี้เสี่ยวซีไม่ใช่งั้นหรือ? แต่ทำไมตอนนี้ข้าไม่เห็นนางอยู่กับท่านเลย” ซือซางเฟยเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง ณ ที่นี้เขามั่นใจว่าสามารถจัดการกับซูอันที่อยู่ตามลำพังได้ แต่ถ้าหากจี้เสี่ยวซี อยู่ด้วยเขาก็ไม่ต้องการที่จะเสี่ยง
“นางออกไปเก็บผลไม้ป่า อ๊ะ นางมาแล้วนั่นไง!” ซูอันชี้ไปที่บริเวณด้านหลังซือซางเฟยแล้วทำท่าทางโบกมือทักทาย
ซือซางเฟยหันศีรษะไปมอง จากนั้นเขาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติในทันที เขาพยายามจะเบี่ยงตัวไปด้านข้าง แต่ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว! ความเจ็บปวดที่คอทำให้เขารีบเอามือกุมคอของตัวเองเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหยุดเลือดที่กำลังพุ่งกระฉูดออกจากคอตัวเองได้เลย
“ท…ท่านทำไมทำแบบนี้!?”
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าอาจารย์จะลงมือฆ่านักศึกษาเอาง่าย ๆ ขนาดนี้ เขามั่นใจในการแสดงของตัวเอง และคำอธิบายที่ให้กับซูอันว่าทำไมเขาถึงโจมตีออกไปก็สมเหตุสมผลเช่นกัน แม้ว่าอีกฝ่ายจะสงสัยอยู่บ้าง ก็ไม่น่าจะเลือดเย็นฆ่ากันง่าย ๆ ขนาดนี้!
ซูอันถอนหายใจ “เจ้าฝันไปรึเปล่า? ถ้าเจ้าเลือกที่จะต่อสู้กับข้าโดยตรงเจ้ายังมีโอกาสรอด แต่เจ้ากลับเล่นละครต่อหน้าข้า เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเก่งกว่าเจ้ามาก ผู้คนเคยเรียกข้าว่าเหลียงเฉาเหว่ยแห่งซานหลี่ถุนเชียวนะ![1]”
ในขณะที่ซือซางเฟยไม่รู้ว่าใครคือ เหลียงเฉาเหว่ย เขาสามารถบอกได้ว่าเขาพยายามทำให้ซูอันลดความระมัดระวังลง แต่ในท้ายที่สุดเขากลับเป็นคนที่ลดความระมัดระวังลงแทน มันทำให้เขารู้สึกโกรธตัวเองอย่างสุดซึ้งและเสียดายโอกาศ
—
ท่านยั่วยุซือซางเฟยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +723!
—
“จ…เจ้า…อย่าได้ใจมากนัก! ข้าบอกบรรดาสหายของข้าไปแล้ว… เจ้าจะต้องตายในไม่ช้า!” ใบหน้าของซือซางเฟยเปลี่ยนเป็นซีดขาวมากยิ่งขึ้นเมื่อเลือดยิ่งไหลออกจากคอของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
“โอ้? งั้นข้าขอขอบใจเจ้าจริง ๆ ที่เจ้ามีน้ำใจบอกกับข้าเรื่องนี้ เพราะคำเตือนของเจ้าแท้ ๆ ฝ่ายที่ต้องตายจึงไม่ใช่ข้าแน่นอน” ซูอันหัวเราะเยาะ
“เจ้า!!!” ซือซางเฟยรู้สึกว่าเขาแทบจะหมดสติจากความโกรธ ไอ้สวะนี้ มันไม่แม้แต่จะปล่อยให้เขาตายอย่างสงบ!
—
ท่านยั่วยุซือซางเฟยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +856!
—
“เสียเวลาจริง ๆ! ทำไมเจ้ายังไม่ตายอีก? เจ้าต้องรู้สิว่าตัวเองเป็นแค่ตัวประกอบที่ไม่มีความสำคัญ ตัวละครอย่างเจ้าควรตายภายในเวลาไม่กี่นาทีของหนังเรื่องหนึ่ง ว่าแต่มันไม่อึดอัดที่จะเอามือกุมคออยู่แบบนั้นงั้นเหรอ? มา…ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”
ซูอันก้าวไปข้างหน้าและดึงมือของซือซางเฟยออกจากคอ ทำให้เลือดพุ่งกระฉูดออกจากบาดแผลของเขามากกว่าเดิมทันที ในเวลาเพียงชั่วครู่ ซือซางเฟยก็หมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย และตายไปทั้งที่ดวงตายังเบิกโพลงอย่างคับแค้นใจ
ไอ้…ลูกพ่อแม่ไม่สั่ง….สอน!
—
ท่านยั่วยุซือซางเฟยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!
—
เหลียงเฉาเหว่ย เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของฮ่องกง