เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 302 ตกหลุมรัก
บทที่ 302 ตกหลุมรัก
“ผมของเจ้ายาวได้มากแค่ไหน? และพวกมันคงทนแค่ไหน?” ซูอันถามกลับ
ทักษะที่เกี่ยวกับเส้นผมของเฉียวเสวี่ยอิงที่สามารถยืดหดได้แถมยังใช้แทนอาวุธได้ ทำให้ชายหนุ่มมีความหวังที่จะจัดการกับยักษ์ทองแดงเหล่านี้
เฉียวเสวี่ยอิงลังเลที่จะตอบคำถาม ทักษะนี้ของนางเป็นความลับที่นางไม่ควรจะบอกผู้อื่น มิฉะนั้นคนอื่นจะสามารถป้องกันการโจมตีของนางได้
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นใบหน้าของซูอันที่จริงจัง ในที่สุดนางก็ยอมตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ขีดจำกัดของข้าในตอนนี้คือยืดมันให้ยาวได้ราว 9 จั้งสำหรับความคงทน…อาวุธธรรมดาทั่วไปไม่มีทางตัดผมของข้าขาดได้อย่างแน่นอน”
“ดี งั้นข้าต้องการให้เจ้ายืดผมของเจ้าให้ยาวที่สุดตอนนี้!” ซูอันพูดขึ้นขณะที่เขาจับผมของนางและเริ่มดึงผม
เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกโกรธและอับอายเมื่อชายคนนี้จับผมของนางโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตเลย ดังนั้นนางจึงควบคุมเส้นผมของนางให้เปลี่ยนเป็นแส้และทำทีขู่ว่าจะฟาดใส่เขา
“เฮ้ ๆๆ ใจเย็น ๆ สิ! ข้ากำลังทำสิ่งนี้เพื่อทำลายผนึกนะ!” ซูอันรีบอธิบาย ก่อนที่จะจับผมของนางอย่างสุภาพมากกว่าเดิมและเขาก็วิ่งไปรอบ ๆ ขาทั้งสองยักษ์ทองแดงและใช้เส้นผมของนางรวบรอบขาทั้งสองข้าง
เฉียวเสวี่ยอิงผู้มีไหวพริบเฉียบแหลมเข้าใจเจตนาของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยเช่นกัน ด้วยความแข็งแกร่งของยักษ์ทองแดงเหล่านี้ หากพวกมันออกแรงเตะเต็มที่ผมของนางไม่ถูกถอนออกจนหมดและทำให้นางหัวล้านงั้นเหรอ?
น่าเสียดายที่นางคิดช้าไปหน่อย เพราะยังไม่ทันที่จะคิดได้จบนางก็รู้สึกว่าศีรษะของนางถูกดึงอย่างแรง จากนั้นร่างของนางก็ปลิวไปตามการเคลื่อนไหวของยักษ์ทองแดง ด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นในดวงตาของนาง นางสาปแช่งผู้ที่ทำให้นางอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชนี้ “ซูอัน เจ้าสารเลว!!!”
ตอนนั้นเองที่กระบี่ยักษ์ฟันลงมาใส่เฉียวเสวี่ยอิง แม้จะอยู่ไกล ๆ นางก็ได้ยินเสียงกระบี่ยักษ์ที่กำลังแหวกผ่านอากาศเข้ามาหา พลังอันมหาศาลของกระบี่ยักษ์นั้นเพียงพอที่จะตัดแขนขายักษ์ทองแดงตัวอื่นได้แน่นอน ดังนั้นนับประสาอะไรกับร่างกายที่บอบบางของนาง!
เฉียวเสวี่ยอิงต้องการหลบโดยสัญชาตญาณ แต่ขณะนี้ร่างของนางกำลังลอยอยู่กลางอากาศซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะหลบเลี่ยงได้ เมื่อเห็นภาพกระบี่ที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ นางก็ถอนหายใจเบา ๆ และหลับตาลงอย่างยอมจำนนต่อโชคชะตา
นางเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่แล้ว ดังนั้นมันก็ไม่เลวร้ายเกินไปสำหรับนางที่จะตายแบบนี้ สิ่งเดียวที่นางเสียใจคือไม่สามารถทำลายผนึกทั้งสามและช่วยชีวิตคุณหนูของนางได้…ว่าแต่ซูอันจะทำทั้งหมดคนเดียวได้มั้ย?
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงซูอัน อารมณ์ของนางแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเคือง
ที่ข้าต้องมาตายตอนนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเขา! ต่อไปเวลาคิดถึงข้า เขาจะรู้สึกผิดบ้างสักนิดไหม? ว่าแต่ผู้ชายคนนี้จะรู้จักความรู้สึกผิดด้วยเหรอ? ข้าหวังมากไปไหมเนี่ย?
“ข้าพนันได้เลยว่าเจ้ากำลังแช่งชักหักกระดูกข้าอยู่!”
ทันใดนั้น เสียงล้อเลียนก็ดังขึ้นข้าง ๆ นาง พร้อมกับที่เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น นางลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เห็นซูอันกำลังมองมาที่นาง ภาพนี้ทำให้นางตกตะลึง
อย่างไรก็ตามนางรีบตั้งสติแล้ว ชี้ไปทางด้านหลังเขาและตะโกน “กระบี่! กระบี่!”
นางตื่นตระหนกจนไม่สามารถแม้แต่จะพูดออกมาเป็นประโยคได้
เงาสีดำวาบผ่านนางไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดและเส้นผมของนางก็ขาดไป หากไม่ใช่เพราะซูอันพานางถอยออกมาอย่างรวดเร็ว นางคงถูกฟันหัวหลุดไปแล้ว!
หลังจากรอดพ้นจากความตายได้แล้ว นางจ้องไปที่ชายที่ประคองนางไว้ด้วยสีหน้างุนงง หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก
“ความรู้สึกนี้คืออะไร? ทำไมหน้าข้าถึงแดง ทำไมหัวใจข้าเต้นเร็วจัง ทำไมต่อหน้าซูอัน ข้าถึงเป็นอย่างนี้…” จิตใจของหญิงสาววุ่นวาย
“ข้าช่วยชีวิตเจ้าได้อีกแล้ว เราเสมอกันแล้วใช่มั้ย?” ซูอันพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เฉียวเสวี่ยอิงหน้าแดง นางอ้าปากจะพูด แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
“เจ้ารู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติหรือเปล่า? เจ้ารู้สึกถึงอารมณ์ที่เจ้าไม่เคยรู้สึกมาก่อนใช่ไหม?” ซูอันถามขึ้น
“ถ…ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วมันจะทำไม!” เฉียวเสวี่ยอิงโพล่งออกมาอย่างไม่ทันคิดซึ่งมันทำให้นางรู้สึกเสียใจอย่างรวดเร็ว ข้ายอมรับว่าตัวเองคิดแบบนั้นไปได้ยังไง? ให้ตายสิ ไอ้คนบ้านี่แกล้งข้าอีกแล้ว!
ชายหนุ่มตอบกลับ “เจ้าไม่ควรคิดว่าเจ้ารักข้าเพียงเพราะเรื่องนี้ นี่เป็นเรื่องปกติ เราเรียกความรู้สึกนี้ว่า ‘ปรากฏการณ์สะพานแขวน’ เวลาเราข้ามสะพานแขวนที่น่าหวาดเสียว ถือเป็นเรื่องปกติที่หัวใจของเจ้าจะเต้นเร็ว และถ้าเจ้าบังเอิญพบกับคนอื่นระหว่างทาง เจ้าจะเข้าใจผิดว่าอาการใจสั่นเต้นระรัวที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณของความรักที่มีต่อคน ๆ นั้น แต่จริง ๆ แล้ว มันไม่ใช่ความรัก”
เฉียวเสวี่ยอิงนิ่งงัน
นางได้สติโดยคำพูดที่ยาวเหยียดนั้น “ฮ่า แน่นอน! ข้ายอมตกหลุมรักหมู สุนัข หรือแม้แต่ผีดิบขอทานดีกว่าตกหลุมรักผู้ชายแบบเจ้า!”
—
ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 111!
—
ซูอันพูดไม่ออก คำพูดของเจ้าดูไม่น่าเชื่อถือเลยนะ คะแนนความโกรธแค้นที่เจ้าให้ข้าเนี่ยก็นิดเดียวเอง!
“ไม่ต้องกลัวหรอก ข้าก็จะไม่ตกหลุมรักสาวปากพิษอย่างเจ้าเหมือนกัน”
แม้จะมีการจิกกัดด่าทอ แต่ชายหนุ่มยังคงมีสมาธิอยู่ในการต่อสู้ เขาพุ่งเข้าหายักษ์ทองแดงพร้อมกับแท่งพิษในมืออย่างไม่ลังเล
ขณะนี้ยักษ์ทองแดงทั้งหลายถูกมัดเข้าด้วยกันโดยเส้นผมของเฉียวเสวี่ยอิง และแน่นอนว่าชายหนุ่มไม่ได้คาดหวังว่าเส้นผมของนางจะคงทนถึงขนาดพันตัวพวกมันได้ทั้งหมดจนทำให้พวกมันไม่สามารถขยับได้ เขาจึงผูกแค่ขาของยักษ์ทองแดงเหล่านั้นเข้าด้วยกันเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหว
เนื่องจากการเคลื่อนไหวของพวกมันไม่ประสานกัน ตัวหนึ่งไปทาง อีกตัวหนึ่งไปอีกทาง จึงใช้เวลาไม่นานนักที่ยักษ์ทองแดงตัวแรกจะสะดุดล้ม ยักษ์ทองแดงตัวต่อไปก็สะดุดล้มไปตาม ๆ กันราวกับโดมิโน
หากเป็นมนุษย์ธรรมดา พวกมันคงจะพยายามตัดเส้นผมที่พันรอบข้อเท้า ด้วยความแข็งแกร่งของพวกมันย่อมไม่เป็นเรื่องยากที่จะฉีกกระชากผมของเฉียวเสวี่ยอิงให้ขาดได้…
น่าเสียดายว่าพวกมันขาดสติปัญญา พวกมันแค่พลิกขาไปมาอย่างไร้ประโยชน์ ไม่สามารถหลุดพ้นจากเส้นผมได้
ซูอันใช้โอกาสนี้วิ่งไปหายักษ์ทองแดงที่ใกล้ที่สุดและแทงแท่งพิษเข้าไปตรงกลางหน้าผากของมัน
เมื่ออยู่ในระยะประชิด เขารู้สึกได้ชัดเจนกว่าที่เคยว่ายักษ์ทองแดงเหล่านี้มีขนาดใหญ่โตและทรงพลังเพียงใด เมื่อมองดูหัวและดวงตาของพวกมัน ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ถ้าเฉียวเสวี่ยอิงคิดผิดว่านี่เป็นจุดอ่อนของยักษ์ทองแดง เขาอาจจะต้องพบจุดจบตอนนี้จริง ๆ แล้ว!
สวบ!
แท่งพิษของเขาแทงเข้าที่หน้าผากยักษ์ทองแดง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขนาดของหัวของยักษ์และความสั้นของแท่งพิษ มันจึงดูเหมือนเอาเข็มเล็ก ๆ ไปจิ้มหัวใครสักคนแทน
เขารู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ และรีบดึงแท่งพิษออกพร้อมถอยห่างออกมา เพราะกลัวว่ายักษ์ทองแดงจะตอบโต้
แต่น่าประหลาดใจที่แววตาของยักษ์ทองแดงค่อย ๆ จางลงก่อนที่จะหายไปโดยสิ้นเชิง มันได้หวนกลับไปเป็นรูปหล่อทองแดงที่ไม่มีชีวิตจิตใจเหมือนเดิม
ซูอันดีใจที่การโจมตีนั้นได้ผลและรีบใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันพุ่งหายักษ์ทองแดงตัวต่อไป เขาแทงแท่งพิษไปที่กึ่งกลางหน้าผากของมันแล้วดึงกลับก่อนจะพุ่งไปที่เป้าหมายต่อไป…
จากนั้นในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ เขาได้กำจัดยักษ์ทองแดงไปแล้วถึงสิบเอ็ดตัว ทว่าในขณะที่กำลังจะจัดการกับตัวที่สิบสอง ยักษ์ทองแดงตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวและดิ้นรนหลุดจากเส้นผมที่มัดขามันได้สำเร็จ มันลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นตบซูอัน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป ซูอันจึงเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วและถอยห่างออกมาหลายลี้ พลังของฝ่ามือนั้นยิ่งใหญ่มากจนแม้แต่คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นก็เพียงพอที่จะจบชีวิตของชายหนุ่มได้ กอปรกับอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ เขาจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ยักษ์ทองแดงก็สามารถลุกขึ้นยืนได้ เมื่อมองดูเพื่อนของมันที่ล้มตายกลายเป็นรูปหล่อไร้ชีวิต แม้จะขาดสติปัญญาแต่มันก็ทวีความโกรธยิ่งขึ้น มันแหงนหน้าคำรามขึ้นไปบนฟ้า
—
ท่านยั่วยุยักษ์ทองแดงหมายเลข 1 สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 9 + 9 + 9…
—