เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 305 ท่านพี่
บทที่ 305 ท่านพี่…
ห่าฝนลูกธนูเริ่มเบาบางลง เห็นได้ชัดว่าทหารดินเผาพลธนูเริ่มรู้ตัวว่าพวกมันไม่สามารถโจมตีพวกเขาได้…
ขณะที่ทั้งสองกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน
ทหารม้า! ทหารม้าดินเผามาแล้ว!
ทั้งสองเงยศีรษะขึ้นมอง แล้วก็ได้เห็นกองทหารม้าดินเผาควบม้าดินเผาตัวใหญ่พุ่งเข้ามาทางพวกเขาอย่างรวดเร็วและกราดเกรี้ยว
หากถูกทหารม้ารุมเหยียบแน่นอนว่าพวกเขาคงแบนติดพื้นดินทันที!
ซูอันส่องไฟฉายวิเศษไปที่พวกทหารม้า แต่พวกมันก็ยกโล่ขึ้นบังแสงไว้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปยังม้าดินเผาที่พวกมันขี่ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีผ้าปิดดวงตาของม้าเอาไว้
บัดซบ! พวกแกคือทหารดินเผา เป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่สร้างมาจากโคลน! แกไปเอาผ้ามาจากไหน!?
เขาคิดหาวิธีแก้ไขวิกฤติเฉพาะหน้าอย่างบ้าคลั่ง…
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของซูอัน จากนั้นตัวเขาก็ได้เปิดใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันรวมถึงสิบสามท่วงท่ากระบี่พื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อขุดหลุมเล็ก ๆ
ชายหนุ่มค่อนข้างประทับใจกับความเรียบง่ายของสิบสามท่วงท่ากระบี่พื้นฐานของสถาบันจันทร์กระจ่าง การใช้วิชากระบี่นี้ในแนวคิดเดียวกับการ ‘ขุด’ มันมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากและยิ่งโดยเฉพาะใช้คู่กับแท่งพิษด้วยแล้ว การขุดจึงยิ่งเป็นเรื่องง่ายมากกว่าเดิม
หากผู้สร้างสิบสามท่วงท่ากระบี่พื้นฐานได้รู้ว่าผู้สืบทอดของเขากำลังใช้วิชานี้ในการขุดหลุม คงจะโกรธมากจนแทบกระโดดออกมาจากโลงศพได้!
แต่แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความกังวลของซูอันในตอนนี้ เขาแค่ดีใจที่แท่งพิษนั้นคมอย่างเหลือเชื่อ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถขุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เฉียวเสวี่ยอิงสับสนกับการกระทำของซูอัน เขาตั้งใจจะสร้างหลุมหลบภัยจากทหารม้าดินเผาพวกนี้อีกงั้นเหรอ?
หากเป็นเมื่อก่อน นางคงจะยักไหล่ให้กับการกระทำอันไร้สาระของซูอัน แต่หลังจากที่ผ่านทุกอย่างมาด้วยกัน นางก็ตัดสินใจช่วยเหลือเขา นางรวบรวมพลังชี่ที่เหลือและวางมือลงบนพื้น ในไม่ช้าเถาวัลย์ก็พุ่งออกมาจากพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมกลม
ขณะที่ทหารม้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซูอันก็ทิ้งหลุมที่เขากำลังขุดและดึงเฉียวเสวี่ยอิงวิ่งออกไปพร้อมกับเขา
“มาหนีตอนนี้ไม่ช้าไปหน่อยเหรอ??” เฉียวเสวี่ยอิงงงงวย
ทว่าสิ่งที่ทำให้นางสับสนยิ่งกว่านั้นก็คือ ซูอันกลับหยุดอยู่เฉย ๆ หลังจากวิ่งห่างมาได้ระยะหนึ่ง
เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับทหารม้าที่พุ่งเข้าใส่พร้อมกับแท่งพิษในมือ ชวนให้นึกถึงเสือดำที่พร้อมจะจู่โจมได้ทุกเมื่อ
เฉียวเสวี่ยอิงสับสน นี่เขาตั้งใจจะสู้กับพวกทหารม้าแบบซึ่ง ๆ หน้าจริง ๆ เหรอ? นี่มันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตายชัด ๆ!
แต่ในครู่ต่อมา นางก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นภาพของทหารม้าดินเผาวิ่งตกลงไปในหลุมที่นางกับซูอันขุดราวกับว่าพวกมันตาบอดไม่เห็นหลุม พวกมันกระแทกเข้ากับก้นหลุมอย่างแรง จากนั้นก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เมื่อแถวแรกตกลงไปในหลุมอย่างกะทันหัน ทหารม้าดินเผาที่อยู่แถวหลังที่ตามกันมาแล้วไม่สามารถหลบหรือเปลี่ยนเส้นทางได้ทันก็ตกลงในหลุมและแตกกระจายไปเป็นจำนวนมากตาม ๆ กันไป
ทางฝ่ายของซูอัน เมื่อเห็นเช่นนี้เขาก็พุ่งเข้าหาพวกทหารม้าดินเผาที่ยังไม่ตกหลุมและไล่สังหารพวกมัน
แม้ว่าเหล่าทหารม้าจะเสียสมดุลย์ในการเข้าจู่โจม แต่พวกมันยังคงได้เปรียบเพราะอยู่บนหลังม้า อย่างไรก็ตาม ซูอันได้ใช้ไฟฉายวิเศษส่องแสงป่วนพวกมัน ซึ่งทำให้พวกทหารม้าดินเผาเข้าสู่ความโกลาหลอย่างรวดเร็ว นี่เป็นโอกาสที่ดีในการใช้วิชาร่างก้าวทานตะวัน…
เขาก้าวซ้ายขวาสลับกันกระแทกทหารดินเผาบางตัวที่ยังอยู่บนหลังม้าให้ร่วงตกลงสู่พื้น บางครั้งก็ใช้ ‘เพลงกระบี่ปราบมาร’ เพื่อตัดศีรษะของพวกมัน
หลังจากต่อสู้มาสักพักหนึ่ง ในที่สุดชายหนุ่มก็รู้แล้วว่าจุดอ่อนของพวกมันอยู่ที่ไหน ส่วนหัวของพวกมันนั่นเอง!
เมื่อผ่านไปอีกราวหนึ่งก้านธูป ทหารม้าดินเผามากกว่าร้อยตัวก็ถูกทำลายจนราบคาบ ครึ่งหนึ่งแตกสลายจากการล้มกระแทกลงไปที่ก้นหลุม และอีกครึ่งหนึ่งถูกซูอันสังหารโดยตรง
“เขาเป็นผู้บ่มเพาะระดับสามจริง ๆ เหรอเนี่ย?”
เมื่อมองไปที่ซูอันที่ว่องไวราวกับหายตัวไปมาได้ในสนามรบ เฉียวเสวี่ยอิงก็รู้สึกประหลาดใจ
แม้ว่าซูอันจะมีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำ แต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นนับได้ว่าน่าเกรงขามที่สุดเท่าที่นางเคยเห็น การโจมตีของเขาเรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพ ปราศจากการเคลื่อนไหวที่มากเกินพอดี ในทุกครั้งที่เขาโจมตีย่อมมีหนึ่งศพที่ตกตายไป
ซูอันออกแรงมากจนหอบหายใจ เขาสามารถกำจัดทหารม้าดินเผาได้มากก็จริง แต่ก็เสียพลังกายไปไม่น้อย
ตอนนั้นเอง พลธนูดินเผาที่อยู่แนวหลังก็ยิงธนูต่ออีกรอบเพราะทหารม้าดินเผาถูกทำลายหมดแล้ว ฝนลูกธนูจึงตกลงมาอย่างรวดเร็ว
“เร็วเข้า ไปซ่อนในหลุม!” เฉียวเสวี่ยอิงรีบดึงแขนซูอัน นางกลัวว่าเขาจะเหนื่อยเกินกว่าจะขยับตัวหนีได้
ชายหนุ่มโยนโล่อันหนึ่งให้นางแล้วพูดว่า “เจ้าจะวิ่งทำไม? ตอนนี้เรามีโล่แล้ว!”
เครื่องมือที่ดีที่สุดในการป้องกันพลธนูคือโล่ ก่อนหน้านี้ซูอัน ต้องขุดหลุมอย่างรวดเร็วเพราะหาเครื่องกำบังไม่ได้ แต่หลังจากจัดการทหารม้าดินเผา ตอนนี้ทั่วบริเวณก็เกลื่อนไปด้วยเครื่องกำบัง ไม่ว่าจะเป็นโล่ หรือชิ้นส่วนของตัวพวกทหารดินเผาที่แตกกระจาย
ทั้งสองรีบหยิบโล่มาปกปิดร่างกายด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ฝนลูกธนูพุ่งลงมาที่พวกเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถทำอันตรายต่อพวกเขาได้
ซูอันยังคงมีอารมณ์หยอกเย้าเฉียวเสวี่ยอิง “เรามีโล่เต็มไปหมดแล้ว แต่เจ้ายังจะดึงข้าเข้าไปในหลุมอีก บอกข้ามาตรง ๆ ดีกว่า เจ้าหวังให้ข้าโอบกอดเจ้าอีกทีใช่มั้ย?”
“กอดหัวเจ้าสิ!” เฉียวเสวี่ยอิงเตะเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้คน ๆ นี้! เขามักจะมีความคิดแปลก ๆ ออกมาทำให้นางเผลอทำอะไรน่าอายออกไปอยู่เรื่อย “เจ้าทำให้ทหารม้าพวกนั้นล้มลงเพียงแค่การขุดหลุมกลม ๆ นี้ได้ยังไง?”
ซูอันกระดิกนิ้วและพูดว่า “นี่ก็เป็นความลับเช่นกัน เรียกข้าว่าท่านพี่ก่อนสิ แล้วข้าจะบอกเจ้า”
เฉียวเสวี่ยอิงกัดฟันกรอด นางมองไปที่สนามรบและเห็นว่ามีทหารดินเผาหลายร้อยตัวอยู่ข้างหน้า ตอนนี้นางกำลังบาดเจ็บสาหัส มองไม่เห็นโอกาสที่จะรอดชีวิตออกไปจากที่นี่…
นางไม่อยากตายโดยที่ยังค้างคาใจ จึงยอมจำนนต่อความอยากรู้ของตัวเองและพึมพำเสียงเบาที่แทบไม่ได้ยินว่า “ท่าน…พี่…ข้า…”
ซูอันอึ้ง
ชายหนุ่มไม่คิดว่าเฉียวเสวี่ยอิงจะทำตามที่เขาพูดจริง ๆ นี่พระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันตกหรือเปล่าเนี่ย?!
เมื่อเห็นซูอันตกตะลึง เฉียวเสวี่ยอิงก็หน้าแดง นางจ้องหน้าเขากลับแล้วตะคอกว่า “เจ้ามองหน้าข้าทำไม? ข้าทำตามที่เจ้าบอกแล้ว ตอบมาสิ!”
“เจ้าพูดอะไรนะ? ข้าได้ยินไม่ชัด” ซูอันแกล้งถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เจ้าล้อข้าเล่นงั้นเหรอ!” เฉียวเสวี่ยอิงโกรธทันที
—
ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 398!
—
ซูอันเสริมอย่างรวดเร็วว่า “ก็ข้าได้ยินไม่ชัดจริง ๆ แค่พูดอีกครั้ง แล้วข้าจะตอบเจ้าทันที”
เฉียวเสวี่ยอิงกัดริมฝีปาก ข่มศักดิ์ศรีและยอมให้ความอยากรู้อยากเห็นเป็นฝ่ายชนะ ในท้ายที่สุดนางก็เอียงศีรษะไปด้านข้างและพูดเสียงเบาว่า “ท่านพี่…”
“อ่า น้องสาวที่แสนดีของข้า” รอยยิ้มร่าเริงปรากฏบนใบหน้าของซูอัน ทำให้เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกขัดอกขัดใจ “เอาล่ะ เรื่องนี้ก็ง่าย ๆ หากเจ้าเคยอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้ามาก่อน เจ้าจะรู้ว่าพวกม้าที่อาศัยอยู่ในที่ราบทุ่งหญ้านั้นกลัวรูหนู พวกมันกลัวว่าขาจะหักหากเหยียบเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากไฟฉายของข้า ทหารดินเผาจึงปิดตาม้าของพวกมันด้วยเศษผ้า ดังนั้นมันจึงไม่เห็นหลุมบนพื้น และจบลงด้วยความตายในที่สุด…
“และเมื่อเราจัดการทหารม้าแถวแรกได้ ม้าที่เหลืออยู่ข้างหลังก็จะตามมาด้วยความเร็วจนไม่สามารถหยุดได้ทัน กอปรกับดวงตาของม้าถูกผ้าบังไว้ เป็นผลให้พวกมันล้มตายไปตาม ๆ กันเหมือนโดมิโน”
“เจ้าเคยอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้ามาก่อนหรือไง? ทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องพวกนี้?” เฉียวเสวี่ยอิงงงงวย เท่าที่นางรู้จากการแทรกซึมอยู่ในตระกูลฉู่ นางมั่นใจว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่เคยไปอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้ามาก่อนแน่นอน…
ซูอันยักไหล่อย่างสบาย ๆ “เจ้าไม่รู้หรือว่าท่านพี่ของเจ้าเป็นคนรอบรู้ในทุกด้าน? แม้จะไม่ได้เดินทางออกนอกเมือง ข้าก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกภายนอก!”