เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 319 จักรพรรดินีผู้งดงาม
บทที่ 319 จักรพรรดินีผู้งดงาม
บทที่ 319 จักรพรรดินีผู้งดงาม
“เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น จางฮั่นกำลังไปที่แท่นบูชา ถ้าเจ้าไม่รีบปล่อยข้า ภรรยาของเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน” หมี่ลี่ข่มขู่
“ข้าไม่ปฏิเสธว่าอยากช่วยภรรยาของข้า แต่ท่านไม่กังวลมากกว่าข้าเหรอ? ข้าสงสัยว่าท่านถูกปิดผนึกอยู่ที่นี่นานแค่ไหน หนึ่งพันปี? สองพันปี? หรืออาจจะเป็นหมื่นปีด้วยซ้ำ? ถ้าพลาดจากคราวนี้โอกาสต่อไปของท่านจะมาถึงเมื่อไหร่กันนะ?”
หมี่ลี่ตกอยู่ในความเงียบ เห็นได้ชัดว่าใจของนางไม่ได้สงบอย่างที่เห็น “อันที่จริง นี่เป็นโอกาสที่หายากสำหรับข้าเช่นกัน ข้าต้องทำยังไงเจ้าถึงจะวางใจข้า?”
ซูอันไม่รู้ว่าจะใช้อะไรผูกมัดหมี่ลี่ให้ทำตามสัญญาได้ เขานึกถึงประโยคที่เคยอ่านจากนิยายในชีวิตก่อน และลองถามว่า “ถ้างั้นทำไมเราไม่ทำสัญญานายบ่าวล่ะ? ท่านจะไม่สามารถทำร้ายข้าได้ในอนาคตตราบเท่าที่ท่านจะยอมรับข้าเป็นนายของท่าน”
“ฮ่า ๆ!” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังก้องอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่หมี่ลี่จะเย้ยหยันอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครที่จะทำให้ข้ายอมรับว่าเจ้าเป็นนายของข้า? แม้แต่อิ่งเจิ้งก็ไม่สามารถทำให้ข้ายอมจำนนได้ นับประสาอะไรกับเด็กน้อยอย่างเจ้า!”
“นี่มันมากเกินไปแล้ว! ท่านเป็นคนบอกเองว่าให้ข้าเสนอบางอย่าง และตอนนี้จะมาโกรธข้าทำไม? ท่านบอกมาเลยดีกว่าว่าเราควรทำยังไง?”
หมี่ลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “เช่นนี้แล้วกัน หยิบกระดาษมาสักแผ่นมาทำสัญญา แลกกับการช่วยข้าออกจากโลงบ้า ๆ นี่ ข้าสัญญาว่าจะช่วยภรรยาของเจ้า ไม่ทำร้ายเจ้าและผู้หญิงของเจ้าอีกสองคน เจ้าควรรู้ว่าสัญญามีผลผูกพันในโลกนี้ แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถบิดพลิ้วต่อมันได้”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้ยินเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย “ดีมาก! แต่ข้าจะไปหากระดาษได้จากไหน?”
“เจ้าโง่! มันไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษเสมอไป! เสื้อผ้าของเจ้าก็เอามาเขียนได้ ส่วนหมึก เจ้าก็ใช้เลือดจากบาดแผลบนร่างกายทดแทนได้!” หมี่ลี่กล่าวอย่างเย็นชา
ซูอันรู้สึกหงุดหงิดกับน้ำเสียงที่แดกดันของนาง
หญิงชราบ้า ๆ บอ ๆ พรรค์นี้ถ้าไม่ใช่เพราะว่าข้าสู้เจ้าไม่ได้ ข้าคง…
น่าเสียดายที่ชายหนุ่มไม่สามารถคิดถึงสิ่งที่จะสามารถทำได้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าเขามาก
อย่างไรก็ตาม ซูอันก็รีบจดข้อกำหนดของสัญญาก่อนที่จะขมวดคิ้ว “มันมีแต่ลายมือของข้า สัญญาจะไม่มีผลผูกพันหากไม่มีลายมือท่านใช่ไหม”
“เจ้าแค่ต้องนำมันมาให้ข้ากดฝ่ามือลงไป” หมี่ลี่กล่าว
“ท่านอยู่ไหน?” เสียงที่ฟังดูเหมือนมาจากทุกที่ ทำให้ซูอันมองไปรอบบริเวณ
“เจ้านี่ช่างโง่เง่าจริง ๆ ข้าอยู่ในโลงตรงหน้าเจ้าไม่ใช่เหรอ!” หมี่ลี่ตะโกน
ซูอันนิ่งงัน
ให้ตายสิ…หญิงชราปากดีนี่!
เขาเดินอย่างขุ่นเคืองไปที่โลงศพผลึกแก้วขณะที่กำลังสงสัยว่าหมี่ลี่ จัดการกับธุระประจำวันของนางภายในโลงศพได้อย่างไร
นางไม่จำเป็นต้องฉี่และอึเหรอ? อา…แต่นางตายไปแล้วใช่ไหม นางอาจเป็นเพียงซากศพที่เหือดแห้ง ข้าไม่เคยชอบเรื่องผีเรื่องสยองขวัญมาตลอด เวรเอ๊ย ข้าหวังว่าร่างที่อยู่ในโลงศพจะไม่น่าเกลียดน่ากลัวจนเกินไป…
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็ต้องตกตะลึงเมื่อเดินไปใกล้โลงศพผลึกแก้วแล้วพบว่าสิ่งที่อยู่ภายในนั้นไม่ใช่ซากศพแห้งเหี่ยวที่น่าสะพรึงกลัว แต่เป็นหญิงงามที่สวยเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไปถึงซะอีก!
หญิงผู้นี้สวมชุดสีดำและวางมือประสานกันบนหน้าท้องอย่างสง่างาม ริมฝีปากของนางแดงระเรื่อทำให้นางดูเย้ายวน แต่ในขณะเดียวกันก็ดูอันตรายเช่นกัน
นางมีใบหน้าที่สวยงามไร้ที่ติ ผิวของนางที่ควรจะซีดเผือดจากการอยู่ในถ้ำใต้ดินที่มืดมิดนี้มาตลอดกลับเปล่งประกายแวววาวชวนให้นึกถึงหยกขาวตัดกับชุดสีดำที่นางสวมใส่ พูดได้ว่าใคร ๆ ก็ไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของนางได้แน่นอน
ถึงแม้ว่าซูอันจะไม่เคยเห็นชุดสีดำแบบที่นางสวมใส่มาก่อน แต่เขาก็พอจะเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นชุดของจักรพรรดินี เพราะมีการปักลายหงส์สีทองบนชุดผ้าไหมสีดำ ทำให้ผู้สวมใส่ดูงามสง่าเกินกว่าจะอธิบาย
ชุดหงส์ไม่พอดีตัว มันมีขนาดใหญ่กว่าตัวนางเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ส่วนโค้งเว้าที่สวยงามของนางยังคงเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งบ่งบอกว่ารูปร่างของนางนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด
ซูอันอดไม่ได้ที่จะสังเกตว่ามีกำไลสีแดงพันธนาการทั้งมือและขาของนางทั้งสองข้างไว้
ชายหนุ่มคิดว่าจะได้เห็นมัมมี่ชราที่มีผิวหนังแห้งเหี่ยวติดกระดูก หากมองโลกในแง่ดีที่สุด เขาก็คิดว่านางน่าจะเป็นหญิงวัยกลางคนหรืออะไรสักอย่าง เพราะนางเป็นแม่ของฝูซูซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วในยามที่ลูกชายของนางเสียชีวิต
หากคำนวณดู ตอนที่อิ่งเจิ้งผนึกนางไว้นางต้องมีอายุอย่างน้อยสามสิบถึงสี่สิบปี ถึงแม้เวลาของนางจะช้าลงเนื่องจากผนึกก็ตาม แต่นางถูกผนึกมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว กาลเวลาน่าจะทำให้สังขารของนางร่วงโรยไปบ้าง
กระนั้น นางกลับดูอ่อนเยาว์อย่างอัศจรรย์ หากมีผู้พบเห็นอาจมีคนเข้าใจผิดว่านางเป็นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้น ๆ
บ้าบออะไรกัน? นางอ่อนเยาว์เกินไปหน่อยไหม? ยิ่งไปกว่านั้นทำไมนางถึงสวยได้ขนาดนี้?
“เจ้ามองพอหรือยัง?”
หญิงงามที่นอนอยู่ในโลงผลึกแก้วลืมตาขึ้นมามองเขาอย่างเย็นชา
ซูอันตกใจจนสะดุ้ง เมื่อสักครู่นี้เองที่นางดูสวยเย้ายวน เป็นหญิงงามในฝันของผู้ชายแทบทุกคน แต่ทันทีที่นางลืมตา นิสัยของนางก็ทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ดวงตาที่เฉียบคมของนางเต็มไปด้วยพลังที่อธิบายไม่ได้ นางเหมือนพญาหงส์ที่มวลมนุษย์ต้องคุกเข่าลงด้วยความเคารพซึ่งดูสูงส่งเหลือประมาณ
“แน่นอนว่าไม่ รู้ไหมว่าท่านงามแค่ไหน?” ซูอันยืนเท้าคางกับขอบโลง จ้องมองที่นางด้วยรอยยิ้มบนริมฝีปากต่อไป
เขาไม่ชอบที่นางทำราวกับว่าเขาเป็นมดสักตัวต่อหน้านาง
เจ้าอาจเคยเป็นจักรพรรดินี แต่ราชวงศ์ฉินได้ล่มสลายมาหลายพันปีแล้ว หยุดทำท่าวางอำนาจสักที!
หมี่ลี่นิ่งเงียบ
คำตอบของซูอันทำให้นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ชายอื่นทั้งหมด ยกเว้นอิ่งเจิ้งต่างพากันกลัวนางจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง หายากจริง ๆ ที่ผู้ชายจะกล้ายิ้มและหยอกล้อกับนาง
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระและส่งสัญญามาสักที!” หมี่ลี่กล่าว คอยดูเถอะ ข้าจะเอาเรื่องเจ้าทีหลัง โทษฐานที่ทำตัวอวดดี!
“ย่อมได้” ซูอันกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฉู่ชูเหยียน ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่กล้าที่จะชักช้า เขาผลักฝาใสที่ครอบโลงออกไป ทันใดนั้นลมที่หนาวเย็นก็พุ่งออกมามาทันที ทำให้ร่างกายของตัวเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“บ้าบออะไร! นี่ท่านนอนอยู่ในที่แบบนี้มาหลายพันปีแล้วจริง ๆ เหรอ?! ท่านต้องลำบากมากแน่ ๆ!” ซูอันกล่าวพลางถูไหล่ขึ้นลงอย่างเหน็บหนาว
“ใช่ ข้าลำบากจริง ๆ…” หมี่ลี่พึมพำด้วยสีหน้าครุ่นคิด
นางติดอยู่ที่นี่มานานจนนางลืมอารมณ์ส่วนใหญ่ไปแล้ว ดังนั้นคำพูดที่คล้ายแสดงความเห็นใจของซูอันจึงทำให้นางรู้สึกโหยหาเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม นางไม่ยอมให้อารมณ์แสดงออกมา และเยาะเย้ยอย่างเย็นชาแทน “ถ้าอยากรู้จะลองนอนดูไหมล่ะ?”
“ได้เหรอ? โลงนี้ดูไม่ใหญ่พอสำหรับสองคน ถ้าข้าลงไปนอนด้วยข้าอาจจะบดเบียดคลุกเคล้าเนื้อตัวกับท่าน ท่านไม่รังเกียจใช่ไหม?” ซูอัน ถามด้วยน้ำเสียงยินดี
หมี่ลี่นิ่งอึ้งไปก่อนที่จะมีอารมณ์โกรธนิด ๆ
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444!
—
นางนึกไม่ถึงว่าซูอันจะสามารถเปลี่ยนคำพูดยั่วยุของนางมาหยอกล้อนางอย่างมารยาททรามได้ขนาดนี้
“รู้หรือไม่ว่าการหยอกล้อข้าจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?” เสียงของหมี่ลี่เย็นลงขณะที่นางจ้องเขม็งไปที่ซูอัน
“จะให้ข้าทำยังไงได้ เมื่อข้าเห็นหญิงงามเช่นท่าน ข้าก็ต้องมีปฏิกริยาแบบนี้เป็นธรรมดา” ซูอันตอบด้วยรอยยิ้ม “อีกอย่าง ท่านคิดจะฆ่าข้างั้นเหรอ?”
“อย่างเจ้าจะให้ตายง่าย ๆ ไม่ได้หรอก ข้าจะควักลูกตาและตัดลิ้นของเจ้าออกมาก่อน!” หมี่ลี่ขู่เสียงเย็น
“ถ้าท่านฆ่าข้า ใครจะทำสัญญากับท่าน ท่านอยากนอนต่อที่นี่เหรอ? จะว่าไปโลงนี่ก็ดูสวยดี อากาศก็เย็นสบาย” ซูอันยักไหล่ไม่แยแสกับการคุกคามของนาง
หมี่ลี่ตกตะลึง “นี่คือเหตุผลที่เจ้าไม่เกรงกลัวข้าเหรอ?”
ซูอันพยักหน้า “แน่นอน ข้าต้องทดสอบว่าสัญญาจากท่านเชื่อถือได้หรือเปล่าน่ะสิ ข้าจะเชื่อใจท่านได้ยังไงถ้าท่านจะขู่ข้าทุกครั้งที่ข้าพูดด้วย”
หมี่ลี่เงียบไป