เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 32 สายสัมพันธ์พี่น้องที่ลึกซึ้ง (ปลาย)
บทที่ 32 สายสัมพันธ์พี่น้องที่ลึกซึ้ง (ปลาย)
“พี่ถาน ข้ารับเงินจากท่านไม่ได้หรอก ท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้าข้าจะเอาเงินของท่านมาแบบนี้ได้ยังไง! เอาเป็นว่าเรื่องเงินท่านวางใจได้เลยข้าจะเป็นคนนำมันออกมาให้กับท่านแน่นอนไม่ขาดแม้แต่สลึงเดียว!” ดอกบ๊วยสิบสองพูดพร้อมกับโบกมือ
“เจ้าช่างดีกับข้าจริง ๆ!” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตื้นตัน “แต่ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่อยากรับแต่ข้าก็จะแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่งอยู่ดีเมื่องานสำเร็จลุล่วง! เงินของข้าถูกซ่อนอยู่ในผนังหลังเตียง หลังอิฐก้อนที่เก้าในแถวที่หก…”
“ก็ได้ ข้าเข้าใจแล้ว” ดอกบ๊วยสิบสองพยักหน้า “อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าคงยังไปเอาให้ท่านไม่ได้เพราะข้ากำลังจะไปทำธุระมากับน้องชายคนนี้ที่หุบเขาหมาป่า ดังนั้นท่านคงต้องรอข้าทำธุระเสร็จก่อน”
ชายหนุ่มแปลกหน้าชำเลืองมองไปที่ซูอันด้วยสีหน้ามีเลศนัย เขาเข้าใจได้ทันทีว่าดอกบ๊วยสิบสองกำลังจะทำอะไร
หุบเขาหมาป่าเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการกำจัดศพ และพวกเขามักจะใช้สถานที่นั้นเพื่อกำจัดเป้าหมายที่มีชื่อเสียงที่พวกเขาไม่สามารถจัดการอย่างเปิดเผยได้ “อืม..ถ้างั้นเอาแบบนี้ดีกว่า ข้าจะดูแลเขาให้เจ้าเองก็แล้วกัน”
ดอกบ๊วยสิบสองประสานมือและพูดว่า “ข้าขอขอบคุณน้ำใจของท่านจริง ๆ พี่ถาน”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มแซ่ถานกำลังเดินเข้ามาหาพร้อมกับดาบในมือซูอันรู้ได้ทันทีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป เขาลังเลเป็นอย่างมากว่าตอนนี้เขาควรจะเปิดเผยระดับการบ่มเพาะและสู้กลับเลยดีไหม หรือว่าจะลองคุยดูก่อนเพื่อหาทางจบแบบสันติวิธีดี?
แต่แล้วก่อนที่ซูอันจะได้ตัดสินใจทำอะไร จู่ ๆ สถานการณ์กลับพลิกผันอย่างรวดเร็ว ดอกบ๊วยสิบสองพุ่งตัวไปที่ด้านหลังชายหนุ่มแซ่ถานจากนั้นใช้กริชไปที่คอของเขาอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มแซ่ถานใช้มือปิดแผลที่คอตัวเองด้วยสีหน้าตกตะลึงพร้อมกับโซซัดโซเซและชี้นิ้วไปที่ดอกบ๊วยสิบสอง “นี่เจ้า…นี่เจ้า…”
ดอกบ๊วยสิบสองหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเลือดจากกริชของเขาและพูดว่า “ในเมื่อหลังจากนี้ข้าจะได้รับรางวัล 2 เด้งทั้งจากเจ้าสำนักและเงินของท่าน ทำไมข้าถึงต้องเอาตัวเองมาเสี่ยงช่วยท่านด้วย?”
“เจ้าไม่… ไม่ตาย… ตายดี…” ชายหนุ่มแซ่ถาน พยายามคว้าคอของเขาอย่างหมดท่า ทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะสิ้นลมหายใจในที่สุด แม้หลังสิ้นลมหายใจ ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความแค้น นี่สินะที่เขาเรียกว่า ‘ตายตาไม่หลับ’
ดอกบ๊วยสิบสองเก็บกริชของเขากลับเข้าไปในฝักจากนั้น เขาเดินไปหาซูอันและพูดว่า “น้องซู เจ้าไม่ต้องกลัว เขาเป็นคนทรยศของสำนักข้า เขาคือคนที่สมควรตาย!”
“โอ้… ”ซูอันกลืนน้ำลายหนึ่งอึกพลางคิดในใจ ‘เจ้าไม่ต้องมาเรียกข้าเป็นพี่น้องก็ได้ คนที่เจ้านับเป็นพี่เป็นน้องเมื่อครู่ เพิ่งตายด้วยคมกริชของเจ้าไปหยก ๆ ข้าไม่อยากจะเป็นญาติอะไรกับเจ้าทั้งนั้น!’
จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็ออกเดินทางต่อ ซึ่งบรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองเริ่มเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย แต่โชคยังดีที่การเดินทางต่อมาพวกเขาไม่พบอันตรายใด ๆ
“ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลย ทำไมเจ้าถึงต้องการไปที่หุบเขาหมาป่านักเล่า?” ดอกบ๊วยสิบสองถามด้วยความอยากรู้
“เป็นเพราะข้าต้องการให้หมอเทวะจี้รักษาอาการผิดปกติในร่างกาย แต่น่าเสียดายที่ข้ามีเงินไม่พอ ข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำภารกิจที่หมอเทวะจี้กำหนดไว้ ซึ่งภารกิจที่ว่าก็คือการไปที่หุบเขาหมาป่าเพื่อเก็บโก๋วเป่า10 ชิ้นจากหมาป่ากระซวกทวาร ข้าล่ะหวังจริง ๆ ว่าข้าจะโชคดีทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ” ซูอันพูดด้วยท่าทางไร้เดียงสาที่สุดเท่าที่จะทำได้
“โชคดี?” ดอกบ๊วยสิบสองระเบิดเสียงหัวเราะอย่างเต็มอิ่ม แม้แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปในหุบเขาหมาป่าแบบนี้ แต่ไอ้คนโง่ผู้นี้ฝันว่าจะเข้าไปในหุบเขาเพื่อค้นหาโก๋วเป่า?
ซูอัน หัวเราะฝืด ๆ ออกมาและพูดว่า “ข้าแค่ลองเสี่ยงโชค ใครจะรู้? บางทีข้าอาจจะพบซากหมาป่าอยู่รอบ ๆ ก็ได้”
ดอกบ๊วยสิบสองมองไปที่ซูอันอย่างดูแคลน พลางคิดในใจว่าเจ้าเด็กนี่มันโง่ยิ่งกว่าก้อนหินเสียอีก อย่างไรก็ตาม เขายังคงยับยั้งใจไม่ให้พลั้งปากพูดออกไป
เพราะถ้าหากฝั่งตรงข้ามถอยกลับในตอนนี้ เขาจะไม่สามารถทำตามแผนได้สำเร็จ “ท่านเป็นลูกเขยของตระกูลฉู่ไม่ใช่เหรอไง? ทำไมไม่ไปขอเงินจากตระกูลฉู่มาจ่ายค่ารักษาของท่านล่ะ?”
ซูอันถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดว่า “พี่ชาย ท่านน่าจะพอเดาออกไม่ใช่เหรอว่าทุกคนต่างรังเกียจข้า ดังนั้นใครกันจะใจดีให้เงินข้า? ข้านึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะมีใครที่ใจดีแบบท่าน แค่รู้จักกันไม่เท่าไหร่ ท่านก็นับข้าเป็นพี่น้องแถมยังให้ความช่วยเหลือกับข้าอีก ข้าล่ะซึ้งใจกับท่านจริง ๆ”
“แน่นอน! ถ้าข้าไม่ยืนหยัดเพื่อพี่น้องของข้า ข้าควรยืนหยัดเพื่อใครอีก” ดอกบ๊วยสิบสอง รู้สึกประทับใจพอสมควรที่ไอ้เด็กโง่คนนี้ยังพอตระหนักได้ว่าตัวของมันด้อยค่าขนาดไหน “ว่าแต่เจ้าสาวของเจ้างดงามเหมือนที่ผู้คนร่ำลือกันจริงไหม?”
คนอย่างเขาคงไม่มีโอกาสได้พบกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่ ทั้งหมดที่เขารู้เกี่ยวกับนางมาจากข่าวลือที่คนทั่วไปเล่าให้ฟังเพียงเท่านั้น
“นางเหมือนนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์เลยเชียวล่ะ”ซูอันตอบอย่างตรงไปตรงมา
“แล้วเป็นยังไงบ้างตอนที่เจ้ามีอะไรกับนาง? เจ้ารู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยใช่ไหม?” ดอกบ๊วยสิบสอง ถามซูอันโดยที่ไม่ให้เกียรติเลยแม้แต่น้อย
ซูอัน เยาะเย้ยอย่างเย็นชาภายในใจ แต่คำตอบของเขานั้นตรงกันข้าม “นางยอดเยี่ยมสุด ๆ เลยล่ะ ทั้งผิวเนียนนุ่ม ทั้งหอม มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ข้าเคยมีเลย!”
ดอกบ๊วยสิบสอง ถึงกับต้องกลืนน้ำลายขณะที่เขาพูดด้วยความอิจฉา “เจ้านี่มันน่าอิจฉาจริง ๆ พับผ่าสิ!”
ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยสิบสอง สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99
ซูอัน รู้สึกยินดีที่จู่ ๆ ก็ได้รับคะแนน ดูเหมือนว่าดอกบ๊วยสิบสองนี้จะเป็นคางคกอีกตัวที่กระหายในเนื้อหงส์สินะ
เมื่อพวกเขาเดินไปสักพัก ทั้งสองก็ได้กลิ่นเลือดคละคลุ้งลอยมาแต่ไกล และเมื่อเดินต่อไปไม่ไกลนัก ก็ได้เห็นว่าข้างหน้าพวกเขามีเศษกระดูกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นมากมายจนยากที่จะบอกว่ามันมาจากสัตว์ชนิดใดบ้าง
ดอกบ๊วยสิบสองหัวเราะและกล่าวว่า “หากเป็นฝีมือของพวกสัตว์ป่าอื่น ๆ มันจะยังคงมีเศษซากเนื้อหนังและเครื่องในหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ถ้าหากเป็นฝีมือของพวกหมาป่ากระซวกทวารแล้วล่ะก็สภาพศพที่เหลือมันก็จะมีแค่กระดูกเท่านั้นที่เหลือแบบนี้แหละ!”
ที่ชายหนุ่มกล้าพูดถึงความน่ากลัวของหมาป่ากระซวกทวาร เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้หุบเขาหมาป่ามากแล้วและบริเวณโดยรอบก็ไร้ซึ่งผู้คน ดังนั้นดอกบ๊วยสิบสองจึงไม่กลัวว่าซูอันจะหลุดมือเขาอีกต่อไป
“งั้นก็แสดงว่านี่คือหุบเขาหมาป่างั้นเหรอ?” ซูอันสามารถมองเห็นหุบเขาตรงหน้าเขาได้ เขาแสร้งทำเป็นตกใจพร้อมกับคว้าแขนของดอกบ๊วยสิบสอง และพร่ำเพ้อออกมาด้วยความกลัว “พี่ใหญ่ ท่านต้องปกป้องข้าด้วยนะท่านเป็นผู้บ่มเพาะที่น่าเกรงขามท่านปกป้องข้าได้อยู่แล้วใช่ไหม?”
“ใช่ มันอยู่ตรงหน้าเราแล้ว แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะ ‘ปกป้อง’ เจ้าเป็นอย่างดีแน่นอน!” ดอกบ๊วยสิบสองกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “ซูอัน… ข้ายอมรับว่าข้าประทับใจเจ้ามากจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าในโลกนี้จะมีคนที่ทั้งบื้อทั้งโง่แบบเจ้าหลงเหลืออยู่อีก เจ้านี่มันไม่ได้ฉลาดขึ้นเลยแม้แต่นิดหลังจากโดนฟ้าผ่าไปก่อนหน้านี้ วันนี้เจ้ายังคงเดินมาติดกับของข้าเหมือนเดิมโดยที่ข้าแทบไม่ต้องออกแรงอะไรเลย!”
ซูอัน แสร้งแสดงสีหน้าตื่นตระหนกและถามกลับไปว่า “พี่ใหญ่ นี่ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร?”
ตอนแรกซูอันตั้งใจจะจัดการกับอีกฝ่ายในตอนที่เขาไม่ทันระวัง แต่คำพูดนี้ของดอกบ๊วยสิบสองทำให้เขาเปลี่ยนแผนใหม่ เขาตระหนักว่านี่มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาที่จะหลอกถามข้อมูลอื่น ๆ ก่อน
ต่อให้ฝั่งตรงข้ามจะจู่โจมเขาก่อน ซูอันก็ยังคิดว่าตัวเขานั้นได้เปรียบมากกว่าเพราะขามีไพ่ตายอย่าง มีดพิษและยาพิษอยู่ในมือ เขามีโอกาสสูงที่จะสามารถจัดการกับเจ้าดอกบ๊วยสิบสองได้ไม่ยาก
ดอกบ๊วยสิบสองผลักซูอันออกไป ซึ่งเขาเองก็แสร้งล้มหงายหลังลงกับพื้นราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ชายหนุ่มที่อ่อนแอ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอ่อนแอขนาดนี้ ดอกบ๊วยสิบสองก็ยิ่งแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามมากขึ้นกว่าเดิม เขาปัดเสื้อคลุมส่วนที่ซูอันคว้าไว้ก่อนหน้านี้ด้วยท่าทีรังเกียจและพูดว่า “เนื่องจากวันนี้ข้าอารมณ์ดี ข้าจะให้ความกระจ่างแก่เจ้าก่อนที่จะส่งเจ้าไปลงนรกก็แล้วกัน”
“ใช่…ก่อนหน้านี้ที่เจ้าโดนฟ้าผ่ามันเป็นเพราะข้าเองที่พาเจ้าไปที่ชานเมืองและมัดเจ้าไว้กับต้นไม้ใหญ่ในคืนที่มีพายุ แต่น่าเสียดายจริง ๆ เลยที่เจ้ากลับดวงแข็งรอดมาได้แม้จะโดนฟ้าผ่าไปเต็ม ๆ แบบนั้น!”