เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 366 ตัวอัปมงคล
บทที่ 366 ตัวอัปมงคล
บทที่ 366 ตัวอัปมงคล
หลังจากร่ำลากับจี้เสี่ยวซีแล้ว ซูอันก็ออกจากพื้นที่พร้อมกับฉู่ชูเหยียน เนื่องจากสถาบันอนุญาตให้พวกเขาลาได้สามวัน ดังนั้นจึงตัดสินใจกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่
ฉู่ชูเหยียนจำเป็นต้องรายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นในมิติลับหยกจรัสให้พ่อแม่ของนางทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่กระทบกระทั่งกับซือคุน พวกเขาจะได้เตรียมรับมือไว้ก่อน
แต่ในทันทีที่พวกเขาเดินออกจากสถาบันจันทร์กระจ่าง กลับมีหญิงสาวผมสั้นคนหนึ่งอ้าแขนข้างวิ่งเข้ามาหาทำท่าเหมือนจะกระโดดเข้าหาพวกเขาพร้อมกับตะโกนว่า “พี่ใหญ่ พี่เขย!”
เมื่อเห็นว่าน้องภรรยาดูจะคิดถึงเขามากขนาดนี้ ซูอันจะไม่รับน้ำใจได้อย่างไร? เขาอ้าแขนออกเตรียมรับกอดของนางพร้อมกับพูดเสียงหวาน “ฮวนเจาของข้าช่างเป็นเด็กดีอะไรอย่างนี้…”
ฮ่า ๆ นางยังน่ารักเหมือนเดิมเลย!
ฉู่ฮวนเจาหน้าแดง นางเมินซูอันที่กำลังอ้าแขน และกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของฉู่ชูเหยียนแทน “พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็ออกมาแล้ว! ข้าได้ยินข่าวลือมาว่าการเข้าไปสำรวจมิติลับคราวนี้อันตรายกว่าครั้งก่อน ๆ มาก ข้าล่ะเป็นห่วงท่านจริง ๆ!”
ชายหนุ่มนิ่งงัน
เขาดึงมือกลับอย่างงุ่มง่ามพร้อมกับบ่นในใจ ข้าไม่น่าชมนางว่านางเป็นเด็กดีเลย!
แต่แล้วทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีคนผู้หนึ่งกระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของเขา และร้องไห้ก่อนที่จะพูดขึ้นด้วยเสียงที่อู้อี้ “นายน้อย! ข้าไม่คิดว่าท่านจะคิดถึงข้ามากขนาดนี้! ข้าซาบซึ้งจนน้ำตาไหลเลย!”
ซูอันคันยิบ ๆ ตรงปลายจมูกเพราะโดนมวยผมที่เหมือนซาลาเปาสองลูกบนหัวของเฉิงโซวผิง ชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบผลักเฉิงโซวผิงออกไป
ทำไมไอ้เด็กนี่มันถึงชอบทำตัวไร้สมองแบบนี้ตลอดเลย! นี่มันคิดจริง ๆ เหรอว่าข้าอ้าแขนออกเพราะอยากให้มันมากอดข้า?!
ในขณะเดียวกัน ฉู่ชูเหยียนก็ลูบหัวน้องสาวของนางอย่างเอ็นดูและกล่าวว่า “เราพบอันตรายในมิติลับเหมือนข่าวลือ ไปกันเถอะ พวกเรากลับบ้านกันก่อน ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังอีกที”
“ได้เล้ย!” ฉู่ฮวนเจาโบกมือไปมาอย่างตื่นเต้น “ท่านต้องบอกข้าทุกรายละเอียด ตกลงไหม? น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถเข้าร่วมการสำรวจมิติลับได้ ทั้งที่จริง ๆ ข้าหายบาดเจ็บแล้ว แต่ท่านแม่ไม่ยอมให้ข้าไป!”
“ท่านแม่เราแค่กลัวว่าเจ้าจะพบกับอันตราย มิติลับในครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ถ้าเจ้าเข้าไปจริง ๆ มันอาจมีเรื่องเลวร้ายบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงเกิดขึ้นกับเจ้าก็ได้” ฉู่ชูเหยียนพูดด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
ไม่มีทางที่นางจะแบ่งปันทุกรายละเอียดกับฉู่ฮวนเจา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องน่าอับอายนั่น…
“อะไรจะเกิดขึ้นกับข้าได้?” ฉู่ฮวนเจาไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางชี้ไปที่ซูอันและพูดว่า “แม้แต่คนอย่างพี่เขย ก็ยังออกมาได้อย่างปลอดภัย แล้วมันจะแตกต่างกับข้ายังไง?”
ซูอันอึ้ง
เจ้าหมายถึงอะไร? คนอย่างข้า!?
“ฮวนเจา แค่ไม่เจอหน้ากันไม่กี่วัน เจ้าอยากโดนข้าเฆี่ยนแล้วงั้นเหรอ?”
ฉู่ฮวนเจาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังฉู่ชูเหยียนและรีบฟ้องทันที “พี่ใหญ่ ดูสิ! พี่เขยจะรังแกข้าอีกแล้ว!”
ฉู่ชูเหยียนรู้จักนิสัยของน้องสาวดี นางจึงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “เอาล่ะ เจ้าควรเลิกวุ่นวายได้แล้ว เขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่เจ้าคิด เจ้าไม่เห็นความแข็งแกร่งของเขาในงานประลองระหว่างตระกูลครั้งก่อนเหรอ?”
“ข้าเห็นแล้ว แต่ท่านแม่บอกว่าเขาแค่โชคดี” ฉู่ฮวนเจาตอบ “พี่ใหญ่ พี่เขยเป็นคนมีความสามารถจริง ๆ งั้นเหรอ?”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ โดยรู้ว่าฉู่ฮวนเจาตั้งใจถามคำถามนี้เพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ของเขากับฉู่ชูเหยียน น้องสาวโง่คนนี้ นางไม่รู้ว่าข้าไปถึงขั้นนั้นกับพี่สาวของนางแล้ว
ฉู่ชูเหยียนเหลือบมองซูอันด้วยท่าทางแปลก ๆ ก่อนที่จะพยักหน้าเป็นคำตอบ “ใช่ ท่านแม่ดูเหมือนจะเข้าใจผิด เขาค่อนข้างแข็งแกร่ง ก่อนหน้านี้เขาเกือบจะฆ่าซือคุนได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว”
“โอ้โห! พี่เขยของข้าแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉู่ฮวนเจารีบวิ่งไปหา ซูอันและมองประเมินเขาอย่างตั้งใจ “อย่างที่ข้าคิดเลย ข้าหวังกับท่านไว้สูง ท่านสามารถเอาชนะซือคุนได้จริง ๆ ด้วย!”
ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้ว “ฮวนเจา เจ้าควรระวังน้ำเสียงของเจ้า ผู้หญิงดี ๆ ไม่ควรใช้…น้ำเสียงแบบนั้น!”
ฉู่ฮวนเจายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “โธ่ ตระกูลฉู่มีท่านสมบูรณ์แบบทุกอย่างอยู่คนเดียวก็พอ ส่วนข้าน่ะไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ไม่มีใครสนใจหรอกจริงไหม?”
ฉู่ชูเหยียนเงียบแล้วคิดในใจ
นางรู้จักน้องสาวดีพอที่จะรู้ว่าต่อให้ตำหนิไปก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้แล้วปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป
ฉู่ฮวนเจายังคงมองซูอันเขม็ง ก่อนที่จะแบมือออกมาและกล่าวว่า “เอามันมาให้ข้า”
“ห๊ะ? อะไร?” ซูอันตกตะลึง
“ของฝากของข้า ท่านสัญญาว่าจะนำของฝากกลับมาให้ข้าไม่ใช่เหรอไง?” ฉู่ฮวนเจาขมวดคิ้ว “ท่านคงไม่ได้ลืมมันใช่ไหม?”
“อ๋อ…” ซูอันเกาหัวอย่างเชื่องช้า เขาลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริง ๆ แต่ต่อให้ไม่ลืมมัน ชายหนุ่มก็ไม่มีเวลาหา เนื่องจากตัวเองต้องผ่านสถานการณ์ที่คุกคามชีวิตหลายครั้งนับตั้งแต่เข้าไปในมิติลับจึงไม่มีทางที่เขาจะให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนัก
ฉู่ฮวนเจาเห็นท่าทีของซูอันก็รู้ว่าเขาลืมไปแล้ว ความคาดหวังบนใบหน้าของนางก็หายไปในทันที “พี่เขยปากเหม็น ข้าจะไม่คุยกับท่านอีกแล้ว!”
นางทำสีหน้าเย็นชาก่อนจะหันหลังกลับและกระทืบเท้าจากไป ไม่ว่าซูอันจะตะโกนเรียกนางอย่างไร นางก็ยังคงเดินอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหันหลังกลับ
เมื่อเห็นเหตุการ์ณทั้งหมด เฉิงโซวผิงก็ส่ายหัว ดูเหมือนนายน้อยของเราจะไม่เข้าใจหัวอกของสตรีจริง ๆ เขาลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ไปได้อย่างไร? ไม่ได้แล้ว นี่ข้าต้องสอนเขาอีกเรื่องแล้วสิ!
ข้าควรจะแบ่งปันความรู้มากมายที่สะสมมาจากการอ่านนิยายรักหวานแหววให้กับเขา!
ฉู่ฮวนเจาทำเมินซูอันตลอดระหว่างการเดินทางกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่ และเมื่อกลับไปถึงคฤหาสน์ ก็ตั้งใจว่าจะตรงดิ่งไปหลับที่ห้องส่วนตัวของนางทันที แต่ก่อนที่นางจะได้เดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง จู่ ๆ ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูก็ยิงคำถามพี่สาวของนางเกี่ยวกับประสบการณ์ในมิติลับหยกจรัส ซึ่งมันทำให้นางสนใจจนอยู่รอฟังด้วยคน
ฉู่ชูเหยียนเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในมิติลับให้ทุกคนฟังอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ซูอันก็คอยช่วยเสริมรายละเอียดบางอย่าง ทว่าสำหรับเรื่องความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งที่มีร่วมกัน ทั้งสองพร้อมใจกันไม่พูดถึงเรื่องนั้น
หากพูดออกไป ฉู่ชูเหยียนจะอับอาย ในขณะที่ซูอันกลัวว่าฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูจะฉีกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหากรู้ความจริงที่ว่าเขาบังอาจไปแตะต้องลูกสาวของทั้งคู่ ฉินหว่านหรูไม่เคยมีความประทับใจที่ดีต่อเขา ส่วนฉู่จงเทียน…ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะปฏิบัติค่อนข้างดีต่อชายหนุ่ม แต่ในฐานะพ่อ ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะโกรธเคืองเมื่อเขยไร้ค่าอย่างซูอันแตะต้องลูกสาวสุดสมบูรณ์แบบของตัวเอง
ดังนั้นซูอันจึงตัดสินใจรอจนกว่าจะสนิทสนมกับตระกูลฉู่ให้มากขึ้นกว่านี้ก่อนที่จะประกาศเรื่องที่น่ายินดีนี้ออกไป
ฉู่จงเทียน ฉินหว่านหรู และฉู่ฮวนเจาไม่ได้สังเกตเห็นการสบตากันเป็นครั้งคราวของพวกเขา เนื่องจากประสบการณ์ที่ฉู่ชูเหยียนเล่าให้ทุกคนฟังนั้นชวนให้ผู้คนตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ได้ยินว่าเส้นลมปราณของฉู่ชูเหยียนถูกทำลายลง
แม้ว่าจะโล่งใจที่ฉู่ชูเหยียนปลอดภัยและกำลังยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขา แต่ ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูยังคงลุกขึ้นยืนและตรวจสอบชีพจรของนางอย่างเร่งรีบ หลังจากแน่ใจว่านางสบายดี พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด
ฉินหว่านหรูจ้องไปที่ซูอันและตะโกนว่า “ชูเหยียนของเราเกือบจะพิการเพื่อช่วยเจ้า เจ้านี่มันตัวอัปมงคลของตระกูลเราจริง ๆ!”
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 481!
—
ซูอันถึงกับเหลอหลา
ตัวอัปมงคล? ทำไมเจ้าถึงโทษข้าแบบนี้? เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นกรรมของตระกูลฉู่ที่ขยันสร้างศัตรูไปทั่วทุกหัวระแหงต่างหาก! ทำไมเจ้าถึงโทษข้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น?