เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 373 เจ้าเกลียดข้ามากเลยงั้นเหรอ
บทที่ 373 เจ้าเกลียดข้ามากเลยงั้นเหรอ?
บทที่ 373 เจ้าเกลียดข้ามากเลยงั้นเหรอ?
ถึงแม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ร่างกายของฉินหว่านหรูนั้นอ่อนนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ ชายหนุ่มได้กลิ่นกุหลาบที่รวยรินมาจากร่างกายของนาง
ซูอันเคยอ่านบทความทางอินเทอร์เน็ตในชีวิตก่อนหน้านี้ว่า ผู้หญิงที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบมีแนวโน้มที่จะชื่นชอบการมีเพศสัมพันธ์มากกว่า
สิ่งนี้น่าจะอธิบายได้ว่า ทำไมฉู่จงเทียนถึงมีถุงใต้ตาและดูอ่อนแออยู่เสมอ เขาคงหมดพลังไปบ่อย ๆ กับภรรยาที่เย้ายวนเช่นนี้แน่นอน
แน่นอนว่าด้วยสถานะที่นางเป็นแม่ยายของเขา ซูอันจึงไม่ได้คิดเรื่องตัณหาใด ๆ กับนาง แต่ในทางกลับกัน ขณะที่ชายหนุ่มอุ้มนาง เขามีความคิดอยากที่จะโยนนางลงไปบนพื้นกระเบื้องที่เย็นยะเยือกมากกว่าที่จะอุ้มพานางไปนอนหลับอย่างสุขสบายบนเก้าอี้ ถึงแม้จะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมฉินหว่านหรูถึงมีอคติต่อเขา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชายหนุ่มจะยอมรับได้กับการที่นางปฏิบัติต่อเขาเฉกเช่นที่ผ่านมาจนถึงวันนี้
ทว่า เมื่อระลึกได้ว่าฉู่ชูเหยียนและฉู่ฮวนเจาอยู่ข้างหลังเขา ในที่สุดชายหนุ่มก็ล้มเลิกความคิดที่จะโยนแม่ยายลงบนพื้นกระเบื้อง
เขาวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างออกไปโดยไม่ใส่ใจก่อนจะเดินกลับมาหาฉู่ชูเหยียน
“พี่เขย เราจะรักษาพี่สาวของข้าได้ยังไง?” ฉู่ฮวนเจาถามอย่างกังวล
ซูอันกำลังจะพูดขึ้น แต่เมื่อจู่ ๆ เขาก็จำบางอย่างได้เขาก็พูดออกไปอย่างเขิน ๆ “เอ่อ…เรื่องนี้…ข้าคงต้องปรึกษาเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวกับพี่สาวของเจ้าก่อน”
ฉู่ฮวนเจาตะลึงครู่หนึ่งก่อนที่นางจะหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ “ท่านพยายามจะกำจัดข้าทิ้งหลังจากที่ข้าทำทุกอย่างเพื่อท่านงั้นเหรอ? นี่มากเกินไปแล้วนะ!”
ซูอันเกาหัวของเขาอย่างเชื่องช้า “ไม่ใช่ว่าข้าพยายามจะกำจัดเจ้า แต่มีบางสิ่งที่พี่สาวของเจ้าน่าจะไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ต่างหาก!”
คำพูดนี้ทำให้หัวใจของฉู่ชูเหยียนเต้นผิดจังหวะ เมื่อนางรู้ว่าซูอันกำลังคิดจะทำอะไร ใบหน้าของนางเริ่มแดงขึ้น แต่นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฮวนเจา เจ้าช่วยเฝ้าประตูห้องให้ข้าด้วย หากมีใครพยายามจะเข้ามาก็ส่งเสียงเตือนเรา”
หลังจากพูดจบ เมื่อเห็นว่าน้องสาวของนางยังคงไม่เต็มใจที่จะจากไป ฉู่ชูเหยียนจึงกล่าวเสริมว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าท่านพ่อกลับมาและเห็นว่าเจ้าโปะยาสลบท่านแม่?”
พวกนางเป็นพี่น้องกันมานานหลายปี นางรู้ว่าจะสามารถควบคุมน้องสาวของนางได้อย่างไร
“ท่านพ่อได้เดินทางไปยังเมืองอื่นแล้ว เขาจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ได้ยังไง?” ฉู่ฮวนเจาบ่นพึมพำ แต่อย่างไรก็ตาม นางไม่สามารถขจัดความกังวลว่าพ่อของนางจะกลับมาล่วงหน้าได้ ดังนั้นจึงจำใจออกไปข้างนอกเพื่อเฝ้าประตูไว้
หลังจากที่น้องสาวของนางจากไป ฉู่ชูเหยียนก็หันไปหาซูอันและถามขึ้น “แล้วเจ้าตั้งใจจะช่วยข้ายังไง?”
ซูอันจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “อันที่จริง ลึก ๆ แล้วเจ้าน่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว”
ฉู่ชูเหยียนหน้าแดงอย่างรวดเร็วและส่ายหัวราวกับกระต่ายที่กำลังตื่นตระหนก “ข้าไม่ทำ ไม่ทำแน่ ๆ!”
“ทำไมจะไม่ล่ะ? มันไม่ใช่ครั้งแรกของเรานี่…” ซูอันพูดขึ้นพลางยิ้ม
ฉู่ชูเหยียนหันหน้าไปทางอื่น ถึงเวลานี้…ใบหน้าและลำคอของนางก็แดงไปหมด “ไม่ก็คือไม่ มันไม่เหมือนครั้งก่อน…ตอนนี้ถ้าเจ้าลองแตะต้องข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”
แม้ว่านางจะอ่อนแอลงมาก แต่ระดับการบ่มเพาะของนางก็ยังคงอยู่ในฐานะผู้บ่มเพาะระดับหกขั้นสูงสุด นางสามารถฆ่าซูอันได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าการฝืนใช้พลังจะทำให้อาการของนางแย่ลงและเข้าใกล้ความตายมากขึ้นก็ตาม
“เจ้าเกลียดข้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซูอันถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่เพราะข้าเกลียดเจ้า แต่…แต่… ข้าแค่ยังไม่พร้อม…” ฉู่ชูเหยียนรู้สึกอึดอัด ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร “ยังไงข้าก็ไม่ทำตอนนี้!”
ซูอันรู้ว่าคงต้องทะเลาะกับนางใหญ่โตแน่นอน ถ้าเขาบังคับให้นางทำตาม โชคดีที่ได้ขอวิธีอื่นจากหมี่ลี่ล่วงหน้าไว้แล้ว “ช่างเถอะ ข้ายังมีวิธีอื่น ถ้าเจ้ายังไม่เต็มใจร่วมมือกับข้าอีก ข้าก็คงทำอะไรให้เจ้าไม่ได้อีกแล้ว”
“วิธีไหน?” ฉู่ชูเหยียนถามอย่างกังวล “ข้าจะยอมทุกอย่างตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่เราทำกันในถ้ำใต้ดิน”
ซูอันหยิบเข็มเงินแวววาวออกมาแล้วตอบว่า “มันคือการฝังเข็ม ข้าจะใช้วิธีกระตุ้นจุดฝังเข็มในร่างกายของเจ้าให้ขับความเย็นจัดออกมาทีละนิด”
ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ไม่มีทางที่หมอเปาจะทำไม่ได้”
“ถ้าเป็นแค่เรื่องฝังเข็มน่ะใช่ แต่มันมีความแตกต่างระหว่างข้ากับเขา ข้าเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถใช้วิธีนี้แล้วได้ผล ใครก็ตามที่พยายามทำแบบเดียวกันกับข้า มีแต่จะทำร้ายเจ้าเท่านั้น” ซูอันตอบ
“แล้วเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นคืออะไร?” ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้วถาม ไม่เข้าใจว่า ซูอันไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
“ข้าเป็นคนเดียวที่คุ้นเคยกับทุกตารางนิ้วของผิวหนังและเส้นลมปราณของเจ้า ข้ารู้ว่าต้องออกแรงขนาดไหนและมุมไหนที่ข้าควรจะออกแรง ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยสามารถทำลายเส้นลมปราณ และอวัยวะภายในของเจ้าได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นผู้ที่ไม่เข้าใจสภาพภายในของเจ้าดีจึงทำแบบข้าไม่ได้” ซูอันกล่าว
เขาไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด คนที่คุ้นเคยกับอาการของฉู่ชูเหยียน จริงๆ แล้วคือหมี่ลี่ ก่อนหน้านี้นางเคยเข้าไปในร่างของฉู่ชูเหยียน ทำให้นางรู้ทุกซอกทุกมุมภายในร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มได้สัญญากับหมี่ลี่ว่าจะไม่เปิดเผยการมีตัวตนอยู่ของนาง ดังนั้นจึงต้องอ้างว่าเป็นตัวเอง
ฉู่ชูเหยียนตกตะลึงกับคำพูดเหล่านี้ “ทำไมเจ้าถึงคุ้นเคยกับสภาพร่างกายของข้า?”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “เจ้าลืมไปแล้วหรือ? ขณะที่ข้าดูแลเจ้าในถ้ำใต้ดิน ข้าก็มุ่งความสนใจไปที่การซ่อมแซมเส้นลมปราณของเจ้า ไม่มีทางที่ข้าจะไม่คุ้นเคยกับภายในร่างกายของเจ้า ไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้จักภายในร่างกายของเจ้าดีไปกว่าข้า”
ฉู่ชูเหยียนหน้าแดงทันที “พอ พอ ไม่ต้องพูดแล้ว! รีบฝังเข็มให้ข้าเร็วเข้าเถอะ!”
ซูอันยิ้มน้อย ๆ เขาหยิบสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ที่เขาสั่งให้เฉิงโซวผิงไปเตรียมมาให้ก่อนหน้านี้ และบดพวกมันให้เป็นผงก่อนที่จะใช้พลังชี่หลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกันจนเป็นของเหลว
เมื่อได้กลิ่นหอมของสมุนไพร ฉู่ชูเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้ารู้จักการใช้สมุนไพรด้วยเหรอ? แต่จากที่ข้ารู้มา เจ้าไม่เคยสนใจในการแพทย์มาก่อนเลยนี่นา”
“ข้าไม่ได้บอกเจ้าเหรอว่ามีผู้เฒ่าลึกลับที่คอยถ่ายทอดทักษะให้ข้า รวมถึงความรู้ทางการแพทย์บางอย่างด้วย ซึ่งอันที่จริงข้าเองก็ไม่ค่อยสนใจในเรื่องเกี่ยวกับการแพทย์สักเท่าไหร่ แต่ด้วยสภาพร่างกายของเจ้าที่ทรุดลงจนใกล้ถึงแก่ชีวิตเมื่อไหร่ก็ได้ จึงทำให้ข้าต้องเอาความรู้ที่มีออกมาใช้รักษาเจ้า” ซูอันตอบด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าหมายความว่ายังไงที่เรียกข้าเป็นตาเฒ่า!?” หมี่ลี่คำรามอย่างโกรธจัดในหัวของเขา “สำหรับเจ้าข้าดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอไง?”
โอ๊ย…ท่านมีชีวิตอยู่มาสองสามพันปีแล้ว นี่ไม่รู้ตัวเองเลยเหรอว่าท่านแก่ยิ่งกว่าหงำเหงือกซะอีก? เรียกปู่ยังน้อยไปเลย!
แต่แน่นอนว่าไม่มีทางที่ซูอันจะพูดคำเหล่านี้ออกมาดัง ๆ เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า “ข้าไม่ได้พูดถึงท่าน ข้าแค่ใช้เหตุการณ์บางอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับข้ามาอ้างอิงความรู้ที่ข้าได้เรียนจากท่าน ก็ท่านไม่ต้องการให้ข้าเปิดเผยการมีตัวตนของท่านนี่นา”
“ก็ได้” หมี่ลี่ส่งเสียงเออออ “พูดถึงเรื่องนี้ ข้าสนใจจริง ๆ ว่าเจ้าของทักษะทั้งหมดที่เจ้าได้เรียนรู้มานั้นเป็นใคร อีกอย่างเจ้ารู้จักชื่อข้าทันทีที่เราพบกันครั้งแรกด้วยอีกต่างหาก”
ซูอันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ขุดหลุมฝังตัวเอง เขาไม่ควรเปิดทุกอย่างอย่างซื่อสัตย์กับนางและผลักทุกอย่างให้ผู้เฒ่าคนนั้นด้วย
“ไว้วันหลังเราค่อยพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังไงท่านก็ติดอยู่กับข้าอยู่ดี วันหนึ่งท่านก็จะได้รู้ความลับของข้าทั้งหมด แต่สำหรับตอนนี้ เรามาพยายามช่วยภรรยาของข้ากันก่อน” ซูอันพูดกลับ
หมี่ลี่เงียบ ซึ่งแสดงออกว่านางยอมรับ ทำให้ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก