เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 377 หนี!
บทที่ 377 หนี!
บทที่ 377 หนี!
สีหน้าของซือเล่อจื่อมืดทะมึนลง หากซูอันสามารถไปถึงระดับนั้นได้จริงตั้งแต่อายุยังน้อย ในอนาคตมันจะต้องเติบโตเป็นผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังจนน่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย
เฉียวเสวี่ยอิงมองซูอันด้วยความประหลาดใจ สงสัยว่าเขาเป็นผู้ที่ซ่อนเร้นความแข็งแกร่งของตัวเองจริงหรือไม่ นิยายที่นางอ่านร่วมกับฉู่ชูเหยียนบ่อย ๆ มักจะมีเรื่องเช่นนี้ เช่น องค์ชายที่แสร้งปลอมตัวเป็นชาวบ้านไปเดินตลาด หรือแม่ทัพที่ปลอมตัวเป็นทหารเลวเพื่อสำรวจทัพของตนเอง…
เขาจะเหมือนกันหรือไม่?
ทันใดนั้น ซูอันก็จับมือนางแล้วออกวิ่ง “เจ้าจะยืนงงไปทำไม? วิ่งสิ!”
เขาเปิดใช้งานจ้าววายุทันที และกระโจนห่างออกไปหลายจั้ง
“…” เฉียวเสวี่ยอิง
“…” ซือเล่อจื่อ
ความแตกต่างอย่างมากในสิ่งที่คิดและความเป็นจริง ทำให้เฉียวเสวี่ยอิงตกตะลึง ในขณะที่ซือเล่อจื่อใช้เวลาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่คิดว่าถูกหลอกให้หวั่นเกรงผู้บ่มเพาะระดับสาม มันก็ทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างสุดซึ้ง
“ไอ้เวร ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”
—
ท่านยั่วยุซือเล่อจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 1024!
—
ด้วยย่างก้าวอันทรงพลัง เขาพุ่งเข้าหาซูอันด้วยความเร็วที่เร็วพอ ๆ กับลูกธนูที่หลุดจากแล่ง แต่ชายแก่ก็ต้องประหลาดใจว่าความเร็วในฐานะผู้บ่มเพาะระดับแปดอย่างเขามันควรจะเร็วกว่าผู้บ่มเพาะระดับสามมาก แต่ในความเป็นจริงตรงหน้า เขากลับไม่สามารถตามซูอันทันได้!
“เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?!”
ซือเล่อจื่อประหลาดใจ ไอ้เวรนั่นอาจจะซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้งั้นเหรอ?
ในขณะเดียวกัน ซูอันยังคงกรีดร้องในขณะที่เขาวิ่ง “ช่วยด้วย ช่วยด้วย! คนบ้ากำลังตามล่าข้า!”
เสียงร้องของเขาก้องกังวานไปทั่ว ดึงความสนใจทั้งหมดมาที่ตัวเองอย่างรวดเร็ว
เฉียวเสวี่ยอิงยิ้มบาง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางเคยดูถูกซูอันว่าทำตัวไม่มีศักดิ์ศรี แต่ตอนนี้นางรู้ว่าแล้วว่ากลอุบายที่ชายหนุ่มใช้นี้ได้ผลอย่างน่าประหลาด อย่างน้อยในตอนนี้ ทหารยามของคฤหาสน์ก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขาจริง ๆ
เมื่อทหารยามทั้งสองเห็นพวกเขา ทหารยามทั้งคู่ก็ชักดาบออกมาทันทีและตะคอกถามเสียงดังลั่น “เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าเป็นนายน้อยของพวกเจ้า! ส่วนชายแก่ที่อยู่ข้างหลังข้าคือผู้ที่บุกรุกเข้ามาในตระกูลฉู่!” ซูอันตะโกนตอบ
ซือเล่อจื่อสวมชุดสีดำสนิท ซึ่งทำให้พวกทหารยามเห็นได้ชัดว่าเขาไม่น่าจะใช่คนดี ดังนั้นทหารยามจึงรีบเร่งก้าวออกไปขวางเพื่อหยุดซือเล่อจื่อและถามอีกครั้ง “เจ้าเป็นใคร?”
น่าเสียดาย หลังจากที่พวกเขาถามคำถามได้ยังไม่ทันจะสิ้นเสียง ซือเล่อจื่อก็คว้าคอของพวกเขาและบิดอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงหักดังกร๊อบ จากนั้นทหารยามทั้งสองก็สิ้นลมหายใจ
ซูอันรู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกาย
ต้องรู้ว่าทหารยามสองคนนั้นเป็นผู้บ่มเพาะระดับสามด้วย แต่พวกเขากลับถูกฆ่าตายง่าย ๆ เหมือนไก่!
ถึงแม้ว่าจะมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ซูอันแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะระดับสามธรรมดา แต่ชายหนุ่มรู้ว่าหากถูกผู้บ่มเพาะระดับแปดจับได้ เขาจะถ่วงเวลาตายได้อย่างมากที่สุดเพียงหนึ่งหรือสองวินาที
ดังนั้นจึงรีบวิ่งหนีไปพร้อมกับเฉียวเสวี่ยอิง แต่เมื่อผลของจ้าววายุหมดลง เฉียวเสวี่ยอิงจึงเป็นคนที่เร็วกว่า ทำให้เฉียวเสวี่ยอิงเป็นฝ่ายลากเขาไปแทน
เปลือกตาของซือเล่อจื่อกระตุก ชายแก่ได้รับคำสั่งจากนายน้อยให้จับเป็นเฉียวเสวี่ยอิงเพื่อให้นายน้อยได้ลิ้มรสนาง ดังนั้นจึงไล่ตามนางแบบสบาย ๆ ทว่ามันกลับสร้างโอกาสให้เฉียวเสวี่ยอิงหนีมาได้จนถึงตอนนี้
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่านางจะวิ่งไปที่สถาบันจันทร์กระจ่างเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แล้วก็เหมือนถูกสับขาหลอก เพราะนางกลับวิ่งมาที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่แทน
ในตอนแรกเขาลังเลที่จะไล่ตามเข้ามาเพราะความหวาดเกรงฉู่จงเทียน แต่แล้วเขาก็ได้รับข่าวโดยบังเอิญว่าฉู่จงเทียนเร่งร้อนออกจากเมืองไปก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีอะไรให้เขาต้องกลัวอีก…
ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ต้องการที่จะปลุกตระกูลฉู่ทั้งตระกูล ดังนั้นจึงปลอมตัวก่อนที่จะไล่ตามต่อไปอย่างเงียบ ๆ ทว่าใครจะคิดได้ว่าซูอัน จะทำในสิ่งที่เขาต้องการหลีกเลี่ยงมาแต่แรก?
หากเป็นผู้บ่มเพาะคนอื่น ซือเล่อจื่อคงจะบีบคอมันให้หักดังกร๊อบ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาไม่สามารถไล่ตามความเร็วของซูอันได้ทัน แม้ว่าจะเร่งความเร็วสุดตัวแล้วก็ตาม
ดวงตาของซือเล่อจื่อฉายแววชั่วร้าย เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดการเฉียวเสวี่ยอิงอย่างรวดเร็ว และฆ่าซูอันเพื่อไม่ให้เป็นทั้งเสี้ยนหนามและพยาน มิฉะนั้น หากมีข่าวแพร่ออกไปว่าเขาอยู่ที่นี่ มันคงสร้างปัญหาให้เขาได้มากมาย
ตระกูลซือไม่กลัวตระกูลฉู่ก็จริง แต่ปัญหาคือเขาเป็นเพียงแขกผู้อาวุโสในตระกูลซือ แม้แต่ผู้อาวุโสของตระกูลซือแท้ ๆ ยังไม่ต้องการเผชิญหน้าโดยตรงกับตระกูลฉู่ ดังนั้นเป็นไปได้ว่าตัวเองอาจจะถูกทอดทิ้งหากถูกจับได้ที่นี่…
ในขณะเดียวกัน เมื่อรู้สึกว่าซือเล่อจื่อใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซูอันจึงเริ่มตื่นตระหนก ปกติมีทหารยามอยู่ในคฤหาสน์น้อยขนาดนี้เลยเหรอ? ทำไมนานมากขนาดนี้กลับมีทหารยามวิ่งมาแค่สองคน…
ความจริงก็คือ ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูกังวลว่าข่าวการเจ็บป่วยของ ฉู่ชูเหยียนจะรั่วไหล ดังนั้นจึงตั้งใจปิดพื้นที่นี้และสั่งไม่ให้ใครเข้ามา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ดังนั้นแม้ว่าทหารยามในบริเวณรอบนอกของตระกูลฉู่จะได้ยินว่าที่นี่เกิดความวุ่นวาย พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาตามคำสั่งของฉู่จงเทียน และฉินหว่านหรู
“ซูอัน…เจ้าจะตะโกนทำบ้าอะไร!?”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนถามก็ดังขึ้นห่างออกไปไม่ไกลนัก ฉินหว่านหรู จ้องมาที่เขาด้วยดวงตาที่เฉียบคมจากระยะไกล
ผลของยาสลบลดลงแล้วซึ่งทำให้นางฟื้นคืนสติ นางรู้สึกงุนงงเล็กน้อยว่าทำไมจู่ ๆ นางถึงหมดสติไป แต่ทั้งฉู่ชูเหยียนและฉู่ฮวนเจายืนยันว่านางเครียดจนเกินขีดจำกัดของร่างกายดังนั้นนางจึงผล็อยหลับไป จริง ๆ แล้ว นางไม่ค่อยเชื่อในข้ออ้างนี้ แต่ไม่ว่านางจะจินตนาการได้ขนาดไหน นางก็ไม่มีทางนึกได้ว่าตัวเองจะถูกลูกสาวรวมหัวกันวางยา
หลังจากนั้น ฉู่ชูเหยียนก็บอกว่ารู้สึกดีขึ้นบ้างจากอาการเจ็บป่วยแล้ว ฉินหว่านหรูได้ฟังแล้วก็สงสัย นางคิดว่าลูกสาวแค่พยายามปลอบใจตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อฉู่ชูเหยียนจับมือนาง ตัวนางเองก็ต้องรู้สึกประหลาดใจว่ามือของลูกสาวอุ่นกว่าตอนแรกมาก และสังเกตเห็นว่าสีหน้าของฉู่ชูเหยียนดูดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นนางจึงรีบจะออกไปด้านนอกเพื่อเรียก เปาโหย่วหลูมาดูอาการ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นางจะออกจากห้อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายข้างนอก ดังนั้นนางจึงให้ฉู่ฮวนเจาอยู่เป็นเพื่อนพี่สาว ขณะที่นางออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อนางเห็นซูอันกำลังถูกหญิงสาวที่มีรูปร่างงดงามวิ่งลากแขนไป นางก็รู้สึกโกรธแทนลูกสาวในทันที
ดี! ดีมาก! ซูอัน ลูกสาวของข้ายังไม่ทันจะตาย แต่เจ้ากลับบังอาจไปเล่นกับผู้หญิงคนอื่นแล้วเหรอ? เจ้าคิดว่าชูเหยียนของข้าและตระกูลฉู่ ทั้งหมดเป็นตัวตลกใช่ไหม!?
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
ซูอันชี้ไปที่ซือเล่อจื่อที่ตามหลังมาทันทีและตะโกนว่า “มีผู้บุกรุก! มันแอบเข้ามาในคฤหาสน์ของเราด้วยเจตนาร้าย!”
เขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนของซือเล่อจื่อ เพราะกลัวว่าชายแก่ที่ตามหลังมาจะสังหารคนทั้งหมดหลังจากถูกต้อนจนมุม
ฉินหว่านหรูขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางก็มองไปข้างหลังซูอันและเห็นซือเล่อจื่อที่สวมหน้ากากในทันที คิ้วของนางเลิกขึ้นขณะที่นางถามว่า “เจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงบุกเข้ามาที่นี่ รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือคฤหาสน์ของตระกูลฉู่!”
ดวงตาของซือเล่อจื่อลุกโพรงขึ้นทันที เมื่อมองไปที่ผู้หญิงรูปร่างอวบอิ่มแต่มีส่วนโค้งเว้างดงามตรงหน้าเขา ก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง “แม่เจ้าโว้ย เป็นผู้หญิงที่หุ่นสะบึมจริง ๆ!”
หากเขามีโอกาสได้พบกับหญิงสาวสวยคนนี้ในเวลาอื่น เขาจะทำทุกอย่างเพื่อคว้าตัวนางมาเชยชมอย่างแน่นอน!
น่าเสียดายที่เขาจำตัวตนของอีกฝ่ายได้ เมื่อรู้ว่านางเป็นภรรยาของ อ๋องฉู่ จึงทำได้เพียงโยนความคิดออกไปจากหัว ในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกอิจฉาอ๋องฉู่เล็กน้อย
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอ๋องฉู่ถึงไม่รับอนุภรรยามาได้จนถึงทุกวันนี้ ที่แท้อีกฝ่ายมีภรรยาที่สวยขนาดนี้นี่เอง ซึ่งเช่นนี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะดูดน้ำจนแห้งเหือด ไม่มีทางที่อ๋องฉู่จะเหลือพลังงานให้ภรรยาคนอื่นแน่นอน!
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องมองนางด้วยแววตาหื่นกระหาย ฉินหว่านหรูคำรามด้วยความโกรธ “เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
นางซัดฝ่ามือออกไปเพื่อโจมตีซือเล่อจื่อ
ด้วยความกังวลว่านางจะเสียเปรียบ ซูอันจึงตะโกนเตือนนางทันที “ท่านแม่ยาย ระวังด้วย เขาเป็นผู้บ่มเพาะระดับแปด!”