เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 394 กับดักน้ำผึ้งที่หวานกว่าเดิม
บทที่ 394 กับดักน้ำผึ้งที่หวานกว่าเดิม
บทที่ 394 กับดักน้ำผึ้งที่หวานกว่าเดิม
ซ่างเชียนแทบกระโดด “ทำไมท่านถึงรู้เรื่องนี้ได้?!”
“วิธีเดียวที่จะปกปิดความลับได้อย่างแท้จริงก็คือการที่เจ้าปิดปากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” ซ่างหงกล่าวพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก ๆ “กับดักน้ำผึ้ง! แน่นอน มีแต่คนอย่างเจ้านั่นแหละที่จะคิดเรื่องนี้!”
ซ่างเชียนหน้าแดงด้วยความเขินอาย “ข้าแค่พยายามจะเข้ายึดกิจการของสำนักดอกบ๊วย! เพราะเรามีบ่อนสี่สมุทรเป็นของตัวเองแห่งหนึ่ง…”
“พอแล้ว! ข้าไม่อยากรู้เรื่องพวกนี้” ซ่างหงตัดบทเขาด้วยสีหน้าเหลืออด
“อา…” ซ่างเชียนสาปแช่งบิดาตัวเองในใจอย่างไม่รู้จบ ท่านเป็นคนดีมีคุณธรรม และท่านไม่ปรารถนาความร่ำรวยใด ๆ อย่างไรก็ตาม เพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงกว่านี้ในราชสำนัก ท่านจำเป็นต้องมีความมั่งคั่งอย่างมหาศาล ลำพังเงินเดือนของท่านในตอนนี้มันจะไปเพียงพอได้อย่างไร!
อย่างไรก็ตาม เขาพยายามปกป้องตัวเอง “คนที่มีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่จะไม่กังวลกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ยิ่งกว่านั้น ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่ากับดักน้ำผึ้งมีประโยชน์มากเพียงใด!”
ซ่างหงจ้องมองลูกชายของเขา “นี่เจ้าโง่จริง ๆ หรือ แกล้งโง่ให้ข้าโมโห? ในประวัติศาสตร์เขามีแต่ใช้สายลับหญิงที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีวางกับดักน้ำผึ้ง มีใครที่ไหนจะใช้คู่หมั้นของตัวเองแบบเจ้า!?”
ซ่างเชียนหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน “โธ่ ท่านพ่อ ก็ข้าไม่สามารถหาคนที่เหมาะสมได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ ดังนั้นข้าจึงให้เจิ้งตานลองดู ท่านไม่ต้องกังวล นางมีนิสัยที่เป็นกุลสตรีและรักนวลสงวนตัว และนางค่อนข้างฉลาด นางย่อมจะไม่ปล่อยให้ซูอันเอาเปรียบนางได้”
ซ่างหงพูดอย่างเย็นชา “ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าไปเอาความมั่นใจจากที่ไหน นี่มันไม่ต่างอะไรจากการเล่นกับไฟชัด ๆ! ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจทำให้เจ้าเสียภรรยาของตัวเองไปก็ได้!”
“อย่าห่วงไปเลยท่านพ่อ เขาจะเปรียบกับข้าได้ยังไง ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์ ภูมิหลังของตระกูล และความรู้ความสามารถ?” ซ่างเชียนพูดอย่างหลงตัวเอง “เจิ้งตาน เป็นหญิงสาวที่มีมาตรฐานสูงเสมอมา ดังนั้นนางจะตกหลุมรักผู้ชายแบบซูอันได้ยังไง?”
ซ่างหงขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบเลยที่ลูกชายของเขาประมาทกับเรื่องนี้ ลูกชายของเขาค่อนข้างอวดดีเกินไป อย่างไรก็ตาม เขาเคยพบเจิ้งตานมาก่อน แม้ว่าภายนอกนางจะดูอ่อนโยนและอ่อนหวาน แต่นางก็เป็นผู้หญิงที่เย่อหยิ่ง นางมีภูมิหลังที่โดดเด่นเช่นกัน ดังนั้นโอกาสที่นางจะตกหลุมรักลูกเขยขยะอย่างซูอันจึงน่าจะต่ำมาก
เมื่อมั่นใจในเหตุผลข้อนี้ ซ่างหงก็ปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายเล็กน้อย “ช่างมันเถอะ เนื่องจากสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ ให้งานอื่นกับนางซะ ดูว่านางสามารถค้นพบอะไรเกี่ยวกับผู้บ่มเพาะลึกลับที่อยู่เบื้องหลังซูอัน ได้บ้างหรือไม่”
ซ่างเชียนงุนงง “หืม? ท่านไม่ได้มอบหมายให้ข้าและชายสวมหน้ากากคนนั้นแยกกันตรวจสอบเรื่องนี้แล้วเหรอ?”
ซ่างหงส่ายหัว “หากผู้บ่มเพาะลึกลับคนนั้นจงใจปกปิดตัวเอง พวกเจ้าอาจจะไม่สามารถหาเขาเจอในตระกูลฉู่ได้ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องหวังว่าซูอันจะติดกับดักความงามของคู่หมั้นเจ้า และเปิดเผยบางสิ่งออกมาโดยไม่ตั้งใจ”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ก่อนหน้านี้ซ่างหงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะสามารถทำสิ่งที่ตัวเองตั้งใจในเมืองจันทร์กระจ่างได้สำเร็จ ทว่าจู่ ๆ ข่าวของผู้บ่มเพาะลึกลับคนนี้ก็ได้สร้างตัวแปรที่คาดคะเนไม่ได้เข้ามา ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของแผนการของเขาอาจขึ้นอยู่กับเรื่องนี้เลยก็ได้ นี่คือเหตุผลที่ต้องพิจารณาว่าตัวแปรที่เพิ่มมานี้คืออะไรโดยเร็วที่สุด
“ตกลง ข้าจะคุยกับเจิ้งตาน” ซ่างเชียนตกลง เขารู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม เขาเพิ่งถูกสั่งสอนเรื่องการใช้คู่หมั้นของเขาเป็นกับดักน้ำผึ้ง แต่ท้ายที่สุดพ่อของเขากลับใช้วิธีนี้ซะเอง
หลังจากลังเลเล็กน้อย ซ่างหงก็กล่าวอีกว่า “มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าพึงระลึกเอาไว้ ถ้าสุดท้ายเจิ้งตานทำบางอย่างที่ทำให้เจ้าผิดหวัง เจ้าวางแผนจะทำอะไรต่อไป?”
“นางจะกล้าได้ยังไง?!” ภาพของเจิ้งตานที่มีมลทินภายใต้เรือนร่างของ ซูอันปรากฏในจิตใจของซ่างเชียน ดวงตาของเขาเกือบจะถลนออกมาจากเบ้า “ถ้านางกล้าทำอะไรที่ทำให้ข้าผิดหวัง ข้าสาบานว่าจะไม่ปล่อยให้ครอบครัวของนางทั้งหมดมีชีวิตอยู่ ไม่เว้นแม้แต่สุนัขสักตัว!”
“เช่นเคย ความโกรธของเจ้านำไปสู่เรื่องโง่ ๆ!” ซ่างหงตำหนิอย่างโกรธเคือง “ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง ๆ เจ้าต้องแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่างหาก!”
ซ่างเชียนพูดขัดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากพ่อของตัวเอง “ถ้าทำแบบนั้นมันก็เท่ากับว่าข้าเต็มใจที่จะโดนสวมเขาไม่ใช่เหรอท่านพ่อ!?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่!” ซ่างหงตอบกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาพูดเสียงแข็ง “หากเจ้าต้องการบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เจ้าต้องสามารถอดทนได้มากกว่าคนธรรมดา และถ้าหากมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นจริง ๆ เจ้ายังไม่สามารถตำหนิเจิ้งตานได้โดยที่ยังไม่ได้จัดการกับต้นตอของปัญหาก่อน ไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งเป็นการผลักนางเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายอื่นมากกว่าเดิม!”
“สิ่งที่เจ้าต้องทำคือปลอบโยนและให้อภัยนาง ทำให้ใจนางสงบลง และพยายามโน้มน้าวให้มากที่สุดเท่าที่เจ้าจะทำได้ เพื่อให้นางทำงานให้เจ้าต่อไป และเมื่อหลังจากที่แผนทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อย เจ้าค่อยจัดการกับนางอีกที”
จริง ๆ แล้วซ่างเชียนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่พ่อของเขามีนิสัยที่เข้มงวดมาก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกไม่อยากเถียง “ข้าเข้าใจแล้ว”
น้ำเสียงไม่เต็มใจของลูกชายทำให้ซ่างหงหรี่ตาลง อย่างไรก็ตาม เขาไม่พูดอะไรเพิ่มเติม เขาหวังว่าเจิ้งตานจะฉลาดพอที่จะไม่เลือกทางผิด
ซ่างหงนั่งลงอีกครั้ง “ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ ไม่ใช่ว่าวันนี้เจ้าวางแผนที่จะไปงานชุมนุมของเหล่าคณิกางั้นเหรอ?” เขาถามพลางจิบชาอย่างสบาย ๆ
“ใช่ ข้าได้ยินมาว่า ชิวฮัวเล่ย นางคณิกาอันดับหนึ่งของหอสุขนิรันดร์ กำลังจะจัดงานคัดเลือกแขกที่นางจะให้ความบันเทิงแบบเป็นส่วนตัวซึ่งมันเป็นครั้งแรกของนาง ทักษะด้านดนตรีและศิลปะของแม่นางชิวนั้นยอดเยี่ยมมาก ผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนยอมคุกเข่าลงต่อหน้านาง แต่นางก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์มาจนถึงทุกวันนี้ ขายแต่ความบันเทิงกับศิลปะเท่านั้น ไม่เคยใช้ร่างกายของนางเลย ผู้ชายในเมืองนี้ใฝ่ฝันถึงนางมานานแล้ว และคืนนี้ข้าจะลองเสี่ยงโชคเช่นกัน…”
ขณะที่เขาพูด เขาก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของพ่อของเขาเริ่มลุกโชนขึ้นอย่างเป็นอันตราย และชายหนุ่มก็ปิดปากด้วยความเขินอาย การพูดเรื่องนี้กับพ่อของเขาดูจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
ซ่างหงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “เจ้าไม่จำเป็นต้องไปคืนนี้ อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปถ้าผู้บัญชาการหน่วยลาดตระเวนลำน้ำผู้รุ่งโรจน์ไปเยี่ยมเยียนคณิกา…!?”
“การเยี่ยมชมหอนางโลมเป็นเรื่องปกติสำหรับสุภาพชน ไม่มีอะไรที่น่าจะยอมรับไม่ได้ในเรื่องนี้!” ซ่างเชียนปกป้องตัวเอง
“ชิวฮัวเล่ยนั้นมีอะไรมากกว่าที่เห็น” ซ่างหงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ข้าได้ส่งคนไปดูนาง…”
อา…ปรากฏว่าพ่อของข้าก็สนใจนางเหมือนกัน ซ่างเชียนค่อนแคะอยู่ในใจ ไม่น่าแปลกใจที่ท่านกำลังหยุดข้าไม่ให้ไป! เป็นเพราะท่านกลัวว่าคนหนุ่มอย่างข้าจะแย่งความรักของนางไปจากท่านใช่ไหมล่ะ!
เพียงชำเลืองมอง ซ่างหงก็รู้ได้ทันทีว่าลูกชายของเขากำลังคิดอะไรไร้สาระ ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเข้มทะมึนเหมือนถ่าน
“หยุดคิดไร้สาระได้แล้ว! ข้าแค่ต้องการให้แน่ใจว่าข้ามีข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองจันทร์กระจ่าง แน่นอนว่าข้าจะต้องหาข้อมูลของนางเอาไว้บ้าง ลางสังหรณ์ของข้ามันบอกว่านางไม่ได้เป็นเพียงคณิกาธรรมดา!”
“นางเป็นแค่คณิกามาโดยตลอด นางจะไม่ธรรมดาได้ยังไงท่านพ่อ?” ซ่างเชียนสงสัยว่าพ่อของเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
“เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือไง?” ซ่างหงมองออกไปนอกหน้าต่าง ไปทางทิศใต้ของเมือง “นางเกิดมาพร้อมกับความงามที่แทบจะไม่มีใครเทียบได้ ชื่อเสียงของนางแพร่หลายไปทั่ว ถ้านางเป็นเพียงคณิกาธรรมดา นางจะรักษาความบริสุทธิ์ของนางไว้ได้ยังไงหลังจากผ่านมาแล้วหลายปีเช่นนี้?”
“อา…” เมื่อได้ยินพ่อของเขาพูดแบบนี้ ซ่างเชียนก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติทันที
ซ่างหงกล่าวต่อไปว่า “นอกจากนี้ เจ้าเพิ่งประกาศหมั้นกับตระกูลเจิ้ง แต่เจ้ากลับแสดงความสนใจในตัวคณิกา เจ้ากำลังพยายามแสดงอะไรให้เจิ้งตานและตระกูลเจิ้งดูกันแน่? เพื่อจัดการกับตระกูลฉู่ ในครั้งนี้ เราต้องการการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากตระกูลเจิ้ง ข้าไม่ต้องการให้เกิดความบาดหมางกันระหว่างสองตระกูลของเราเพราะ ‘โชค’ ในคืนนี้ของเจ้า! เจ้าต้องอยู่บ้านวันนี้ ห้ามไปไหนทั้งนั้น!”
ซ่างเชียนหดหู่ทันที อย่างไรก็ตาม เขาเข้าใจดีว่าไม่สามารถขัดคำสั่งของพ่อได้ ชายหนุ่มมองไปทางทิศใต้ของเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของหอสุขนิรันดร์ และหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความขมขื่น เขาสงสัยว่าผู้โชคดีคนไหนที่จะได้รับเลือกจากเทพธิดาผู้นั้นในค่ำคืนนี้