เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 443 เคล็ดวิชาจากสาวงาม
บทที่ 443 เคล็ดวิชาจากสาวงาม
บทที่ 443 เคล็ดวิชาจากสาวงาม
ซูอันตกตะลึงเล็กน้อยกับคำพูดที่คลุมเครือของนาง เขาแค่อยากให้พวกทหารคุ้มกันได้ทานอาหารเช่นกัน ทำไมจู่ ๆ ถึงรู้สึกว่าเขาเพิ่งสมัครแพคเกจใหญ่ของหอคณิกา?
ด้วยสถานะของชิวฮัวเล่ย การจัดเตรียมของนางจะแย่ได้ยังไง?
พวกนั้นคงกำลังมีความสุขอยู่สินะ! ไอ้โง่เฉิงโซวผิง ไม่รู้ว่าเขาพลาดอะไรไป…
เดี๋ยวก่อนนะ…ถ้างั้นนี่มันก็หมายความว่าข้าต้องจ่ายเงินให้ไอ้พวกนั้นด้วยนี่หว่า!
บัดซบแล้วไง! ข้าถูกหลอกเข้าให้แล้ว! ข้ามาที่นี่เพื่อกินอาหารฟรีเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่าข้าต้องจ่ายเงินให้คนอื่นมีช่วงเวลาหฤหรรษ์โดยที่ข้าไม่ได้อะไรเลย!
ชายหนุ่มเริ่มสาปแช่งตัวเองเพราะความโง่เขลาที่คิดถึงเรื่องนี้ช้าไป
แต่ในทางกลับกัน เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้กลับสะกิดใจจุดประกายความอยากรู้ของชิวฮัวเล่ย “ตระกูลฉู่ไม่ได้จัดอาหารให้ท่านเลยเหรอ?”
“มันซับซ้อนน่ะ…” ซูอันให้ข้อมูลสรุปคร่าว ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับฉินหว่านหรู โดยทิ้งรายละเอียดที่เป็นความลับบางอย่างไว้
ความขุ่นเคืองของชิวฮัวเล่ยปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนบนใบหน้าของนาง “ตระกูลฉู่ปฏิบัติต่อผู้ที่มีความสามารถเหนือล้ำอย่างนายน้อยแบบนี้ได้ยังไง! ฮัวเล่ยรู้สึกอยุติธรรมแทนนายน้อย!”
ซูอันหัวเราะคิกคัก “ข้าขอตีความว่าเจ้ากำลังแอบยุยงให้เกิดความไม่ลงรอยกันระหว่างตระกูลฉู่กับข้าหรือเปล่าในตอนนี้?”
ชิวฮัวเล่ยพ่นลมหายใจด้วยความไม่พอใจ “ที่ข้าพูดไปก็เพราะว่าข้าเป็นห่วงนายน้อย! ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วใครกันจะกล้าพูดถึงตระกูลของอ๋องฉู่ในแง่ลบ?” นางคร่ำครวญ
“ก็ได้ ๆ ข้าขอโทษก็แล้วกันที่สงสัยในเจตนาดีของเจ้า” ซูอันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ทุกคนมักพูดเสมอว่าสาวคณิการู้ดีว่าควรพูดอะไรเพื่อทำให้ผู้ชายรู้สึกดีขึ้น ดูเหมือนว่าข้าจะได้รับประสบการณ์ตรงในวันนี้
แม้เขาจะแน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้ยังคงแสดงละครอยู่ แต่ก็ยังคงรู้สึกอัศจรรย์ใจ
ชิวฮัวเล่ยยิ้ม “ข้าผู้น้อยคนนี้รับคำขอโทษจากนายน้อยซูผู้สูงส่งไม่ไหวหรอก ข้าก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่ข้ารู้สึกยินดีจริง ๆ ที่นายน้อยไม่คิดว่าข้าเป็นคนไร้มารยาทจากคำพูดที่เพิ่งพูดไป”
“แม่นางชิวคงล้อเล่น คนอย่างเจ้าจะเป็นคนไร้มารยาทได้ยังไง? ถ้าเจ้าเป็นคนไร้มารยาทแล้วละก็ ไอ้พวกผู้ชายนับไม่ถ้วนของเมืองจันทร์กระจ่างที่ยินดีคุกเข่าลงต่อหน้าเจ้ามันคือตัวอะไรกันล่ะ?” ซูอันตอบด้วยรอยยิ้ม
“ไม่สำคัญว่าจะมีผู้ชายอีกกี่คนที่คุกเข่าให้ข้า ถ้าข้าไม่สามารถเข้าไปอยู่ในหัวใจของนายน้อยได้ ทั้งหมดนั้นก็ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง”
ซูอันชื่นชมทักษะของนางอย่างแท้จริง ผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนแม่มดที่สามารถชักจูงใจชายคนใดก็ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อสังเกตเห็นว่าซูอันระวังตัวแจ ชิวฮัวเล่ยจึงหยุดยุแหย่เอาไว้เพียงแค่นี้ก่อน นางเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ว่าแต่…จริงหรือไม่ที่นายน้อยถูกเฉินเซวียนโจมตีเมื่อเช้า?”
“ข่าวมาถึงแม่นางชิวเร็วมากจริง ๆ” ซูอันกล่าวด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“เมื่อคืนข้าก็เกือบโดนเฉินเซวียนทำร้ายเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับข้อมูลเกี่ยวกับเขา นายน้อย…ท่านกรุณารอสักครู่”
ชิวฮัวเล่ยลุกขึ้นและรีบเข้าไปในห้องโถงด้านใน ไม่นานนางก็กลับมา และยื่นแผ่นหยกชิ้นหนึ่งให้เขา “โปรดยอมรับสิ่งนี้ มันอาจจะช่วยนายน้อยได้บ้าง”
ซูอันตกตะลึง เขาสังเกตเห็นคำบางคำบนพื้นผิวมันวาว ‘วิชาบดบังเร้นซ่อน’
จากนั้นถ้อยคำก็จางหายไปในแผ่นหยกอีกครั้ง
“มันคืออะไร?” ซูอันถามด้วยความสงสัย
ชิวฮัวเล่ยตอบว่า “เคล็ดวิชาบดบังเร้นซ่อน ถูกบันทึกไว้ในแผ่นหยกชิ้นนี้ วิชาลับนี้ช่วยให้สามารถซ่อนระดับการบ่มเพาะของตัวเองและยังสามารถปกปิดกลิ่นอายหรือคลื่นพลังของท่านได้”
“เฉินเซวียนกำลังซ่อนตัวอยู่ในความมืด รอโอกาสที่จะลอบสังหารนายน้อย หลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ฮัวเล่ยจึงตัดสินใจมอบมันให้กับท่าน วิชาลับนี้อาจทำให้นายน้อยมีโอกาสรอดจากการโจมตีของเฉินเซวียนมากขึ้น”
ซูอันตกตะลึง ซางหลิวอวี้มอบจี้หยกให้เขา ฉู่ชูเหยียนมอบวิชา ‘กระบี่เกล็ดหิมะ’ ให้เขา และตอนนี้เขากำลังได้รับวิชาลับจากชิวฮัวเล่ย…
ใครกันที่เคยบอกว่าของฟรีไม่มีในโลก?
ในฐานะผู้ชาย…ใครจะมาเทียบข้าได้บ้าง!
ไม่ใช่ว่าข้าอยากวิจารณ์ผู้ชายทุกคนบนโลก แต่ในตอนนี้ข้าคงต้องขอพูดว่าพวกเจ้าทุกคนมันไร้น้ำยา!
ในตอนนี้ถ้าซูอันมีหาง มันคงจะชี้ตรงไปที่เพดาน
อย่างไรก็ตาม เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซางหลิวอวี้เห็นเขาเป็นเพื่อนที่ดีของนาง เขากับนางมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ส่วนฉู่ชูเหยียน นางก็เป็นภรรยาของเขา แถมพวกเขาทั้งสองได้ผ่านประสบการณ์เป็นตายร่วมกันมา ซึ่งนับได้ว่ามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดที่สุด…
ดังนั้นไม่น่าแปลกที่พวกนางทั้งสองคนจะมอบสิ่งของแก่เขา
แต่ชิวฮัวเล่ยนี้…
เขาและนางพยายามหลอกลวงกันและกันตั้งแต่แรกเริ่มเจอกันอย่างชัดเจน พวกเขาทั้งคู่ต่างวางแผนอย่างไม่รู้จบใส่กันด้วยความหวังว่าอีกฝ่ายจะตกหลุมพรางก่อน
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดูเต็มไปด้วยความสุขและความเสน่หา แต่ซูอันก็รู้ดีว่ามันเป็นเพียงการแสดงตบตาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชายหนุ่มไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังพยายามทำอะไรอยู่
ซูอันไม่ได้รีบร้อน แต่เขามองดวงตาที่สวยงามของชิวฮัวเล่ยอย่างสงบ “สิ่งนี้มีค่าเกินไป ทำไมถึงให้อะไรข้าแบบนี้?”
“คำพูดของนายน้อยทำข้าใจสลาย!” การแสดงออกของชิวฮัวเล่ยเต็มไปด้วยความเศร้าโศก “หัวใจของข้าเป็นของนายน้อยแล้ว! ข้าไม่ต้องการให้คนรักที่ข้าเลือกเผชิญความตายก่อนกำหนด…ข้ายังคงรอวันที่นายน้อยจะพาข้าออกจากหอสุขนิรันดร์…”
ซูอันเม้มริมฝีปากแน่น
สมองส่วนเหตุผลบอกเขาว่า อย่าเชื่อคำพูดทุกคำที่ออกมาจากปากของผู้หญิงคนนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่หัวใจของชายหนุ่มจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแสดงความรักที่ลึกซึ้งเช่นนี้!
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับความคิดที่วุ่นวายของตัวเอง ในที่สุดซูอันก็พูดพร้อมกับหัวเราะ “ขอบคุณมาก! ไว้ข้าจะมาอ้างสิทธิ์ผู้หญิงของข้าเมื่อมีโอกาส!”
ข้าจะต้องกลัวอะไร? ข้าเป็นผู้ชาย! นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าข้ามีอะไรจะต้องเสียซะเมื่อไหร่
แม้ว่าจะมีกลอุบายใดอยู่เบื้องหลัง อย่างแย่ที่สุดข้าก็จะใช้ร่างกายของข้าตอบแทนนาง ฮ่า ๆ!
ชิวฮัวเล่ยยิ้ม “นายน้อยอย่าลืมคำที่ท่านกล่าวในวันนี้ก็แล้วกัน”
ความอ่อนโยนในน้ำเสียงของนางเพียงพอที่จะละลายแม้กระทั่งเหล็กที่แข็งที่สุด ซูอันเตือนตัวเองให้สงบสติอารมณ์ทันที “แม่นางชิวงดงามขนาดนี้ ข้าไม่คิดว่าจะมีชายคนใดในโลกที่สามารถไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับเจ้าได้หรอก”
ชิวฮัวเล่ยส่ายหัวเบา ๆ ท่าทีของนางดูเศร้าเล็กน้อย
“จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนด้วยรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียวได้อย่างไร? ฮัวเล่ยมองหาใครสักคนที่ยินดีเอาใจใส่ฮัวเล่ยอย่างแท้จริงมาโดยตลอด ข้าหวังว่านายน้อยจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”
ให้ตายสิ…ให้ตายสิ! ข้าทนไม่ไหวแล้ว! ผู้หญิงคนนี้ช่างเย้ายวนเหลือเกิน!
“อะแฮ่ม ๆ…ในเมื่อวิชาบดบังเร้นซ่อนนี้สามารถซ่อนการบ่มเพาะและคลื่นพลังของตัวเองได้ ดังนั้นข้าขอเดาว่าระดับการบ่มเพาะของแม่นางชิวคงสูงมากใช่หรือไม่? และนี่เป็นทักษะที่เจ้าใช้เพื่อหลอกลวงสายตาของทุกคนในเมืองจันทร์กระจ่างถูกต้องหรือเปล่า?”
ชิวฮัวเล่ยยิ้ม “จินตนาการของนายน้อยนั้นช่างบรรเจิดอย่างแท้จริง มีแขกทุกประเภทเดินทางมาที่หอสุขนิรันดร์ และเนื่องจากฮัวเล่ยพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้างเล็กน้อย หลายคนจึงนำของขวัญล้ำค่ามามากมายโดยหวังว่าจะเห็นฮัวเล่ยยิ้ม ดังนั้นข้าจะปฏิเสธพวกเขาได้ยังไง? นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าสามารถรวบรวมวิชาลับได้มากมาย และถ้าหากนายน้อยต้องการ ท่านสามารถเลือกดูสิ่งของอย่างอื่นที่ข้ามีได้ ท่านต้องการหรือไม่?”