เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 490 ด้านที่โหดร้าย
บทที่ 490 ด้านที่โหดร้าย
บทที่ 490 ด้านที่โหดร้าย
นอกจากที่อีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิงแล้ว นางยังน่าจะเป็นหญิงสาวที่สวยมาก ๆ อีกด้วย!
แม้ว่านางจะสวมหน้ากาก แต่รูปร่างที่สมส่วนและผิวขาวนวลเนียนของนางยังดูสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง
และด้วยเหตุผลบางอย่าง ซูอันรู้สึกถึงบางสิ่งที่คุ้นเคยเกี่ยวกับบุคคลนี้ อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอนางที่ไหนมาก่อน
สายตาของผู้นำกลุ่มวาฬจ้องมาที่เขาส่งผลให้เขารีบก้มศีรษะลง ไม่กล้าสบตานางต่อไป ตอนนี้เขากำลังสวมบทบาทเป็นลูกน้องของดอกบ๊วยสี่ ดังนั้นจึงไม่ควรกล้ามองอะไรตามอำเภอใจ
“ข้า…ข้าขอแสดงความเคารพต่อท่านผู้นำกลุ่มวาฬ…” ดอกบ๊วยสี่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้นำกลุ่มวาฬจะเป็นผู้หญิงที่สวยด้วย แม้ว่าจะยังคงประหม่า แต่ชายหนุ่มก็ยังคงแอบมองไปยังขาที่เรียวยาวของนาง ซึ่งถูกพาดไว้ใต้โต๊ะโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวผู้ที่เป็นผู้นำกลุ่มวาฬหัวเราะคิกคัก เสียงของนางดูเหมือนจะกลืนกินจิตวิญญาณของเขา “ดอกบ๊วยสี่ไม่ต้องมากพิธีหรอก หลังจากนี้พวกเราทุกคนคือครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ว่าแต่ เจ้าเอาของที่ข้าต้องการมาหรือเปล่า?”
“ของ…ของอยู่ที่นี่แล้ว…”
ดอกบ๊วยสี่ตอบกลับทันที เหงื่อเย็นเยียบหลั่งริน ตั๋วเงินส่วนใหญ่ถูกคนของสถาบันจันทร์กระจ่างยึดไปแล้ว เหลือเพียงไม่กี่ใบเท่านั้นที่เป็นของจริงเพื่อความแนบเนียน ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นของปลอม
“ขอข้าตรวจดูก่อน” หญิงสาวยื่นมือที่เรียบเนียนของนางมาทางเขา
ดอกบ๊วยสี่กลืนน้ำลาย เขาสาปแช่งซูอันไม่รู้จบในขณะที่นึกถึงคำที่ซูอันบอกให้พูด แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด จู่ ๆ หญิงสาวอีกฝ่ายก็พ่นลมหายใจออกมาเสียงดังจนเขาสะดุ้ง
“ผ…ผู้นำกลุ่มวาฬ มีอะไรหรือเปล่า?” หัวใจของดอกบ๊วยสี่เริ่มตื่นเต้นเมื่อเขาสังเกตเห็นอีกฝ่ายมองมาทางลูกน้องของเขาที่อยู่ข้างหลังเขา
ผู้นำกลุ่มวาฬเคาะนิ้วของนางลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ “พวกคนที่อยู่ข้างหลังเจ้าเป็นใคร?” นางมองดูกลุ่มผู้ชายด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ผู้นำกลุ่มวาฬ พวกเขาทั้งหมดเป็นลูกน้องของข้า อ…เอ่อ พวกเขาบางคนยังขาดประสบการณ์ ข้าขออภัยท่านแทนพวกเขาด้วยหากว่ามีคนใดคนหนึ่งทำอะไรล่วงเกินไป” ดอกบ๊วยสี่กล่าว
“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าแค่ถามเฉย ๆ” หญิงสาวหัวเราะและลุกขึ้นยืน นางเดินเข้ามาหากลุ่มคนข้างหลังดอกบ๊วยสี่และเดินวนดูรอบ ๆ อย่างช้า ๆ “แม้ว่าสำนักดอกบ๊วยจะล่มสลายไปแล้ว แต่คนเหล่านี้ก็ยังเต็มใจที่จะติดตามเจ้า คนเหล่านี้ช่างซื่อสัตย์และกล้าหาญจริง ๆ”
ดอกบ๊วยสี่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและปาดเหงื่อเย็น ๆ ที่ปกคลุมใบหน้าของเขา “ถ…ถูกต้องแล้วท่านผู้นำกลุ่มวาฬ คนเหล่านี้ซื่อสัตย์และแน่วแน่อยู่เสมอ นี่เป็นเหตุผลที่ข้าต้องการพาพวกเขามากับข้าในวันนี้ด้วย”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก “ข้าชื่นชอบคนที่มีความสามารถมาโดยตลอด และโดยเฉพาะกลุ่มคนของเจ้าที่ดูเหมือนจะมีเสน่ห์และชาญฉลาดมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเช่นนี้”
ซูอันขมวดคิ้ว มีบางอย่างที่ผิดปกติอย่างแท้จริง
คนที่มีสถานะเป็นผู้นำกลุ่มวาฬควรให้ความสำคัญกับการหารือเรื่องธุรกิจกับดอกบ๊วยสี่ แต่ตอนนี้ทำไมนางกลับมาสนใจลูกน้องของอีกฝ่าย?
หรือว่าบางทีนางจะรู้ว่าเขาปลอมตัวมา?
ไม่ควรเป็นอย่างนั้น! การปลอมตัวของเขานั้นไม่น่าจะผิดพลาด และดอกบ๊วยสี่ก็ไม่ได้ทำตัวมีพิรุธมากมายเลย ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีวิธีใดที่สมาชิกของกลุ่มวาฬจะรู้จักเขา
ซูอันค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ด้วยความคิดเหล่านี้ สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคือการที่ปล่อยให้นางสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา
“ถ้าท่านผู้นำมีความสุข ข้าก็มีความสุข” ดอกบ๊วยสี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คนของเจ้าคนนี้ดูมีเสน่ห์ที่สุด” หญิงสาวหยุดที่ด้านข้างของซูอัน
เมื่อได้กลิ่นหอมอันละเอียดอ่อนจากกายนาง ซูอันก็ตกตะลึงทันทีเมื่อตระหนักรู้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว หญิงสาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า จี้สกัดจุดร่างกายของเขาเอาไว้หลายจุดก่อนที่จะทันได้ตั้งตัว!
จมูกของซูอันเต็มไปด้วยกลิ่นหอมที่คุ้นเคย ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าความซวยกำลังมาเยือน
ถ้าเขาจำนางได้ผ่านกลิ่นกายของนาง มันก็ไม่มีทางที่นางจะจำเขาไม่ได้เพียงเพราะเขาสวมชุดเครื่องแบบดอกบ๊วยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็รู้ตัวช้าเกินไป ตอนนี้เขาโดนอีกฝ่ายสกัดจุดชีพจรจนไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้อีกแล้ว
ดอกบ๊วยสี่ตื่นตระหนก เขาลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน “ผ…ผู้นำกลุ่มวาฬ ท่านทำอะไร!?” เขาถามอย่างตื่นตระหนก
หญิงสาวยิ้มอย่างเย้ยหยัน นางสะบัดนิ้ว ปลอกเล็บของนางพุ่งตรงเจาะหน้าผากของเขาทันที
ทั้งร่างของดอกบ๊วยสี่สั่นและล้มลงบนโต๊ะทั้ง ๆ ที่สีหน้าตื่นตระหนกยังคงค้างอยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ สมาชิกสำนักดอกบ๊วยคนอื่น ๆ ต่างก็หันหลังกลับและพยายามวิ่งหนี
พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมผู้นำกลุ่มวาฬถึงทำเช่นนี้ แต่พวกเขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างร้ายแรง
ถ้าดอกบ๊วยสี่ไม่ถูกฆ่า พวกเขาอาจมีความกล้าที่จะต่อสู้ขัดขืน
อย่างไรก็ตาม ดอกบ๊วยสี่ได้ตายลงแล้ว! ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความกลัว และพยายามรีบวิ่งออกจากห้อง
พวกเขาไม่เชื่อว่าพวกตัวเองจะสามารถเอาชนะผู้นำกลุ่มวาฬได้ อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่พวกเขาเร็วกว่าคนอื่น และกลุ่มวาฬเสียเวลากำจัดคนที่ชักช้า พวกเขาบางคนก็น่าจะมีโอกาสรอดได้เล็กน้อย
น่าเสียดายที่หญิงสาวไม่ปล่อยโอกาสให้พวกเขารอดชีวิต นางทำท่ากำมือซึ่งส่งผลให้น้ำบนโต๊ะที่หกอยู่ก่อนหน้านี้ถูกควบคุมโดยพลังลึกลับ และไหลมารวมกันเป็นกลุ่มก้อน
ด้วยการสะบัดนิ้วของหญิงสาว ก้อนน้ำก็แยกกันพุ่งออกไปเป็นสายหลายสายด้วยแรงมหาศาล กระทบกับแผ่นหลังของบรรดาสมาชิกสำนักดอกบ๊วยที่กำลังหลบหนี
ในชั่วพริบตา ร่างของพวกเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ เสียงกรีดร้องหยุดชะงักทันที
“ท่านผู้นำเกิดอะไรขึ้น?” ด้วยความตื่นตระหนกจากเสียงความวุ่นวายในห้อง บรรดาสมาชิกกลุ่มวาฬที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกจึงรีบเข้ามา
หญิงสาวกลับไปนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสบาย ๆ ก่อนที่นางจะหยิบปลอกเล็บอันใหม่มาสวม “ไม่มีอะไร พวกเจ้ารีบพาคนเข้ามาเก็บกวาดเดี๋ยวนี้ก็พอ”
ลูกน้องของนางไม่ได้เอ่ยถามอะไรเพิ่มเติมแม้เพียงครึ่งคำ สำหรับกลุ่มวาฬ การฆ่าคนไม่กี่คนถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา
“หยาเสี่ยว ตรวจสอบสิ่งที่เขานำมา” หญิงสาวชี้ไปที่ดอกบ๊วยสี่
“เข้าใจแล้ว!” ชายร่างใหญ่ที่มัดเคราของตัวเองเป็นปมเดินเข้ามา เขาเดินไปล้วงตรวจสอบของในกระเป๋าของดอกบ๊วยสี่ ก่อนที่จะตั๋วเงินที่กองอยู่บนโต๊ะมาตรวจสอบ “ไอ้เวรนี่… นอกจากตั๋วเงินบางใบที่เป็นของแท้แล้ว อย่างอื่นเป็นของปลอมทั้งหมด! ข้าจะฆ่าพวกดอกบ๊วยให้สิ้นซาก!”
เขาเดินเข้าไปหาซูอันพร้อมกับหักนิ้วของตัวเองดังกร๊อบอย่างน่ากลัว
“บุคคลนี้ยังคงมีประโยชน์กับข้า พวกเจ้าออกไปได้แล้ว” หญิงสาวพูดอย่างไม่สนใจ
แม้ว่าน้ำเสียงของนางจะดูเฉยเมย แต่สมาชิกกลุ่มวาฬกลับปฏิบัติตามคำสั่งของนางอย่างจริงจัง หลังจากที่พวกเขาทำความสะอาดห้องอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็พากันเดินออกไป
ซูอันถอนหายใจยาวเมื่อประตูปิด “ใครจะคาดคิดว่าเจ้าที่ดูอ่อนแอและบอบบางอยู่เสมอ จะมีด้านที่โหดร้ายเช่นนี้”