เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 499 ลมปากอาจม
บทที่ 499 ลมปากอาจม
บทที่ 499 ลมปากอาจม
ซูอันเริ่มมุ่งหน้ากลับไปตามเส้นทางที่เขาและเจิ้งตานหนีมา
โชคดีที่เดินมาได้สักพักชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงวุ่นวายข้างหน้า มันคือกลุ่มของหลิวชานที่บ่นว่าเป้าหมายหายไป
เฉินเซวียนใบหน้าบูดบึ้ง เขาอุตส่าห์วางยาพิษสิบแปดสายลมใบไม้ผลิ อย่างยากลำบาก แต่ซูอันกลับได้ผลของความพยายามทั้งหมดของเขาไป!
—
ท่านยั่วยุเฉินเซวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666!
—
ซูอันเปิดเผยตัวเองในระยะไกลและหัวเราะอย่างเต็มที่ “ข้าไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่งนะ แต่พวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นขยะ! ไม่มีใครตามข้าทันทั้ง ๆ ที่ข้ากำลังแบกคนทั้งคนอยู่!” เขาเยาะเย้ย
เฉินเซวียนเงยหน้าขึ้นพูดไม่ออก หลิวชานเองก็ไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน
คนอื่น ๆ จากกลุ่มวาฬจ้องมาที่เขาพลางอ้าปากค้าง
มีอะไรเกิดขึ้นกับสมองของชายผู้นี้หรือไม่? ทำไมเขาถึงวกกลับมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาหนีไปได้แล้ว?
จากนั้นความโกรธของพวกเขาก็ปะทุขึ้นทันที พวกเขาจะอดทนกับการเยาะเย้ยเช่นนี้ได้อย่างไร?
พวกเขาโห่ร้องเป็นหนึ่งเดียว และไล่ตามซูอันไป
เฉินเซวียนลังเลเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ เขาเป็นคนรอบคอบอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม จิตใจของชายผมแดงยังคงจดจ่ออยู่ที่เจิ้งตาน เขารู้ว่าพิษน่าจะกำลังส่งผลอย่างสมบูรณ์ และเขาต้องพบนางก่อนที่ชายอื่นจะได้นางไป
ดังนั้นเขาจึงติดตามสมาชิกกลุ่มวาฬไปอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ว่าไอ้เด็กเวรซูอันจะวางแผนอะไร ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายก็ต่ำเกินไป ซึ่งไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขาแน่นอน
ถึงอย่างนั้น เขาก็จงใจให้หลิวชานและคนอื่น ๆ นำไปข้างหน้าก่อน หากมีกับดักจริง ๆ คนพวกนี้จะเป็นพวกแรกที่ต้องตกลงไป
ซูอันหันหลังกลับและออกวิ่งทันทีเมื่อเห็นทั้งหมดไล่ตามเขามา
ชายหนุ่มได้ยินเสียงเยาะเย้ยของหมี่ลี่ในใจ “นี่เจ้าเรียกไอ้พวกนี้ว่าผู้ช่วยงั้นเหรอ? ขอโทษที่ข้าต้องพูดตรง ๆ แต่มังกรตัวนั้นคงเคี้ยวคนพวกนี้รวมถึงเจ้าได้หมดในเวลาไม่เกินชั่วอึดใจ!”
“ข้ามีแผน!” ซูอันพูดเสียงต่ำ
เนื่องจากภูมิประเทศที่ขรุขระและสิ่งกีดขวางในป่า ไม่ว่าเฉินเซวียนจะเร็วกว่าซูอันมากแค่ไหน เขาก็ยังตามไม่ทัน
หลังจากวิ่งไปได้สักพัก เฉินเซวียนก็หยุดแล้วทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
หลิวชาน และคนอื่น ๆ สังเกตเห็น “หัวหน้า มีอะไรหรือเปล่า?” พวกเขาถาม
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ข้ารู้สึกได้ว่าซูอันจงใจล่อพวกเราไปในทิศทางนั้น” เฉินเซวียนกล่าว
หลิวชานรู้สึกสงสัย “หัวหน้า ท่านไม่ระวังตัวเกินไปหน่อยเหรอ? แม้ว่านั่นคือสิ่งที่เขาพยายามจะทำ แล้วมันยังไงล่ะ? เขาเพิ่งหนีเราไปได้ไม่นาน ข้าเชื่อว่าเขาไม่มีเวลาวางกับดักที่ยอดเยี่ยมพอจะจัดการเราได้แน่นอน พวกเรามีกันตั้งหลายคน แม้แต่ท่านเองก็อยู่ที่นี่ด้วย การฆ่าเขาจึงไม่ใช่เรื่องยากแน่ ๆ”
ทุกคนที่เหลือต่างก็พยักหน้าสนับสนุน หัวสมองของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยความปรารถนาและหื่นกระหาย รวมถึงคิดว่าเจิ้งตานกำลังอยู่ภายใต้ผลของพิษ พวกเขาจะแบ่งสมองไปคิดอย่างอื่นได้อย่างไร?
เฉินเซวียนเป็นคนเดียวที่ยังมีสติดีพอ “พวกเจ้าไม่รู้สึกแปลก ๆ บ้างเลยหรือไง? เราไม่ได้เจอสัตว์ร้ายแม้แต่ตัวเดียวตลอดทาง มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น หนึ่ง สถานที่แห่งนี้รกร้างเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีสัตว์ร้ายเดินเตร่ แต่โอกาสที่จะเป็นเรื่องนี้มีน้อยมาก ความเป็นไปได้ประการที่สองคือที่นี่เป็นอาณาเขตของสัตว์ร้ายที่ทรงพลัง ดังนั้นจึงไม่มีสัตว์อื่นใดกล้าเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้!”
คนอื่น ๆ ตื่นตระหนกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีเหตุผลที่ดี
ซูอันสังเกตว่าผู้ที่ไล่ตามเขาหยุดแล้ว กลุ่มคนน่าจะออกอาการสงสัย โดยเฉพาะเฉินเซวียนที่มีความระมัดระวังตัวมากกว่าคนทั่วไปอย่างแน่นอน
เขาเปิดใช้งาน ‘ทักษะลมปากอาจม’ “พวกขยะเปียก! ข้าจะไม่เล่นกับพวกเจ้าแล้ว! ข้าจะไปเล่นกับอดีตผู้นำของพวกเจ้าแทน!”
หลิวชานและคนอื่น ๆ ต่างโมโหจนหัวแทบระเบิด แม้แต่เฉินเซวียนก็ยังรู้สึกโกรธจนหน้ามืดเช่นกัน
เมื่อเขาเห็นว่าซูอันทำตัวอวดดี และคิดว่าเจิ้งตานซึ่งตอนนี้ถูกวางยาพิษจะลงเอยด้วยการเป็นของเล่นของซูอัน เฉินเซวียนก็โกรธจนหัวแทบระเบิด
พวกเขาทั้งหมดสาปแช่งซูอันอย่างไม่รู้จบ คราวนี้เป็นเฉินเซวียนที่เป็นผู้นำ เขารู้ว่าความเกลียดชังของตนจะหายไปหลังจากที่ได้สับร่างของไอ้สารเลวนี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ฮ่า ๆ! พวกมันวิ่งมาหาข้ากันหมดเลย! ทักษะลมปากอาจมนี้มีประสิทธิภาพจริง ๆ
เมื่อสังเกตเห็นว่าความเร็วของเฉินเซวียนเพิ่มขึ้นอีกราวห้าส่วนหรืออาจมากกว่านั้น เขาก็ใช้วิชาร่างก้าวทานตะวัน และวิ่งไปที่ถ้ำด้วยความเร็วเต็มที่
ในที่สุดเมื่อเฉินเซวียนมาถึงทางเข้าถ้ำ สัญชาตญาณเอาตัวรอดก็ดังเตือนขึ้นในใจของเขาทันที หลายปีที่เขาใช้ชีวิตอย่างโลดโผนได้บ่มเพาะสัญชาตญาณระแวงภัยให้เขาจนถึงขีดสุด
สัญชาตญาณบอกเขาว่า เขาไม่สามารถไล่ตามซูอันต่อไปได้ เพราะการทำเช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิต!
อย่างไรก็ตาม เสียงความคิดอีกฝั่งก็ดังขึ้นในหูของเฉินเซวียน กี่ครั้งแล้วที่เขาปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้? จะปล่อยให้มันหนีอีกแล้วเหรอ? จะไม่แก้แค้นให้น้องชายของเจ้าเหรอ? เจ้าไม่ต้องการให้เจิ้งตานเป็นของเจ้าเหรอ?
ซูอันสังเกตเห็นเช่นกันว่า เฉินเซวียนหยุดอยู่ที่ทางเข้าถ้ำ ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้ามา เขาจึงเปิดใช้งานทักษะลมปากอาจมอีกครั้ง
“โธ่ เมื่อกี้ทำเป็นขึงขังจนตัวข้าหลงคิดว่าเจ้าพอจะมีดีอยู่บ้าง แต่ดูตอนนี้สิ เจ้ากลับยืนขาแข็งอยู่แต่ตรงนั้น ที่แท้เจ้าก็แค่คนขี้ขลาดนี่หว่า ฮ่า ๆ!”
ซูอันค่อย ๆ เดินถอยหลังเข้าไปในถ้ำขณะที่เยาะเย้ยเฉินเซวียน
โดยปกติ เฉินเซวียนจะมีภูมิคุ้มกันต่อคำด่าและการเยาะเย้ยทุกรูปแบบ แต่ตอนนี้ มันเหมือนกับว่าทุกคำที่ซูอันพูดมันแทงทะลุหัวใจของเขาอย่างแรง
ความคิดของชายผมแดงบิดเบี้ยว ในใจของเขา เปรียบเจิ้งตานเป็นเสมือนภรรยาไปแล้วครึ่งตัว แต่มันกลับมีคนอื่นที่กำลังเล่นกับภรรยาของเขาอยู่ และสิ่งที่ทำได้คือยืนดูอยู่เฉย ๆ…
เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ แต่เขาถือว่าเจิ้งตานอยู่ในการครอบครองของเขาแล้ว ไก่ย่างของเขากำลังบินหนีไป! ทั้งหมดเป็นเพราะไอ้เวรซูอัน!
“ข้าจะฆ่าเจ้า!!!”
เฉินเซวียนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาตะโกนเสียงดังลั่นก่อนจะพุ่งเข้าถ้ำอย่างโกรธจัด
ซูอันรู้อยู่แล้วว่าในถ้ำนี้มีจุดไหนที่ซ่อนตัวได้ดีที่สุด เนื่องจากแสงสลัวภายในถ้ำและวิชาบดบังเร้นซ่อนที่ปกปิดกลิ่นอายและคลื่นพลังของเขาไว้ เฉินเซวียนที่พุ่งตามเข้ามาทีหลังจึงไม่สามารถหาเขาเจอได้
ในใจของมหาโจรขณะที่พุ่งเข้ามาในถ้ำคือ เขามาเพื่อช่วยผู้หญิงของเขาเอง และสับร่างของซูอันให้แหลกเละ
แต่แล้วเมื่อเฉินเซวียนพุ่งเข้าไปในถ้ำได้เพียงไม่กี่ก้าว เสียงคำรามดุร้ายก็ทักทายเขาทันที!
เฉินเซวียนร้องโหยหวนอย่างน่าสังเวช เขาถูกบางสิ่งกระแทกอย่างแรงจนร่างของเขากระเด็นถอยไปข้างหลังเหมือนกระสุนปืนใหญ่
มังกรแดงขนาดมหึมาตามเขาออกมา
“เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ! เจ้ากล้ามารบกวนการบ่มเพาะของราชาองค์นี้งั้นเหรอ? เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
มังกรแดงกวัดแกว่งหางไปมาในอากาศ ร่างกายขนาดมหึมาทำให้เหล่ามนุษย์เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด!