เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 508 แต่งเติมเรื่องราว
บทที่ 508 แต่งเติมเรื่องราว
บทที่ 508 แต่งเติมเรื่องราว
เจิ้งตานไม่ได้กังวล แม้ซ่างเชียนจะสนใจมังกรมาก ไม่มีมังกรอยู่อีกแล้ว และเมื่อคนเหล่านี้หาไม่พบอะไรเลย พวกเขาคงคิดว่ามังกรย้ายรังไปเพราะมันไม่ต้องการถูกรบกวน
ในเวลาเดียวกัน นางยกย่องตัวเองที่ไม่ลืมทำความสะอาดร่องรอยของนางและอาซูในถ้ำเรียบร้อยก่อนเดินมา ถ้านางไม่ทำอย่างนั้น ป่านนี้ซ่างเชียนคงสงสัยในตัวนางไม่หยุดแน่ว่าเกิดอะไรขึ้น
“กลับไปที่มั่นของกลุ่มวาฬก่อน เราต้องจัดการกับการทรยศที่เกิดขึ้น” เจิ้งตานกล่าว
เฉินเซวียนสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลระดับกลางและระดับสูงในกลุ่มวาฬเท่านั้น และตอนนี้คนพวกนั้นตายกันไปหมดแล้ว นางจึงสามารถนำทั้งกลุ่มกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมได้อีกครั้ง
“เจ้าควรกลับไปที่เมืองจันทร์กระจ่างแทน” ซ่างเชียนกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “เจ้าไม่จำเป็นต้องกลับไปที่เกาะวาฬอีกแล้ว”
“ทำไม?” เจิ้งตานรู้สึกสับสน
“คนของข้าได้กำจัดทุกคนในกลุ่มวาฬแล้ว” ซ่างเชียนเล่าฟังราวกับว่าเขากำลังพูดถึงสภาพอากาศเพียงอย่างเดียว
“อะไรนะ!?” เจิ้งตานหน้าซีดด้วยความตกใจ
ซ่างเชียนพูดต่ออย่างเฉยเมย “หากพวกเขาสามารถทรยศเจ้าได้ครั้งหนึ่ง ต่อไปพวกเขาก็สามารถทรยศเจ้าได้อีกครั้ง
“นอกจากนี้ เจ้ากำลังจะแต่งงานกับข้า หากมีข่าวรั่วไหลว่าเจ้าเป็นผู้นำของกลุ่มวาฬหลุดออกไป มันจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตระกูลซ่าง นี่เป็นเหตุผลที่ข้าใช้โอกาสนี้ถอนรากถอนโคนของปัญหาให้สิ้นซาก”
เจิ้งตานอารมณ์เสียในทันที “ข้าเสียเวลาไปหลายปีเพื่อก่อตั้งกลุ่มวาฬ ทำไมท่านกลับทำลายมันไปง่าย ๆ แบบนี้โดยที่ไม่ปรึกษาข้าก่อน!”
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลุ่มวาฬได้บรรลุจุดประสงค์ที่มันก่อตั้งขึ้นมาสำเร็จไปแล้ว ดังนั้นเมื่อตอนนี้มันกลายเป็นภาระแทน เราก็ควรจัดมันทิ้งไปซะ และยิ่งไปกว่านั้นอีกไม่นานเจ้าก็จะต้องมาเป็นภรรยาของข้า เจ้าควรเอาเวลามาคิดถึงการเตรียมตัวเป็นภรรยาที่ดีให้ข้าดีกว่าไปเกลือกกลั้วกับพวกนอกกฎหมายพวกนั้น จงอย่าลืมว่าตัวตนที่แท้จริงของเจ้าคือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจิ้ง ไม่ใช่ผู้นำกลุ่มวาฬอะไรนั่น!”
หลังจากพูดจบ ซ่างเชียนก็โบกมือให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพาเจิ้งตานกลับไป เจิ้งตานรู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่างเมื่อนางรู้ว่ากลุ่มวาฬถูกทำลายไปแล้ว นางแทบหมดแรงจะก้าวเดินจนทหารต้องพยุงนางไป
ซูอันรู้สึกหนาวเหน็บเมื่อเห็นทุกคนจากไป ซ่างเชียนคนนี้ ภายนอกดูหล่อเหลาและเป็นสุภาพบุรุษ แต่แท้จริงเขากลับมีนิสัยที่อำมหิตมาก
มีสมาชิกของกลุ่มวาฬหลายร้อยคนบนเกาะนั้น และยิ่งเมื่อรวมกับภรรยาและลูก ๆ ของสมาชิกทุกคน ประชากรบนเกาะอาจมีมากกว่าพันคน แต่ตอนนี้ทุกคนกลับตายหมดแล้วจากคำสั่งง่าย ๆ ของซ่างเชียน
ไม่น่าแปลกใจที่เจิ้งตานจะหยุดเขาไม่ให้ติดตามนาง ด้วยนิสัยที่ไร้ความปรานีของชายผู้นี้ เขาอาจตายได้จริง ๆ หากเจอกับซ่างเชียนในสถานที่ที่ห่างไกลเช่นนี้
ซูอันรอซ่างเชียนและคนอื่น ๆ จากไปสักพักใหญ่ ๆ เพื่อความปลอดภัย จากนั้นเขาก็รีบกลับไปที่เมืองจันทร์กระจ่าง และถึงคฤหาสน์ตระกูลฉู่ในตอนเย็น
“นายน้อยกลับมาแล้ว!”
เฉิงโซวผิงที่กำลังนั่งยอง ๆ ที่ประตูหน้า ตะโกนด้วยความดีใจเมื่อเห็นซูอัน
เกิดความวุ่นวายในพื้นที่ของคฤหาสน์ตระกูลฉู่ทั้งหมด ผู้คนจำนวนไม่น้อยรีบออกมาต้อนรับเขา
น่าแปลกที่ฉินหว่านหรูเป็นคนแรกที่ปรากฏตัว
เมื่อนางเห็นว่าเป็นซูอันจริง ๆ นางทั้งประหลาดใจและยินดี “ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เจ้าไปไหนมา!?”
“ขอบคุณสวรรค์ที่เจ้ากลับมา! เด็ก ๆ รีบไปตามหาท่านอ๋อง ชูเหยียน และฮวนเจา! แจ้งข่าวว่าไม่ต้องตามหาอาซูอีกต่อไปแล้ว!”
ในตอนแรก ซูอันรู้สึกงุนงงที่เขาไม่เห็นฉู่ชูเหยียน แต่เขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉินหว่านหรูพูด “ชูเหยียนและคนอื่น ๆ กำลังตามหาข้าอยู่เหรอ?”
“ใช่น่ะสิ!” ฉินหว่านหรูพูดพร้อมกับถอนหายใจ “แม่นางซาง (ซางหลิวอวี้) จากสถาบันจันทร์กระจ่างบอกเราว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ชูเหยียนจึงนอนไม่หลับมาหลายวัน นางพาคนออกไปตามหาเจ้าทุกวัน!”
“แม้แต่เด็กเหลือขอฮวนเจา ก็ทำแบบเดียวกัน ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมลูกสาวทั้งสองคนของข้าถึงต้องทุ่มเทขนาดนี้!”
“นางยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่…” ซูอันรู้สึกตื้นตันอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในเวลาเดียวกันหัวใจของชายหนุ่มก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แม้ว่าเขาจะอยู่ในถ้ำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจริง ๆ แต่จริง ๆ แล้วที่เขากลับมาอย่างล่าช้าเป็นเพราะเขาต้องการจะมีความสุขกับเจิ้งตานไปเรื่อย ๆ
ฉู่จงเทียนและคนอื่น ๆ รีบกลับมาทันทีเมื่อได้ยินข่าว
แม้ว่าฉู่ชูเหยียนจะมีน้ำตาคลอ แต่นางก็ยังคงสงวนท่าทีตามปกติ อย่างไรก็ตาม ฉู่ฮวนเจาไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ นางโผเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและเริ่มร้องไห้ “พี่เขย! ท่านไปไหนมาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้? พวกเราทุกคนเป็นห่วงแทบตาย…ฮือ…”
ฉู่จงเทียนแลกเปลี่ยนสายตากับภรรยาของเขา ฉินหว่านหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าลูกสาวคนที่สองของพวกเขาดูดีใจเพียงใด พวกเขาก็พูดอะไรไม่ออก
แต่เมื่อฉู่ฮวนเจายังคงกอซูอัน หลังจากผ่านไปอีกครู่หนึ่ง แม้แต่ฉู่จงเทียนก็ไม่สามารถทนเห็นฉู่ฮวนเจาที่ทำตัวใกล้ชิดกับซูอันได้ขนาดนี้
เขากระแอมเบา ๆ และพูดว่า “อาซู เจ้าไปที่ไหนมาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้?”
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ซูอัน เขาค่อย ๆ ผลักฉู่ฮวนเจาออกไปอย่างอ่อนโยน อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าของท่านอ๋องเปียกโชกไปด้วยน้ำตาของนางแล้ว
ร่างของเด็กผู้หญิงคนนี้สร้างมาจากน้ำหรือไง?
ซูอันถอนหายใจและตอบว่า “วันนั้นข้าออกไปกับกลุ่มคนของสถาบันจันทร์กระจ่าง ต่อมาข้าได้รู้ข่าวเกี่ยวกับหัวหน้าของกลุ่มวาฬ ข้าจึงตัดสินใจไปตรวจสอบมันด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ศัตรูเจอข้าและจับตัวข้าไว้ จากนั้นก็พาข้าตรงไปยังเกาะวาฬ”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป ซูอันพูดอย่างสบาย ๆ แต่พวกเขาก็นึกภาพออกว่าประสบการณ์นี้น่ากลัวเพียงใด
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นหัวหน้าของกลุ่มวาฬ?” ฉินหว่านหรูถามอย่างรวดเร็ว
กลุ่มวาฬได้ขโมยส่วนแบ่งตลาดค้าเกลือไปจากตระกูลฉู่อย่างมหาศาล และผู้นำของกลุ่มนอกกฎหมายนี้ก็ลึกลับยิ่งกว่ามหาโจรเฉินเซวียนเสียอีก
“ข้าไม่รู้ แต่ในระหว่างตอนที่ข้าถูกจับ ดูเหมือนจะมีความขัดแย้งภายในเกิดขึ้นในกลุ่มวาฬ ข้าเลยได้โอกาสหนี” ซูอันตอบ สิ่งที่เขาพูดยังคงเป็นความจริงเป็นส่วนใหญ่
เขารู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ไม่มีทางที่จะทำให้เจิ้งตานเดือดร้อนได้
“น่าเสียดาย! เรายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันเลย!” ฉินหว่านหรูรำคาญใจ
“ตอนนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว ไม่ว่าเราจะรู้ตัวตนของพวกมันหรือไม่ก็ตาม” ฉู่จงเทียนกล่าว “เราเพิ่งได้รับข่าวว่าซ่างเชียนพบเกาะวาฬ กองทหารลาดตระเวนลำน้ำได้ทำลายกลุ่มวาฬจนหมดสิ้นแล้ว”
“ความสัมพันธ์แบบไหนที่เกาะวาฬมีกับตระกูลเจิ้ง? เชลยจากเกาะอยู่ที่ไหน? เราต้องรีบบอกให้เจ้าเมืองเซี่ยอี้ สอบปากคำพวกเขาให้ละเอียดที่สุด!” ฉินหว่านหรูเรียกร้องอย่างเร่งรีบ
ฉู่จงเทียนส่ายหัว “กลุ่มวาฬและทุกคนที่อยู่บนเกาะถูกสังหารจนหมดสิ้น ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!”
ฉินหว่านหรูอ้าปากค้าง “ซ่างเชียนผู้นั้นช่างอำมหิตจริง ๆ!”
ซูอันก็หดหู่เช่นกัน อันที่จริงเขาเคยคาดไว้แล้วว่ากลุ่มวาฬคงพบจุดจบไม่สวยแน่ และตอนนี้ข้อสงสัยของเขาก็ได้รับการยืนยันแล้ว
ฉู่ชูเหยียนพูดเสียงเย็นชา “ดูเหมือนว่ากลุ่มวาฬจะมีความเชื่อมโยงกับตระกูลเจิ้งจริง ๆ ไม่อย่างนั้น ซ่างเชียนคงไม่ถึงกับออกคำสั่งฆ่าทุกคนเพื่อปิดปากเช่นนี้”
ซูอันแอบยกนิ้วโป้งให้ภรรยาของเขา ภรรยาของเขาช่างฉลาดจริง ๆ!
ตานตาน เจ้าไม่สามารถตำหนิข้าได้นะ ตระกูลฉู่ได้ข้อสรุปเหล่านี้ด้วยตัวเอง!