เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 509 งานใหม่
บทที่ 509 งานใหม่
บทที่ 509 งานใหม่
“จริงสิ อาซู ทำไมจู่ ๆ กลุ่มวาฬถึงได้เกิดความขัดแย้งภายใน?” ฉู่ชูเหยียนมองซูอันด้วยดวงตาคู่งามของตัวเอง
เพราะกลุ่มวาฬเป็นกลุ่มที่มีการจัดระเบียบอย่างดี ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถทำให้ตระกูลฉู่ปวดหัวได้นับครั้งไม่ถ้วนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นางนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าทำไมจู่ ๆ กลุ่มวาฬถึงแตกคอกันเอง
“เฉินเซวียนไปที่เกาะและปลุกระดมคนจำนวนมากในกลุ่มวาฬให้ทรยศผู้นำของตัวเอง และเมื่อรวมถึงสมาชิกระดับสูงของกลุ่มวาฬที่ไม่พอใจกับความคิดของผู้นำตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งก็คือเรื่องการต้องการขยายขนาดการขายเกลือเถื่อนให้ใหญ่ยิ่งขึ้น จากนั้นในระหว่างที่พวกมันเริ่มสู้กันเอง ข้าก็ฉวยโอกาสหนีมาได้”
ซูอันบอกพวกเขาทั้งหมดอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร
“เฉินเซวียน!” แม้แต่ฉู่จงเทียนก็ตกใจเมื่อได้ยินชื่อนี้
“ผลของการต่อสู้เป็นยังไง?” ฉินหว่านหรูถามอย่างเร่งรีบ
“พวกมันตายกันหมด” ซูอันตอบ
“ตาย?” พวกเขาทั้งหมดงงงวย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าใจความจริงที่ว่าคนอย่างเฉินเซวียนจะตายเอาง่าย ๆ แบบนี้
ซูอันเล่าเรื่องที่เขาและเจิ้งตานนัดแนะกัน “ขณะที่ข้ากำลังวิ่งหนี ข้าก็ได้ยินเสียงร้องอันก้องกังวานของสัตว์บางอย่างซึ่งข้าไม่คุ้นเสียงมันเลยจากระยะไกล และเมื่อข้าหันกลับไปดู ข้าก็ได้เห็นว่ามันคือมังกรยักษ์สีแดงกำลังบินวนเหมือนโจมตีอะไรสักอย่างอยู่ ในตอนนั้นข้าเดาว่าสิ่งที่มังกรยักษ์กำลังโจมตีน่าจะเป็นเฉินเซวียนและคนอื่น ๆ ที่ไล่ล่าผู้นำกลุ่มวาฬจนไปบังเอิญเจอรังของมังกรเข้า
“ด้วยความสงสัยข้าจึงรออยู่สักพักจนทุกอย่างสงบลง จากนั้นข้าจึงแอบลอบกลับไปดู ซึ่งข้าก็ได้เห็นซากศพจำนวนมากที่ดำเป็นถ่าน รวมถึงดาบของเฉินเซวียนก็ตกอยู่ใกล้ ๆ กับศพหนึ่งซึ่งศพนั้นคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฉินเซวียน”
ฉู่จงเทียนแทบจะกลั้นใจไม่อยู่ “มังกรยักษ์! บรรพบุรุษของเราได้ทิ้งบันทึกว่า หุบเขามังกรซ่อน มีมังกรจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ผ่านมาหลายศตวรรษแล้วก็ไม่มีใครเคยพบเห็น ดังนั้นเราทุกคนจึงคิดว่ามีข้อผิดพลาดบางอย่างกับบันทึกนั้น ดูเหมือนว่าหลังจากนี้หากมีโอกาสข้าคงต้องพาสหายทั้งหลายของข้าเดินทางเข้าไปในภูเขามังกรซ่อนเพื่อค้นหาที่อยู่ของมังกรตัวนี้สักหน่อย!”
ฉู่จงเทียนไม่สามารถต้านทานการยั่วยวนของการล่ามังกรได้! ในเวลาเดียวกัน เขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางเอาชนะสัตว์ร้ายในระดับนี้ด้วยตัวเขาเอง
ในทางกลับกัน ซูอันได้แต่ลอบขบขัน เจ้าคงจะหามันเจอหรอก ซากมังกรตัวนั้นอยู่ในดวงแก้วผู้รอบรู้ของข้านี่แหละ!
ฉินหว่านหรูยิ้ม “แม้จะผ่านอันตรายมา แต่เราก็ได้รับประโยชน์มหาศาลทั้งกลุ่มวาฬและเฉินเซวียนที่เคยเป็นปัญหาใหญ่สำหรับตระกูลฉู่ของเรา ในที่สุดพวกมันก็ถูกกำจัดทั้งคู่!”
ฉู่จงเทียนยิ้มเช่นกัน “จริงด้วย! ใครจะคิดว่าซูอันจะเป็นดาวนำโชคของเรา!”
ฉู่ชูเหยียนเดินไปที่ด้านข้างของ ซูอัน “อาซู อย่าทำสิ่งที่เป็นอันตรายเช่นนี้อีกนะ” นางกล่าวเสียงเบา “นับจากนี้หากเจ้าไปรู้เรื่องอะไรมาอีกก็มาบอกข้าก่อน ข้าจะได้ไปกับเจ้าด้วย”
ซูอันรู้สึกว่าหัวใจของเขาละลาย เขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจับมือเล็ก ๆ ของนาง
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกอายจนอยากดึงมือกลับ แต่ซูอันกำมือไว้แน่น นางทำได้เพียงปล่อยให้เขาทำได้ตามใจ
เมื่อฉู่จงเทียนสังเกตเห็น เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองภรรยาของเขา
ฉินหว่านหรูมองกลับด้วยสายตาเฉยเมย ท่านมองข้าเพื่ออะไร? ท่านอาจจะโกรธจนตายด้วยซ้ำถ้าท่านรู้ว่าแท้จริงแล้วลูกเขยของท่านทำอะไรกับลูกสาวของท่านไปแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้!
จากนั้นฉู่ชูเหยียนก็สั่งให้คนรับใช้เตรียมอ่างน้ำร้อนอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่านางกังวลว่าซูอันจะเหนื่อยเกินไป
ฉู่ฮวนเจามุ่งหน้าไปที่ห้องครัว และประกาศเสียงดังว่านางจะลงมือทำอาหารให้พี่เขยของนางเอง
ซูอันได้ลงแช่ในน้ำอุ่น ๆ อย่างสบาย ๆ และกำลังพึงพอใจกับตัวเอง แต่ก็ต้องตกใจ เขาหันกลับมาด้วยความตื่นตระหนก
ผู้เฒ่าที่ใบหน้ามีแต่ริ้วรอยเหี่ยวย่น ยืนอยู่ข้างอ่างอาบน้ำ พลางหัวเราะออกมาอย่างน่ากลัว “ดูเหมือนว่าประสาทสัมผัสของเจ้าจะเฉียบคมขึ้นมากกว่าเดิมอีกแล้ว”
“ผู้อาวุโส!” ซูอันรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง เขารีบขดตัวอยู่ในอ่างกลัวว่าชายชราจะเห็นว่าผนึกที่หว่างขาของเขาถูกแก้ไขไปแล้ว
โชคดีที่ผู้เฒ่ามี่มีบาดแผลในใจบางอย่างและปฏิเสธที่จะมองไปที่ของลับของชายผู้อื่น ดังนั้นซูอันจึงรอดตัวไปได้อย่างหวุดหวิด “เจ้าหนู นับวันเจ้ายิ่งใช้ชีวิตอย่างประมาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ขืนเจ้ายังทำตัวแบบนี้ ชีวิตของเจ้าคงจบลงก่อนถึงวัยอันควร”
ซูอันหัวเราะด้วยความอับอาย “ข้าเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้สักหน่อยผู้อาวุโส แต่สวรรค์ลิขิตชะตาให้ข้ามาเป็นแบบนี้ข้าจะไปทำอะไรได้?”
“ข้าดีใจที่เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย” ผู้เฒ่ามี่เอ่ยกลับ เขากังวลถึงซูอัน อย่างมากในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ อันที่จริง เขาน่าจะติดอันดับหนึ่งในสามคนแรกที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของซูอันมากที่สุด เนื่องจากเขาไม่มีเวลาจะไปหาผู้ที่เหมาะสมคนอื่นอีกแล้ว
ผู้เฒ่ามี่แอบคิดว่าเขาควรหักขาข้างหนึ่งของซูอันก่อนหรือไม่ เพื่อที่ซูอันจะนอนอยู่บ้านแทนที่จะออกไปเตร่ข้างนอกและพบกับอันตรายทั้งหลายทั้งปวง
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาต้องการให้ซูอันทำ ดังนั้นเขาจึงขจัดความคิดที่เย้ายวนใจนี้
“ข้ามีงานใหม่ให้เจ้า” ผู้เฒ่ามี่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“งานใหม่?”
ผู้เฒ่ามี่นำกล่องเล็ก ๆ ที่ถูกสลักลวดลายอย่างประณีตออกมา “หากเห็นกล่องที่เหมือนกับใบนี้ในคฤหาสน์ตระกูลเว่ย แล้วเอามาให้ข้า”
“มีอะไรอยู่ข้างใน?” ซูอันสงสัย กล่องใบนี้ทำจากไม้แพร์ชั้นหนึ่งแถมยังลงลวดลายที่ละเอียดและประณีต ทำให้คาดหวังถึงความล้ำค่าของสิ่งที่ถูกเก็บอยู่ภายใน
ผู้เฒ่ามี่พ่นลมหายใจ “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามีอะไรอยู่ในกล่อง แค่จำไว้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง และนำกล่องใบที่หน้าตาเหมือนกันของตระกูลเว่ยมาให้ข้า”
ซูอันเกาหัว “ผู้อาวุโส ข้าเริ่มสับสน ด้วยความแข็งแกร่งของท่าน มันจะไม่ง่ายกว่าเหรอถ้าท่านจะไปหาสิ่งที่ท่านต้องการจากตระกูลเว่ยด้วยตัวเอง? ทำไมท่านถึงต้องลำบากส่งข้าไปด้วย?”
ผู้เฒ่ามี่สามารถป้วนเปี้ยนอย่างเป็นอิสระในเขตคฤหาสน์ของตระกูลฉู่ ได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น แม้แต่ฉู่จงเทียนที่เป็นผู้บ่มเพาะระดับแปดก็ไม่สามารถรับรู้การมีตัวตนภายในเขตคฤหาสน์ของชายชราผู้นี้ได้
ไม่ว่าการรักษาความปลอดภัยในคฤหาสน์ตระกูลเว่ยจะเข้มงวดแค่ไหน มันก็คงไม่ดีไปกว่าการคุ้มกันภายในที่ดินของอ๋องใช่หรือไม่?
ผู้เฒ่ามี่พ่นเสียง “ข้ามีเหตุผลของข้า ถ้าข้าบอกให้ไปเจ้าก็จงไป อย่าทำตัวไร้สาระกับข้า!”
“ก็ได้ ก็ได้ ผู้อาวุโส” ซูอันยักไหล่ เนื่องจากไม่ใช่งานที่ยากเกินไป เขาแค่ช่วยชายชราก็พอแล้ว