เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 541 ใช้เส้นสายเข้าพบ
บทที่ 541 ใช้เส้นสายเข้าพบ
บทที่ 541 ใช้เส้นสายเข้าพบ
ซูอันตกตะลึง “เจ้าคิดว่าข้ากับอาจารย์ใหญ่เจียงมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราสองคนจริง ๆ งั้นเหรอ?” เขาหัวเราะ
ฉู่ชูเหยียนหน้าแดง “ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เจ้าสองคนสนิทกันมากกว่าที่ข้าคิดไว้มาก!”
“ข้าก็อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์แบบนั้นกับนาง แต่ข้าคงจะตายด้วยลูกเตะของนางซะก่อน” ซูอันกล่าวอย่างเสียใจ “ข้าสนิทกับนางมากขึ้นเพราะเรื่องของสำนักดอกบ๊วย สามีของเจ้าเป็นผู้มีพรสวรรค์เหนือคนสามัญ นางรับรู้ถึงศักยภาพของข้าตั้งแต่แรก แค่เพียงมองปราดเดียว นางก็สามารถบอกได้ว่าข้าถูกลิขิตมาให้ยิ่งใหญ่… อ…เอ๊ะ? เดี๋ยวก่อนสิ ที่รัก เจ้าจะไปไหนน่ะ? เฮ้อ…ทำไมไม่มีใครเชื่อข้าเมื่อข้าพูดความจริง?”
…
ทั้งสองออกจากสถาบันจันทร์กระจ่างและมุ่งหน้าไปยังเขตของตระกูลหวาง
หลังจากแลกเปลี่ยนการทักทายและเล่าถึงสถานการณ์ของตระกูลฉู่ หวางฝูก็เริ่มทำหน้าหนักใจ “หลานสาวของข้า ข้ารู้ว่าข้าควรจะช่วยพี่จงเทียนออกมาให้ได้ แต่เจ้าก็ทราบดีว่าตระกูลหวางของเราขณะนี้ก็กำลังอยู่ในวิกฤตเช่นกัน ข้าไม่สามารถช่วยพวกเจ้าได้จริง ๆ!”
ฉู่ชูเหยียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ท่านลุง แน่นอนข้ารู้เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับตระกูลหวาง ข้าไม่ได้มาเพื่อขอความช่วยเหลือจากท่านในวันนี้”
หวางฝูรู้สึกประหลาดใจ “อ้าว แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม?”
“ข้าต้องการรู้ว่ามีกี่คนในตระกูลหวางที่รู้เกี่ยวกับการใช้ใบอนุญาตค้าเกลือล่วงหน้า!” ฉู่ชูเหยียนกล่าว
การแสดงออกของหวางฝูขุ่นมัวลง “หลานข้า ตัวข้ากังวลว่าหนึ่งในสมาชิกตระกูลของเราได้เปิดเผยความลับเรื่องนี้และทำให้อ๋องฉู่ถูกจับงั้นเหรอ?”
ฉู่ชูเหยียนตอบว่า “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น แน่นอนว่าข้าไม่ได้สงสัยตระกูลหวาง แต่ตระกูลซ่างมีสายลับอยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นจึงน่าจะมีโอกาสที่ข้อมูลจะรั่วไหลโดยไม่เจตนา”
“เป็นไปไม่ได้!” หวางฝูกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว “ผู้คุ้มกันส่วนใหญ่ที่คุ้มกันขบวนขนส่งสินค้าเสียชีวิตจากการโจมตี มีเพียงข้า หยวนหลง พ่อบ้าน และคนอื่น ๆ อีกสองสามคนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ และคนอื่น ๆ เหล่านี้ทุกคนอยู่ในตระกูลหวางมาหลายสิบปีแล้ว พวกเขาเชื่อถือได้อย่างแน่นอน”
ฉู่ชูเหยียนยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของเขา “ดูเหมือนว่าข้าจะคิดผิดไป ท่านลุงมีคำแนะนำสำหรับตระกูลฉู่เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเราบ้างหรือไม่? ยังมีใครอีกในเมืองจันทร์กระจ่างที่เราจะสามารถขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหานี้ได้บ้าง”
หวางฝูตอบอย่างรวดเร็วว่า “ย่อมมีแน่นอน ข้าพอรู้จักคนอยู่บ้าง แต่ เมื่อสถานการณ์หนักหนาขนาดนี้ ข้าไม่แน่ใจว่าจะมีใครมีอำนาจพอสามารถช่วยได้หรือไม่…”
…
เมื่อพวกเขาออกจากตระกูลหวาง ซูอันก็เอ่ยขึ้น “เจ้าบอกว่าหวางฝูเป็นคนเสนอความคิดที่จะใช้ใบอนุญาตค้าเกลือล่วงหน้า เป็นไปได้ไหมว่าตระกูลหวางอาจอยู่ฝั่งซ่างหงไปแล้ว? บางทีพวกเขาอาจจะสมรู้ร่วมคิดกัน”
ฉู่ชูเหยียนส่ายหัว “ตระกูลหวางและตระกูลฉู่เป็นพันธมิตรกันมานานหลายร้อยปี และความผูกพันของพวกเราก็แน่นแฟ้น ข้าไม่เชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น หรือต่อให้มันจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย…แต่ตอนนี้มันก็ไร้ประโยชน์แล้วที่จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญสูงสุดคือการหาวิธีช่วยให้ตระกูลฉู่ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้”
“เจ้าพูดถูก” ซูอันเห็นด้วย “ต่อไปเราจะทำอะไรกัน?”
“เราจะไปจวนเจ้าเมือง!” ฉู่ชูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ซูอันเห็นพ้องในเรื่องนี้เช่นกัน มีเพียงไม่กี่ตระกูลที่มีความแข็งแกร่งที่จะช่วยตระกูลฉู่ให้พ้นจากวิกฤตครั้งนี้ ทั้งตระกูลหยวน และตระกูลเจิ้งต่างก็ไม่เป็นมิตรกับตระกูลฉู่ และตระกูลอู๋ก็เช่นกัน ดังนั้นตัวเลือกต่อไปจึงเป็นตระกูลเซี่ย
เหตุผลที่ฉู่ชูเหยียนไม่ได้เข้าหาตระกูลเซี่ยแต่แรก เพราะราชันฉีกำลังสนับสนุนพวกเขาอยู่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาอับจนหนทางแล้ว ดังนั้นจึงต้องพยายามลองดู
เมื่อทั้งสองมาถึงจวนเจ้าเมือง คนรับใช้ที่ประตูเข้าไปแจ้งข่าว ครู่ต่อมาก็วิ่งออกมาขอโทษอย่างล้นเหลือ “คุณหนูฉู่ ท่านเจ้าเมืองออกไปจัดการเรื่องบางอย่างและยังไม่กลับมาเลย”
ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้ว “เจ้ารู้ไหมว่าท่านเจ้าเมืองหายไปไหน? อีกนานแค่ไหนเขาถึงจะกลับมา?”
คนรับใช้ส่ายหัว “ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย คุณหนูฉู่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนใช้อย่างข้าจะรู้ได้”
ฉู่ชูเหยียนดูผิดหวัง “ขอบคุณสำหรับความพยายามของเจ้า” นางหันหลังและทำท่าจะเดินจากไป
คนรับใช้ถอนหายใจในใจ ในขณะที่เขาชื่นชมร่างที่จากไปของนาง คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่สวยกว่าในข่าวลือซะอีก! นางเป็นคนสุภาพและถ่อมตัวอีกต่างหาก คนรับใช้คนนี้จะคุยโวเกี่ยวกับบทสนทนาสั้น ๆ นี้ไปตลอดชีวิต
“เราจะไปกันทั้งอย่างนี้เหรอ?” ซูอันอดไม่ได้ที่จะถาม
“เราจะทำอะไรได้อีก?” ฉู่ชูเหยียนถอนหายใจ “ไม่ว่าเจ้าเมืองเซี่ยจะออกไปข้างนอกจริง ๆ หรือว่าเขาไม่สนใจเรา มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่าง”
ซูอันลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “การเข้าสู่จวนเจ้าเมืองไม่ใช่เรื่องยาก”
ฉู่ชูเหยียนตกตะลึง “เจ้ามีวิธีเข้าไปงั้นเหรอ?”
ซูอันยิ้มอย่างลึกลับ “คอยดูข้าก็แล้วกัน!”
เมื่อคนรับใช้นั้นเห็นซูอันเดินกลับมา เขาก็โบกมือทันทีและพูดว่า “ท่านเจ้าเมืองไม่อยู่ที่นี่!”
ผู้ชายคนนี้ดูหล่อกว่าข้าไม่เท่าไหร่ เขาทำอีท่าไหนถึงไปแต่งงานกับแม่นางฉู่ได้?
ซูอันโยนเงินให้คนรับใช้ก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบท่านเจ้าเมืองเซี่ย ข้ามาพบคุณหนูใหญ่ของเจ้า!”
จากการไปที่สถาบันจันทร์กระจ่างวันนี้ เขารู้ว่าเซี่ยเต๋าอวิ๋นไม่ได้เข้าชั้นเรียน
ทายาทของตระกูลที่มีอิทธิพลเช่นตระกูลเซี่ยจะเข้าเรียนในชั้นเรียนก็ต่อเมื่อพวกเขารู้สึกอยากไปเช่นนั้น ถ้าพวกเขาไม่มีอารมณ์ หรือมีเรื่องอื่นที่ต้องดูแล พวกเขาก็จะโดดเรียนเอาง่าย ๆ
ดวงตาของผู้รับใช้คนนั้นเป็นประกายทันทีเมื่อเขาชั่งน้ำหนักเงินในฝ่ามือของเขา “ตกลง ข้าจะแจ้งการมาถึงของท่านให้กับคุณหนูใหญ่ของเรา แต่ว่าข้ารับรองไม่ได้ว่าคุณหนูใหญ่จะยอมพบกับท่านหรือไม่”
ซูอันยิ้ม “ข้าแค่ต้องการให้เจ้าบอกนางว่าข้าเป็นใคร”
คนรับใช้พยักหน้าและวิ่งเข้าไปข้างใน ไม่นานเขาก็โผล่ออกมาอีก “คุณหนูของเรายินดีต้อนรับนายน้อย”
ในตอนแรกคนรับใช้นั้นไม่เชื่อว่าบุตรเขยของตระกูลฉู่จะเป็นที่ต้อนรับ เพราะปกติแล้วคุณหนูใหญ่จะไม่ค่อยรับแขก แต่คราวนี้นางกลับอนุญาตให้ซูอันเข้ามาทันทีที่ได้รับรายงาน เขาไม่เคยเห็นคุณหนูตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน!
ซูอันกวักมือเรียกฉู่ชูเหยียนให้นางเข้าไปกับเขา
คนรับใช้มีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย “คุณหนูของตระกูลเราไม่ได้บอก…”
ซูอันตัดบทก่อนที่เขาจะพูดจบ “นางไม่ได้ห้ามให้คนอื่นตามข้าเข้าไปใช่ไหม?”
คนรับใช้ตกตะลึง “นางไม่ได้ห้าม”
“แล้วมีปัญหาอะไรล่ะ? คุณหนูใหญ่ของเจ้าและข้าก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” ซูอันคว้ามือฉู่ชูเหยียนและเดินตรงเข้าไปในจวนเจ้าเมือง
ฉู่ชูเหยียนคว้าแขนเสื้อของซูอัน “เจ้าสนิทกับแม่นางเซี่ยมากแค่ไหน?”
นางพอจะรู้จักนิสัยของเซี่ยเต๋าอวิ๋นอยู่บ้าง เนื่องจากทั้งคู่มักจะเข้าร่วมการประชุมบทกวีหลายครั้ง เซี่ยเต๋าอวิ๋นไม่ค่อยต้อนรับผู้ชายที่เข้าหาสักเท่าไหร่
ซูอันยิ้ม “เมื่อเจอผู้ชายหล่อ ๆ อย่างข้า ผู้หญิงก็ย่อมอดไม่ได้ที่จะดูแลเขาให้ดีกว่าคนอื่น!”
ฉู่ชูเหยียนจ้องที่ซูอันพลางคิดถึงเหตุการณ์ที่คุ้นเคย สิ่งเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นที่ตระกูลเจิ้งเช่นกัน
สาวงามทุกคนในเมืองจันทร์กระจ่างดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับเขา!
นางเริ่มตื่นตระหนก “อาซู เจ้าปิดบังข้าไว้หลายอย่างเลยนะ!”
ซูอันยักไหล่ “ก็ข้าบอกเจ้าไปหลายอย่างแล้ว แต่เจ้าไม่เชื่อข้าเลย”
ฉู่ชูเหยียนกำลังจะต่อว่าเขา แต่เซี่ยเต๋าอวิ๋นก็เดินมาพอดี