เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 558 ดักฆ่า
บทที่ 558 ดักฆ่า
บทที่ 558 ดักฆ่า
ซูอันใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ “ซ่างเชียนอาจไม่ต้องการยกระดับเรื่องนี้ เขากำลังบอกให้พ่อค้าตลาดมืดรู้เป็นนัย ๆ ว่าเขาจะไม่แตะต้องอีกฝ่าย แค่ต้องการใบอนุญาตค้าเกลือเท่านั้น”
ฉินหว่างหรูจ้องมองซูอัน กระบวนการวิเคราะห์ของไอ้เด็กนี่เฉียบคมอย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่เหมือนไอ้งี่เง่าที่นางเคยคิดว่าเขาเป็น!
ฮึ่ม! เขาคงแกล้งจงใจทำตัวโง่เง่าสินะ! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่ผ่านมาข้าจะหลงเชื่อเขาอย่างเต็มเปา!
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 379!
—
ซูอันตกตะลึง ทำไมจู่ ๆ นางก็โกรธเขาอย่างไม่มีสาเหตุ?
“ตามพวกเขาไป!” ฉินหว่านหรูยังคงหงุดหงิดที่ถูกซูอันลากไปมาตลอดเวลา ดังนั้นนางจึงตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายสั่งการบ้าง นางดึงคอเสื้อเขาและตามคนของซ่างเชียนไปอย่างเงียบ ๆ
พวกเขายังอยู่ในเขตเมือง แม้ว่าย่านนี้จะอยู่ในพื้นที่ชายขอบที่มีผู้คนอาศัยอยู่น้อย แต่ก็ยังพอมีบ้านเรือนริมถนนที่สามารถใช้เป็นที่กำบังได้ แม้ว่านางกำลังลากใครซักคนไปพร้อมกับนาง
ซูอันกำลังร้องไห้อยู่ในใจ เขาถูกลากคอไปมาราวกับสุนัขตัวหนึ่ง!
ฉินหว่านหรูกำลังชั่งใจ ซ่างเชียนอยู่ในระดับที่ห้าเท่านั้น แม้จะอยู่กับกลุ่มลูกน้อง นางก็ยังมีโอกาสที่จะยึดใบอนุญาตค้าเกลือคืนมาได้
ไม่ต้องพูดถึงว่ายังมีซูอันคอยช่วยนาง
ซูอันสังเกตเห็นว่านางกระตือรือร้นที่จะกระโดดเข้าไป เขาจึงรีบเตือนนาง “ไม่ต้องออกไปท่านแม่ยาย! เชื่อข้า เดี๋ยวก็มีคนมา!”
ทันใดนั้น ราวกับเป็นการยืนยันคำพูดของเขา ลูกศรจำนวนหนึ่งพุ่งเข้าหากลุ่มของซ่างเชียน
ซ่างเชียนชักกระบี่ออกมาในทันทีเพื่อปัดป้องลูกศรที่พุ่งเข้ามา แต่เขาไม่สามารถเบี่ยงวิถีพวกมันทั้งหมดได้ ลูกน้องจำนวนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเขาถูกศรได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นชายชุดดำกลุ่มหนึ่งกระโจนออกมาจากด้านในบ้านที่อยู่ใกล้เคียง คมดาบของพวกเขาส่องประกายภายใต้แสงจันทร์ จากนั้นพวกเขาก็พุ่งตรงเข้ากลุ่มของซ่างเชียนอย่างดุดัน
ซ่างเชียนทั้งตึงเครียด ทั้งโกรธ เขาตะโกนก้อง “บอกชื่อของเจ้ามา! การโจมตีเจ้าหน้าที่ทางการเป็นความผิดที่มีโทษถึงขั้นล้างตระกูล!”
เหล่าบุคคลที่สวมชุดดำไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ พวกเขาจดจ่ออยู่กับการไล่สังหารคนของซ่างเชียนเท่านั้น ทุกการโจมตีของพวกเขาจะเล็งไปยังจุดสำคัญของคู่ต่อสู้
แค่เพียงระลอกของการโจมตี ลูกน้องของซ่างเชียนเกือบทั้งหมดก็ได้รับบาดเจ็บและมีหลายคนเสียชีวิตทันที
ฉินหว่านหรูตกใจ “ชายชุดดำพวกนี้มาจากไหน? ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาสูงกว่าทหารในกองทัพผ้าคลุมสีชาดซะอีก!”
ซูอันประหลาดใจมากเมื่อเห็นว่าคนชุดดำเหล่านี้เกือบทุกคนอยู่ในระดับสี่!
ในฐานะผู้บ่มเพาะระดับสี่ คนเหล่านี้ทั้งหมดจึงมีคุณสมบัติพอที่จะได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ปกครองเมืองเล็ก ๆ!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความแข็งแกร่งของชายชุดดำเหล่านี้ใกล้เคียงกับของเขาเอง บางทีอาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ
ซ่างเชียนได้นำผู้ช่วยที่ไว้ใจได้มากับตัวเองในครั้งนี้ ไม่ใช่พวกฝีมืออ่อนด้อยของกองทหารลาดตระเวนลำน้ำ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะถูกกวาดล้างไปตั้งแต่ห่าลูกศรชุดแรก
ถึงกระนั้น กลุ่มของซ่างเชียนก็ดูจะไม่ใช่คู่มือของกลุ่มคนชุดดำเหล่านี้
ซ่างเชียนคำรามด้วยความโกรธขณะที่ลูกน้องของเขาล้มลงทีละคน “ไปลงนรกซะ ไอ้พวกนอกกฎหมาย!”
หลังจากตะโกนจบ ซ่างเชียนก็โคจรพลังของตนเองไปที่กระบี่ในมืออย่างฉับพลัน ส่งผลให้กระบี่ของเขามีเปลวไฟลุกท่วมในเวลาเพียงชั่วอึดใจ จากนั้นเขาจึงเหวี่ยงกระบี่ปลดปล่อยคลื่นเปลวไฟไปข้างหน้ากินพื้นที่ยาวสิบห้าจั้ง กวาดล้างกลุ่มคนชุดดำอย่างดุเดือด
กลุ่มคนชุดดำถูกโจมตีจนกระจัดกระจายไป มีสองสามคนที่ไม่สามารถหลบได้ทันเวลา จึงถูกปราณกระบี่ผ่าร่างแยกออกเป็นสองส่วน และถึงแม้ว่าจะถูกแยกร่างไปแล้วคนเหล่านั้นก็ยังคงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช เพราะถูกเปลวไฟที่ร้อนแรงลุกลามเผาเนื้อหนังของพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
ซูอันตกตะลึง ไม่คิดเลยว่ากระบี่ไฟของซ่างเชียนจะรุนแรงขนาดนี้ ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าข้าทำอะไรกับเจิ้งตาน ข้าอาจเป็นคนที่ถูกโจมตีด้วยกระบี่สิบห้าจั้งนี้ ข้าจะสามารถหลบมันพ้นได้หรือไม่?
แต่ซ่างเชียนกับเจิ้งตานดูไม่เหมาะกันจริง ๆ เจิ้งตานเป็นผู้ใช้ธาตุน้ำ ในขณะที่ซ่างเชียนบ่มเพาะธาตุไฟ…
“แม้ว่าคนชุดดำเหล่านี้จะมีระดับการบ่มเพาะที่ดี แต่ซ่างเชียนก็แข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด” ฉินหว่านหรูตั้งข้อสังเกต “ช่องว่างของความแข็งแกร่งระหว่างระดับสี่และห้าไม่ใช่สิ่งที่สามารถทดแทนด้วยจำนวนคนที่มากกว่าได้ และไม่ต้องพูดถึงว่าซ่างเชียนถือเป็นผู้แข็งแกร่งแม้ในหมู่ผู้บ่มเพาะระดับที่ห้าด้วยซ้ำ”
“ไม่ต้องกังวล ข้าแน่ใจว่ากลุ่มคนชุดดำเหล่านี้มีอะไรมากกว่าที่เห็น” ซูอันเดาว่าภูมิหลังของชิวฮัวเล่ยน่าจะยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นจึงมั่นใจว่ากลุ่มคนชุดดำพวกนี้ไม่มีทางแพ้ง่าย ๆ
ในทันทีที่เขาพูดจบ จู่ ๆ ก็มีโคมไฟดวงหนึ่งถูกจุดขึ้นใกล้ ๆ มันปล่อยแสงไฟสีเหลืองอ่อน ๆ
เป็นเรื่องน่าฉงนเพราะทันทีที่โคมไฟดวงนี้ถูกจุด ซ่างเชียนก็รู้สึกราวกับว่ามีพลังบางอย่างกำลังกดทับเขาอยู่จนแทบจะหายใจไม่ออก
ซ่างเชียนรู้สึกทันทีราวกับว่าติดหล่มอยู่ในหนองน้ำ แม้แต่อากาศรอบ ๆ ตัวเขาก็กลับกลายเป็นเหนียวเหนอะหนะสูดหายใจยาก การเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อยในตอนนี้ดูเหมือนจะต้องการความแข็งแกร่งหลายเท่าจากปกติ
เปลวไฟบนกระบี่ของเขาก็เริ่มมอดลงเช่นกัน ราวกับว่ามันเริ่มขาดอากาศในการเผาไหม้
ฉินหว่านหรูรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าโคมไฟนั้นเป็นสมบัติวิเศษประเภทใด “โคมนั้นคงเป็นอาวุธวิเศษที่มีผลจำกัดการเคลื่อนไหว ข้าสงสัยว่าอาวุธอันน่าทึ่งนี้เป็นของใคร!”
ซูอันตื่นตระหนก “จำกัดการเคลื่อนไหว? ไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ? แบบนี้ก็สามารถใช้มันแช่แข็งศัตรูและฆ่าอีกฝ่ายได้อย่างง่าย ๆ เลยนี่นา!”
ฉินหว่านหรูส่ายหัว “มันไม่ง่ายอย่างนั้น อำนาจของมันขึ้นอยู่กับความแตกต่างในการบ่มเพาะระหว่างทั้งสองฝ่าย หากมันถูกใช้กับผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอกว่าเช่นเจ้า เป็นไปได้ที่เจ้าอาจจะไม่สามารถขยับได้แม้แต่กระดิกนิ้ว”
ซูอันขมวดคิ้ว ขอบคุณมากสำหรับการอธิบายเรื่องนี้ แต่ทำไมท่านต้องยกตัวอย่างให้เป็นข้าด้วย?
“แต่ถ้าหากใช้กับผู้บ่มเพาะที่มีระดับสูงกว่า มันจะส่งผลแค่ทำให้การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายช้าลงเท่านั้น” ฉินหว่านหรูกล่าวเสริม “และแน่นอนว่าหากอีกฝ่ายมีระดับสูงกว่ามาก ๆ โคมไฟนี้อาจไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
“แล้วถ้าใช้กับท่านล่ะ?” ซูอันถามด้วยความสงสัย
ใบหน้าของฉินหว่านหรูกลายเป็นสีแดง นางจ้องมองที่เขาครู่หนึ่ง
เจ้าพูดจาดี ๆ แบบคนอื่นเขาได้บ้างไหม?