เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 580 วิธีรักษาที่เป็นไปได้
บทที่ 580 วิธีรักษาที่เป็นไปได้
บทที่ 580 วิธีรักษาที่เป็นไปได้
จี้เสี่ยวซีตื่นตระหนก “ก่อนหน้านี้ข้ากำลังนอนอยู่บนเตียง ไม่มีใครมาทำร้ายข้าทั้งนั้น กลับเป็นพวกท่านที่มาก่อปัญหา!”
หงจงยิ้ม “ดูเหมือนว่าการโกหกจะไม่ใช่จุดแข็งของเจ้าเลย แม่นางจี้ เสื้อผ้าของเจ้าเรียบร้อยและผมเผ้าก็ไม่ได้ยุ่งเหยิง เจ้าดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งลุกมาจากเตียง อย่างไรก็ตาม คำพูดของเจ้าทำให้ข้านึกถึงบางอย่าง บางทีอาจมีใครบางคนซ่อนตัวอยู่ในห้องของเจ้า เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะช่วยหมอเทวะจี้ดูแลปกป้องลูกสาวของเขาให้”
หลังจากพูดเช่นนี้ เขาก็เบนสายตามองไปทางห้องของจี้เสี่ยวซี ทหารที่ติดตามเขาวิ่งเข้าไปด้านใน
ทหารเหล่านี้รักษาการณ์คุ้มกันคฤหาสน์ตระกูลฉู่มาช้านานแล้ว พวกเขาจึงคุ้นเคยกับรูปแบบจัดวางห้องต่าง ๆ ของที่อยู่อาศัย ดังนั้นจึงทราบได้ทันทีว่าห้องใดเป็นห้องของเจ้าของบ้านและห้องใดเป็นห้องของหญิงสาว
จี้เสี่ยวซีกระโจนไปขวางหน้าประตูห้องของนางอย่างว่องไว นางกางแขนออกราวกับแม่ไก่ปกป้องลูกเจี๊ยบ “นี่คือห้องของข้า! จะเข้าไปก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”
นางแอบตรวจดูคลังยาพิษของนางขณะพูด และเริ่มวางแผนจะใช้พวกมันเพื่อจัดการกับคนพวกนี้
ขณะที่นางกำลังกางแขนเช่นนี้ หงจงสะบัดนิ้วของเขา เส้นพลังบางใสพุ่งมากระทบร่างกายของนางจนสั่นสะท้าน และนางก็ตระหนักว่าตัวเองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
หลังจากตรึงร่างจี้เสี่ยวซีเรียบร้อย หงจงก็เอ่ยขึ้น “ปฏิกิริยาของแม่นางจี้ นั้นผิดธรรมชาติ ข้าเชื่อว่าเจ้าถูกคุกคามโดยคนทรยศ และไม่สามารถพูดความจริงได้ สิ่งนี้ทำให้เรามีเหตุผลมากขึ้นที่จะช่วยเจ้าออกไป”
เหล่าทหารที่อยู่ข้างเคียงที่มากับเขาต่างเชื่อมั่นคำพูดของหงจงมากขึ้น และเดินไปข้างหน้าเพื่อดันประตูให้เปิดออก
จี้เสี่ยวซีน้ำตาคลอเบ้า ขณะนี้นางทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ภายในห้อง ซูอันตั้งท่าเตรียมพร้อมเสมือนเสือดาวพร้อมขย้ำเหยื่อ
เขาพร้อมที่จะกระโดดออกไปต่อสู้กับเหล่าผู้บุกรุกจนตัวตาย
แต่ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องอันน่าสังเวชก็ดังขึ้นจากด้านนอก เหล่าผู้บุกรุกถูกส่งลอยขึ้นไปบนอากาศทีละคน
ร่างสูงเพรียวปรากฏตัวขึ้น ผมของนางรวบเป็นหางม้าแบบสบาย ๆ คอของนางยาวระหงอย่างสง่างาม
อย่างไรก็ตาม คุณลักษณะที่สะดุดตาที่สุดของนางคือขาที่เรียวยาวน่าดึงดูดใจในถุงน่องสีดำที่ส่องประกายระยิบระยับ
กระนั้นแล้ว ไม่มีใครกล้าเชยชมความงามของนางในตอนนี้ แม้ว่านางจะสวย แต่ก็อันตรายยิ่งยวด
ทหารที่อยู่ข้างหลังนางถูกถีบส่งไปในอากาศอย่างง่ายดายด้วยขาคู่สวยของนาง
เหล่าทหารของตระกูลฉู่ ล้วนแต่เป็นทหารชั้นยอดและผู้ที่ถูกเรียกให้เข้าร่วมปฏิบัติการนี้ก็เก่งกาจที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถต้านท้านความดุดันของขาคู่นี้ได้
“ป้าน้อย!” จี้เสี่ยวซีดีใจมากทันทีที่เห็นนาง
ฉู่เทียนเซิงและหงจงต่างมองหน้ากันอย่างตกตะลึง “อ…อาจารย์ใหญ่เจียง!”
เจียงลั่วฝูปลดผนึกบนจุดชีพจรของจี้เสี่ยวซีออกทันที นางกวาดตามองดูผู้บุกรุกอย่างเย็นชา “พวกเจ้าเบื่อชีวิตนักใช่ไหมถึงกล้ารังแกเสี่ยวซีของข้า!”
ฉู่เทียนเซิงเริ่มอธิบายอย่างบ้าคลั่ง “พวกเรากำลังตามจับซูอัน…”
เขาเล่าเรื่องที่หงจงพูดไว้ก่อนหน้านี้คร่าว ๆ
เจียงลั่วฝูตัดบทอย่างไม่อดทน “เมื่อไหร่กันที่ตระกูลจี้อนุญาตให้พวกเจ้าเข้ามายุ่มย่าม! ไม่ว่ามีเรื่องใดเกิดขึ้นในตระกูลฉู่ ข้าก็ไม่ใส่ใจ สิ่งที่ข้าสนมีเพียงอย่างเดียวคือพวกเจ้าไม่อาจบุกรุกเข้ามาในเรือนตระกูลจี้ได้! จงไสหัวออกไปซะ!”
คลื่นพลังอันแข็งแกร่งปะทุออกจากร่างนางทันทีที่พูดจบ
ทหารทุกคนจากตระกูลฉู่ต่างล่าถอย แม้แต่หงจงและฉู่เทียนเซิงก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้และถอยออกจากด้านในเรือนด้วยความตื่นตระหนก
เจียงลั่วฝูพ่นลมหายใจพลางสะบัดแขนเสื้อส่งพลังไร้รูปลักษณ์ปิดประตูเรือนเสียงดังสนั่น
จากนั้นนางก็ผลักประตูห้องนอนของจี้เสี่ยวซีและเดินเข้าไปข้างในห้องอย่างไม่แยแสต่อเหล่าผู้บุกรุกที่ถอยกรูดไปอยู่ด้านนอก
ซูอันประสานมือคารวะของเขา “ขอบคุณ อาจารย์ใหญ่เจียง!”
เจียงลั่วฝูขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าถึงอยู่บนเตียงของเสี่ยวซี เจ้าอยากให้ชาวบ้านร่ำลือข่าวเท็จต่ำตมหรือไร? ลงมาเดี๋ยวนี้!”
ซูอันหัวเราะอย่างขมขื่น เขารีบกระโดดลงจากเตียง ใบหน้าของจี้เสี่ยวซีแดงเหมือนแอปเปิ้ล
เจียงลั่วฝูนั่งลงและตรวจสอบอาการของฉินหว่านหรู ซูอันบอกการวินิจฉัยของจี้เติ้งถูให้นางฟังอย่างรวดเร็ว
หลังจากลังเลเล็กน้อย เจียงลั่วฝูก็พูดว่า “ข้ามีวิธีช่วยนาง”
ซูอันดีใจมาก เขาคว้าแขนเจียงลั่วฝูแล้วถามอย่างเร่งร้อน “ต้องทำอย่างไร?”
จี้เสี่ยวซีก็อยากรู้เช่นกัน ป้าน้อยของนางไม่มีความรู้ทางการแพทย์มากนัก ทั้งนางและพ่อของนางต่างไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับอาการของ ฉินหว่านหรูได้ ป้าของนางจะเสนอวิธีการแบบไหนกันแน่?
เจียงลั่วฝูมองมือของซูอันอย่างเย็นชา
ซูอันรู้สึกผิด “ขอโทษด้วย ข้าแค่กังวล”
เจียงลั่วฝูกล่าวต่อ “น่าเสียดายที่มันไม่มีประโยชน์แม้ว่าข้าจะอธิบายวิธีนี้ให้เจ้าฟัง”
“จะไม่มีประโยชน์ได้ยังไง ท่านป้าน้อยได้โปรดบอกเราที บางทีเราอาจทำสำเร็จได้ถ้าเราร่วมมือกัน!” จี้เสี่ยวซีเรียกร้อง นางสนใจในเรื่องการแพทย์อยู่เสมอ ดังนั้นนางจึงกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทั้งยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉินหว่านหรูจะฟื้นตัว
เจียงลั่วฝูลังเล แต่ในท้ายที่สุดนางก็ยังคงพูดว่า “ข้าเคยอ่านบันทึกโบราณที่ระบุว่าผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำที่ได้ฝึกฝน ‘วิชาปฐมบทแรกเริ่ม’ จะมีความสามารถในการฟื้นฟูผู้อื่น”
“พรสวรรค์ระดับเลิศล้ำ?” จี้เสี่ยวซีตะลึง หลายร้อยปีไม่เคยมีใครที่มีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำมาก่อน ทุกคนเชื่อว่ามันเป็นเพียงแค่ตำนาน
ส่วน ‘วิชาปฐมบทแรกเริ่ม’ นี้ยิ่งไม่เคยได้ยินเข้าไปใหญ่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ป้าน้อยของนางเอ่ยว่า ‘ต่อให้พวกนางรู้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์’
เจียงลั่วฝูมองซูอันเป็นเวลานาน นางรู้ว่าซูอันมีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำ แต่นางไม่เคยได้ยินคำว่า ‘วิชาปฐมบทแรกเริ่ม’ มาก่อน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ข้อมูลนี้ไร้ประโยชน์
มีเพียงซูอันเท่านั้นที่มีท่าทางแปลก ๆ เขาคือผู้ที่มีพรสวรรค์ระเลิศล้ำและยิ่งไปกว่านั้น เขาคือผู้ฝึกวิชาปฐมบทแรกเริ่มอีกต่างหาก
นอกจากนี้แล้วเขายังรู้วิธีการรักษาด้วย!
แต่เขาจะช่วยนางได้อย่างไร!
เขาเคยใช้แก่นแท้โลหิตของตนเองรักษาฉู่ชูเหยียนแค่เพียงคนเดียว แถมวิธีการรักษาก็…วิธีการแบบนั้นเขาจะใช้กับฉินหว่านหรูได้อย่างไร!
แม้ว่าโลกนี้ผู้คนจะมีความคิดเปิดกว้างมากกว่าจีนโบราณในโลกก่อนของเขา แต่ทุกอย่างก็ยังมีขีดจำกัด…
พวกเขากำลังเหยียบย่ำเส้นศีลธรรมอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าโลกไหน ยุคไหน การกระทำเช่นนั้นถือเป็นข้อห้ามอย่างใหญ่หลวง
ถึงแม้เขาอาจจะช่วยชีวิตแม่ยายของตนเองได้ แต่ชายหนุ่มก็คงจะเสียใจไปตลอดชีวิต!
ซูอันรู้สึกขัดแย้งภายใน เขาคงจะไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานถ้าเขาไม่ช่วยใครสักคนหากว่าสามารถช่วยได้ แต่ถ้าเขาช่วยแม่ยายตัวเองด้วยวิธีการนั้น ตัวเองจะแย่กว่าสัตว์เดรัจฉานซะอีก!
ถ้าฉินหว่านหรูเป็นผู้หญิงคนอื่น ซูอันคงจะช่วยอย่างยินดีไปแล้ว แต่ฉินหว่านหรูเป็นคนที่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!