เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 599 ลูกนกตัวน้อยที่หายไป
บทที่ 599 ลูกนกตัวน้อยที่หายไป
บทที่ 599 ลูกนกตัวน้อยที่หายไป
ซูอันก็ตกใจเช่นกัน ตอนแรกเขาสับสนว่าทำไมผู้เฒ่ามี่ไม่ใช้ทักษะพิเศษเช่นจ้าววายุในการต่อสู้กับเว่ยต้าน ซึ่งต่อมาเขาคิดว่าผู้เฒ่ามี่คงแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกล่อเว่ยต้านให้ตกหลุมพราง
อย่างไรก็ตาม ท่าทางประหลาดใจของผู้เฒ่ามี่เมื่อครู่นี้ดูไม่เสแสร้งเลย นี่หมายความว่าตาแก่คนนี้ไม่รู้เกี่ยวกับทักษะพิเศษเหล่านี้จริง ๆ!
แต่ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาทั้งสองได้บ่มเพาะวิชาวัฏจักรหงส์อมตะเหมือนกัน!
และยิ่งไปกว่านั้นระดับการบ่มเพาะของผู้เฒ่ามี่นั้นสูงกว่าของเขามาก ทำไมชายชราถึงไม่สามารถเข้าถึงจ้าววายุ หรือทักษะนกเป็ดน้ำสีครามได้?
หรือว่าข้าเป็นอัจฉริยะมากเกินไป?
เขาปฏิเสธความคิดนี้อย่างรวดเร็ว ผู้เฒ่ามี่ก็เป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะเช่นกัน ไม่เช่นนั้นด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์คงไม่สามารถบ่มเพาะมาจนได้ถึงปัจจุบันนี้ ไม่มีทางที่ผู้เฒ่ามี่จะมีความรู้น้อยกว่าซูอันไปได้
หรือเป็นได้ไหมที่ระบบคีย์บอร์ดจะปลดล็อกฟังก์ชันลับบางอย่างของ วิชาวัฏจักรหงส์อมตะ?
หรือเป็นเพราะร่างของผู้เฒ่ามี่มีข้อบกพร่อง?
การแสดงออกของเขาแปลกไปในทันใด จ้าววายุ ทักษะนกเป็ดน้ำสีครามหรือแม้แต่ลูกนกที่เหลือ…พวกมันทั้งหมดเป็นนก!
อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่ามี่เป็นขันทีซึ่งไม่มีนกเขา…
นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ถูกต้อง…!
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ความสิ้นหวังที่เคยรู้สึกจางหายไปทันที “ถ้าเจ้าคุกเข่า โขกหัวให้ข้าสามครั้งแล้วเรียกข้าว่าอาจารย์ ข้าอาจจะมีอารมณ์จะบอกเจ้า!”
สีหน้าของผู้เฒ่ามี่มืดลง “ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงจงใจยั่วยุข้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าขอยอมรับ เวลานี้เจ้าทำให้ข้าโกรธได้สำเร็จ!”
ซูอันรู้ดีว่าไม่มีทางหนีรอดได้ เนื่องจากวิชาวัฏจักรหงส์อมตะเสริมความแข็งแกร่งและความเร็วของผู้เฒ่ามี่ให้มากกว่าปกติมาก
สิ่งเดียวที่ซูอันคาดหวังได้คือ ผู้เฒ่ามี่กำลังบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ตัวเองควรเลียนแบบพวกนักธนูในเกมคอมพิวเตอร์ ถ้าเขาพยายามหารอยดี ๆ สักสองสามครั้ง ก็อาจจะเอาชนะชายชราได้
เขาจึงเลิกคิดที่จะวิ่งหนี กลับพูดตรง ๆ ว่า “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนไร้ค่างั้นเหรอ? มา! กระบี่ของข้า!”
ซูอันโบกมือไปบนอากาศอันว่างเปล่าตรงหน้าและทันใดนั้นกระบี่ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา มันคือกระบี่ไท่เอ๋อร์ที่ได้รับจากมิติลับหยกจรัส!
เขายืนตัวตรง ถือกระบี่อยู่ในมือท่ามกลางลมหนาวพัดมารอบตัว รูปลักษณ์ของเขาดูองอาจมากกว่าเดิม
ผู้เฒ่ามี่ตกตะลึง มองดูกระบี่ในมือซูอันอย่างระมัดระวัง
ซูอันพ่นลมหายใจ “เจ้าเห็นทักษะการอัญเชิญกระบี่ของข้าหรือไม่? ตอนนี้เจ้ากลัวไหม? ข้าแสร้งทำตัวเป็นคนต่ำต้อยตลอดเวลา แต่ตอนนี้ข้าตัดสินใจจะไม่ถือไพ่รองอีกต่อไปแล้ว! จริง ๆ แล้วข้าเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้บัญชากฎแห่งมิติ!”
ผู้เฒ่ามี่พ่นเสียงดูถูก “เหอะ! นั่นมันแค่อุบายเรียกสิ่งของออกจากคลังมิติที่เจ้าถือครองอยู่! แต่ข้าไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าเด็กสารเลวอย่างเจ้าจะมีอะไรแบบนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้ลาภใหญ่จากมิติลับนั่น!”
ผู้เฒ่ามี่ไม่รู้เกี่ยวกับมังกรแดง จึงคิดว่าดวงแก้วผู้รอบรู้เป็นของที่ซูอันได้รับมาจากมิติลับหยกจรัส
ซูอันเยาะเย้ย “ข้ามีของเจ๋ง ๆ มากกว่านี้อีกมาก อีกไม่นานเจ้าจะเสียใจที่วางแผนชั่วร้ายกับข้า!”
ข้าไม่เพียงแต่มีคลังมิติเอาไว้เก็บของ แต่ยังมีพี่หญิงใหญ่ที่แข็งแกร่งและงดงามอยู่เคียงข้างข้าด้วย! ถ้านางอยู่ที่นี่นางจะบดขยี้เจ้าเหมือนมด!
เขาเรียกหาหมี่ลี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการตอบกลับใด ๆ
ผู้เฒ่ามี่หัวเราะเสียงก้อง “ยิ่งเจ้ามีอะไรมาก ข้าก็ยิ่งมีความสุข เร็ว ๆ นี้ ทุกสิ่งที่เจ้ามีจะตกเป็นของข้า ฮ่า ๆ!”
เขาเคลื่อนไหวอีกครั้งทันทีที่พูดจบ และพุ่งตรงมาที่ซูอัน
ซูอันไม่ได้พยายามหลบ แต่พุ่งตัวเข้าสวน!
ผู้เฒ่ามี่สอนวิชาร่างก้าวทานตะวันให้กับเขา ดังนั้นแม้ว่าเขาจะพยายามหลบหนี แต่ไม่นานก็ต้องถูกตามทัน
ผู้เฒ่ามี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว หากตัวเองสามารถโจมตีเสริมไปอีกสักสองสามครั้งแล้วหนีออกไปตั้งหลัก เขาอาจจะเอาชนะชายชราได้
ชายหนุ่มได้บ่มเพาะวิชาปฐมบทแรกเริ่มซึ่งได้เสริมความแข็งแกร่งและความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของตัวเอง
นอกจากนี้ความเป็นจริงที่ว่า ผู้เฒ่ามี่ต้องการครอบครองร่างกายของเขา จึงมีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยที่เขาจะถูกคุกคามถึงชีวิต
สองประเด็นนี้ทำให้เขามั่นใจในการเผชิญหน้ากับผู้เฒ่ามี่
ซูอันจ้วงแทงกระบี่อย่างรุนแรงออกไป พร้อมกันนั้นทั่วร่างของเขาก็ถูกปกคลุมเต็มไปด้วยหิมะที่ละเอียดละออ
เมื่อเผชิญกับการโจมตีที่แน่วแน่ของซูอัน ผู้เฒ่ามี่ก็เริ่มไม่แน่ใจ เขาหยุดความตั้งใจที่จะโจมตี แล้วเปลี่ยนเป็นป้องกันกระบี่ที่จ้วงแทงเข้ามาแทน
“โอ้ คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ถ่ายทอดกระบี่เกล็ดหิมะให้เจ้าด้วยงั้นเหรอ?” ผู้เฒ่ามี่ประหลาดใจ “ไอ้หนู เจ้าช่างเป็นชายที่โชคดีจริง ๆ!”
“ฮึ่ม ข้าเป็นบุรุษที่หล่อเหลาและมากความสามารถ หญิงใดกันจะไม่หลงรักข้า! กลับกัน ขันทีที่น่าเกลียดอย่างเจ้าจะไม่มีวันได้รับความรักจากหญิงใด แม้ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นยายแก่ที่ใกล้ลงโลงก็ตาม!” ซูอันกล่าว กระบี่ในมือของเขายังคงมั่นคงและแทงออกไป
เขาไม่ได้ใช้เพลงกระบี่ปราบมารที่เขาสร้างขึ้นเอง เพลงกระบี่ปราบมาร เป็นการผสมผสานระหว่างวิชาร่างก้าวทานตะวันกับสิบสามท่วงท่ากระบี่พื้นฐาน ซึ่งเหมาะสำหรับการบดขยี้ไก่อ่อนสักตัวหนึ่ง มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงกับผู้บ่มเพาะระดับสูง
ผู้เฒ่ามี่ต้องระวังไม่ให้ทำร้ายซูอันมากเกินไป เขาพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วของเขาปรากฏหยดเลือดสีแดง เห็นได้ชัดว่าได้รับความเสียหายจากปราณกระบี่ของอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขากลับฉายแววความสุขที่ไม่คาดคิด
อาวุธระดับสวรรค์? ไม่ใช่…นี่มันเหมือนกับอาวุธระดับนิรันดร์กาลมากกว่า!
ซูอันไม่พูดอะไร แต่ยังคงโจมตีต่อไป
“ข้าอ่อนข้อให้เพราะไม่อยากทำร้ายเจ้า” ผู้เฒ่ามี่เยาะเย้ย “เจ้าคิดว่าข้าจะจัดการกับเจ้าไม่ได้จริง ๆ เหรอ?!”
ร่างของเขาหายไปทันทีที่พูดจบ เหลือเพียงร่องรอยของภาพติดตาจาง ๆ ที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
ซูอันตกตะลึง ข้าจะต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่เร็วจนข้ามองไม่ทันได้อย่างไร?
เมื่อตระหนักได้เช่นนี้ ทางเลือกเดียวของเขาคือการล่าถอยให้เร็วที่สุด ซูอันใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันที่ดัดแปลงแล้วผสมกับจ้าววายุ ด้วยกังวลว่าผู้เฒ่ามี่จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของตัวเอง เขายังคงเหวี่ยงกระบี่ไท่เอ๋อร์ไปรอบตัวเพื่อพยายามข่มขู่คู่ต่อสู้ของเขา
แม้ว่าจะรู้ว่าการเหวี่ยงกระบี่อย่างสะเปะสะปะจะไม่ได้ช่วยอะไร แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว จึงทำได้แค่ยอมจำนนต่อโชคชะตาและเหวี่ยงมันต่อไป
เกิดเสียงแหลมดังขึ้นเมื่อนิ้วของผู้เฒ่ามี่ปะทะกับกระบี่ไท่เอ๋อร์
ซูอันรู้สึกว่ามีแรงมหาศาลไหลผ่านกระบี่ไท่เอ๋อร์มายังมือของเขา จนเขาแทบจับกระบี่ไท่เอ๋อร์ไม่อยู่ ร่างของเขาไถลถอยหลัง เท้าทิ้งรอยขูดดินลึกไว้บนพื้นจากการที่เขาพยายามจะหยุดทรงตัว
ชายหนุ่มมองไปที่มือของเขา เลือดไหลออกมาจากง่ามนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ด้วยการปะทะเพียงครั้งเดียว มือของเขาก็เสียหายสาหัส!
บ้าเอ๊ย! ช่องว่างระดับการบ่มเพาะระหว่างข้ากับตาแก่นี่ใหญ่หลวงเกินไป!
ผู้เฒ่ามี่ยืนอยู่ในจุดที่ซูอันเคยยืนก่อนหน้านี้ โดยมีกระบี่ไท่เอ๋อร์อยู่ในมือของเขา เขาใช้นิ้วดีดใบกระบี่เบา ๆ และกระบี่ไท่เอ๋อร์ก็ส่งเสียงแหลมดังที่ชัดเจน เขาถอนหายใจก่อนจะสรรเสริญ “ยอดกระบี่! อย่างที่คาดไว้ เป็นกระบี่ที่ดียิ่ง!”