เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 610 แรงฮึดเฮือกสุดท้าย
บทที่ 610 แรงฮึดเฮือกสุดท้าย
บทที่ 610 แรงฮึดเฮือกสุดท้าย
ค่ำคืนผ่านไปอย่างสงบ ระหว่างอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น ฉินหว่านหรู มองซูอันและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “อาซู เจ้าควรไปที่สถาบันจันทร์กระจ่างและขอบคุณอาจารย์ใหญ่เจียง นางเป็นอีกคนที่ช่วยออกไปตามหาเจ้า”
ฉู่ฮวนเจาสับสน “ท่านแม่ ทำไมจู่ ๆ น้ำเสียงของท่านถึงฟังดูเป็นคนดีกะทันหันแบบนี้?”
“เจ้าหมายความว่ายังไงที่ว่า ‘กะทันหัน’ ข้าเป็นคนดีมาตลอด!” ฉินหว่านหรูขมวดคิ้ว
ฉู่ฮวนเจามีสีหน้าตกใจ “ท่านแม่ ทำไมหน้าของท่านแดง?”
ฉินหว่านหรูตกใจ นางถูแก้มตัวเอง มันอุ่นขึ้นเล็กน้อย นางอายและหงุดหงิด “ฮวนเจา เจ้าครั่นเนื้อครั่นตัวอยากโดนแม่หยิกใช่ไหม!”
นางยืนขึ้นทำท่าจะคว้าตัวฉู่ฮวนเจา แต่ลูกสาวของนางกระโดดไปแอบด้านหลังของซูอันซะก่อน “พี่เขย พี่เขย ช่วยข้าด้วย!”
หัวใจของฉินหว่านหรูแทบกระดอนออกจากอกเมื่อเห็นซูอันและรอยยิ้มของเขา นางรีบถอยหลังหนึ่งก้าวและพูดว่า “เจ้าทั้งสอง รีบไปกินอาหารเช้าให้เสร็จ ข้าจะกลับไปพักผ่อน!”
หลังจากพูดจบ นางจึงจากไปอย่างรวดเร็วโดยเก็บความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไว้
ฉู่ฮวนเจาเดินออกมาจากด้านหลังของซูอัน นางอดไม่ได้ที่จะขยิบตาและพูดว่า “พี่เขย ท่านไม่คิดว่าท่านแม่ทำตัวแปลก ๆ เหรอ?”
ซูอันยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ไม่นี่”
“ไม่นะ พวกท่านทั้งคู่ทำตัวแปลก ๆ” ฉู่ฮวนเจามองซูอันขึ้น ๆ ลง ๆ
ซูอันกระโดดถอยหลังด้วยความตกใจ เขากำลังจะพูดปกป้องตัวเอง แต่ ฉู่ฮวนเจาถามขึ้นแทรกก่อน “พี่เขย หรือว่ามีคนร้ายกำลังปลอมตัวเป็นแม่ของข้า?”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีเรื่องเกิดขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลฉู่มากจนเกินไปและนางก็เริ่มที่จะหวาดระแวง
ซูอันมองนางอย่างโง่งม
“เจ้าคิดอะไรอยู่ เจ้าจำแม่ของตัวเองไม่ได้เหรอ?”
“จริงของท่าน” ฉู่ฮวนเจาหัวเราะอย่างเคอะเขิน “นางน่าจะยังเป็นแม่คนเดิม หน้าอกของนางยังใหญ่มาก…”
ใบหน้าของซูอันมืดลง นั่นเป็นตัวชี้วัดที่เจ้าควรใช้จริงเหรอ?!
ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีชายกลุ่มหนึ่งเข้ามาหาพวกเขา ซึ่งทำให้ซูอันสะดุ้ง และเตรียมตั้งท่าพร้อมต่อสู้ ทว่าชายกลุ่มนั้นกลับคุกเข่าลงและกล่าวคำทักทายออกมาทันที
“ผู้บัญชาการเยว่ ท่านกำลังทำอะไร ได้โปรดลุกขึ้น!” ซูอันจำได้ว่าผู้นำของกลุ่มคือเยว่ซาน ผู้บัญชาการกองทหารองค์รักษ์ของตระกูลฉู่ ไม่ใช่ใครที่ไหน
เยว่ซานส่ายหัว “ข้าถูกล่อลวงให้ละทิ้งหน้าที่ที่ควรจะทำ ข้าประมาทอย่างใหญ่หลวง ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อย คฤหาสน์ตระกูลฉู่คงตกไปอยู่ในมือของพวกคิดคดทรยศ นายน้อยสมควรได้รับการคารวะนี้จากข้า”
เขาคำนับซูอันอย่างจริงจังอีกครั้ง
ซูอันสังเกตใบหน้าที่อ่อนล้าของอีกฝ่าย ถุงหนังสีคล้ำใต้ตาแสดงให้เห็นว่าเยว่ซานไม่ได้พักผ่อนมากนักระหว่างทางกลับมายังคฤหาสน์ เขารู้สึกเคารพชายผู้นี้อย่างมากในทันที “ผู้บัญชาการเยว่ ท่านเดินทางกลับมาอย่างยากลำบากคงจะเหนื่อยล้า ได้โปรดลุกขึ้นก่อน”
เยว่ซานถอนหายใจ “ความยากลำบากของข้าไม่สามารถเทียบได้กับเลือด หยาดเหงื่อ และน้ำตาที่นายน้อยหลั่งรินออกมาเพื่อปกป้องตระกูลฉู่ ท่านปราบคนทรยศฉู่เทียนเซิงและหงจงด้วยตัวเอง”
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างล้นเหลือ เริ่มแรกเมื่อซูอันได้เข้าร่วมตระกูลฉู่ เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย คุณหนูใหญ่ของเขาที่สูงส่งราวกับเทพธิดากลับต้องมาแต่งงานกับคนไร้ค่าเช่นนี้ได้อย่างไร?
แต่เวลานี้ ซูอันได้เปิดเผยความสามารถออกมา และยังช่วยตระกูลฉู่จากวิกฤตที่สิ้นหวัง!
อย่างที่คาดไว้ คุณหนูใหญ่ช่างน่าทึ่งจริง ๆ สายตาของนางเฉียบแหลมกว่าใคร ๆ
ซูอันหัวเราะ “ผู้บัญชาการเยว่ ชมข้าเกินไปแล้ว ข้าแค่โชคดี”
น้ำเสียงของเยว่ซานยังคงจริงจัง “นายน้อยได้ทำคุณูปการมากมายให้กับตระกูล แต่ท่านก็ยังคงถ่อมตัว ท่านมีบุคลิกที่ตรงไปตรงมาและมีเกียรติอย่างแท้จริง และท่านได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้ที่มีค่าสำหรับพวกเราทุกคน…”
ใบหน้าของซูอันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจากการสรรเสริญทั้งหมดนี้ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้บัญชาการเยว่ผู้ซื่อสัตย์คนนี้เป็นคนที่ประจบประแจงเก่งเช่นกัน ผู้ชายคนนี้มักจะเอาจริงเอาจังและดูจริงใจมากอยู่เสมอ
ฉู่ฮวนเจาพ่นลมหายใจ “ข้าบอกพวกเจ้าไปนานแล้วว่าพี่เขยของข้ายอดเยี่ยมมาก แต่พวกเจ้าทุกคนกลับคิดว่าข้าเป็นคนโง่เง่าที่พูดแบบนั้น เป็นไงล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าเชื่อข้าแล้วล่ะสิ?”
เยว่ซานฝืนยิ้ม “คุณหนูรอง ดวงตาของท่านเจิดจ้าราวกับคบไฟ! ข้าเชื่อท่านแล้ว!”
ฉู่ฮวนเจายิ้มแย้มแจ่มใสทันทีเมื่อได้รับคำชมจากเยว่ซานที่มีนิสัยจริงจัง
เมื่อเห็นว่านางเริ่มพอใจอย่างออกนอกหน้า ซูอันก็ไอและตัดบทในทันที “ตระกูลฉู่ยังไม่พ้นช่วงเวลาลำบาก เราจะต้องพึ่งพาผู้บัญชาการเยว่อีกมากในอนาคตข้างหน้า”
เยว่ซานปรบมือ “นั่นเป็นหน้าที่ของข้า ข้าขอตัวไปคำนับนายหญิงและรับคำสั่งจากนางก่อน”
ซูอันยิ้ม “ข้าจะไม่รั้งท่านไว้ อย่างไรก็ตาม ท่านควรพักผ่อนบ้างหลังจากพบกับแม่ยายของข้า การเร่งรีบเดินทางกลับมาคงทำให้พวกท่านเหน็ดเหนื่อยมาก”
เยว่ซานรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “ขอบคุณ นายน้อย!”
ฉู่ฮวนเจาพูดคุยไม่หยุดระหว่างทางไปสถาบันจันทร์กระจ่าง
“พี่เขย ท่านนี่ยอดจริง ๆ โดยปกติเยว่ซานไม่สนใจใครอื่นนอกจากแม่ พ่อ และพี่สาว เขามีบุคลิกที่เงียบขรึมและวางตัวอยู่เสมอ แต่วันนี้ถึงกับชมข้าด้วย!”
“ข้าไม่คิดเลยว่า คนที่ชอบทำหน้าตาขึงขังจริงจังตลอดเวลาอย่างเยว่ซานจะเก่งเรื่องสอพลอผู้คน!”
“พี่เขย พี่เขย เล่าเรื่องต่อสู้กับผู้เฒ่ามี่ให้ข้าฟังอีก!”
“พี่เขยฟังอยู่หรือเปล่า?”
…
เมื่อพวกเขามาถึงสถาบันจันทร์กระจ่าง ฉู่ฮวนเจาก็แยกออกไปเรียน ส่วนซูอันก็ไปที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่
ซางหลิวอวี้เพิ่งออกจากห้องอาจารย์ใหญ่เมื่อเขามาถึง ผมยาวและชุดที่ปลิวไสว ทำให้นางดูงดงามและมีชีวิตชีวา
ไม่น่าแปลกใจที่อาจารย์คนอื่น ๆ นับไม่ถ้วนในสถาบันจันทร์กระจ่างจะถือว่านางเป็นเทพธิดาของพวกเขา
แต่ทำไมเขาถึงเห็นนางอยู่กับเจียงลั่วฝูบ่อยขนาดนี้? สองคนนี้มีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่?
ซูอันไม่สามารถควบคุมความคิดของเขาได้ ได้โปรด อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย!
หัวใจของผู้ชายจะแหลกสลายไปกี่คนถ้าเป็นอย่างนั้น?
ซางหลิวอวี้ดูประหลาดใจพอ ๆ กันที่เห็นเขา “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าถูกผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์จับตัวไป”
“ใช่ ข้าเพิ่งกลับมา” ซูอันพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าหนีมาได้ยังไง?” แม้แต่ซางหลิวอวี้ที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องของใครก็ยังสงสัย ดวงตาของนางวิบวับไปด้วยประกายที่งดงาม
“ในตอนนั้นข้ากำลังจะตาย แต่จำได้ว่าอาจารย์ซางคนสวยกำลังรอข้าอยู่ที่สถาบันจันทร์กระจ่าง ข้าจึงคิดได้ว่าข้าจะยอมตายได้ยังไง จากนั้นข้าจึงมีแรงฮึดและฆ่าพวกเขาทั้งหมด!” ซูอันกล่าว
“เจ้านี่ไม่เคยเปลี่ยนเลย” ซางหลิวอวี้บ่นอุบ จากนั้นนางจึงรีบจากไปทั้ง ๆ ที่หน้าแดงก่ำ
นางเป็นคนอ่อนโยนและสุภาพเสมอมา นางดีใจที่ซูอันกลับมาอย่างปลอดภัย ส่วนเรื่องที่เขากลับมาได้อย่างไรนั้น อันที่จริงมันไม่ใช่สาระสำคัญที่นางอยากจะรู้สักเท่าไหร่?
ซูอันเสียดายกับการที่ซางหลิวอวี้รีบเดินหนีไป แม้ว่านางจะหงุดหงิดใส่เขา แต่นางก็ยังสวยมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ชายจำนวนมากจะตกหลุมรักนาง
หืม…ทำไมไม่มีคะแนนความโกรธแค้นเลย?
เสียงของเจียงลั่วฝูดังมาจากภายใน “เจ้าจ้องเสร็จหรือยัง? ถ้าเสร็จแล้วก็รีบเข้ามาข้างในสักที!”
ซูอันตะลึง ผู้หญิงคนนี้สามารถมองทะลุกำแพงได้เหรอไง?
เขาผลักประตูเข้าไปและเข้าไปข้างใน ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันที เจียงลั่วฝูนอนพาดอยู่บนโซฟาในลักษณะที่ค่อนข้างไม่สุภาพ
ซูอันรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ข้าไม่เคยเห็นเจ้าทำอย่างนี้ต่อหน้าคนอื่น ทำไมเจ้าถึงเป็นแบบนี้ต่อหน้าข้า
นี่มีความหมายอะไรหรือเปล่า?
นี่เจ้าทำเหมือนว่าข้าไม่ใช่ผู้ชายงั้นเหรอ!?
เจียงลั่วฝูหมุนพู่กันเล่นอย่างเกียจคร้าน นิ้วของนางเรียวสวย
“เจ้าหนู เจ้าแกล้งอวี้น้อยของข้าอีกแล้วเหรอ?”