เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 659 รถม้าอันแสนสบาย
บทที่ 659 รถม้าอันแสนสบาย
บทที่ 659 รถม้าอันแสนสบาย
อ๋องเหลียงกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ ถ้าเจ้ายอมให้เด็กคนนี้หนึ่งนิ้ว เขาจะขอสิบนิ้ว!
อย่างไรก็ตาม คำขู่ครั้งก่อนของซูอันยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจ อ๋องเหลียงจึงพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจว่า “ส่งคนไปหาที่กำบังมาปกปิดรถม้าคันนี้”
ซูอันส่ายหัวทันที “ข้าจะไม่นั่งในรถม้ากรงขัง ข้าต้องการนั่งในรถม้าแบบพวกท่าน!” เขาชี้ไปที่รถม้าที่กว้างขวางและหรูหราที่ผู้แทนจักรพรรดิทั้งสองยึดครอง
“รถม้าของข้าเหรอ?” หลิวเหย่าหัวเราะออกมา “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? เจ้าต้องการที่จะนั่งในรถม้าชั้นดีแม้ว่าเจ้าจะเป็นอาชญากร? น่าขันนัก!”
ในรถม้ากรงขังอีกคัน ซ่างเชียนสาปแช่งซูอันที่ทำตัวงี่เง่าขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้!
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของซูอันยังคงเคร่งขรึมจริงจัง “ข้ารู้ว่าข้าเป็นอาชญากร แต่ข้าไม่ใช่อาชญากรธรรมดา! จักรพรรดิต้องการวิชาวัฏจักรหงส์อมตะจากข้าอย่างแน่นอน พวกท่านก็รู้ว่าข้าเก็บมันไว้ในหัว ถ้าพวกท่านปฏิบัติต่อข้าอย่างดี ใครจะไปรู้ข้าอาจจะท่องเคล็ดวิชาออกมาดัง ๆ บ้างสักสองสามบทก็ได้! แต่ถ้าพวกท่านปฏิบัติกับข้าไม่ดี ข้าจะบอกจักรพรรดิว่าข้าจำไม่ได้เพราะพวกเจ้าดูแลข้าไม่ดี!”
“ไม่ว่าเจ้าจะท่องหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้า” หลิวเหย่าเย้ย “นอกจากนี้ องค์จักรพรรดิคือผู้มีสติปัญญาเลิศล้ำ เจ้าคิดว่าเขาจะถูกหลอกโดยอุบายตื้น ๆ เหล่านี้ของเจ้าไหมล่ะ?”
ซูอันยิ้ม “ลองดูก็ได้! ข้าไม่คิดว่ามันยากที่จะย้ายข้าไปยังรถม้าคันอื่น พวกท่านแทบไม่มีอะไรจะเสีย แต่ถ้าท่านทำให้ข้าขุ่นเคือง ข้าอาจจะบอกองค์จักรพรรดิเป็นการส่วนตัวว่าพวกท่านพยายามบังคับเอาวิชาวัฏจักรหงส์อมตะไปจากข้า”
“ไร้สาระ!” อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าตื่นตระหนก พวกเขาไม่คิดว่าจักรพรรดิจะสนใจมากนักหากซูอันบ่นว่าลำบากในการเดินทาง แต่มันจะเป็นปัญหาใหญ่แน่นอนถ้าซูอันกล่าวหาอย่างผิด ๆ ว่าพวกเขาบังคับให้ซูอันเผยเนื้อหาวิชาวัฏจักรหงส์อมตะแก่พวกเขา
นี่เป็นวิชาลับที่ให้ชีวิตนิรันดร์! นี่คือสิ่งที่จักรพรรดิต้องการมากที่สุด คนอย่างพวกเขาจะมีสิทธิ์รับรู้เนื้อหาของมันได้ยังไง?
แม้ว่าพวกเขาจะโต้แย้งปกป้องตัวเองได้ แต่ความเสี่ยงก็สูงเกินไป
ซูอันกล่าวต่อ “จริงด้วย มีอีกอย่างที่ข้าต้องเตือนพวกท่าน ข่าวของวิชาวัฏจักรหงส์อมตะน่าจะแพร่กระจายออกไปแล้ว และผู้คนทั้งหลายตามดินแดนที่เราจะต้องเดินทางข้ามผ่านย่อมรู้เรื่องนี้ในไม่ช้า เนื่องจากรถม้าคันนี้ไม่มีความรัดกุมเอาซะเลย แค่มองผ่าน ๆ ทุกคนย่อมสามารถบอกได้ว่ามีข้าอยู่ข้างใน และอาจเริ่มวางแผนร้าย ใครจะไปรู้ บางทีลูกธนูอาจพุ่งมาหาข้าและปลิดลมหายใจเฮือกสุดท้ายของข้าไปก็เป็นได้ พวกท่านจะอธิบายเรื่องนี้ต่อจักรพรรดิยังไง?”
หวงฮุ่ยฮงหัวหน้าทูตยุทธ์เสื้อแพรรู้สึกไม่พอใจ “ตราบใดที่มีเราอยู่ ไม่มีลูกธนูใดจะสามารถไปถึงตัวเจ้าได้!”
“ท่านอาจหยุดลูกธนูของนักธนูธรรมดาได้ แต่ถ้ามันมาจากผู้บ่มเพาะระดับสูงล่ะ? ตัวอย่างเช่น ระดับเก้า หรือแม้แต่ระดับปรมาจารย์?” ซูอันถามกลับ
อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าเริ่มไม่แน่ใจมากขึ้น ว่าความเป็นไปได้นี้มีอยู่จริงหรือไม่
ท้ายที่สุด มีคนจำนวนมากเกินไปที่ไม่อยากเห็นจักรพรรดิได้รับชีวิตนิรันดร์ เป็นไปได้ที่ผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์จะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
แม้ว่าพวกเขาจะไม่กลัวผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์ในการต่อสู้โดยตรง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักกับลูกธนูที่ยิงมาในจังหวะที่เขาเผลอ
อ๋องเหลียงออกคำสั่ง “จัดห้องในรถม้าของแม่ทัพหลิวแล้วย้ายซูอันไปที่นั่น! แม่ทัพหลิวจะมาอยู่ในรถม้าของข้า”
ใบหน้าของหลิวเหย่ามืดลงในทันที แต่ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำสั่งครึ่งหลังของอ๋องเหลียง
ซูอันชี้ไปที่เจิ้งตาน “ให้นางมากับข้าเพราะ…”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ อ๋องเหลียงโบกมืออย่างละอาใจ “พอ ๆ พาแม่นางเจิ้งไปกับเขาด้วย”
ถ้ายอมให้ซูอันพูดต่อ เจ้าเด็กนี่อาจจะแค่โพล่งขยะเปียกออกมาอีกกองหนึ่ง ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของสุขภาพจิตของเขาเอง เป็นการดีกว่าที่จะเลิกฟังไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร
ซ่างเชียนเริ่มทำเสียงอู้อี้ในลำคออีกครั้งทันที เนื่องจากเขาไม่คิดเลยว่าอ๋องเหลียงจะอนุญาตให้ซูอันนั่งในรถม้าชั้นดีจริง ๆ อีกทั้งยังให้เจิ้งตานไปนั่งอยู่ด้านในรวมอยู่ด้วย!
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 1024!
—
ก่อนหน้านี้เขายังคงสามารถเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากรถม้ากรงขังมีเพียงซี่กรงห่าง ๆ ที่เปิดโล่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คู่หมั้นของเขากำลังถูกย้ายไปยังรถม้าคันอื่น และรถม้าคันนั้นเตรียมไว้สำหรับบุคคลสำคัญ ซึ่งเน้นความเป็นส่วนตัวและถูกปิดมิดชิดอย่างแน่นหนา เขาไม่สามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้เลย!
อ๋องเหลียงพ่นลมหายใจ “มีทหารจำนวนมากที่คอยคุ้มกัน เราจะรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายใน เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านั้น!”
หลังจากพูดจบ เขาไม่คิดจะปลอบขวัญซ่างเชียนอีกต่อไป การอธิบายเรื่องนี้ให้อีกฝ่ายฟังก็ถือว่าเป็นความใจดีมากแล้ว
ทั้งเขาและหลิวเหย่ากลับไปที่รถม้าของพวกเขา ทั้งสองคนไม่ค่อยเข้ากันได้ดีตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงรู้สึกค่อนข้างแปลกที่จะนั่งรถม้าร่วมกัน
พวกเขาทั้งคู่ขุ่นเคืองเมื่อคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะซูอัน
—
ท่านยั่วยุอ๋องเหลียงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
—
ท่านยั่วยุหลิวเหย่าสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 846!
—
หลิวเหย่าอารมณ์เสียมากขึ้น เพราะเป็นเขาที่ต้องสละรถม้าส่วนตัวของตัวเอง
ทั้งสองนั่งในรถม้าอย่างเงียบ ๆ ด้วยอารมณ์อึดอัด ในท้ายที่สุด หลิวเหย่าก็เป็นผู้ทำลายความเงียบขึ้น “เราจะเข้าสู่อาณาเขตของท่านอ๋องอู๋ เมื่อเราออกจากมณฑลหลินชวน ท่านคิดว่าเขาจะ…”
อ๋องเหลียงส่ายหัว “ข้าไม่คิดอย่างนั้น อ๋องอู๋ถือกำเนิดจากพระสนม และมักจะรักษาไว้ซึ่งความเจียมตน ข้าไม่คิดว่าเขาจะกล้าอาจเอื้อม”
“งั้นก็ดีแล้ว” หลิวเหย่าถอนหายใจ จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “อ๋องอู๋นี้ก็เป็นผู้มักน้อย คนอื่นในสถานการณ์แบบเขาล้วนแต่งงานกับตระกูลใหญ่ แต่เขากลับรับหญิงสาวจากตระกูลเล็กจ้อยเป็นพระชายา”
อ๋องเหลียงพูดพร้อมกับหัวเราะ “แม้ว่าฮูหยินอู๋จะไม่มีภูมิหลังที่โดดเด่น แต่ข้าได้ยินมาว่านางงดงามล้ำเลิศ ทุกคนล้วนกล่าวว่าท่านอ๋องอู๋หวงแหนความงามเหนือความรุ่งเรืองในทางโลก”
หลิวเหย่าพ่นลมหายใจ “แม้ว่าเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงจากตระกูลใหญ่ เขาก็ไม่สามารถรุ่งเรืองในทางโลกหรืออะไรทำนองนั้นได้หรอก”
อ๋องเหลียงยิ้มแต่ไม่พูดอะไร หลิวเหย่าเป็นอาของจักรพรรดินี ดังนั้นเขาจึงเป็นตัวแทนผลประโยชน์ขององค์รัชทายาท ในขณะที่อ๋องอู๋ไม่ใช่โอรสของจักรพรรดินี ทั้งสองคนจึงเข้ากันไม่ได้ไปโดยปริยาย ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่หลิวเหย่าจะเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา
อ๋องเหลียงไม่เหมือนกับหลิวเหย่า เขาไม่สนใจว่าองค์ชายคนใดจะกลายเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป มันจะไม่ส่งผลต่อสถานะของเขา
อ๋องเหลียงหัวเราะและเปลี่ยนบทสนทนา “แทนที่จะกังวลเรื่องอ๋องอู๋ ข้าคิดว่ามีเรื่องอื่นที่เราควรจะกังวลมากกว่า เด็กเหลือขอซูอันอาจจะน่ารำคาญ แต่สิ่งที่เขาพูดก็สมเหตุสมผล หลายฝ่ายจะต้องตามขบวนของเราอย่างแน่นอนหลังจากได้ยินข่าวของวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ”
เสียงของหลิวเหย่าเต็มไปด้วยความชิงชัง “เจ้าเด็กนั่นช่างน่ารังเกียจจริง ๆ! เขาตั้งใจบอกทุกคนเกี่ยวกับวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ! ถ้าข้ารู้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ข้าจะปิดตายเมืองจันทร์กระจ่างทั้งหมดไม่ให้มีข้อมูลใด ๆ รั่วไหลออกไปได้!”