เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 689 การสนทนาระหว่างครอบครัว
บทที่ 689 การสนทนาระหว่างครอบครัว
บทที่ 689 การสนทนาระหว่างครอบครัว
ซูอันตกใจรีบกระโดดหลบไปด้านหลัง “อย่าฟังเรื่องไร้สาระของพี่เจ้า! ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเขา! สตรีที่ดีต้องมีใจกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เจ้าจะชักกระบี่ใส่ข้าไม่ได้!”
“ก็เจ้ามันเป็นคนวิปริต!” ใบหน้าสวยของหญิงสาวแดงก่ำ
ขณะนี้ซูอันแสดงสีหน้าทะเล้นอย่างไม่รู้ตัว เอวเจ้านี่บางแท้ ๆ! เจ้าเก็บกระบี่ที่ยืดหยุ่นไว้กับเอวแบบนั้น เจ้าไม่กลัวผ่าครึ่งตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจบ้างหรือไง?
อย่างไรก็ตามนอกจากความคิดติดตลกแล้ว การฟาดฟันกระบี่อันรุนแรงของนางที่สังหารกลุ่มนักฆ่าอย่างรวดเร็วยังคงเป็นภาพติดตาของซูอันอยู่เช่นกัน ซึ่งทำให้เขาไม่กล้าประมาทเลินเล่อ เขาใช้วิชาร่างก้าวทานตะวัน หลบไปอีกข้างหนึ่งพลางตะโกนว่า “ท่านซ่าง! ข้าจะเริ่มสาปแช่งถ้าท่านไม่ผูกเชือกลูก ๆ ของท่านเอาไว้!”
ซ่างหงแสดงสีหน้าขบขันเล็กน้อย เขาจงใจยังไม่แทรกแซงในตอนนี้และรู้สึกขบขันที่อยากจะเห็นว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร เด็กคนนี้คอยรังแกเชียนเอ๋อร์ตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่เลวนักที่จะเห็นเขาทนทุกข์สักเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่าชีวิตของซูอันอาจตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ เขาจึงตะโกนออกไป “เฉี่ยนเอ๋อร์ หยุด!”
หญิงสาวรีบเก็บกระบี่ที่ยืดหยุ่นทันทีเมื่อนางได้ยินคำสั่ง และกลับมายืนที่ด้านข้างพ่อของนาง
ซ่างหงพยักหน้า ลูกสาวของเขาว่าง่ายมากกว่าลูกชายของเขาจริง ๆ
ซูอันกลับมายืนยืดอกอีกครั้งพลางปัดฝุ่นออกจากร่างกายของเขา “เฉี่ยนเอ๋อร์! ชื่อเพราะมาก ฟังดูดีกว่าของพี่ชายเจ้าเป็นไหน ๆ!”
ซ่างเฉี่ยนกลอกตา ผู้ชายคนนี้ไร้ยางอายจริง ๆ! ครอบครัวของข้าเท่านั้นที่เรียกข้าว่าเฉี่ยนเอ๋อร์ได้ แต่จู่ ๆ เจ้าที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้กล้ามาเรียกข้าแบบนี้ได้ยัง…?
ซ่างเชียนโกรธมาก ชื่อของพวกเขาสองพี่น้องออกเสียงคล้ายคลึงกันโดยคนหนึ่งเป็นชายและอีกคนหนึ่งเป็นหญิง หมายความว่าอย่างไรที่ชื่อคนหนึ่งฟังดูแย่แต่อีกคนหนึ่งกลับฟังดูดี?
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666!
—
ซ่างหงแทบจะพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน แต่เขายังคงแนะนำซูอันให้รู้จักกับลูกสาวของเขา “นี่คือซูอัน เขาช่วยชีวิตพ่อและพี่ชายของเจ้าเอาไว้”
ซ่างเฉี่ยนพยักหน้า นางได้รู้รายละเอียดก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่ ดังนั้นนางจึงรู้จักซูอัน และสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ระหว่างอีกฝ่ายกับพี่สะใภ้ของนาง
แน่นอน นางเป็นคนที่รอบคอบอยู่เสมอ และนางจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ อย่างการถามคำถามนั้นในตอนนี้ นางเอ่ยปากทักทายซูอันแทน “ขอบคุณนายน้อยซู โปรดยกโทษให้ข้าที่ทำให้ท่านขุ่นเคือง”
“ไม่ ๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย” ซูอันหัวเราะแล้วมองซ่างเชียน “เฮ้ เจ้าควรเรียนรู้จากน้องสาวของเจ้าสักนิดนะ น้องสาวตัวน้อยของเจ้าสุภาพกว่าเจ้ามาก!”
ซ่างเชียนโกรธมาก “ไอ้สารเลว เจ้าพยายามจะพูดอะไร?”
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 798!
—
ซ่างหงรีบขัดจังหวะทั้งสองคนไม่ให้ทะเลาะวิวาทกันอย่างรวดเร็ว “ว่าแต่เฉี่ยนเอ๋อร์ เจ้ามาที่นี่ทำไม?”
ซ่างเฉี่ยนมองซูอัน นางดึงพ่อและพี่ชายของนางไปด้านข้าง จากนั้นนางจึงกระซิบว่า “ผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวงนั้นค่อนข้างเหนื่อยหน่ายเมื่อพบว่าสมุดบัญชีเป็นของปลอม ท่านพ่อ ท่านได้ทำให้คนขุ่นเคืองมากเกินไปแล้ว เหล่าคนใหญ่โตจำนวนมากในเมืองหลวงจึงไม่อยากเห็นท่านมีชีวิตอยู่อีก นี่เป็นเหตุผลที่ข้าพาคนมาปกป้องพวกท่านทั้งสอง”
ซ่างเชียนอ้าปากค้าง ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการมองการณ์ไกลของพ่อที่ทำนายสถานการณ์นี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!
เสียงของซ่างหงหนักอึ้ง “พระประสงค์ของจักรพรรดิคืออะไร?”
ซ่างเฉี่ยนส่ายหัว “จักรพรรดิไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะเป็นการยอมรับกลาย ๆ นี่คือเหตุผลที่กลุ่มคนเหล่านั้นมีท่าทีเห่อเหิม น่าเสียดายจริงที่ท่านพ่อยังคงภักดีและอุทิศตนเพื่อพระองค์เสมอมา ทั้งยังเต็มใจต่อสู้เพียงลำพังตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่ท่านต้องล่วงละเมิดบุคคลผู้มีอิทธิพลมากมายเพื่อเห็นแก่พระองค์ แต่ท้ายที่สุดพระองค์ก็ทอดทิ้งท่าน จักรพรรดิองค์นี้ทำผิดต่อท่านนัก”
“ระวังคำพูดของเจ้าด้วย!” ซ่างหงยังคงภักดีไม่เปลี่ยนแปลง “ในฐานะจักรพรรดิ นี่คือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำ พ่อของเจ้ารู้อยู่แล้วว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ตั้งแต่แรกที่เลือกทางนี้ นอกจากนั้น การที่องค์จักรพรรดิทรงวางเฉยเช่นนี้ก็เพียงเพื่อเอาใจเหล่าผู้มีอิทธิพลที่โกรธเกรี้ยวเท่านั้น ตราบใดที่เราสามารถไปถึงเมืองหลวงได้อย่างปลอดภัย ข้ามั่นใจว่าเราจะรอดจากวิกฤตนี้ไปได้”
ซ่างเฉี่ยนกล่าวว่า “มันจะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร? เท่าที่ข้ารู้ หลายคนต้องการให้ท่านตาย อย่างครั้งนี้ถ้าข้าไม่ได้แทรกซึมเข้ามาในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ พวกท่านทุกคนก็คงจะ…”
“ทำไมพวกมันถึงส่งเฉพาะผู้บ่มเพาะระดับต่ำมาที่นี่ล่ะ?” ซ่างเชียนถามด้วยความสงสัย
แม้ว่าการโจมตีของพวกมันจะโหดเหี้ยม แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น
ซ่างเฉี่ยนกล่าวว่า “เป็นไปได้มากว่าพวกมันต้องการจะตบตาเหล่าทูตยุทธ์เสื้อแพร พวกมันไม่สามารถติดสินบนทุกคนได้ หากคนรับใช้ในโรงเตี๊ยมของเมืองเล็ก ๆ เช่นนี้มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งจนเกินไป ทุกคนจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน”
ซ่างหงตำหนิเขาอย่างอ่อนโยนเช่นกัน “เชียนเอ๋อร์ เจ้าไม่ควรพูดถึงเรื่องใหญ่เช่นนี้โดยขาดการไตร่ตรอง แม้ว่าพวกมันจะมีระดับการบ่มเพาะที่ไม่สูงนัก แต่เราก็คงเป็นศพไปแล้วหากไม่ได้ซูอันช่วยเอาไว้ รวมถึงการปรากฏตัวในเวลาที่เหมาะสมของน้องสาวเจ้า”
ซ่างเชียนพยักหน้ายอมรับแม้ว่าจะไม่เห็นด้วย เขาเกลียดการถูกมองว่าด้อยกว่าน้องสาว และตอนนี้พ่อของเขาดูเหมือนจะคิดว่าเขาด้อยกว่าซูอันด้วยซ้ำ
ซูอันรู้สึกว่าเขาต้องพูดอะไรบางอย่าง “พวกท่านเอาแต่คุยกันเองในครอบครัว พวกท่านลืมข้าไปแล้วหรือไง?”
ซ่างหงยิ้มและพูดว่า “ข้าขอโทษ”
“ท่านไม่จำเป็นต้องสุภาพกับข้าขนาดนั้น” ซูอันตอบ “มีบางอย่างที่ข้าอยากรู้ ทำไมทหารข้างนอกถึงไม่ทำอะไรเลยทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เสียงดังมาก!”
ซ่างหงตอบว่า “ข้าเชื่อว่าผู้ที่ต้องการจะฆ่าเรามีความสัมพันธ์บางอย่างกับอ๋องเหลียงหรือหลิวเหย่า และใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้สร้างโอกาสในการลอบสังหาร เรื่องการติดสินบนสมาชิกทูตยุทธ์เสื้อแพรนั้นเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงน่าจะถูกสั่งให้ไปอยู่ที่อื่น แต่น่าจะใกล้กลับมาแล้ว เฉี่ยนเอ๋อร์ เจ้าควรรีบหนีไปเสียตอนนี้”
ซ่างเฉี่ยนพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ท่านพ่อดูแลตัวเองด้วย ข้าจะคอยเฝ้าระวังให้ท่านตลอดทาง” จากนั้นนางหันหลังและหายลับไปในความมืด
หวงฮุ่ยฮงกลับมาพร้อมกับกลุ่มทูตยุทธ์เสื้อแพรหลังจากที่จากไปได้ไม่นาน เมื่อเขาเห็นสภาพอันเละเทะของห้องและซากศพที่นอนกลาดเกลื่อน สีหน้าของเขาก็มืดหม่นลง
เมื่ออ๋องเหลียงและหลิวเหย่าได้รับข่าว พวกเขาก็รีบรุดมา พวกเขามีท่าทีตกใจไม่แพ้กัน “เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? แล้วทหารด้านนอกไปไหน?”
มีเสียงตะโกนตอบมา “พวกเขาไม่หายใจแล้ว น่าจะถูกลูกธนูพิษ!”
ดวงตาของหวงฮุ่ยฮงหรี่ลง เขามองอ๋องเหลียงอย่างเย็นชา “ท่านอ๋อง! ท่านต้องอธิบายมาว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
มีทูตยุทธ์เสื้อแพรสองคนอยู่ในกลุ่มผู้ตาย ในตอนแรกเขาและลูกน้องได้รับคำสั่งให้ไปที่อื่น เขาจึงจงใจทิ้งลูกน้องสองคนไว้ข้างหลัง เขาไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เนื่องจากมีทหารองครักษ์คอยดูแลอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เขากลับต้องมาพบกับภาพที่น่าผิดหวังนี้