เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 703 บทเพลงแห่งผู้ถือดาบ
บทที่ 703 บทเพลงแห่งผู้ถือดาบ
บทที่ 703 บทเพลงแห่งผู้ถือดาบ
ดาบเล่มนี้ของติ้งรุ่นทั้งยาวและแคบกว่าดาบธรรมดามาก มันคล้ายกับคาตานะของญี่ปุ่นในโลกก่อนหน้าของเขา แต่ยาวกว่านั้นอีก
ดูเหมือนใบดาบจะเป็นสีขาวเงิน แต่มันกลับมีสีแดงจาง ๆ อาบไล้ด้วยเช่นกัน
ไม่มีทางที่สีแดงเหล่านั้นที่อยู่บนผิวใบดาบจะเป็นคราบสกปรกไปได้ เพราะในฐานะนักดาบที่ช่ำชอง ติ้งรุ่นย่อมรักษาอาวุธของเขาเป็นอย่างดี
สีแดงนี้ต้องเป็นอะไรสักอย่างที่เป็นหนึ่งเดียวกับใบดาบ
แต่เมื่อพิจารณาจากอาชีพของติ้งรุ่น ในไม่ช้าทุกคนก็พอเดาได้ว่าไอ้คราบสีแดงนี้หมายถึงอะไร โลหิต!
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากติ้งรุ่นพอสมควร แต่เจตนาสังหารที่แผ่ออกมาจากดาบก็ทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวเหน็บ แม้แต่ขนตามผิวหนังก็ลุกชูชัน
ซูอันเงียบไป ชายคนนี้ได้เปลี่ยนเจตนาฆ่าของเขาให้เป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน เขาฆ่าคนไปกี่คนถึงทำได้แบบนี้?
ซ่างเชียนรู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน เขาถือได้ว่าเป็นผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังคนหนึ่ง และสังเกตเห็นรอยแผลจากการโดนฟันยาวสองนิ้วบนหน้าอกของบิดาแล้ว แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บมากเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าพ่อของเขาจะเสียเปรียบในการต่อสู้นี้
“ดาบของเจ้าเร็วจริง ๆ นี่สินะความโดดเด่นของเจ้า” ซ่างหงจ้องติ้งรุ่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้จะไม่ได้มองลงมาที่หน้าอกตัวเองก็ตาม
ติ้งรุ่นเหยียดยิ้มกว้าง “นี่มันอาชีพของข้า ดาบของข้าจะไม่เร็วได้ยังไง? ผู้บ่มเพาะเช่นท่านซ่างที่ใช้ชีวิตเหมือนหรูหรามาโดยตลอดซึ่งไม่มีประสบการณ์จริงในการต่อสู้มากนัก ย่อมไม่ใช่คู่มือของข้า”
“มันอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป” ซ่างหงพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ตอนนี้มันเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย และเขาจะไม่ท้อถอย เขากำโซ่ไว้ที่มือแต่ละข้าง และเปลวไฟก็ลุกโชนไปตามความยาวของพวกมันจนทั้งโซ่เปล่งประกายสีแดงจนแสบตา
‘โซ่เปลวเพลิง’ กวัดแกว่งอยู่ในมือของเขา ผมและเคราของเขาปลิวว่อนอย่างบ้าคลั่งในขณะที่โจมตี ทำให้เขาดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
ซ่างเชียนกำหมัดแน่นและให้กำลังใจพ่อของเขาอย่างเงียบ ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูอันได้เห็นซ่างหงทุ่มเทสุดตัวเพื่อความอยู่รอด เมื่อตอนที่เป็นผู้ตรวจการมณฑลหลินชวน ซ่างหงแทบไม่ต้องขยับเนื้อตัวเลย ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือการสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกไปทำตามความประสงค์ของเขา
เฉพาะตอนนี้เมื่อชีวิตและความตายถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย ทุกคนเริ่มจำได้ว่าเขายังคงเป็นผู้บ่มเพาะระดับแปดคนหนึ่ง
ซ่างหงเป็นผู้บ่มเพาะธาตุไฟ เรื่องนี้ทำให้ซูอันงงงวยมาก
มันไม่เข้ากับบุคลิกของซ่างหงเลย ชายผู้นี้สงวนท่าทีและเยือกเย็นเสมอ กว่าจะลงมือทำอะไรสักอย่างก็ต่อเมื่อหลังจากที่เขามั่นใจแล้วเท่านั้น ซึ่งบุคลิกนี้มันดูเหมือนว่าเขาจะแตกต่างไปจากผู้บ่มเพาะธาตุไฟคนอื่น ๆ ที่คล้ายกับลูกระเบิดที่พร้อมจะระเบิดออกได้ตลอดเวลา
แต่แล้วเขาก็ตระหนักว่าซ่างเชียนก็เป็นผู้บ่มเพาะธาตุไฟ มันสมเหตุสมผลแล้วที่พ่อและลูกชายจะปลุกธาตุเดียวกันและบ่มเพาะทักษะที่คล้ายคลึงกัน
สิ่งเดียวที่คิดไม่ออกคือเหตุผลที่พวกเขารับเจิ้งตานเป็นลูกสะใภ้ นางเป็นผู้บ่มเพาะธาตุน้ำในขณะที่พวกเขาบ่มเพาะธาตุไฟ น่าจะเข้ากันไม่ได้โดยธรรมชาติไม่ใช่เหรอ?
โซ่เปลวเพลิงของซ่างหงฟาดฟันไปทั่วพื้นที่ ทิ้งร่องรอยสะเก็ดไฟไว้ทุกบริเวณ มันแฉลบเข้าไปใกล้ติ้งรุ่นอย่างอันตรายหลายครั้ง และในแต่ละครั้งติ้งรุ่นแทบจะหลีกเลี่ยงพวกมันไม่ได้
ในที่สุดก็มีการโจมตีครั้งหนึ่งที่ติ้งรุ่นหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขายกดาบขึ้นเพื่อป้องกัน เสียงกระแทกดังกังวานและร่างกายของเขาก็ถูกแรงปะทะทำให้กระเด็นถอยไปด้านหลัง
ซ่างหงไม่ได้รุกโจมตีต่อ เนื่องจากการโจมตีของเขาไม่ได้สร้างความเสียหายให้อีกฝ่ายมากนัก การรุกต่อไปจะทำให้พลังงานของเขาหมดไปโดยไม่จำเป็น
“ทำได้แค่นี้เองเหรอ? คราวนี้ถึงตาข้าแล้ว!” ติ้งรุ่นหัวเราะ เขายกดาบขึ้นมาข้างหน้าเขา และสะบัดมันจนเกิดเสียง ติ๊ง! ที่ไพเราะราวกับโน้ตดนตรีดังขึ้น มันเป็นดาบที่ดีอย่างแน่นอน
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาจึงสะบัดดาบ เขาพยายามจะแสดงดนตรีอย่างนั้นเหรอ?
มีเพียงซ่างหงเท่านั้นที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังสายเกินไปเล็กน้อย เลือดพุ่งออกมาจากบาดแผลยาวบนแขนของเขา
ถ้าเมื่อครู่เขาหลบช้าไปสักเล็กน้อย ป่านนี้แขนของเขาอาจจะขาดไปแล้วก็ได้
พลังดาบที่มองไม่เห็น!
ทุกคนรู้ทันทีว่าเมื่อครู่นี้มันคืออะไร
น้ำเสียงของซ่างหงเย็นยะเยือก “มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่านักรบเงินสดเคยสร้างท่วงทำนองดนตรีด้วยการกวัดแกว่งดาบ แต่ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงบางสิ่งที่เจ้าทำเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับตัวของเจ้าเอง ไม่นึกเลยว่าแท้จริงแล้วมันจะเป็นหนึ่งในทักษะการสังหารของเจ้า!”
ติ้งรุ่นยิ้ม “เป็นการยากที่จะหาคนที่เข้าใจข้า ข้าไม่คิดว่าท่านซ่างจะรู้จักข้าดีขนาดนี้! ดังนั้นข้าจะขอให้ท่านซ่างวิจารณ์ดนตรีนี้ของข้า ซึ่งมีชื่อว่า ‘บทเพลงแห่งผู้ถือดาบ’!”
ติ้งรุ่นสะบัดดาบของเขาอีกครั้ง ส่งเสียงคล้ายโน้ตดนตรีดังก้องไปทั่ว ซ่างหงรีบทะยานขึ้นไปในอากาศทันที
ขณะที่เขากระโดดขึ้น ร่องยาวพาดผ่านพื้นดินที่เขายืนอยู่เมื่อครู่ก่อน
ติ้งรุ่นสะบัดดาบของเขาอีกครั้ง ซ่างหงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ในขณะที่อยู่กลางอากาศ ดังนั้นเขาจึงรีบเหวี่ยงโซ่ในมือไปดึงต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ มาบังตัวเอง ต้นไม้ใหญ่ถูกตัดขาดจากกันราวกับมันทำมาจากกระดาษทันที!
แต่ทว่าพลังดาบของติ้งรุ่นไม่ได้หยุดหลังจากที่มันตัดผ่านต้นไม้ แต่ยังคงเดินหน้าต่อไป ซึ่งซ่างหงก็รีบใช้โซ่ในมือฟาดสวนออกไปปะทะอย่างแรงส่งผลให้พลังดาบแตกกระจัดกระจายไป
ติ้งรุ่นไม่ย่อท้อ เขายังคงใช้การโจมตีแบบเดิมซ้ำ ๆ
การสะบัดดาบแต่ละครั้งสร้างท่วงทำนองที่แตกต่างกันดังขึ้นราวกับว่าดาบของเขาเป็นเครื่องดนตรีจริง ๆ
แต่เมื่อเทียบกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ เครื่องดนตรีชิ้นนี้เต็มไปด้วยเจตจำนงสังหาร!
ซ่างหงได้เรียนรู้บทเรียนของเขาแล้ว เขากวาดทั้งใบไม้ หญ้า กิ่งไม้ และหิน ดินซึ่งอยู่ที่พื้นด้วยโซ่ของเขาให้ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณเพื่อที่เขาจะได้สามารถมองเห็นร่องรอยของพลังดาบของอีกฝ่ายได้ ซึ่งมันจะได้ทำให้เขารับมือกับมันได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้ซูอันสามารถเห็นวิถีของพลังดาบของติ้งรุ่นได้แล้วเช่นกัน พวกมันไม่ได้มาจากทิศทางที่ติ้งรุ่นยืนอยู่เพียงอย่างเดียว แต่บางทีพลังดาบนี้มันปรากฏจากทางด้านหลังของซ่างหงบ้าง หรือไม่ก็ด้านข้าง จากด้านล่างและแม้แต่ในแนวทแยงหรือมุมที่ไม่คาดคิดอีกมากมาย
เขาไม่รู้เลยว่าติ้งรุ่นสามารถโจมตีซ่างหงแบบนั้นได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่ยืนอยู่ห่างขนาดนั้น