เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 713 ใครกันแน่ที่ต้องหุบปาก
บทที่ 713 ใครกันแน่ที่ต้องหุบปาก?
บทที่ 713 ใครกันแน่ที่ต้องหุบปาก?
อ้าวเฉวียนรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่ไม่สามารถควบคุมได้ภายในตัว “ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!” เขาโพล่งออกไปตามสัญชาตญาณ
แต่ทว่าการที่เขาตอบออกไปโดยกะทันหันแบบนี้มันทำให้ทักษะ ‘วิญญาณประกาศิต’ ของตัวเองถูกขัดจังหวะ!
นี่มันบ้าอะไรกัน!?
อ้าวเฉวียนตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เขาไม่รู้เลยว่าทำไมจู่ ๆ ตัวเองถึงตอบกลับไปแบบนั้น และไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องตอบกลับไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแล้วมันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ เขาจึงไม่ได้คิดอะไรเพิ่มเติมอีก เขาพยายามเอ่ยถ้อยคำวิญญาณประกาศิตอีกครั้งที่เขาจะพูดก่อนหน้านี้ “วิญญาณประกา…”
“แกมองอะไร?” เขาถูกขัดจังหวะก่อนจะพูดจบอีกครั้ง
“ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!” อ้าวเฉวียนตอบกลับอย่างไม่อาจควบคุม
อ้าวเฉวียนเอามือปิดปากด้วยความไม่เชื่อตัวเอง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ครั้งแรกอาจเป็นความผิดพลาด แต่ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติหลังจากที่มันเกิดขึ้นสองครั้งติดต่อกัน!
“เจ้าเป็นคนของเผ่ามังกรด้วยหรือไง!? เจ้าสามารถใช้วิญญาณประกาศิตได้ด้วยงั้นเหรอ???”
ด้วยความตกใจ อ้าวเฉวียนจ้องมองซูอันอย่างถี่ถ้วน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่พบวี่แววที่แสดงว่าอีกฝ่ายเป็นสมาชิกของเผ่าพันธุ์มังกร
ตัวเขาไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของมังกรจากไอ้เด็กเวรนี่เลยแม้แต่น้อย
ซ่างเชียนร้องออกมาก่อนที่ซูอันจะตอบเอง “ถูกต้อง! เขาบอกว่าเขาคือการกลับชาติมาเกิดของมังกรบรรพบุรุษจากบรรพกาล และแม้แต่เทพเจ้ามังกรของเจ้าก็ยังต้องคำนับต่อหน้าเขา!”
ฮ่า ๆ ซูอัน! เอ็งเสร็จแน่!
“ท่านพี่!” ซ่างเฉี่ยนอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความขุ่นเคือง เป็นการยากที่จะดูพี่ชายของนางฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนให้ซูอันอยู่ร่ำไปแบบนี้
ซ่างเชียนสูดลมหายใจ ผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนี้ทุกคนเลย! แม้แต่น้องสาวของเขาก็พูดแทนซูอันแล้ว!
เพ่ยเหมียนหมานและเจิ้งตานต่างก็มีการแสดงออกที่เย็นชาเช่นเดียวกัน ทว่าการแสดงออกเช่นนี้ของเหล่าสาว ๆ ยิ่งเป็นการกระตุ้นความตั้งใจของซ่างเชียนในการกำจัดซูอันมากยิ่งขึ้น พวกเขาสองคนไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ในโลกนี้ และตัวเขาไม่จำเป็นต้องแสร้งทำสิ่งใดเพื่อรักษาหน้าของตัวเองอีกแล้ว
“มังกรกลับชาติมาเกิด? แม้แต่เทพมังกรยังต้องคำนับต่อหน้าเจ้า?” ใบหน้าของอ้าวเฉวียนนิ่งขึงจนดูเหมือนแกะสลักมาจากน้ำแข็ง “ช่างกล้าจริง ๆ!!”
—
ท่านยั่วยุอ้าวเฉวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 567!
—
เนื่องจากสิ่งต่าง ๆ ได้มาถึงจุดนี้แล้ว ซูอันจึงเลิกแสร้งทำเป็นสุภาพและกลับมาแสดงท่าทางอวดดีตามปกติ “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าไม่ใช่?”
“แน่นอนข้าย่อมรู้! ถ้าเจ้าเป็นมังกร ข้าจะสัมผัสได้!” อ้าวเฉวียนคำพูดของตัวเองด้วยการสูดลมหายใจ
“แล้วเจ้าจะอธิบายความสามารถในการใช้วิญญาณประกาศิตของข้าได้ยังไง?” ซูอันพูดพร้อมกับหัวเราะ
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีทักษะแปลก ๆ แบบไหน แต่มันอาจจะไม่ใช่วิญญาณประกาศิตของเผ่ามังกรของเราก็ได้” การแสดงออกของอ้าวเฉวียนเริ่มจริงจัง “ข้าประมาทเกินไป แต่เจ้าจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว!”
ซูอันยักไหล่ “ข้าก็หลงนึกว่าเจ้าเก่งในการใช้วิญญาณประกาศิตมากที่สุด แต่จริง ๆ แล้วทักษะการโม้ของเจ้าดูเหมือนจะยอดเยี่ยมกว่าซะอีก”
ใบหน้าของอ้าวเฉวียนมืดครึ้ม “ไอ้หนู! เจ้าทำให้ข้าโกรธเคืองสำเร็จแล้ว! เมื่อถึงเวลา ข้า…วิญญาณประกาศิต จมดิ่…”
อ้าวเฉวียนไม่แน่ใจว่าซูอันใช้ทักษะแบบใดกัน ดังนั้นเขาจึงหลอกล่อโดยการพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องก่อนที่จะพูดวิญญาณประกาศิตของเขาในทันที
แต่น่าเสียดายที่ซูอันก็พร้อมเต็มที่ “แกมองอะไร?”
ซูอันปาดเหงื่อออกจากคิ้ว
ฟู่… ข้าเกือบจะปล่อยให้ไอ้แก่นี่หลอกล่อข้าได้อย่างหวุดหวิด! ตาแก่นี่ไม่มีเกียรติเอาซะเลย กำลังพูดกันอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็เริ่มโจมตีข้าซะงั้น!
“ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!” อ้าวเฉวียนโพล่งออกมา สีหน้าของเขาเแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอย่างฉับพลัน
ชายชราเผ่ามังกรพยายามตั้งสมาธิของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถยับยั้งตัวเองไม่ให้ตอบกลับไปซึ่งมันขัดจังหวะวิญญาณประกาศิตของเขาเองได้
เขาจ้องไปที่ซูอัน “ไอ้สารเลว แกทำ…”
“แกมองอะไร?”
หลังจากบทเรียนเมื่อครู่ ซูอันก็กังวลว่าอีกฝ่ายอาจจะโจมตีอย่างกะทันหันอีกครั้ง เขาไม่สนใจที่จะพูดคุยอีกต่อไป แต่ตัดโอกาสที่อีกฝ่ายจะใช้วิญญาณประกาศิตทันที
“ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!”
อ้าวเฉวียนกัดฟันกรอดด้วยความโกรธและสับสน
—
ท่านยั่วยุอ้าวเฉวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
เขาไม่เคยรู้สึกอยุติธรรมเช่นนี้มาตลอดชีวิต! เขามีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อ แต่กลับไม่สามารถใช้ความสามารถดังกล่าวได้ ต้องขอบคุณที่ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้มีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำต้อย ไม่อย่างนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว!
ถ้าหวงฮุ่ยฮงยังมีชีวิตอยู่ เขาคงจะปรบมือด้วยความยินดีอย่างแน่นอนที่เห็นอ้าวเฉวียนต้องทุกข์ทรมานแบบนี้ พระราชโองการอันทรงพลังของเขาถูกผนึกโดยวิญญาณประกาศิตซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่การตายที่น่าอับอายของเขา!
“เจ้าเป็นอะไรกันแน่…”
“แกมองอะไร?!”
“ข้ากำลังมองแกไง ไอ้โง่!”
…
อ้าวเฉวียนเกือบจะร้องไห้ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถใช้วิญญาณประกาศิตของเขาได้ แต่ตอนนี้แค่จะถามคำถามสั้น ๆ กับอีกฝ่ายเขายังทำไม่ได้เลย…
“เดี๋ยวก่อน ให้ข้า…”
“แกมองอะไร?”
“ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!”
เขาเริ่มมีความคิดอยากจะเอาหัวโขกต้นไม้
—
ท่านยั่วยุอ้าวเฉวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666…666…666…
—
ซ่างเชียนตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย?
ผู้เฒ่ามังกรผู้นี้ควรจะมีพลังมหาศาลไม่ใช่เหรอ? เขาหยุดหวงฮุ่ยฮงก่อนหน้านี้ด้วยคำพูดคำเดียว แต่ทำไมตอนนี้อีกฝ่ายกลับเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้เลย?
ข้าฝากความหวังและความฝันทั้งหมดไว้กับเจ้า! อย่าทำให้ข้าผิดหวังแบบนี้สิโว้ย!!
เพ่ยเหมียนหมานและคนอื่น ๆ ตกตะลึงเมื่อมองดูทั้งสองคน คนหนึ่งตะโกนว่า ‘แกมองอะไร?’ และอีกคนก็ตอบว่า ‘ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!’ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา สิ่งนี้มันไม่เหมือนการต่อสู้ระหว่างผู้บ่มเพาะเลยสักนิด มันดูคล้ายคนงี่เง่าสองคนที่ตะโกนด่ากันไปมามากกว่า
ซ่างเฉี่ยนเองก็ขบขันเช่นกัน ตามที่คาดไว้ว่า ซูอันคนนี้ไร้ยางอายอย่างที่คิด เขาลากคู่ต่อสู้ลงไปถึงระดับเดียวกับเขาและจากนั้นใช้ความเชี่ยวชาญที่มีมากมายเพื่อทำลายศัตรู
ผ่านไปครู่หนึ่งก่อนที่อ้าวเฉวียนจะเหยียดมือออกอย่างรวดเร็ว “หยุด!”
ซูอันไม่ได้ตะโกนต่อไป ลำคอของเขาเริ่มแห้งและรู้สึกกระหายน้ำ
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดคำสามคำนั้นอีก อ้าวเฉวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ไอ้เด็กระยำ เจ้าควรจะหุบปากของเจ้าบ้าง!”
อ้าวเฉวียนค่อนข้างแก่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเคยชินกับการควบคุมตนเอง เขาได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพเสมอ และไม่มีปัญหาในการทำตัวห่างเหินและหยิ่งผยอง เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขาตะโกนด่าคนอื่นแบบนี้ครั้งสุดท้าย แต่คราวนี้เขาไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้จริง ๆ
ซูอันหัวเราะคิกคักและพูดว่า “ข้าพูดรอบละสามคำเท่านั้น แต่ทุกครั้งเจ้าตอบกลับมามากกว่าข้าเสมอ ข้าคิดว่ามันเป็นเจ้าที่ควรจะหุบปากของเจ้าเองมากกว่าข้าไม่ใช่เหรอ?”
อ้าวเฉวียนจนคำพูด
คำพูดของไอ้เด็กนี่มีเหตุผล… ข้าไม่มีข้อโต้แย้งเลย!
—
ท่านยั่วยุอ้าวเฉวียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 703!
—