เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 73 ‘จ้าววายุ’(ต้น)
บทที่ 73 ‘จ้าววายุ’(ต้น)
ฉู่จงเทียน ถอนหายใจอย่างขมขื่น “ว่านหรู ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้จักบุคลิกของลูกสาวเรา เมื่อนางเลือกแล้ว ไม่ว่าเขาจะไร้ความสามารถแค่ไหน
นางจะไม่เปลี่ยนใจอีกต่อไป เจ้าต้องการให้นางแต่งงานใหม่จริง ๆ เหรอ”
ฉินว่านหรู รู้สึกหมดหนทางเช่นกันเมื่อนึกได้ถึงเรื่องนี้ “ชูเหยียน
อาจไม่เคยพูดถึงว่าทำไมนางถึงเลือกขยะที่ไร้ประโยชน์ผู้นี้ แต่ในฐานะพ่อแม่ เราจะไม่รู้ได้ยังไงว่านางคิดอะไรอยู่? นางกลัวว่าถ้าเรานำคนที่หัวแข็งและมีความสามารถเกินไปเข้ามา เขาอาจโลภอยากฮุบกิจการของตระกูลฉู่ของเรา ถ้าเป็นเช่นนั้น นั่นจะทำให้นางตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากที่ต้องเลือกระหว่างตระกูลกับสามีของนาง นางทำเพื่อเรา ในฐานะแม่ของนาง ข้ามีหน้าที่คิดแทนนางด้วย อย่างน้อยที่สุด ข้าควรดูแล ซูอัน ให้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม”
ฉู่จงเทียน พยักหน้า “อา นั่นคือเหตุผลที่เจ้าเข้มงวดกับเขามากสินะ”
“แน่นอน!” ฉินว่านหรู กลอกตา “ไม่งั้นข้าคงไม่สั่งให้เขาคัดลอกกฎตระกูลของเราแบบนี้หรอก ท่านคิดว่าข้าจะให้ใครก็ได้มาคัดลอกกฎตระกูลของเรางั้นเหรอ? ข้ากำลังทำสิ่งนี้เพื่อให้เขารู้ว่าข้ามองเขาในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลฉู่ ของข้าแล้ว และข้าก็พยายามทำให้เขากลายเป็นคนที่มีความสามารถมากขึ้นด้วย”
“แต่ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสั่งให้เฉิงโซวผิงทำร่วมกับเขา เจ้ามองว่า
เฉิงโซวผิง เป็นสมาชิกของตระกูลฉู่ ด้วยงั้นเหรอ?” ฉู่จงเทียน ถาม
“เหอะ! ไอ้เจ้าเด็กรับใช้นั่นข้าแค่อยากสั่งสอนมันต่างหาก!” แค่นางคิดถึงภาพตอนที่ เฉิงโซวผิง พาบรรดาผู้หญิงมากหน้าหลายตามาให้นางเลือกวันนั้น แถมยังเอ่ยเร่งเร้าให้นางเลือกหญิงสาวพวกนั้นมาเป็นนางสนมของสามีนางด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ นางก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก “อันที่จริงข้าเองก็รู้อยู่เหมือนกันว่าการคัดลอก 100 จบมันเยอะเกินไปสักหน่อยดังนั้นเขาเลยหาคนมาช่วย ซูอัน เพื่อที่เขาจะสามารถทำให้เสร็จได้ทันแม้ว่าเขาจะไม่ได้พักผ่อนในคืนนี้ก็ตาม”
“ข้าไม่คิดว่าภรรยาของข้าจะมีน้ำใจขนาดนี้!” ฉู่จงเทียน หัวเราะออกมา แต่หลังจากที่เขาหัวเราะเสร็จ เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า
“อย่างไรก็ตาม ซูอันดูเหมือนจะไม่ใช่เด็กที่ฉลาดนัก ด้วยสติปัญญา
ของเขา ข้าสงสัยว่าเขาจะไม่สามารถเข้าใจความตั้งใจที่ลึกซึ้งเบื้องหลังการกระทำของเจ้าได้?”
ฉินว่านหรู: “…”
นางเองคิดถึงความเป็นไปได้นี้เช่นกัน… ไม่ มันน่าจะเป็นไปได้สูง
ที่ ซูอัน จะไม่รู้เหตุผลเบื้องหลังการกระทำนี้ เพราะหากเขาฉลาดจริง
เขาจะมีฉายาขยะสุดไร้ประโยชน์ของเมืองได้อย่างไร?
“งั้นตอนนี้ข้าควรจะเล่นบทเป็นคนดีใช่ไหม? เอาล่ะงั้นข้าจะไปที่นั่นและแนะนำอะไรบางอย่างกับเขาสักหน่อย” ฉูจงเทียน เอ่ยขึ้น
ฉินว่านหรู ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ท่านเอาขนมไปด้วยเพื่อไม่ให้ดูกระทันหันเกินไป”
“ก็ได้” ฉู่จงเทียนยิ้ม คนทั้งโลกบอกว่าเขาแต่งงานกับหญิงสาว
ที่ฉลาดเหนือคน พวกเขาหัวเราะเยาะเขาหาว่าเขาเป็นเพียงเบี้ยล่างของภรรยาของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วเขารู้ดีว่าภรรยาของเขา
เป็นคนปากแข็งแต่ขี้ใจอ่อน นางไม่ใช่คนจำพวกที่ทำหน้าตาใสซื่อแต่เบื้องหลังเอาแต่วางอุบายในมุมมืด
ฉู่จงเทียน สั่งให้คนใช้เตรียมขนมมาหลายกล่องก่อนจะเดินไปที่ห้องสำนึกตน
จากด้านนอก เขาเห็นภาพเงาคนผ่านหน้าต่าง ซึ่งดูเหมือนว่าคนที่อยู่ด้านในกำลังตั้งอกตั้งใจคัดลอกกฎของตระกูลอย่างขยันขันแข็ง เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจขณะพึมพำกับตัวเอง “อย่างน้อยเขาก็ตั้งใจทำงานนะ”
“ตอนนี้เจ้าคงหมดแรงแล้ว หยุดพักสักหน่อย แม่ยายของเจ้าบอกให้ข้านำบางอย่างมา…” ฉู่จงเทียนผลักประตูเปิดออก แต่เมื่อเขามองเข้าไปด้านในห้องเขาก็ต้องชะงักโดยที่รอยยิ้มยังค้างอยู่บนใบหน้า
ในห้องมีแค่ เฉิงโซวผิง ไร้วี่แววของเจ้าลูกเขยตัวดี!
เฉิงโซวผิง รีบวิ่งเข้าไปกอดต้นขาของ ฉู่จงเทียน ด้วยความตื่นตระหนกพร้อมกับบีบน้ำตาจนไหลอาบหน้า เขาร้องไห้ออกมาเสียงดัง “นายท่าน ข้ารู้ว่านายท่านจะไม่ลืมข้า! ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าหลายปีในการรับใช้ท่านท่านอย่างขยันขันแข็งมันจะต้องทำให้นายท่านเห็นใจข้าบ้าง นายท่านอุตส่าห์มาส่งขนมให้ข้าด้วยตัวเองตอนกลางดึกเช่นนี้มันทำให้ โซวผิง ซาบซึ้งจริง ๆ !”
ฉู่จงเทียนระงับความโกรธที่กำลังสุมอกไม่ให้เผลอเตะเฉิงโซวผิงออกไป
พร้อมกับเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าที่อดกลั้นถึงขีดสุด “นายของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
ราวกับว่าเขาถูกย้ำเตือนถึงเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ เฉิงโซวผิง บีบน้ำตาออกมาหนักกว่าเดิมพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “นายน้อยมาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเขาเห็นว่ากฎตระกูลมีอักษรให้คัดลอกอยู่มากเกินไป เขาก็เลยสั่งให้ข้าคัดลอกด้วยตัวเองที่นี่ นายท่าน มือของข้าใกล้จะหลุดอยู่แล้ว!”
เพราะ ซูอัน ไม่ได้อยู่ที่นี่ เฉิงโซวผิง จึงไม่ลังเลที่จะขายความลับของเขา
“ไอ้เด็กเวรนั่น! เขากล้าดียังไง!” แม้แต่คนที่ใจดีและอดทนอย่าง
ฉู่จงเทียน ก็ยังรู้สึกเหลือทนกับความเหลวแหลกของ ซูอัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขารู้ว่าภรรยาของเขาคิดเช่นไรกับเรื่องนี้ เด็กเหลือขอคนนั้นดูถูกความปรารถนาดีของภรรยาเขาแบบนี้ได้ยังไง? ยิ่งคิดก็ยิ่งทนไม่ได้!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉู่จงเทียน จึงกระทืบเท้าออกไปทันทีเพื่อชำระแค้นกับ ซูอัน หลังจากก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว เขาหันกลับมาและมอง เฉิงโซวผิง ซึ่งกำลังติดตามเขามาด้วยอย่างไร้เหตุผลซึ่งมันทำให้เขาขมวดคิ้วทันที “เจ้าตามข้ามาทำไม?”
“ข้า… ข้าจะพาท่านไปหานายน้อย!” เฉิงโซวผิง ประทับใจในสติปัญญาของเขาเอง ว่าเขาสามารถหาข้อแก้ตัวที่สมบูรณ์แบบได้ทันที ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษคัดลอกกฎตระกูลได้ แต่เขายังสามารถทำดีเอาใจนายท่านของตัวเองโดยการนำทางไปให้อีกต่างหาก แม้แต่เขาก็ยังประทับใจในความฉลาดของตัวเอง!
ฉู่จงเทียน พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “ไม่จำเป็นข้าจะไปเอง! เจ้านั่งคัดลอกกฎของตระกูลต่อไปซะและอย่าให้ตกไปแม้แต่คำเดียว!”
ไอ้เด็กนี่คือไอ้สารเลวที่แพร่ข่าวว่าเขาถูกภรรยาของตัวเองบิดหูให้กับคนทั้งเมืองรู้ ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกให้คนทั้งเมืองหัวเราะเยาะ นี่คือเหตุผลที่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแค้นทุกครั้งที่เห็นหน้าเฉิงโซวผิง
เฉิงโซวผิง เบิกตากว้างด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “???”
นายท่าน ท่านไม่รังเกียจข้าแล้วไม่ใช่เหรอ? ข้าทำอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ นายท่านของข้า…แต่แล้วหลังจากที่เห็นว่ากล่องขนมยังคงถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ เฉิงโซวผิง ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่านายท่านยังคงห่วงใยข้าอยู่บ้างล่ะนะ
ในขณะเดียวกันระหว่างที่ ซูอัน ยังคงนอนพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในห้องของเขา เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
ท่านยั่วยุ ฉู่จงเทียน สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +283!
เอ๊? เป็นพ่อตาของข้าในครั้งนี้? เกิดอะไรขึ้นกับคนใจดีอย่างเขาถึงได้อารมณ์เสียกับข้า?
ในขณะที่ ซูอัน งุนงง ร่างที่ขุ่นเคืองก็บุกเข้ามาในห้องของเขา “ไอ้เด็กเหลือขอ! เจ้าอยู่ที่นี่จริง ๆ !”
“ท่านพ่อตา” ซูอัน พยายามลุกขึ้นจากเตียงของเขา แต่ก็ล้มเหลวในที่สุด “ยกโทษให้ข้า ตอนนี้ข้าบาดเจ็บ เลยลุกไปทักทายท่านไม่ได้…”
คำพูดว่า ‘พ่อตา’ ทำให้เปลือกตาของ ฉู่จงเทียน กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งที่ได้ยินประโยคนี้จาก ซูอัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะคิดลึกลงไป เขาก็นึกได้ถึงคำพูดที่ ซูอัน บอกว่าตัวเองบาดเจ็บ จึงอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “เจ้าได้รับบาดเจ็บ?!”
“ถูกต้องแล้วท่านพ่อตา” ซูอัน มองไปที่ ฉู่จงเทียน ด้วยสายตาขอความเห็นใจ
ฉูจงเทียน รีบวิ่งมาที่เตียงเพื่อตรวจสอบสภาพของเขา “เจ้าบาดเจ็บสาหัส! มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
ท่านโชคดีที่ยาของ จี้เติ้งถู รักษาอาการบาดเจ็บของข้าได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ไม่งั้นหากท่านมาเห็นข้าในสภาพก่อนหน้านี้ ท่านคงจะตะโกนลั่นคฤหาสน์ไปแล้วแน่นอน! ซูอัน เก็บความคิดดังกล่าวเอาไว้ในใจและตอบกลับว่า “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ข้ากำลังเดินอยู่ในคฤหาสน์แต่แล้วจู่ ๆ
กลับมีชายชุดดำกระโดดออกมาและเริ่มทุบตีข้า ถ้าไม่ใช่เพราะข้าร้องตะโกนเสียงดังจนทำให้ยามรอบ ๆ ตื่นตัวข้าคงเสียชีวิตไปแล้ว”
คำพูดของ ซูอัน เป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น มันเป็นความจริงเพียงแค่ว่าในคฤหาสน์แห่งนี้มีคนต้องการเอาชีวิตของเขาแน่นอน ดังนั้นมันจึงเป็นการดีที่จะให้ ฉู่จงเทียน ตรวจสอบเรื่องนี้ ตราบใดที่ ฉู่จงเทียน สามารถหาตัวคนที่ปองร้ายเขาได้ เรื่องทุกอย่างมันก็จะจบลงอย่างมีความสุข