เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 752 ช้าเกินไป
บทที่ 752 ช้าเกินไป
บทที่ 752 ช้าเกินไป
เมื่อมาถึงลานด้านหลังโรงเตี๊ยม ทุกคนก็ได้พบหลุมฝังศพที่ถูกทำขึ้นอย่างหยาบ ๆ และเรียบง่าย ศพทั้งหมดถูกขุดขึ้นมาซึ่งนับจำนวนคนที่ถูกฝังอยู่ได้ราวสิบคนหรือมากกว่านั้น
จูเซี่ยฉือซินขมวดคิ้ว “คนพวกนี้เป็นใคร? พวกเขามาจากสำนักมารหรือเปล่า?”
เสียงสั่นเครือตอบกลับไป “ไม่ พวกเขาเป็นนักรบจากตระกูลซ่างของเรา”
จูเซี่ยฉือซินมองไปที่ซ่างเฉี่ยน “แล้วทำไมคนของเจ้าถึงมาตายที่นี่? จากการแต่งกายของพวกเขา ดูเหมือนว่าก่อนตายพวกเขาจะแต่งตัวเป็นบริกรโรงเตี๊ยม พวกเจ้ากำลังวางแผนอะไรอยู่?”
“ข้าได้รับข่าวมาว่ามีคนต้องการทำร้ายพ่อของข้า ดังนั้นข้าจึงเตรียมคนมาปกป้องพวกเขา…” ซ่างเฉี่ยนเล่าคร่าว ๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก แต่นางไม่ได้พูดถึงวิธีที่พวกนางวางแผนเอาไว้เพื่อช่วยซูอัน
“คนของสำนักมารนั้นชั่วร้ายและไร้ความปรานีจริง ๆ” จูเซี่ยฉือซินรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ “แล้วใครเป็นคนฝังคนเหล่านี้? คนของสำนักมารคงไม่ใจดีพอที่จะฝังพวกเขาและสร้างป้ายหลุมศพให้แน่นอน ถูกต้องไหม?”
แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้ถูกฝังในโลงศพ แต่พวกเขาก็ยังถูกฝังในหลุมแยกกันและมีดินกลบหน้าจนมิด
“น่าจะเป็นซูอัน” ฉู่ชูเหยียนกล่าว นางมองดูคำที่สลักบนป้ายหลุมศพแล้วหน้าแดง “ลายมือน่าเกลียดอย่างนี้ และคำที่ใช้อย่างตรงไปตรงมา จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากเขา”
มีคนพบอีกครึ่งหนึ่งของป้ายหลุมศพ ซึ่งถูกทำหักไปโดยไม่ได้ตั้งใจจากเหล่าทหารที่ขุดหลุมศพนี้ขึ้นมาใหม่ แน่นอนว่ามีการเขียนคำว่า ‘สร้างโดยซูอัน’ ขนาดใหญ่ไว้บนนั้น
“ซูอัน…” ซ่างเฉี่ยนตกอยู่ในความงุนงงขณะที่นางอ่านคำที่เขาเขียน ‘หลุมฝังศพของเหล่าชายชาติทหารผู้ภักดี’
เห็นคำนี้น้ำตาของนางคลอไปทั่วทั้งดวงตา ตอนนี้นางเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สะใภ้ของนางจึงตกหลุมรักชายผู้นี้
…
“ฮัดชิ่ว!” ในขณะเดียวกัน ซูอันซึ่งกำลังอยู่ที่ไหนสักแห่งอันห่างไกลได้จามอย่างรุนแรง “ตอนนี้ผู้หญิงคนไหนกำลังคิดถึงข้าอยู่ล่ะเนี่ย?” เขาพึมพำกับตัวเอง
เพ่ยเหมียนหมานกลอกตา “เจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมาจริง ๆ!”
…
จู่ ๆ ก็มีเสียงร้องดังขึ้นจากด้านนอกโรงเตี๊ยม “ดูทางโน้นสิ! นั่นอะไรน่ะ!?”
กลุ่มคนเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว มีแสงวาบพร่างพราวไปทั่วท้องฟ้า
หลิวเหย่ามองดูอุกกาบาตที่ส่องประกายขณะที่มันพุ่งผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนและพึมพำกับตัวเองว่า “มันเป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์…มันต้องมีสมบัติล้ำค่ากำเนิดขึ้นอย่างแน่นอน!”
นัยน์ตาของคนรอบข้างต่างร้อนรุ่มเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด
มีเพียงจูเซี่ยฉือซินเท่านั้นที่ยังคงแสดงออกอย่างเฉยเมย เขาจ้องแสงที่ส่องประกายซึ่งเปลี่ยนคืนที่มืดมิดให้เป็นกลางวันในทันใด แล้วกล่าวว่า “ไปที่นั่นกันเถอะ”
ฉู่ชูเหยียนลังเลเล็กน้อย นางยังคงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของซูอันและเพ่ยเหมียนหมาน นางกังวลว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถหลบหนีการไล่ล่าของแม่ชียุง นางจึงอยากจะออกไปตามหาพวกเขามากกว่า
ซ่างเฉี่ยนเดินไปที่ด้านข้างของนางและพูดว่า “พี่สาวฉู่ แม้ว่าข้าจะไม่ได้สนิทสนมกับซูอัน แต่จากสิ่งที่ข้ารู้เกี่ยวกับเขา เขาน่าจะมุ่งตรงไปยังจุดที่อุกกาบาตตกลงเช่นกัน ข้าแน่ใจว่าปรากฏการณ์นี้จะดึงดูดความสนใจได้เพียงพอ และคนอื่น ๆ ก็คงจะไปรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว จะมีคนอื่นอยู่ที่นั่นแน่ ๆ ซึ่งเราไม่ต้องกลัวแม่ชียุงอีกต่อไป”
ซ่างเฉี่ยนเชื่อว่าซูอันเป็นนักคิดที่เฉียบแหลมอย่างมาก นางเดาว่าซูอันน่าจะเลือกวิ่งเข้าหาจุดอุกกาบาตตกเพราะมันจะยิ่งทำให้เขามีโอกาสหนีรอดจากแม่ชียุงได้มากขึ้น
ฉู่ชูเหยียนดูประหลาดใจ “ข้าได้ยินมาว่าคุณหนูซ่างเฉียบแหลมมาก ตอนนี้ดูเหมือนว่าข่าวลือทั้งหมดจะเป็นความจริง หากเราช่วยเหลืออาซูได้สำเร็จ บุญคุณของเจ้าครั้งนี้ข้าจะจดจำเอาไว้ไม่มีลืมเลือนแน่นอน”
“ข้าควรจะเป็นคนที่ขอบคุณซูอันที่ช่วยฝังคนของข้าเป็นอย่างดี”
ซ่างเฉี่ยนมองเหล่าศพทหารของนางเอง นางได้ขอให้จูเซี่ยฉือซินสั่งให้ฝังคนเหล่านี้อีกครั้ง เมื่อพวกเขากลับไปถึงเมืองหลวง นางจะส่งคนกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อรับผู้วายชนม์เหล่านี้กลับบ้าน
สีหน้าของฉู่ชูเหยียนอ่อนลง “แม้ว่าซูอันจะมีข้อเสียมากมายจนข้านึกได้เต็มไปหมด แต่จริง ๆ แล้วเขาก็เป็นคนที่จิตใจดีคนหนึ่ง”
ซ่างเฉี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ข้าก็สัมผัสได้เหมือนกัน”
ซ่างหงถอนหายใจเมื่อได้ยินเช่นนี้
เขาชื่นชมซูอันอย่างมาก ถ้ารู้ว่าซูอันเป็นคนเช่นนี้ตั้งแต่แรก เขาคงจะพาลูกสาวของเขาไปที่เมืองจันทร์กระจ่าง และชักชวนซูอันมาเป็นลูกเขย ลูกชายของเขาจะได้ไม่ต้องมาตายอย่างอนาถใจเช่นนั้น…
จูเซี่ยฉือซินและคนอื่น ๆ ไม่ได้มีอารมณ์เห็นอกเห็นใจ เขาทิ้งคนไว้ปกป้องโรงเตี๊ยมและเฝ้าดูนักโทษ จากนั้นนำกองกำลังทูตยุทธ์เสื้อแพรไปยังทิศทางที่อุกกาบาตตกเป็นการส่วนตัว
อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าไม่สามารถซ่อนความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาได้จึงตามไปด้วย ฉู่ชูเหยียนผู้ซึ่งกังวลเกี่ยวกับซูอันก็ตามไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาไปถึงที่จุดอุกกาบาตตก สิ่งที่พวกเขาเห็นคือหลุมขนาดใหญ่ โดยมีเศษซากอุกกาบาตกระจัดกระจายอยู่รอบ ๆ ใบหน้าของจูเซี่ยฉือซินมืดครึ้มราวกับเมฆฝนฟ้าคะนอง
“ท่านจูเซี่ย ท่านเห็นเบาะแสของซูอันบ้างหรือไม่?” ฉู่ชูเหยียนถาม อีกฝ่ายมีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุดในกลุ่มและมาถึงก่อน ดังนั้นเขาอาจสังเกตเห็นบางอย่างมากกว่าทุกคน
จูเซี่ยฉือซินจ้องไปที่เศษซากของอุกกาบาต “เรามาช้าเกินไป ข้าเห็นพวกเขากระโดดผ่านประตูมิติ ซึ่งแม่ชียุงก็ติดตามพวกเขาไปด้วย ประตูมิติหายไปเร็วมาก ข้าไม่สามารถตามเข้าไปได้ทันเวลา”
เขาสันนิษฐานว่าประตูมิติเป็นทางเข้ามิติลับ อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยเห็นประตูทางเข้ามิติลับปิดเร็วขนาดนี้ ใครจะรู้ว่าซูอันจะสามารถรอดกลับมาได้หรือไม่ มิติลับแทบทั้งหมดคือสถานที่อันตรายอย่างยิ่งยวด
เขารู้สึกปวดหัวอย่างมากเมื่อคิดว่าเขาจะอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้จักรพรรดิฟังอย่างไรเมื่อกลับไปถึงเมืองหลวง
“แม่ชียุงก็เข้าไปด้วยเหรอ!?” สีหน้าของฉู่ชูเหยียนเปลี่ยนไปอย่างมาก ความกังวลเกิดขึ้นในใจของนาง
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวล มิติลับมักจะค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นพวกเขาน่าจะถูกส่งไปโผล่ยังสถานที่ต่างกันและพวกเขาอาจจะไม่เจอกันเลยก็ได้ในระหว่างที่อยู่ข้างใน” จูเซี่ยฉือซินกล่าว
…
ทันทีที่ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานเข้าไปในประตูมิติ พวกเขารู้สึกว่าตนเองกำลังอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักอย่างกะทันหัน แต่นี่ไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย พวกเขารู้สึกคล้าย ๆ กันเมื่อตอนเข้าไปในมิติลับของสถาบันจันทร์กระจ่าง
เมื่อพวกเขาตั้งตัวได้ก็ค้นพบว่าอยู่ในโลกที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทา
“ข้าว่าข้าเห็นแม่ชียุงเข้ามาด้วย” เพ่ยเหมียนหมานกล่าว นางมองเหลียวหลังไปด้วยความกังวล แต่ก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่น
ซูอันกล่าวว่า “นางตามเรามา แต่นางน่าจะถูกส่งไปที่อื่น”
เขาเองก็รู้สึกปวดหัวเช่นกัน ผู้หญิงคนนั้นไม่ลดละเลย! แม้จะมีโอกาสเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ นางก็ยังคงดื้อรั้นไม่จบไม่สิ้น!
เพ่ยเหมียนหมานเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ในมิติลับอื่น ๆ ผู้ที่เข้าไปมักจะถูกส่งไปยังสถานที่ต่างกันภายในมิติลับ ถ้าต้องการไปโผล่ยังจุดเดียวกันเป็นหมู่คณะ ผู้ที่เข้ามาต้องจับมือกันไว้
ตอนนี้นางสังเกตเห็นว่ามือของซูอันและมือของนางยังคงกำกันแน่น หน้าของนางแดงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่มาจากมือของเขา “เจ้าจะจับมือข้าอีกนานไหม?”
ซูอันหัวเราะอย่างเชื่องช้าก่อนจะปล่อยมือของนาง “ก่อนหน้านี้ข้าไม่มีทางเลือก! ข้าไม่ได้พยายามที่จะหาเศษหาเลยจากเจ้าจริง ๆ นะ!”