เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 754 นรกบนดิน
บทที่ 754 นรกบนดิน
บทที่ 754 นรกบนดิน
เพ่ยเหมียนหมานจำได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่นี้ พวกเขาตกลงมาในหลุมนี้ แต่ซูอันใช้ร่างกายของเขาโอบนางไว้เพื่อปกป้องนางจากแรงกระแทกอย่างไม่สนชีวิตตัวเอง
แต่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ และเขาได้เสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตนาง!
ซูอันได้ใช้ร่างกายของเขาเองปกป้องนางจากโขดหินและอันตรายอื่น ๆ ขณะที่ตกลงมา จนท้ายที่สุดนางมีบาดแผลและรอยถลอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในทางกลับกัน เสื้อผ้าของซูอันขาดกะรุ่งกะริ่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำมากมาย
ซูอันหัวเราะเสียงดัง “เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร? ข้าจะทิ้งเพื่อนของข้าให้เป็นอันตรายโดยไม่ดูดำดูดีได้ยังไงกัน?”
“เราเป็นแค่เพื่อนกัน…” ร่องรอยของความผิดหวังปรากฏบนใบหน้าของนาง และหายในไปทันทีราวกับไม่เคยเกิดขึ้น นางยิ้มอย่างมีเสน่ห์เหมือนภาพลักษณ์ตามปกติในทันที “นั่นสิ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่นา ข้าเป็นเพื่อนสนิทของชูเหยียน ชูเหยียนจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่ถ้านางรู้ว่าเจ้าไม่ช่วยข้า”
จากนั้นนางก็ยกกำปั้นขึ้นและทุบซูอัน
“โอ๊ย!!” ซูอันสูดหายใจเข้าอย่างแรง เขารู้สึกเจ็บที่หลังก่อนจะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
“ทำไมเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้? ข้าไม่ได้ใช้แรงเลย!” เมื่อเห็นเขาเจ็บปวด เพ่ยเหมียนหมานแทบจะน้ำตาไหล
“ไม่เป็นไร ตอนลงถึงพื้นข้าคิดว่ามีบางอย่างแทงที่หลังข้า เจ้าช่วยดูให้หน่อยได้ไหม” ซูอันพยายามหันศีรษะ แต่เขาไม่เห็นหลังของตัวเอง
เพ่ยเหมียนหมานเริ่มร้องไห้ทันที วัตถุแหลมคมยาวแทงลึกเข้าไปในหลังของซูอัน ดูจากลักษณะมันน่าจะทะลุปอดไปแล้ว ไม่แปลกใจที่เขาจะกระอักเลือดออกมา!
เมื่อได้ยินคำอธิบายของนาง ซูอันกลับผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด “ไม่เท่าไหร่นี่ ช่วยดึงมันออกมาที”
“แต่ถ้าข้าดึงออกตอนนี้ เจ้าจะเสียเลือดมาก!” เพ่ยเหมียนหมานแย้ง
ซูอันลูบหัวของนางอย่างปลอบประโลม “ไม่ต้องห่วง แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของข้าจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่ร่างกายของข้าแข็งแกร่งเหนือกว่าคนทั่วไปหลายขุม มันไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นเกินไปกว่านี้หรอก”
ในที่สุดเพ่ยเหมียนหมานก็จำความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าทึ่งของซูอันได้ นางกัดริมฝีปากและพูดว่า “ถ้าเจ็บมากเจ้าต้องบอกข้าทันที เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วคุณหนูเพ่ย!” ซูอันยืดร่างกายของเขาให้ตรง แม้ว่ามันจะเจ็บปวด แต่เขาก็บังคับตัวเองให้สงบเพื่อไม่ให้นางกังวล
เขาค่อนข้างประหลาดใจในตัวเองจริง ๆ ที่จู่ ๆ ก็นึกไปถึงเรื่องเกี่ยวกับกวนอูที่ได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นต้องรักษาตัวเองด้วยการเฉือนเนื้อ ขูดกระดูก เพราะหากเทียบกับตั้งแต่เขามาที่โลกใหม่นี้ เขาได้รับบาดแผลร้ายแรงนับไม่ถ้วนจนไอ้เรื่องการขูดกระดูกของกวนอูนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย
เพ่ยเหมียนหมานนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะ ไม่ว่านางจะจับอาวุธใดก็ตาม มือของนางจะนิ่งมั่นไม่มีสั่นไหว แต่ขณะนี้ที่นางจับวัตถุแหลมคมที่แทงหลังซูอัน มือของนางกลับสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เป็นไร แค่ดึงออกมา” ซูอันตบหัวเข่านางเบา ๆ รอยยิ้มอันอบอุ่นของเขาทำให้นางสงบลงในที่สุด
เพ่ยเหมียนหมานรู้ว่านางไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ได้ นางหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ดึงมันออกมา การเคลื่อนไหวของนางเชื่องช้าเพราะกลัวว่าเลือดอาจจะพุ่งออกมาถ้านางดึงเร็วเกินไป
ซูอันครางเบา ๆ อย่างเจ็บปวด หน้าผากของเขามีเหงื่อมากมายปกคลุม มันเจ็บเหลือเกิน! อีกครั้งแล้วสินะที่ปอดของเขาพังยับเยิน
จากสิ่งที่เขารู้ หนึ่งในสาเหตุการตายที่ทรมานที่สุดในโลกก่อนหน้านี้ของเขาคือปอดรั่ว ผู้บาดเจ็บจะโหยหาอากาศและอำลาโลกไปด้วยความเจ็บปวด
อีกครั้งที่เขารู้สึกขอบคุณพลังการฟื้นฟูอันน่าทึ่งของวิชาปฐมบทแรกเริ่ม หากปราศจากมัน แม้ว่าเขาจะไม่ตายเพราะปอดรั่ว เขาก็น่าจะตายจากการติดเชื้อ
ในที่สุดเพ่ยเหมียนหมานก็เอาวัตถุแหลมคมนั้นออกมาได้ อย่างไรก็ตาม มีรูขนาดใหญ่อยู่ที่หลังของซูอันและร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผลอื่น ๆ มากมาย น้ำตาเริ่มรินไหลอาบใบหน้าของนางอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้ง
นางรู้ว่านางจะเป็นคนที่ถูกหินนี้แทงหลังถ้าซูอันไม่ได้ปกป้องนาง นางเป็นคนที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
เนื่องจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับแม่ของนาง เพ่ยเหมียนหมานไม่เคยเชื่อในแนวคิดเรื่องรักแท้และความเสียสละ แม้ว่านางจะดูเหมือนชอบบริหารเสน่ห์และเป็นขั้วตรงข้ามกับฉู่ชูเหยียนทุกอย่าง แต่จริง ๆ แล้วหัวใจของนางเย็นชาและไร้ความรู้สึกราวกับหินผาเสมอ นางมองทุกสิ่งในโลกด้วยความเฉยเมย
ก่อนหน้านี้แม้ว่าความสัมพันธ์ของนางกับซูอันจะค่อนข้างดี และนางรู้สึกพึงพอใจเขา แต่มันก็แค่นั้น
ทว่าตอนนี้หลังจากที่เขาได้ช่วยชีวิตนางครั้งแล้วครั้งเล่า กำแพงที่ปิดกั้นหัวใจซึ่งนางสร้างมันขึ้นตั้งแต่ยังเด็กก็เริ่มพังทลายลงทีละน้อย แม้แต่หัวใจที่เยือกเย็นของนางก็เริ่มหลอมละลาย
“คุณหนูเพ่ย เจ้าช่วยร้องไห้ทีหลังได้ไหม? ตอนนี้เจ้าช่วยทายาให้ข้าก่อนเถอะ” ซูอันหยอกนาง ปกติแล้วผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างเด็ดเดี่ยวไม่ใช่เหรอ? ทำไมวันนี้นางทำตัวงอแงเป็นเด็ก ๆ
เพ่ยเหมียนหมานตั้งสติ นางหยิบขวดยาจากมือของเขาและช่วยทาให้ จากนั้นจึงฉีกเสื้อผ้าของนางส่วนหนึ่งเพื่อพันแผล
ดวงตาของนางหรี่ลงอย่างกะทันหันเมื่อสังเกตเห็นผ้าพันแผลอีกหลายชิ้นบนร่างกายของเขา เศษผ้าที่ใช้พันแผลเหล่านี้มีลายปักเป็นรูปดอกไม้เล็ก ๆ ปักอยู่ด้วย แถมยังส่งกลิ่นหอมจาง ๆ ออกมา มันต้องเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ฉีกเสื้อผ้าของพวกนางและพันแผลให้เขามาก่อนหน้านี้!
นี่เป็นเพียงความฟุ้งซ่านชั่วขณะสำหรับนาง ก่อนที่นางจะรีบพันแผลและช่วยเขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
“เหมียนหมานใหญ่ มือของเจ้านุ่มมาก” ซูอันรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อรู้สึกถึงความเย็นสบายซึมเข้าสู่แผ่นหลังของเขา เมื่อยาของหมอเทวะจี้และวิชาปฐมบทแรกเริ่มทำงานควบคู่กัน ทุกอย่างก็ดูไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป
คราวนี้เพ่ยเหมียนหมานไม่ได้หัวเราะ แต่กลับมองเขาอย่างจริงจัง “อาซู เจ้าสัญญาอะไรกับข้าได้ไหม?”
“สัญญาอะไร?” ซูอันตกตะลึง
เพ่ยเหมียนหมานกัดริมฝีปาก นางลังเลอยู่หลายครั้ง คิดหาวิธีพูด นางมองเข้าไปในดวงตาของเขาและพูดว่า “เจ้าสัญญากับข้าได้ไหมว่าต่อไปจากนี้เจ้าจะไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อผู้หญิงคนไหนอีก!”
ซูอันอ้าปากค้างพูดไม่ออก
เพ่ยเหมียนหมานกล่าวต่อ “เจ้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยข้ามาหลายครั้ง และก่อนหน้านี้เจ้าก็ทำแบบเดียวกันกับเจิ้งตาน เจ้ารับหอกแทนนาง แล้วก็มีชิวฮัวเล่ยด้วยเช่นกัน…ถ้าเจ้าไม่หวงแหนร่างกายของตัวเอง เจ้าจะสู้หน้า…สู้หน้าชูเหยียนได้ยังไง?”
ซูอันรู้สึกกระอักกระอ่วน “อันที่จริง ข้าไม่ได้คิดอะไรเลยในตอนที่เสี่ยงชีวิตช่วยทุกคน ข้าแค่ทนดูอยู่เฉยไม่ได้เมื่อเห็นว่าพวกเจ้ากำลังตกอยู่ในอันตราย…”
สายตาของเพ่ยเหมียนหมานอ่อนลง “ข้ารู้ว่าเจ้าเจตนาดี แต่สักวันโชคของเจ้าจะหมดลงในที่สุดหากเจ้ายังทำอย่างนี้ต่อไป! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าตายไปจริง ๆ?”
ซูอันกล่าวเสียงเบา “แต่ร่างกายของข้าแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป…”
เพ่ยเหมียนหมานตัดบทเขา “ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถฟื้นตัวได้เร็ว แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็มีขีดจำกัด! เจ้าสัญญากับข้าได้ไหมว่า ต่อไปเจ้าจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้อีก?”
หัวใจของซูอันอ่อนลงเมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่มีแววห่วงใยของนาง เขาพูดอย่างรวดเร็วว่า “เอาล่ะ ข้าสัญญากับเจ้า แม้ว่าข้าจะช่วยเหลือผู้อื่น แต่ข้าก็จะเอาตัวรอดให้ได้…แต่ถ้าเจ้าเจออันตรายอีกครั้ง ไม่มีทางที่ข้าจะไม่พยายามช่วยเจ้า”
“ดูเจ้าสิ…” เพ่ยเหมียนหมานถอนหายใจ
เจ้าไม่เข้าใจข้าเลย! จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่สามารถต้านทานผู้ชายที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องนางได้? ใครจะรู้ว่าในอนาคตผู้ชายคนนี้จะมีหญิงสาวตามเป็นพรวนขนาดไหน!?
ซูอันหยิบวัตถุที่เคยแทงเข้ามาในร่างกายของเขาขึ้นมาดู “เรามาดูกันว่าอะไรกันที่ทำให้ข้าต้องทุกข์ทรมาน…”
จู่ ๆ เขาก็หรี่ตาลงกลางประโยค นี่ไม่ใช่หินอย่างที่เขาเคยคิด แต่เป็นกระดูกซี่โครงของมนุษย์!
เพ่ยเหมียนหมานตกตะลึงเมื่อนางรู้ว่ามันคืออะไร “นี่…นี่…”
ซูอันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ใบหน้าของทั้งคู่ซีดเผือดลงทันที
ซูอันกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ดูเหมือนว่าสิ่งที่เจ้าพูดนั้นถูกต้อง สถานที่แห่งนี้ถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือด”
บางทีอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาตกลงมาในระยะทางที่ค่อนข้างไกลพอสมควรดังนั้นหมอกรอบ ๆ ตัวพวกเขาจึงไม่หนาเหมือนตอนอยู่ข้างบนพื้นดิน
หลุมนี้ซูอันกะมันด้วยตาเปล่าแบบคร่าว ๆ แล้ว มันน่าจะกว้างพอ ๆ กับสนามฟุตบอลสองสามสนามต่อเรียงกัน มีโครงกระดูกเกลื่อนไปทุกหนทุกแห่ง โครงกระดูกทุกอันบิดเบี้ยว เผยให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับก่อนตายอย่างชัดเจน มันไม่ต่างอะไรจากนรกบนดินเลยจริง ๆ