เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 78 เจ้าสำนักไร้ยางอาย(ปลาย)
บทที่ 78 เจ้าสำนักไร้ยางอาย(ปลาย)
เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของหงซิงอิง ซูอันก็ยืนยันได้ทันทีว่าไอ้เด็กนี่
คือหนึงในแฟนคลับของ ฉู่ชูเหยียน ดังนั้นเขาจึงยิ่งอยากกระพือไฟให้โหมแรงยิ่งขึ้น “บ่าวผู้มากไปด้วยความสามารถกับนายหญิงที่งดงาม โอ้…มันช่างเป็นเรื่องราวความรักที่สวยงามและน่าเศร้า! แต่ถึงกระนั้น เจ้าไม่คิดหรือ
ว่าเจ้ามันช่างไร้ยางอายที่โลภอยากได้ภรรยาของชายอื่น!?”
“เจ้า!!!” หงซิงอิง จ้องเขม็งไปที่ ซูอัน ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปด้วยสีหน้าเดือดดาล เขาไม่อยากเสียเวลาเถียงกับฝั่งตรงข้ามอีกต่อไป!
ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +100!
น่าเสียดายสำหรับ หงซิงอิง ที่ ซูอัน ไม่มีแผนที่จะปล่อยเขาไปง่าย ๆ
ซูอัน รีบเดินไปประชิดตัว หงซิงอิง และตบไหล่ของเขาเบา ๆ “ก็ได้ ๆ งั้นข้าจะพูดอีกแบบก็แล้วกัน เอาเป็นว่าผู้หญิงที่เจ้ารักดันกลายมาเป็นภรรยาของข้า เอาล่ะแบบนี้มันคงทำให้เจ้าดูชั่วน้อยลงกว่าเดิมแล้วจริงไหม?”
ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +333!
หงซิงอิง กัดฟันด้วยความโกรธขณะที่เขากำด้ามจับกระบี่ของเขาแน่น พยายามยับยั้งตัวเองไม่ให้ชักกระบี่บั่นคอ ซูอัน ท้ายที่สุดเขาสูดหายใจเข้าลึกและพูดว่า “ตอนนี้เจ้าอยากปากดีแค่ไหนก็เชิญตามสบาย! เอาไว้รอให้เราเข้าไปในสำนักจันทร์กระจ่างก่อนเถอะ ที่นั่นทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะได้เข้าใจว่าเจ้ากับข้าพวกเรามันต่างกันแค่ไหน!”
ซูอัน หัวเราะอย่างขบขัน “ข้าชื่นชมความมั่นใจของเจ้าจริง ๆ
เจ้าตีหน้าซื่อเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อตาและแม่ยายของข้า แต่พอลับหลังพวกเขา
เจ้ากลับทำอีกอย่าง เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะรายงานเรื่องนี้กับพวกเขางั้นเหรอ?”
หงซิงอิง หัวเราะไม่สะทกสะท้านกับคำขู่แม้แต่น้อย “เอาเลย เจ้าไปบอก
พวกเขาได้เลย! มาดูกันว่าพวกเขาจะเชื่อขยะอย่างเจ้าหรือบ่าวรับใช้
ที่มีความสามารถอย่างข้า!”
ซูอัน ดึง เฉิงโซวผิง กลับมาและพูดว่า “ข้ามีพยานอยู่ที่นี่”
เฉิงโซวผิง รีบส่ายหัวทันที “หะ อะไร? ข้าไม่เห็นหรือได้ยินอะไรทั้งนั้น!”
ซูอัน รู้สึกอยากจะอัดไอ้เด็กนี่ให้จมดิน เขาตวาดขึ้นทันที “ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย ทำไมเจ้าถึงทำตัวขี้ขลาดได้ขนาดนี้!?”
เมื่อเห็นเรื่องตลกนี้ หงซิงอิง ไม่พลาดโอกาสที่จะถากถางฝ่ายตรงข้าม “เอาเลย บังคับเขาให้สาแก่ใจ แต่ข้าบอกเอาไว้เลยว่ามันไร้ประโยชน์ ถ้าเทียบกับไอ้เด็กปากเปราะนั่นกับคนอื่น ๆ คนเดียวที่นายท่านและนายหญิงจะไว้ใจน้อยที่สุดในคฤหาสน์แห่งนี้ ก็คือไอ้เด็กที่อยู่ข้างเจ้านั่นแหละ”
หลังจากพูดจบ หงซิงอิง ก็เดินนำไปข้างหน้าต่อทันทีโดยเว้นระยะห่างระหว่างเขากับ ซูอัน จนเกือบจะเหมือนกับว่าพวกเขาไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ
ซูอัน และ เฉิงโซวผิง ถูกทิ้งไว้ที่ด้านหลังโดยไม่พูดอะไร ซูอัน
ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ทำไมสถานะในตระกูลของเจ้าถึงน่าสังเวชเช่นนี้? เฮ้อ ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าคงวิ่งเอาหัวไปชนเสาให้ตาย ๆ ไปนานแล้ว”
เฉิงโซวผิง โต้กลับอย่างไม่พอใจ “ท่านเองก็ไม่ต่างอะไรกับข้าสักหน่อยแม้แต่บ่าวรับใช้ยังกล้าแข็งข้อกับนาย ท่านยังกล้ามาว่าข้าไม่ได้เรื่องอีก!”
ซูอัน ส่งเสียงขู่อย่างเย็นชาก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังเดินจากพวกเขาไป รอยยิ้มค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นบนริมฝีปากของเขา มันไม่ง่ายเลยสำหรับข้าที่จะเจอเหยื่อที่สมบูรณ์แบบอย่างเจ้า ไม่ต้องกังวลข้าจะไม่ทำอะไรรุนแรงกับเจ้าแน่นอน ข้าจะค่อย ๆ รีดคะแนนจากเจ้าเรื่อย ๆ ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะตายลงก่อนที่ข้าจะได้คะแนนความโกรธมาอย่างเต็มที่!
ไม่นานทั้งสามคนก็มาถึงทางเข้าสถานศึกษาจันทร์กระจ่าง ซูอัน
อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังทิศทางของเส้นทางที่แยกออกไปด้านข้าง
และภาพของหญิงสาวในศาลาก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา เขาสงสัยว่า
เขาจะได้พบกับนางอีกครั้งในอนาคตหรือไม่
มีคนเข้าคิวที่ทางเข้าสำนักน้อยลงเมื่อเทียบกับเมื่อวาน ซูอัน รู้สึก
เบื่อหน่ายขณะรอให้ถึงคิวเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มมองไปรอบ ๆ ไม่นานนัก
เขาสังเกตเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยื้อยุดกันอยู่
ผู้ชายคนนั้นดูสะอาดสะอ้านเป็นอย่างมาก ซูอันได้กลิ่นแป้งและน้ำหอมลอยมาถึงตรงเขาเลยด้วยซ้ำ ผิวของชายผู้นั้นดูเรียบเนียนสวยกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ซะอีกและในบางครั้ง ดวงตาของชายผู้นั้นก็เปล่งประกายเย้ายวนจน
ซูอัน เริ่มสงสัยว่านี่เป็นโครงเรื่องการแต่งตัวข้ามเพศแบบคุณหนูของตระกูลใหญ่บางคนที่เขามักจะเห็นในละครประวัติศาสตร์รึเปล่า
ข้าไม่ได้โง่เหมือน เหลียงซานป๋อ (ตัวเอกจากนิทานพื้นบ้านของจีน
เรื่อง ตำนานรักผีเสื้อ ซึ่งพระเอกไม่รู้ว่านางเอกปลอมเป็นผู้ชาย) ไม่มีทาง
ที่ข้าจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านตาข้าไปได้!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูอัน จึงเดินไปหาชายหนุ่มและโอบแขนของเขาเอาไว้รอบไหล่ของ ‘ชายคนนั้น’ ทันที “น้องชาย เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า?”
เจ้าอยากแต่งเป็นผู้ชายเองนา ดังนั้นเจ้าจะบ่นไม่ได้แม้ว่าข้าจะเอาเปรียบเจ้าเล็กน้อย ฮ่า ๆ~
“เจ้าคือ…?” ‘ชาย’ คนนั้นสับสนเล็กน้อย เขาหันกลับมาจ้องซูอันและพยายามนึกอย่างหนักว่าเขาเคยพบ ซูอัน มาก่อนหรือไม่
ซูอัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังว่า ‘ชาย’ คนนี้จะตอบสนองอย่างเฉยเมย สายตาของเขาค่อย ๆ เลื่อนลงมา และในไม่ช้าเขา
ก็เห็นลูกกระเดือกอันเขื่องที่คอของชายหนุ่ม
ทันใดนั้น ซูอัน ก็รู้สึกปั่นป่วนในท้องของเขาทันที บ้าเอ๊ย นี่มันผู้ชายของแท้เลยนี่หว่า! ไอ้คนผู้นี้มันแค่เป็นผู้ชายที่ดูเหมือนผู้หญิง!
ซูอัน ดึงแขนของเขาออกทันทีและพูดว่า “ขออภัยด้วย ๆ ข้าทักผิดคนน่ะ!”
ผู้หญิงที่ยืนตรงข้ามกับชายคนนั้นจ้องไปที่ ซูอัน ราวกับว่าเขาเป็นคน
งี่เง่า นางไม่พอใจที่จู่ ๆ ก็มีใครไม่รู้มาขัดบทสนทนาของนาง จากนั้นนางหันกลับมาพูดกับชายหนุ่มต่อ “พี่ซิ่ว ข้าทำอะไรผิดกับท่าน ทำไมท่านถึงต้องบอกเลิกกับข้าเช่นนี้? บอกข้าสิ ข้าจะเปลี่ยน! ข้าไม่ต้องการเลิกรากับท่าน!”
ผู้หญิงคนนี้จัดได้ว่าเป็นสาวงามที่ดูดีเป็นอย่างมาก ตอนนี้นางดูน่าสงสารอย่างเหลือเชื่อเพราะน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของนาง
ซูอัน ประเมินชายหนุ่มอย่างใกล้ชิด ผู้ชายแบบนี้ถือว่ามีเสน่ห์ในโลกนี้อย่างนั้นเหรอ?
ผู้ชายเอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ลึกซึ้ง “นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้าแค่กลัวว่า… ข้าจะไม่รักเจ้าเหมือนในตอนนี้ในอนาคตต่อไป ข้าจึงอยากเลิกราในขณะที่เรายังรักกันอยู่ ข้าขอเป็นฝ่ายแบกรับความเจ็บปวดและความโศกเศร้าทั้งหมดไว้คนเดียวจะดีกว่า”
ซูอัน อ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดนี้ นี่ต้องเป็นหนึ่งในข้อแก้ตัวที่เลิกราที่ไร้สาระที่สุดที่ข้าเคยได้ยินมา! บัดซบเอ๊ย ไอ้คนผู้นี้มันเป็นเจ้าสำนักไร้ยางอายหรือเปล่าเนี่ย?
เมื่อได้ยินคำพูดนี้หญิงสาวก็ยิ่งร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม “พี่ซิ่ว
ข้าไม่เคยนึกเลยว่าท่านรักข้ามากขนาดนี้! มันเป็นความผิดของข้า
ทั้งหมดจริง ๆ ข้าเข้าใจแล้วว่าข้าไม่ควรดื้อรั้นต่อไปอีก หลายคนมักพูดกันเสมอว่าระยะทางทำให้หัวใจพองโต บางทีท่านอาจจะรักข้าอีกครั้ง
หากเราห่างกันชั่วคราวสักพัก…”
ดวงตาของ ซูอัน เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ ผู้หญิงในโลกนี้เชื่อคนง่ายขนาดนี้ได้ไง? แต่… ถ้ามันเป็นแบบนี้ก็ดูเหมือนว่าที่นี่คือสวรรค์สำหรับข้าจริง ๆ สินะ!
“ข้าดีใจจริง ๆ ที่เจ้าเข้าใจข้าเช่นนี้!” ชายคนนั้นตอบกลับด้วยสีหน้าเบิกบานและตอนนั้นเองที่เหตุการณ์ทั้งหมดมันก็พลิกกลับ 180 องศา “เอาล่ะในเมื่อตอนนี้พวกเราเลิกรากันแล้ว เจ้าช่วยแนะนำสหายสนิทของเจ้าให้ข้ารู้จักหน่อยได้ไหม? ข้าหมายถึงคุณหนูจากตระกูลหลิวที่เจ้าเคย…”
เพี้ยะ!!
แน่นอนว่าต่อให้ หญิงสาวจะโง่ขนาดไหน แต่ถ้าได้ยินแบบนี้มันก็เดาไม่ยากว่าชายหนุ่มกำลังหลอกนาง หญิงสาวตบหน้าชายหนุ่มฉาดใหญ่
ก่อนจะวิ่งออกไปทั้งน้ำตา
ในทางกลับกัน ชายคนนั้นเปิดพัดในขณะที่เขาลูบแก้มที่เขาเพิ่งถูกตบเบา ๆ ความโหยหาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขากล่าวอย่างลึกซึ้งว่า “ฝ่ามือที่เนียนนุ่มของสาวงามไม่ควรจะเข้ามาหาข้าแบบนั้นเลยจริง ๆ”