เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 793 ก่อนเข้าสู่การทดสอบ
บทที่ 793 ก่อนเข้าสู่การทดสอบ
บทที่ 793 ก่อนเข้าสู่การทดสอบ
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย เพ่ยเหมียนหมานส่งเสียงเรียกซูอัน
“อาซู เจ้าต้องระวังตัวนะ เราไม่สามารถไว้วางใจหยาจางได้”
“จริง” ซูอันพยักหน้า “อาจมีกับดักซ่อนอยู่บนรูปหล่อนกฮูกตัวนั้น แต่เอาไว้เราค่อยพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งหลังจากที่เราฟื้นฟูกำลังอย่างสมบูรณ์แล้ว”
“อืม…” เพ่ยเหมียนหมานไม่คัดค้านและเริ่มให้ความสนใจกับการฟื้นฟูร่างกายของนาง
ซูอันควบคุมโคจรพลังเพื่อฟื้นฟูร่างกายในขณะที่ถามหมี่ลี่ “พี่หญิงใหญ่ ท่านคิดว่ามีอะไรผิดปกติกับรูปหล่อนกฮูกตัวนั้นไหม?”
ร่างวิญญาณของหมี่ลี่ปรากฏขึ้น แต่แน่นอนว่ามีเพียงซูอันเท่านั้นที่สามารถมองเห็นนางได้
“เมื่อกี้ข้าตรวจดูแล้วและไม่เห็นกลไกอะไรซ่อนอยู่ ทว่าหากเป็นอย่างที่หยาจางกล่าวจริง ๆ ว่าไม่มีใครเคยผ่านการทดสอบ หยาจางนั้นไม่จำเป็นเลยที่จะต้องวางกับดักใด ๆ เพราะผู้ที่เข้าไปทดสอบย่อมจะตายอยู่ดี”
ซูอันเห็นท่าทีของนางและเริ่มสงสัย “ในเมื่อมันอันตรายแล้ว ทำไมท่านไม่ห้ามข้าไม่ให้เข้าไปล่ะ?”
“ทำไมข้าต้องหยุดเจ้า?” หมี่ลี่มองเขาด้วยความสับสน “ยิ่งเสี่ยงมาก ยิ่งได้ผลตอบแทนมาก ตอนนี้เรารู้แล้วว่ายังมีรางวัลมากมายรอเจ้าอยู่เมื่อสิ้นสุดการทดสอบ ข้าคงบ้าไปแล้วถ้าคิดจะหยุดเจ้า”
ซูอันนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “แต่หยาจางบอกเอาไว้ว่าบรรดาผู้คนที่เคยทำการทดสอบก่อนหน้าเราทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าข้าและเหมียนหมานมาก แต่ท้ายที่สุดไม่มีใครผ่านการทดสอบสักคน”
ตามปกติแล้วผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่ามักจะมีสติปัญญามากกว่า ถ้าอัจฉริยะที่เหนือกว่าพวกเขาล้วนแต่ล้มเหลวกันทั้งหมด พวกเขาจะมีความหวังอะไร?
หมี่ลี่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด “ไร้สาระ! ผู้บ่มเพาะไม่ควรยอมแพ้และเต็มใจที่จะท้าทายทุกโอกาส! ถ้าเจ้ากลัวจนฉี่จะเลอะกางเกงตลอดเวลาจะบ่มเพาะไปเพื่ออะไร!?”
ซูอันเริ่มหม่นหมอง “ไม่ใช่ว่าข้ากลัวตาย…ข้าแค่ไม่อยากลากท่านไปกับข้าด้วย จิตวิญญาณของเราผูกพันกัน ถ้าข้าตายท่านก็ตายด้วย ผู้บ่มเพาะระดับห้าเช่นข้ามีค่าเพียงเล็กน้อย ถ้าข้าตายคนเดียวมันก็แล้วไป แต่ท่านคือตัวตนอันทรงพลังและสูงส่ง มันน่าเสียดายถ้าท่านต้องมาตายเพราะข้า”
หมี่ลี่ตะลึงกับคำพูดของเขา และท่าทีของนางอ่อนลงทันที “เจ้าเลยเป็นห่วงข้าอย่างนั้นสินะ? ไม่ต้องกังวล ข้าเชื่อในตัวเจ้า ถ้าเจ้าแข็งแกร่งขึ้น ในอนาคตข้าจะยิ่งมีโอกาสสร้างร่างกายใหม่ขึ้นมามากขึ้นด้วย”
ซูอันอยากจะร้องไห้ การบอกเขาว่านางเชื่อในตัวเขาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลย เขาไม่มั่นใจในตัวเองตั้งแต่แรก
ราวกับว่าสัมผัสได้ถึงความไม่แน่ใจของเขา หมี่ลี่กล่าวต่อว่า “เจ้าคิดว่าข้าพูดเพียงเพื่อปลอบใจหรือ? ข้าเชื่อในตัวเจ้าจริง ๆ เพราะข้าได้เห็นสิ่งที่เจ้าทำได้ เจ้ามีทักษะอัศจรรย์มากมาย และตัวเจ้าเองก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ ข้าไม่เชื่อว่าการทดสอบของจักรพรรดิซางจะเอาชนะใครบางคนที่สามารถเอาชนะผนึกทั้งสามของอิ่งเจิ้งได้ ถ้าเจ้าสามารถเอาชีวิตรอดจากมันมาได้ จะต้องกังวลอะไรกับการทดสอบแบบนี้?”
ซูอันตกตะลึง ท่านพูดถูกจริง ๆ…
อิ่งเจิ้งไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นจักรพรรดิที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์! เป็นคนที่รวมประเทศจีนทั้งหมดไว้เป็นหนึ่งเดียว ก่อตั้งประเพณีที่กินเวลานานนับพันปี อิ่งเจิ้งเป็นเหมือนจักรพรรดิแห่งจักรพรรดิ!
แม้ว่าราชวงศ์ซางจะยิ่งใหญ่แต่ก็ยังด้อยกว่าราชวงศ์ฉิน และชายหนุ่มได้เผชิญหน้ากับองค์จักรพรรดิจิ๋นซีมาแล้ว เขายังต้องกลัวอะไรอีก?
เสียงของหมี่ลี่อ่อนลงต่อไป “นอกจากนี้ แม้ว่าเจ้าจะไม่ผ่านการทดสอบจริง ๆ อย่างแย่ที่สุด ข้าก็จะตายไปพร้อมกับเจ้า ข้าไม่ได้มองว่ามันเรื่องใหญ่ แล้วเจ้าจะกังวลเรื่องอะไรล่ะ?”
ในที่สุดซูอันก็กลับมามีความมั่นใจและทำตัวสบาย ๆ เหมือนเดิม “ในเมื่อท่านพูดอย่างนี้ ดูเหมือนว่าเรากำลังเผชิญความตายร่วมกันในนามของความรัก ข้าไม่คิดเลยว่าท่านมีใจให้ข้ามากขนาดนี้พี่หญิงใหญ่”
หมี่ลี่กลอกตา “เก็บคำพูดออเซาะของเจ้าไว้ใช้กับนังหนูอกภูเขาไฟเถอะ มันไม่มีประโยชน์กับข้า!”
ซูอันดูโกรธเคือง “เหมียนหมานใหญ่มีชื่อนะรู้ไหม? ทำไมท่านถึงเอาแต่เรียกนางแบบนั้น?”
หมี่ลี่เหลือบมองเพ่ยเหมียนหมาน สายตาของนางเหลือบไปที่ส่วนหน้าอกของอีกฝ่ายก่อนจะพึมพำ “ใครขอให้นางมีหน้าอกที่ใหญ่เช่นนั้นกัน?”
ซูอันทำได้เพียงส่ายหัว
หลังจากช่วงเวลาพักผ่อนสั้น ๆ นี้ ทั้งสองคนก็เตรียมพร้อมไม่มากก็น้อย แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ แต่ก็พร้อมถึงเก้าในสิบส่วน
การจะพักผ่อนต่อไปไม่มีความหมายเนื่องจากพวกเขาสัมผัสได้ว่าพลังชี่กำลังหลั่งไหลออกจากร่างกายในอัตราที่เร็วขึ้น หากพวกเขารอต่อไปอีกอาจจะถูกหลอมรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของมิติลับในที่สุด
ซูอันมีคำถามสำหรับหยาจาง “วิญญาณเท่านั้นที่จะเข้าสู่การทดสอบ หรือร่างกายก็เข้าไปด้วย?”
“พูดตามตรง ข้าไม่รู้เกี่ยวกับการทดสอบมากนัก” หยาจางตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “อย่างไรก็ตาม นี่เป็นคำถามที่ข้าสามารถตอบได้ จิตวิญญาณของพวกเจ้าเท่านั้นที่เข้าสู่การทดสอบ ก่อนหน้านี้ร่างกายของเหล่าชายและหญิงที่เข้าร่วมการทดสอบยังคงยืนอยู่ถัดจากรูปหล่อนกฮูกเช่นเดิมหลังจากที่พวกเขาเริ่มการทดสอบไปแล้ว”
ท่าทีของซูอันเปลี่ยนไป “นั่นหมายความว่าเจ้าสามารถฆ่าเราได้เมื่อเราเริ่มการทดสอบไปแล้วใช่ไหม?”
ซูอันตระหนักดีว่าการที่หยาจางปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดีในขณะนี้เนื่องจากเกรงกลัวพลังปฐมบทของเขา ต้องไม่ลืมว่าศพที่เหือดแห้งร่างนี้อาจเคยต้องการจะฆ่าเขามาก่อน
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้น” หยาจางตอบ “เมื่อการทดสอบเริ่มต้นขึ้น รูปหล่อนกฮูกที่จักรพรรดินีทิ้งเอาไว้จะสำแดงพลังให้การปกป้องร่างกายของพวกเจ้าทั้งคู่ แต่ทว่าการป้องกันนี้จะหายไปหลังจากการทดสอบสิ้นสุดลง”
“นอกจากนี้ เมื่อเจ้าเริ่มการทดสอบ ข้าจะกลับไปที่โลงศพและหลับใหลอีกครั้ง การทดสอบของพวกเจ้านั้นค่อนข้างกินเวลาเนิ่นนาน ข้าไม่มีความอดทนมากพอที่จะรอให้ถึงบทสรุป”
ซูอันครุ่นคิด จักรพรรดิซางไม่น่าจะวุ่นวายสร้างอะไรที่ซับซ้อนขนาดนี้กับอีแค่เพื่อฆ่าใครก็ตามที่ตัวเองไม่รู้จักเล่น ๆ หรอกใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะไว้วางใจหยาจางอย่างสมบูรณ์
ขณะที่เขาต่อสู้กับความขัดแย้งนี้ เสียงของหมี่ลี่ดังจากด้านข้างเขา “ไม่ต้องห่วง ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง ไม่ว่าการป้องกันจากนกฮูกจะมีอยู่จริงหรือไม่ แต่แม่ทัพศพเหี่ยวนี่ก็ไม่สามารถทำร้ายเจ้าได้”
ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเพราะหมี่ลี่จะไม่พูดอะไรที่นางไม่สามารถทำได้ “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแล้ว โอ้ ท่านต้องปกป้องเหมียนหมานใหญ่ด้วยนะ”
เขาได้เห็นทัศนคติซึ่งคล้ายเป็นปรปักษ์ของนางที่มีต่อเพ่ยเหมียนหมานตลอดเวลา และกังวลว่านางอาจจะไม่ทำอะไรเพื่อปกป้องอีกฝ่าย ดังนั้นชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องพูดออกมาให้ชัดเจน
แน่นอนว่ามีหรือที่หมี่ลี่จะไม่เข้าใจความหมายที่ซูอันกำลังพยายามจะสื่อ
—
ท่านยั่วยุหมี่ลี่สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +22…22…22…
—
———————–