เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 802 พบเจอที่กระท่อมลับ
บทที่ 802 พบเจอที่กระท่อมลับ
บทที่ 802 พบเจอที่กระท่อมลับ
“เป็นไปได้ไหมที่เจ้ารู้สึกว่าจักรพรรดิอย่างข้าไม่ดีพอสำหรับเจ้า?” ซูอันเอ่ยถาม และแฝงความไม่พอใจลงในเสียงของเขาเล็กน้อยขณะที่นางดิ้นรน
“เสี่ยวถู่วไม่กล้า” นางกำนัลสาปแช่งอยู่ภายในใจ
ข้าจะตอบปฏิเสธเจ้าได้อย่างไร! ถ้าพูดแบบนั้นออกไปจริง ๆ ข้าคงถูกสับเป็นชิ้นพอดีคำน่ะสิ!
ถึงตอนนี้ นางตระหนักได้ว่ามีบางอย่างที่แตกต่างในตัวจักรพรรดิ และค่อย ๆ ยุติการต่อต้าน
“แล้วเจ้ามีคนรักหรือยัง?” ซูอันยังคงสอบสวนต่อไป
“เสี่ยวถู่วไม่มี” นางกำนัลปฏิเสธ
ขณะที่นางพูดเช่นนี้ ใบหน้าของชายคนหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของนาง นางถอนหายใจ ดูเหมือนว่าทั้งสองคนไม่ได้ถูกลิขิตให้อยู่ด้วยกัน…สิ่งเดียวที่นางทำได้คือช่วยให้เขาบรรลุความฝันของตัวเอง
ซูอันยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาของนาง แทนที่จะเปิดโปงการโกหก เขาอุ้มนางขึ้นไปบนเตียงแล้วนอนเอาขาก่ายนางราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดที่ต้องทำ
เมื่อสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นของอ้อมกอดและน้ำหนักขาของชายหนุ่มที่ก่ายมา หัวใจของนางกำนัลเริ่มจมดิ่งลง
นางรู้ว่าไม่มีทางที่จะสามารถหลบหนีได้ นางทำได้เพียงพยายามขืนตัวหันหลังให้อีกฝ่ายพลางถอนหายใจอย่างลับ ๆ
พี่ใหญ่เหลียน เสี่ยวถู่วไม่สามารถรักษาความบริสุทธิ์ไว้ให้ท่านได้…
น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของนาง
อย่างไรก็ตาม นางเข้าใจว่าภารกิจของตัวเองคืออะไร นางกัดริมฝีปาก เนื่องจากนี่คือชะตากรรมของนาง นางจึงจะใช้ร่างกายของนางและทำข้อตกลงกับจักรพรรดิฟั่นเฟือนผู้นี้
เมื่อได้รับความไว้วางใจจากเขา นางจะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับจักรพรรดินี! ซึ่งจะช่วยพี่ใหญ่เหลียนได้มากที่สุด
นางได้เตรียมใจที่จะเสียสละตัวเองแล้ว อย่างไรก็ตาม ชายที่อยู่ข้างหลังนางกลับไม่ได้ทำสิ่งที่นางคิดในตอนสุดท้าย
จู่ ๆ เสียงกรนดังมาจากด้านหลัง
นางกำนัลตะลึง เขาผล็อยหลับไป?
นางนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างจักรพรรดิกับจักรพรรดินีฟู่ห่าวก่อนหน้านี้ นางก็หน้าแดงและพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยาม
ข้าก็นึกว่าเจ้าจะมีเรี่ยวแรงไร้ขีดจำกัด!
กล้าดีอย่างไรมาเอาเปรียบข้า!
นางบิดตัวไปมาพยายามจะหนีออกจากอ้อมกอด แต่แขนและขาที่โอบรอบตัวนางนั้นแข็งแรงราวกับคีมเหล็ก ไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดพ้นได้
นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องละทิ้งความพยายาม นางนอนอยู่ตรงนั้นคิดเกี่ยวกับแผนการต่อไปในขณะที่ดูหมิ่นชายที่กอดนางในใจ
แต่แล้วจู่ ๆ นางก็หน้าแดงเมื่อรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ดุนดันอยู่ที่แผ่นหลัง
นางกำนัลไม่ใช่คนโง่ นางไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ถึงจะรู้ว่ามันคืออะไร
นางเป็นนางกำนัลต้นห้อง ไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าอะไรกำลังดุนดันนางในตอนนี้
แต่นางยังคงเป็นหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกผู้ชายกอดในลักษณะนี้ กลิ่นกายความเป็นชายของอีกฝ่ายล้อมรอบตัวนาง
ผู้คนในยุคนี้แต่งตัวสบาย ๆ ดังนั้นจึงมีพื้นที่ผิวหนังให้สัมผัสกันจำนวนมาก นางได้ยินแม้กระทั่งเสียงเต้นของหัวใจอีกฝ่ายอย่างชัดเจน นางจะทนได้อย่างไร?
นางสามารถรู้สึกได้ถึงสิ่งน่ารังเกียจที่ดุนด้านหลังนางอยู่ตลอดเวลา นางอยากจะตัดมันทิ้ง!
น่าเสียดายที่นี่เป็นเพียงความคิดที่ปรารถนา ต่อให้นางมีกระบี่นางก็ไม่กล้า ถ้าจักรพรรดิสิ้นพระชนม์กะทันหัน เจ้ากรมพิธีการจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักแน่นอน
นั่นคือเหตุผลที่นางต้องไม่ทำกระทำการใดที่บุ่มบ่าม นางจะต้องทำลายศักดิ์ศรีของจักรพรรดิฟั่นเฟือนผู้นี้ทีละเล็กทีละน้อย การบุกรุกของแคว้นเชียงถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุด
หากเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างที่ควรเป็น อู่ติงก็จะต้องอับอายขายหน้า และอำนาจอิทธิพลของเจ้ากรมพิธีการจะทะยานขึ้น เมื่อถึงจุดนั้นการขึ้นครองบัลลังก์แทนจะไม่ไกลเกินฝัน
แม้ว่านางยังคงหันเหความสนใจของตัวเองด้วยความคิดเหล่านี้ ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังนางยังคงกอดนางแน่น อ้อมกอดของเขาเริ่มให้ความรู้สึกเหมือนเตาหลอม และยิ่งไปกว่านั้น มือของอีกฝ่ายยังคงลูบไล้ร่างกายของนางทำให้หัวใจนางเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งและทำให้ความคิดของนางกระเจิดกระเจิง
คนผู้นี้หลับจริงหรือ!?
นางกำนัลโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นางทำได้เพียงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงส่วนที่กำลังดุนดันอยู่ด้านหลัง
โชคไม่ดีที่เขาโอบกอดนางจากทางด้านหลัง ไม่ว่านางจะเบี่ยงตัวอย่างไร ส่วนนั้นของเขาก็ยังคงถูไถกับแผ่ยหลังของนาง
หลังจากดิ้นรนมาอย่างยาวนาน จนท้ายที่สุดนางก็หมดเรี่ยวแรง ลมหายใจเริ่มขาดหาย
ทุกครั้งที่บิดเบี่ยงตัวไปมา นางสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อยู่ข้างหลังนางที่กระชับแนบชิดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนางไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกต่อไป
ซูอันเกือบจะหลุดหัวเราะออกไปอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าหญิงสาวในอ้อมแขนของเขาตัวสั่นแค่ไหน สำหรับเขา ดูเหมือนว่าสายลับหญิงในยุคนี้ยังไม่ได้รับการฝึกฝนเฉพาะทางอย่างแท้จริง ร่างกายของพวกนางยังคงอ่อนไหวอย่างมากซึ่งต่างจากสายลับหญิงในสมัยต่อมาที่ใช้ร่างกายของพวกนางเป็นอาวุธ ไม่มีใครที่จะรู้สึกอึดอัดได้เพียงแค่ถูกผู้ชายกอดไว้
อย่างไรก็ตาม เขาต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีผิวที่อ่อนนุ่มเรียบเนียนมากและการได้กอดนางแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกดีจริง ๆ
เขาถูกรายล้อมไปด้วยอันตรายตลอดเวลา และเพิ่งเข้าสู่สมรภูมิรักกับเพ่ยเหมียนหมานเมื่อครู่ที่ผ่านมา ดังนั้น ตัวเองจึงค่อนข้างเหนื่อย การได้นอนบนเตียงที่แสนสบายกับหญิงสาวในอ้อมแขนเป็นการผ่อนคลายที่น่ายินดี และความง่วงก็ค่อย ๆ เข้ามาครอบงำเขา
ก่อนผล็อยหลับไป เขาแน่ใจว่าโอบนางไว้อย่างแน่นหนาและเอาขาพาดเอวนาง ด้วยวิธีนี้เขาจะตื่นขึ้นทันทีหากนางเคลื่อนไหวแปลก ๆ
แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้เรื่องยุ่งยากมากสำหรับนางกำนัล นางไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองผล็อยหลับแม้แต่น้อย แต่ยิ่งนางคงสติมากเท่าไร ประสาทสัมผัสของนางก็ยิ่งอ่อนไวมากขึ้นเท่านั้น จนสามารถบอกได้ถึงขนาดของสิ่งที่ดุนหลังนางอยู่ด้วยซ้ำ
นางรู้สึกอับอายอย่างเหลือเชื่อที่นางถูกจักรพรรดิผู้ที่นางดูถูกมาตลอดคนนี้ ทำให้นางกลายเป็นมาอยู่ในสภาพน่าอดสู
แถมหลังจากนี้คนรักของนางคงผิดหวังในตัวนาง ยิ่งไปกว่านั้นนางเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตของตัวเองว่านางไม่ใช่ผู้หญิงโรคจิตใช่ไหมที่สามารถบอกได้ถึงขนาดของไอ้นั่นของคนที่ตัวเองเกลียด?
…
เช้าวันรุ่งขึ้น นางกำนัลพบว่านางเผลอหลับไปในอ้อมแขนของซูอัน
สีหน้าของนางเปลี่ยนไปมาระหว่างความอับอายกับความขยะแขยง ขณะที่นางพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระจากอ้อมแขนของเขาในทันที
เมื่อคิดว่าเพ่ยเหมียนหมานควรจะเสร็จภารกิจของนางแล้ว ซูอันก็ไม่สนใจที่จะยื้อนางกำนัลเอาไว้ต่อ
นางกำนัลโค้งคำนับก่อนจากไป แล้วรีบแอบออกจากวังมุ่งหน้าไปยังกระท่อมที่ห่างไกล
นางยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย แต่ขณะที่นางกำลังจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย เสียงเอ่ยถามอย่างเย็นชาดังขึ้นซะก่อน “เจ้ามาสาย!”
รอยยิ้มของนางกำนัลแข็งค้างก่อนจะอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ข้าไม่สามารถหนีมาได้ เมื่อคืนจักรพรรดิไร้ยางอายผู้นั้นทำให้ข้าต้อง…”
นางหยุดกะทันหันกลางประโยค ไม่รู้จะอธิบายตัวเองอย่างไร
“เจ้าถูกบังคับให้อยู่ในวังและนอนกับเขาทั้งคืนเหรอ?” น้ำเสียงเยือกเย็นถามต่อไป
นางกำนัลเริ่มตื่นตระหนก “พี่ใหญ่เหลียนอย่าเข้าใจผิด! เขายังไม่ได้ทำอะไรข้าจริง ๆ!”
———————–