เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 808 เปิดเผย
บทที่ 808 เปิดเผย
บทที่ 808 เปิดเผย
“ดึกขนาดนี้ จะมีรายงานอะไรอีก? ช่างมัน!” ซูอันรู้สึกรำคาญเล็กน้อยและปฏิเสธที่จะให้ผู้ส่งสารเข้าพบ เขาหันกลับมาและฝังศีรษะไว้ในอกของเสี่ยวถู่ว
เสี่ยวถู่วหน้าแดงและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ฝ่าบาทเพคะ กิจการของอาณาจักรเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ข้าแน่ใจว่าเขามาพร้อมกับข่าวสารสำคัญ ให้เขาเข้าเฝ้าเถอะนะเพคะ”
นางได้รับการติดต่อจากเหลียนมาก่อนแล้ว ดังนั้น นางจึงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางมีบทที่จะเล่นเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
เสี่ยวถู่วถอนหายใจเมื่อนางมองชายที่พักผ่อนอย่างสบายในอ้อมกอด ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มใช้เวลาอยู่ด้วยกัน นางเริ่มตระหนักว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดมาตลอด
ตรงกันข้าม เขากลับปฏิบัติต่อนางอย่างดีทีเดียว
นางปฏิเสธเขาในตอนแรก แต่ภายหลังแม้ว่าจิตใจของนางจะไม่เต็มใจ แต่ร่างกายของนางกลับต้อนรับเขาตามสัญชาตญาณ ต่อมานางเริ่มสงสัยว่านางไม่เต็มใจจริง ๆ หรือไม่?
ไม่! พี่ใหญ่เหลียนเป็นคนที่ข้ารัก! ข้าเข้าวังเพื่อเห็นแก่เขา ข้าจะปล่อยให้จักรพรรดิหลอกไม่ได้! นางเตือนตัวเองอยู่เสมอ
นางแอบดูข้อมูลลับของจักรพรรดิหลายชิ้นในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน และนางก็ได้ยินการสนทนาของเขากับคนสนิท ซึ่งนางรายงานให้เหลียนรับรู้ทั้งหมด นางจมลึกกับสถานการณ์เกินกว่าจะถอยกลับ
“ดี เห็นแก่ที่เสี่ยวถู่วขอ ข้าจะให้เขาเข้ามา” ซูอันกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ เขาโบกมือให้ผู้ส่งสารเข้ามา
เสี่ยวถู่วรู้สึกทึ่งเล็กน้อยกับรอยยิ้มของเขา ผู้ชายคนนี้ปฏิบัติต่อนางดีจริง ๆ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมาบ้าง
ในเวลาไม่นาน มีคนเข้ามาเสนอรายงาน เขาเป็นผู้บัญชาการระดับกลางในกองทัพของอู่ติงและได้เสี่ยงเดินทางกลับมาครั้งนี้เพื่อแจ้งอู่ติงให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในแนวหน้า
ฟู่ห่าวได้รับรู้ว่าสามีของนางมีผู้หญิงคนใหม่หลังจากที่นางจากไปไม่นาน ในขณะที่นางเสี่ยงภัยทุกวันในสนามรบ นางโกรธจัด และคนของฟู่ห่าวหลายคนก็โกรธแค้นเช่นกัน ทุกคนแนะนำให้นางแยกทางกับเขา
คนของอู่ติงที่รู้เรื่องนี้จึงส่งคนกลับมาแจ้งให้เขาทราบ เนื่องจากกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
ด้วยวิธีนี้ เขาจึงสามารถเตรียมการบางอย่างได้ล่วงหน้า มาตรการตอบโต้ที่ดีที่สุดคือส่งแม่ทัพอีกคนหนึ่งเข้าไปแทนที่ก่อนที่นางจะตัดสินใจก่อกบฏขึ้น
หลังจากฟังรายงานซูอันเริ่มครุ่นคิด เขาเคาะนิ้วเบา ๆ กับโต๊ะ
เสี่ยวถู่วรีบวิ่งไปและคุกเข่าลงทันที “ฝ่าบาท ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเสี่ยวถู่ว! ข้าทำลายความสัมพันธ์ของท่านกับจักรพรรดินี! โปรดส่งข้าไปหาจักรพรรดินีและปล่อยให้นางลงโทษข้าเถิด”
สายตาของซูอันเย็นชาเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่นางพูด
นางอ้างว่ากำลังขอการอภัย แต่ในความเป็นจริง นางเสนอตัวเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความบาดหมางระหว่างจักรพรรดิและจักรพรรดินี ถ้าไม่ใช่เขาและเพ่ยเหมียนหมานที่เล่นบทบาทของจักรพรรดิและจักรพรรดินีอยู่ นางอาจบรรลุแผนการได้อย่างแท้จริง
เขาหันไปมองผู้ส่งสาร “เจ้าแน่ใจเหรอว่าเจ้าได้ยินกับหูว่าจักรพรรดินีพูดว่าจะก่อกบฏ?”
“จักรพรรดินียังไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้” ผู้ส่งสารชี้แจง “แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่แน่ใจ และคนสนิทของนางต่างยั่วยุให้นางต่อต้านฝ่าบาท ด้วยความเคารพ นางอาจชี้หอกมาที่พระองค์เมื่อใดก็ได้ เมื่อนางกลับมายังเมืองอิน นางอาจก่อกบฏครั้งใหญ่!”
ซูอันหัวเราะ “เจ้านี่ค่อนข้างฉลาดดีจริง ๆ เจ้ารู้ว่าข้าจะไม่เชื่อเจ้าแน่ ถ้าเจ้าบอกว่าเจ้าได้ยินกับหูตัวเองว่าจักรพรรดินีต้องการก่อกบฏ แต่เจ้ากลับใช้คำพูดคลุมเครือเพื่อให้ข้าเดาเอาเอง”
ผู้ส่งสารตัวแข็งทื่อและเสี่ยวถู่วก็ขมวดคิ้วเช่นกัน สิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามแผน
“ลากมันออกไปประหารซะ!” ซูอันตะโกนสั่ง
ตามธรรมเนียมของราชวงศ์ซาง มันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะเปลี่ยนชายผู้นี้ให้กลายเป็นเครื่องบูชามนุษย์เพื่อเป็นการลงโทษ แต่ซูอันไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น เขาตัดสินโทษให้ผู้ส่งสารตายอย่างง่ายดายแทน
“จักรพรรดิของข้า! ทุกสิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง!” ชายคนนั้นดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่มีทางที่เขาจะหลุดพ้นได้
ซูอันไม่สนใจแต่กลับประหลาดใจกับความแข็งแกร่งขององครักษ์ในวังเหล่านี้ ผู้ส่งสารดูค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่กลับยังด้อยกว่าองครักษ์สองคนนี้
นักรบโครงกระดูกที่เฝ้าประตูอยู่ดูเหมือนจะมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกันกับองค์รักษ์เมื่อครู่ทั้งสอง ไม่แปลกใจเลยที่มันจะแข็งแกร่งยิ่งนัก
เสียงอ้อนวอนขอชีวิตของผู้ส่งสารค่อย ๆ จางหายไป และพระราชวังก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง
ใบหน้าของเสี่ยวถู่วแทบจะซีดขาว นางอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงสั่น “ฝ…ฝ่าบาท ทำไมพระองค์ถึงประหารชีวิตเขาโดยไม่ได้ตรวจสอบว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงหรือไม่? จ…จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสิ่งที่เขาพูดทั้งหมดเกิดขึ้นจริง ๆ? ถ้าพระองค์ตัดสินประหารชีวิตเขาทันทีหลังจากที่รีบกลับจากแนวหน้า นั่นจะไม่ลดขวัญกำลังใจของทหารผู้ภักดีของเราเหรอ?”
“ไม่มีทางที่คำพูดของเขาจะเป็นความจริง” ซูอันตอบอย่างเฉยเมย “ข้าวางใจในจักรพรรดินี เช่นเดียวกับที่ข้ารู้ว่าจักรพรรดินีวางใจข้า แม้โลกนี้จะแตกสลาย การทรยศกันระหว่างเราจะไม่มีวันเกิดขึ้น!”
เหมียนหมานใหญ่ทรยศข้าอย่างนั้นเหรอ? น่าขำสิ้นดี! เขารู้ดีว่าตนกับเพ่ยเหมียนหมานมีความสัมพันธ์แบบไหนกัน
พวกเขาทั้งคู่เป็นผู้มาเยือนในโลกแห่งมิติลับนี้ พวกเขามีเพียงกันและกันเท่านั้น และไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยให้ตัวเองถูกตัวละครในบททดสอบนี้หลอกได้ง่าย ๆ นับประสาอะไรกับความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมานับครั้งไม่ถ้วน
เขาสงสัยมาตลอดว่าส่วนที่อันตรายที่สุดของการทดสอบนี้จะเป็นอย่างไร และในบรรดาสิ่งที่เขาสงสัย ความยากลำบากในการสื่อสารทางไกลนั้นเป็นปัญหาใหญ่
ท้ายที่สุด ข่าวลือสามารถบิดเบือนความจริงได้ มีตัวอย่างมากมายที่แม้แต่นักเรียนมัธยมต้นก็รู้ นี่คือเหตุผลที่เขาระมัดระวังที่จะเตือนเพ่ยเหมียนหมานเกี่ยวกับอันตรายเหล่านี้ก่อนที่นางจะจากไป
“แต่ด้วยสิ่งที่ฝ่าบาททำกับข้า พระองค์ได้ทรยศต่อจักรพรรดินีในระดับหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ?” เสี่ยวถู่วกล่าวอย่างอ่อนแอ
ซูอันจ้องไปที่นาง “เจ้าพยายามเกลี้ยกล่อมข้าในขณะที่มีแรงจูงใจซ่อนเร้น ซึ่งข้าก็แค่เล่นไปตามน้ำกับเจ้าและใช้เจ้าหลอกคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเจ้าโดยตลอด ดังนั้น ทำไมจักรพรรดินีของข้าถึงจะต้องตำหนิข้าสำหรับเรื่องนี้ด้วย?”
ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกผิดอยู่ในใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจว่าเหมียนหมานคงไม่ว่าถ้าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับ NPC
เสี่ยวถู่วรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า นางยังคงปฏิเสธอย่างอ่อนแรง “ฝ…ฝ่าบาท พระองค์กำลังพูดอะไร? ข้า…ข้าไม่เข้าใจ”
ซูอันหัวเราะ “เสี่ยวถู่ว ข้ารู้ว่าเหลียนส่งเจ้ามา พวกเจ้าสองคนเป็นคู่รักกันตั้งแต่วัยเด็กและมีความรักอันลึกซึ้งต่อกัน ข้าไม่คิดเช่นกันว่าเขาจะกล้าลงทุนถึงขนาดส่งเจ้าเข้าวังมารับใช้ข้า ช่างเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง”
“พระองค์…รู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่ต้น…” เสี่ยวถู่วรู้สึกว่าเรี่ยวแรงสุดท้ายของนางกำลังจะหมดไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้นางไม่รู้สึกกลัวเลย ราวกับว่านางได้รับการปลดปล่อยจากกรงเหล็ก
“ถูกต้อง ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้ว” ซูอันมองนาง จากนั้นเขาเข้าไปอุ้มนางและเดินไปที่เตียง
ในที่สุดเสี่ยวถู่วก็ตั้งสติได้และเริ่มต่อต้าน “ไม่! ปล่อยข้าไปนะ!!”
เสียงของซูอันเย็นชา “เจ้ารับใช้ข้ามาหลายครั้งแล้ว เราสองคนตัวติดกันเหนียวยิ่งกว่ายางไม้ จะมาร้องโวยวายอะไรเอาตอนนี้?”
“นี่มันต่างกัน!” เสี่ยวถู่วเริ่มสะอื้น ก่อนหน้านี้นางคิดว่าทั้งหมดเป็นภารกิจของนาง และมันก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนของชายคนรัก
เมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผยแล้ว นางจะอยู่และทำอะไร ๆ กับผู้ชายคนนี้ต่อไปได้อย่างไร?