เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 827 ภายในวุ่นวายภายนอกมุ่งร้าย
บทที่ 827 ภายในวุ่นวายภายนอกมุ่งร้าย
บทที่ 827 ภายในวุ่นวายภายนอกมุ่งร้าย
ซูอันสอบสวนเรื่องนี้ในทันที และพบว่าคำร้องขอความช่วยเหลือจากเมืองหลี่หายไปเมื่อไปถึงมือเสนาบดีซ่างหรง
แม้ว่าซ่างหรงจะมีเหตุผลที่เหมาะสมที่จะแก้ตัวจากเรื่องนี้ แต่ซูอันก็ทำหน้าที่เป็นจักรพรรดิมาหลายปีแล้ว เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว และรู้ว่าการพลาดพลั้งครั้งนี้เป็นไปโดยเจตนา
นอกจากเสนาบดีแล้ว จะมีใครมีอำนาจมากพอที่จะสกัดกั้นข่าวกรองทางการทหารที่เร่งด่วนเช่นนี้ได้อีก?
เขากำลังจะโยนซ่างหรงเข้าคุก แต่เสนาบดีนกรู้ได้รับคำเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหนีออกจากเมืองอินพร้อมกับครอบครัวไปที่ภูเขาไท่หางเพื่อใช้ชีวิตในฐานะอาชญากร เมื่อไปถึงที่นั่นพวกเขาก็ได้ประกาศว่าพวกเขาถูกข่มเหงโดยจักรพรรดิตี้ซินและพระนางต๋าจี่ มเหสีผู้ชั่วร้าย พวกเขาไม่สามารถทนกับจักรพรรดิตี้ซินได้อีกต่อไปจึงออกมาหาที่ลี้ภัย
ขุนนางอาวุโสซิ่นเจียก็ไม่พอใจอย่างมากกับเรื่องนี้เช่นกัน เขาประณามซูอันอย่างโกรธแค้น จากนั้นเมื่อเขาได้ยินว่าซ่างหรงหนีไป เขาก็หนีไปทางตะวันตกด้วย และกลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของโจวตะวันตก
ซูอันโกรธมาก เห็นได้ชัดว่าพวกพ้องเหล่านี้ขายชาติออกไปหมดแล้ว แต่ความคิดเห็นของสาธารณชนกลับถูกบิดเบือนไปกลายเป็นว่าเขาเป็นจักรพรรดิที่โหดเหี้ยม!
ท้ายที่สุด ความคิดเห็นของสาธารณชนก็ถูกควบคุมโดยปี่กันและจี้จื่ออย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับขุนนางที่เหลือ
จักรพรรดิตี้ซินเป็นคนล้มเหลวที่น่าสังเวชอย่างแท้จริง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้คนรอบตัวจึงละทิ้งเขาและก่อการกบฏ
อย่างไรก็ตาม ซูอันไม่ได้พยายามรักษาความสัมพันธ์กับปี่กันและคนอื่น ๆ ด้วยรู้ว่าไม่มีทางที่จะทำให้พวกเขากลับมาอยู่เคียงข้างตัวเองได้
ชายหนุ่มเคยดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ซางมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้ว่ามีปัญหามากมายเกินกว่าจะรับมือได้ ยังคงมีความตึงเครียดระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ที่มีความเห็นต่างกันว่าควรส่งต่อบัลลังก์ให้พี่น้องของจักรพรรดิที่สิ้นพระชนม์หรือพระราชโอรสของพระองค์ ในเวลาเดียวกันตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการมักถูกควบคุมโดยขุนนาง ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีอำนาจเกือบเท่ากับตัวจักรพรรดิซางเอง
เมื่อรู้ว่าพวกฝ่ายขุนนางจะไม่ยอมรามือ ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานจึงเริ่มรวบรวมกลุ่มคนขึ้น ซึ่งประกอบด้วยลำดับชั้นต่าง ๆ ในสังคม ขุนนางชั้นผู้น้อย บัณฑิตระดับกลาง สามัญชน และทหารรับจ้าง
หลังจากรวบรวมผู้คนแล้ว เพ่ยเหมียนหมานตรวจสอบพวกเขาและเลือกคนที่ดีที่สุดในหมู่พวกเขามาใช้งาน
คู่พ่อลูกเฟยเหลียนและเอ่อหลาย พวกเขามีความโดดเด่นอย่างมาก เฟยเหลียนเป็นนักสู้ที่ว่องไว ในขณะที่เอ่อหลายนั้นกล้าหาญและทรงพลัง พวกเขาทั้งคู่ไม่มีใครเทียบได้ในสนามรบ!
เฟยจงมีบุคลิกที่เรียกได้ว่าขี้เหร่ แต่เขาเป็นคนที่เจ้าเล่ห์และเฉียบแหลมมาก และมีพรสวรรค์ที่หายากยิ่ง
เจียวเกอ เป็นคนจากอานารยชนตะวันออกที่ถูกคุมขัง เก่งเรื่องทำการค้าและสะสมความมั่งคั่ง
ซูอันคุ้นเคยกับชื่อทั้งหมดเหล่านี้และเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่สบายใจจนมวนท้อง ชายหนุ่มจำได้เลือนลางว่า นอกจากเจียวเกอแล้ว ในรายชื่อทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นขุนนางทุจริตที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ เขาไม่คิดอยากจะเดินในเส้นทางเดียวกับจักรพรรดิตี้ซินพระองค์จริง
น่าเสียดายที่ซูอันไม่มีทางเลือกในตอนนี้ เนื่องจากไม่มีใครอื่นที่สามารถพึ่งพาได้ เขาต้องใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่ตัวเองพอจะมี แม้ว่าจะเปรียบได้กับการดื่มยาพิษเพื่อดับกระหายก็ตาม
โชคดีที่บุคคลเหล่านี้มีความสามารถเพียงพอ ภายใต้การบริหารของพวกเขา อำนาจของอาณาจักรซางที่กระจัดกระจายจะค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้น
เมื่อตกลงกันได้แล้วซูอันและเพ่ยเหมียนหมานได้หันความสนใจไปที่การกำจัดโจวตะวันตก
น่าเสียดาย เกิดความวุ่นวายขึ้นใหม่ภายในสภาขุนนาง ฝ่ายของเฟยจงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและเริ่มเข้าควบคุมอำนาจของสภาขุนนาง ทำให้พระปิตุลาปี่กันและขุนนางรุ่นเก่าที่เหลือไม่พอใจมากขึ้น
ฝ่ายขุนนางเก่ารวบรวมผู้คนจำนวนมากที่เคยถูกทารุณกรรมหรือได้รับสินบน และใช้พวกเขาเพื่อกล่าวหาว่าฝ่ายเฟยจงประพฤติมิชอบ กระทั่งบอกเป็นนัยว่าจักรพรรดิกำลังอาศัยคนชั่วคดโกงเพื่อประโยชน์ในการปกครอง
สิ่งนี้ทำให้ซูอันปวดหัวอย่างมาก เป็นความจริงที่ฝ่ายของเฟยจงมีศีลธรรมที่เสื่อมทรามและพวกเขาก็รีบใช้อำนาจที่ได้รับมาใหม่อย่างรวดเร็ว
แน่นอน นี่ไม่ได้หมายความว่าปี่กันและขุนนางเก่าที่เหลือจะมือสะอาดหมดจดเช่นกัน เพราะแค่เพียงอาศัยภูมิหลังของตระกูลเป็นการสนับสนุน พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการสกปรกในการให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ แน่นอนมันย่อมเป็นวิธีซ่อนการกระทำที่น่ารังเกียจของตนเอง ขุนนางทั้งหลายรุ่นต่อรุ่นได้ฝึกฝนวิธีการเหล่านี้มาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว และไม่ใช่สิ่งที่เฟยจงจะสามารถจัดการได้ง่าย ๆ
ในอดีตซูอันอาจเลือกที่จะค่อย ๆ บรรเทาความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างสองฝ่าย แต่ตอนนี้เขามีความอดทนน้อยสำหรับเรื่องนั้น วัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวของเขาคือจัดการกับโจวตะวันตกและผ่านการทดสอบนี้
แม้ว่าปี่กันและขุนนางที่เหลือจะมีนิสัยตรงไปตรงมาและรักชาติบ้านเมืองมากกว่า แต่ก็ไม่มีทางที่ซูอันจะสามารถพึ่งพาได้
ในทางตรงกันข้าม แม้ว่ากลุ่มของเฟยจงจะไม่ได้ประกอบด้วยกลุ่มคนที่มีคุณธรรมมากที่สุด แต่กลับจงรักภักดีต่อเขามากกว่ามาก ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมผู้ปกครองที่ไร้ความสามารถจำนวนมากจึงมักจะมีขุนนางกังฉินอยู่รอบตัว…
ดังนั้นเขาจึงจัดการกับขุนนางเก่าอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด โดยใช้ฝ่ายของเฟยจงใส่ร้ายปี่กัน นี่เป็นความสามารถพิเศษของผู้ที่มาจากสังคมชั้นล่าง
ในที่สุดปี่กันก็โกรธมากจนลาออก ซูอันกลัวว่าเขาอาจจะขอลี้ภัยในโจวตะวันตกด้วย ดังนั้นจึงสั่งกักบริเวณเขาไว้ที่บ้านแทน ซูอันไม่สามารถหักใจฆ่าคนที่ซื่อตรงอย่างปี่กันได้
เนื่องจากถูกกักบริเวณในบ้าน ข่าวลือเท็จทุกประเภทจึงเริ่มแพร่กระจาย มีแม้กระทั่งทฤษฎีสมคบคิดที่น่าขันว่าต๋าจี่ป่วย และนางต้องการใช้อวัยวะภายในของปี่กันเพื่อรักษาตัวเอง ซึ่งทำให้ปี่กันถูกฆ่าโดยการควักหัวใจ
ซูอันพูดไม่ออก เขาส่งคนไปตรวจสอบที่มาของข่าวลือ แต่การสืบสวนล้มเหลว สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปจากที่เลวร้ายอยู่แล้วให้แย่ลงไปอีก
เมื่อปราชญ์พระญาติจี้จื่อได้ยินข่าวลือที่ชั่วร้ายเหล่านี้ก็ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน และเมื่อกังวลว่าตัวเองจะเป็นเหยื่อรายต่อไปเขาจึงแสร้งเล่นบทเป็นคนเสียสติอยู่แต่ในบริเวณบ้านของตัวเอง
แน่นอนว่าซูอันรู้เท่าทันอุบายของอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เมื่อคนเหล่านี้ออกไปจากราชสำนักแล้ว เขาก็สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาไม่บังคับให้เหล่าขุนนางรุนเก่าอยู่ต่อ
สุดท้ายจีฟาผู้นำคนใหม่ของโจวตะวันตกเรียกประชุมใหญ่ที่เหมิงจินโดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับองค์ชายศักดินาแปดร้อยคน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตรต่ออาณาจักรซาง
ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา โจวตะวันตกได้สร้างพันธมิตรที่น่าสะพรึงกลัวกับเผ่าอื่น ๆ มากมาย เมืองขึ้นของอาณาจักรซางอีกหลายแห่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับโจวตะวันตกเช่นกัน ซึ่งพวกเขาไม่พอใจกับการปกครองของราชวงศ์ซางอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ดังนั้นหลายเมืองเหล่านี้จึงต่างเข้าร่วมการชุมนุมด้วย
แน่นอนว่าจีฟาไม่ได้โง่เหลา เขาได้ตระหนักว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ราชวงศ์ซางมีความแข็งแกร่งมากขึ้นและไม่แน่ใจอีกต่อไปว่าจะได้รับชัยชนะ เขาจึงยังไม่ประกาศสงครามในทันที แต่รอโอกาสที่ดีที่จะลงมือเสียก่อน!