เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 830 ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง
บทที่ 830 ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง
บทที่ 830 ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง
ท่าทีหงุดหงิดของอู่เกิงลดลง “บิดาของข้าคลั่งไคล้ต๋าจี่มาก และมารดาของข้าซึ่งเป็นจักรพรรดินีแท้ ๆ กลับสูญเสียความโปรดปรานอย่างต่อเนื่อง จนข้ารู้สึกว่านางอาจถูกทอดทิ้งเมื่อใดก็ได้ ถ้าต๋าจี่ให้กำเนิดลูกชายอีกคน ตำแหน่งของข้าในฐานะรัชทายาทจะไม่มั่นคง ดังนั้นข้าจึงคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าถ้าข้าเคลื่อนไหว ข้าไม่ได้ต้องการทรยศต่อราชวงศ์ซางอย่างแท้จริง ข้าแค่ต้องการใช้พวกโจวบังคับพ่อของข้าให้สละราชบัลลังก์ น่าเสียดายที่ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าราชวงศ์โจวจะมีความทะเยอทะยานขนาดนี้ และพวกเขากำลังวางแผนที่จะกำจัดราชวงศ์ซางให้หมดไปตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว…”
ซูอันถอนหายใจ “เจ้าเป็นคนปล่อยให้หมาป่าเข้ามาแท้ ๆ”
บรรดาขุนนางของอาณาจักรซางเหล่านี้ต่างยุ่งอยู่กับการต่อสู้กันเองจนปล่อยให้ผู้ล่าเข้ามาโดยไม่รู้ว่ามันจะอันตรายแค่ไหน
“เมื่อเรารู้ตัวมันก็สายเกินไปแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของพวกโจวจนเราไม่อาจแก้ไขสิ่งใดได้อีก…” อู่เกิงกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ราชวงศ์โจวแข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นเราจึงทำได้แต่เพียงรอเวลา ต่อมาหลังจากการตายของจีฟา ลูกชายคนเล็กของเขาก็ขึ้นครองบัลลังก์ ข้าจึงถือโอกาสก่อกบฏต่อราชวงศ์โจว ข้ากลัวว่าเราจะแพ้จึงเตรียมมิติลับนี้ไว้ล่วงหน้า ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าเราจะแพ้ให้กับโจว แต่เราจะยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่แท้จริงนี้ให้แก่คนรุ่นหลังได้…”
อู่เกิงหันไปทางซูอันและเพ่ยเหมียนหมาน “เจ้าสองคนช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ผู้เข้าทดสอบก่อนหน้านี้ทั้งหมดมีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าเจ้า แต่ในการทดสอบ ข้าถอดการบ่มเพาะของพวกเขาทุกคน ทำให้ระหว่างการทดสอบพวกเขาเป็นเพียงแค่คนปกติ สิ่งที่ข้าอยากเห็นไม่ใช่ความแข็งแกร่งในระดับการบ่มเพาะของผู้เข้าทดสอบ แต่ข้าอยากจะเห็นว่าพวกเขาจะเข้าใจความปวดร้าวและความเกลียดชังของผู้คนในราชวงศ์ซางได้หรือไม่ และพวกเขาจะหาทางแก้ไขความหายนะของเราได้หรือเปล่า?”
เขากล่าวต่อว่า “ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเป็นคนฉลาด แต่หลายคนไม่ผ่านการทดสอบส่วนแรกด้วยซ้ำ ถ้าพวกเขาไม่ได้ถูกเสี่ยวถู่วหลอก พวกเขาก็ไม่เห็นด้วยกับฟู่ซัวหรือลืมตัวตนของตัวเองและเหตุผลในการเข้าร่วมการทดสอบนี้หลังจากใช้ชีวิตในฐานะจักรพรรดิสักสองสามทศวรรษ”
“สำหรับการทดสอบส่วนที่สอง หากพวกเขาไม่ได้ใกล้ชิดกับซานไฉ่ นางคงไม่มีความคิดอยากเสียสละตัวเองไปแต่งงาน และการที่ผู้เข้าร่วมการทดสอบหญิงเดินทางไปที่โจวตะวันตก สิ่งเดียวที่รอนางอยู่คือความตาย”
“สำหรับการทดสอบส่วนที่สาม เจ้าสามารถจัดการสถานการณ์ที่วุ่นวายภายในราชสำนักได้จริง สามารถระบุมิตรและศัตรูออกจากกันได้อย่างชัดเจน ทัพหลวงมีอยู่ในระหว่างยุทธการมู่เหย่ และมิตรของเจ้ายังได้เข้ามาร่วมการรบกับอีกฝ่ายอย่างพร้อมเพรียง เหนือสิ่งอื่นใด เจ้ามองเห็นตัวตนของข้า ถ้าพ่อของข้าแบ่งปันความเข้าใจมาจากเจ้าเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง สิ่งต่าง ๆ อาจเปลี่ยนไปในทางที่ต่างออกไป”
ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานแลกเปลี่ยนสายตากัน และทั้งคู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขารู้ว่าเป็นคู่แรกของผู้เข้าร่วมการทดสอบทั้งหมดที่มาไกลถึงขนาดนี้
แต่น้ำเสียงของอู่เกิงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “น่าเสียดายที่เจ้าไม่ประสบความสำเร็จในการทดสอบ เจ้าเพิ่งเข้าใจกระจ่างถึงเรื่องทั้งหมดนี้ในวินาทีสุดท้าย และสายเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อใดที่ข้าออกคำสั่ง กองทหารของข้าจะกบฏ ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดจะกลายเป็นเช่นเดิมตามประวัติศาสตร์ที่ข้าเผชิญมา เจ้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเราได้”
ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานต่างห่อเหี่ยว การล้มเหลวในตอนสุดท้ายเป็นความรู้สึกที่แย่อย่างยิ่ง
เสียงของอู่เกิงก็เต็มไปด้วยความเสียใจ “ผลงานของเจ้าระหว่างการทดสอบนี้ยอดเยี่ยมและโดดเด่นกว่าผู้เข้าทดสอบคนอื่น ๆ ในอดีตมาก โชคไม่ดีที่ยิ่งเจ้าทำได้ดีมากเท่าไร ข้าก็ยิ่งคาดหวังมากขึ้นเท่านั้น บางทีอาจมีคนอื่นที่โดดเด่นกว่าเจ้าสองคนที่จะปรากฏตัวในภายหลัง ผู้เข้าร่วมที่สามารถผ่านการทดสอบนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เอาล่ะ เตรียมตัวให้พร้อม สิ่งเดียวที่รอเจ้าอยู่คือความตาย!”
ขณะที่พูด เขาก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ โดยมีหมอกสีดำปกคลุมร่างกาย เขายกมือขึ้นช้า ๆ และรูปเทาเที่ยก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา หลุมดำก่อตัวขึ้นข้างหน้ามัน ทำให้เกิดแรงโน้มถ่วงอันทรงพลังที่บดขยี้และดูดกลืนทุกสิ่งรอบตัว แม้แต่ศาลาก็เริ่มพังทลาย ทุกสิ่งถูกดูดเข้าไปในหลุมดำนั้น
อู่เกิงได้ตัดสินว่าพวกเขาล้มเหลว และกำลังจะปิดโลกแห่งการทดสอบเพื่อรออีกช่วงเวลาที่ไม่สิ้นสุดสำหรับผู้เข้าทดสอบคู่ต่อไป
พลังนั้นแข็งแกร่งมากจนทั้งซูอันและเพ่ยเหมียนหมานรู้สึกว่าวิญญาณของพวกเขากำลังจะถูกฉีกกระชากออกจากร่างกายและถูกดูดกลืนเข้าไปในหลุมดำ
เพ่ยเหมียนหมานจับมือซูอันไว้แน่นและยิ้มขอโทษ “ไม่ว่าสิ่งที่เราเผชิญมาก่อนหน้านี้จะดีหรือจะร้าย แต่มันเป็นผลให้เราได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาทั้งชีวิตถึงสามรอบแล้ว การได้ตายเวลานี้ข้าไม่คิดว่าน่าเสียดาย”
“อย่าเพิ่งยอมแพ้!” ซูอันมองไปที่อู่เกิงและกล่าวว่า “ข้าไม่ได้ล้มเหลวในการทดสอบนี้ ข้ายังมีไพ่ตายอีกใบ!”
“โอ้?” อู่เกิงตกตะลึง เขาเยาะเย้ย “ไม่มีกลอุบายใด ๆ ของเจ้าหลุดพ้นจากการสังเกตของข้า เจ้าจะซ่อนไพ่ลับอะไรไว้ในแขนเสื้อได้อีก?
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่อู่เกิงกลับลดทอนแรงดูดของหลุมดำลดลงอย่างมาก
ซูอันรู้สึกได้ถึงความกดดันที่ลดลงอย่างมหาศาล เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ดูคล้ายว่าเจ้ายังปรารถนาให้เราประสบความสำเร็จโดยไม่รู้ตัว”
อู่เกิงสูดลมหายใจและกล่าวว่า “คำพูดของเจ้าไร้ประโยชน์ ถ้าเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้ามีแผนอะไรอีก สิ่งที่รอเจ้าอยู่คือความตาย!”
ซูอันพูดอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าทิ้งมิติลับนี้ไว้ข้างหลังเพื่อเก็บบันทึกประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของราชวงศ์ซางและเพื่อล้างรอยด่างของราชวงศ์ เจ้ายังต้องการดูว่ามีใครสามารถหาทางให้ราชวงศ์ซางหลีกเลี่ยงชะตากรรมอันน่าสลดใจได้หรือไม่…”
“แล้วอย่างไร? แม้ว่าเจ้าจะค้นพบเป้าหมายแรกสำเร็จ แต่เจ้ายังไม่ประสบความสำเร็จในการไปถึงเป้าหมายที่สอง” อู่เกิงกล่าวอย่างเย็นชา
ซูอันหัวเราะ “เจ้ายังจำเฟยเหลียนและเอ่อหลาย พ่อลูกคู่นั้นได้ไหม?”
อู่เกิงขมวดคิ้ว เขาไม่แน่ใจว่าสองคนนี้มาเกี่ยวอะไรด้วย “จำได้ เจ้าแต่งตั้งให้พวกเขาได้ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพชั้นธรรมดาทั่วไป พวกเขาถือได้ว่าเป็นทหารที่จงรักภักดี แต่พ่อลูกคู่นี้ไม่สามารถสร้างความแตกต่างอะไรได้เลย แม้ว่าเราจะปล่อยให้การต่อสู้ดำเนินไป แต่เอ่อหลายก็คงตายในยุทธการมู่เหย่ แม้ว่าในที่สุดเฟยเหลียนจะสามารถหลบหนีและสาบานว่าจะเอาชนะราชวงศ์โจว แต่เขาเพียงคนเดียวก็ไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ เขาอ่อนแอเกินไป”
ซูอันได้ตอบกลับ “แม้ว่าเฟยเหลียนจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาได้ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังที่สืบทอดไปรุ่นต่อรุ่น เฟยเหลียนเป็นบรรพบุรุษของผู้คนในราชวงศ์ฉิน! ซึ่งท้ายที่สุดในเวลาต่อมาราชวงศ์โจวถูกล้มล้างโดยราชวงศ์ฉิน! สิ่งที่ข้าทำนั้นไม่ต่างจากราชวงศ์โจววางแผนทำลายราชวงศ์ซาง ข้าวางแผนให้เฟยเหลียนทำลายราชวงศ์โจวในท้ายที่สุดเช่นเดียวกัน!”
“เฟยเหลียนเป็นบรรพบุรุษของชาวฉิน?” อู่เกิงตกตะลึง เขาหลับตาราวกับว่ากำลังค้นหาข้อมูลในคลังความรู้
ครู่ต่อมา เขาก็ลืมตาขึ้นและปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “เฟยเหลียนเลี้ยงดูลูกชายของเอ่อหลาย และลูกชายของเอ่อหลายก็เลี้ยงผางเกา ผางเกาให้กำเนิดไทจี๋ให้ตระกูลต้าหลัว ต้าหลัวให้กำเนิดเฟยจื่อ และเฟยจื่อก่อตั้งราชวงศ์ฉิน และในที่สุดก็โค่นล้มราชวงศ์โจว ฮ่า ๆๆ! ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์ฉินหมี่ลี่ เขาคงไม่รู้เรื่องนี้เลย นี่คือเหตุผลที่เขาวางเฟยเหลียนและเอ่อหลายไว้ที่ตำแหน่งสำคัญในใจทันทีที่เขาพบ ชายหนุ่มวางแผนที่จะเก็บทั้งสองไว้เป็นไพ่ตาย เขาคิดว่าทั้งสองจะมีบทบาทสำคัญในการทดสอบในที่สุด
——————–