เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 848 จูบลา
บทที่ 848 จูบลา
บทที่ 848 จูบลา
“ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ เจ้าอาจต้องลองขอความช่วยเหลือจากท่านตาของเจ้า” เพ่ยเหมียนหมานกล่าว “ด้วยสถานะท่านตาของเจ้าสถานการณ์อาจไม่สิ้นหวังไปทั้งหมด”
ฉู่ชูเหยียนดูเป็นกังวล “เจ้าน่าจะทราบอยู่แล้วถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฉู่ของข้ากับตระกูลฉินของท่านตาข้า ท่านตาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจแต่งงานของแม่ข้าในตอนนั้นและได้ตัดพ่อตัดลูกกันไปแล้ว…” นางถอนหายใจ “ช่างเถอะ ข้าจะลองถามท่านตาของข้าดูอีกครั้ง เราไม่สามารถละทิ้งความหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้”
เพ่ยเหมียนหมานพยักหน้า “ข้าจะกลับไปที่ตระกูลเพ่ย และดูว่าข้าสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ข้าไม่มีความมั่นใจมากนัก เจ้าเองก็รู้เกี่ยวกับตำแหน่งที่น่าอึดอัดใจของข้าในตระกูล”
ฉู่ชูเหยียนจับมือนาง พวกนางกลายเป็นเพื่อนสนิทกันเพราะมักจะปรับทุกข์แก่กัน แม้ว่าบุคลิกของพวกนางจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม นางไม่เคยคิดว่าทั้งสองคนจะชอบผู้ชายคนเดียวกัน
ทหารที่อยู่ใกล้ ๆ ยังคงแอบดูพวกนางต่อไป การต่อสู้ที่พวกเขาจินตนาการไว้ไม่เกิดขึ้น และดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนจะเข้ากันได้ดี
นี่มันอะไรกัน?
แม้แต่ผู้หญิงธรรมดาสองคนก็ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้ในสถานการณ์ปัจจุบัน นับประสาอะไรกับสาวงามสองคนนี้ หรือว่าซูอันจะใช้มนต์ดำ?
ซูอันหันหลังกลับเมื่อเขาสังเกตเห็นการหลั่งไหลเข้ามาของคะแนนความโกรธแค้นอย่างต่อเนื่อง เขาก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อเห็นผู้หญิงสองคนจับมือกัน
ผู้หญิงสองคนนี้เป็นคนใจกว้างมาก หรือจริง ๆ แล้วพวกนางไม่ได้ชอบข้าถึงขนาดนั้น?
พวกนางจะเข้ากันได้ดีได้อย่างไรหลังจากค้นพบความจริง…?
…
ด้วยความกังวลพวกเขารีบกลับไปที่โรงเตี๊ยมที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ฉู่ชูเหยียนเห็นซูอันมองไปรอบ ๆ นางจึงพูดขึ้นว่า “คู่พ่อลูกตระกูลซ่างถูกคุ้มกันกลับไปที่เมืองหลวงแล้วพร้อมกับแม่นางเจิ้ง”
ซูอันงึมงำรับคำ…
ฉู่ชูเหยียนต้องการถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับเจิ้งตาน แต่เมื่อนางพิจารณาถึงชะตากรรมอันไม่แน่นอนที่เขากำลังเผชิญอยู่ นางก็ไม่อยากซ้ำเติมเขา
อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าก็กลับมาหลังจากออกตามหาซูอันเช่นกัน จูเซี่ยฉือซินให้ข้อมูลแก่พวกเขาถึงสถานการณ์ปัจจุบันอย่างคร่าว ๆ
อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าซูอันถูกควบคุมตัวอีกครั้ง มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนี้ ตอนนี้พวกเขาสามารถปล่อยให้จูเซี่ยฉือซินจัดการทุกอย่างต่อไป อะไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ไปจะไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขา
อ๋องเหลียงลูบเคราเมื่อเห็นเพ่ยเหมียนหมาน เขาเดินไปแล้วพูดว่า “แม่นางเพ่ย เราได้รับจดหมายจากตระกูลเพ่ยเมื่อสองวันก่อน”
เพ่ยเหมียนหมานรู้สึกสับสน นางรับจดหมายจากมือของอ๋องเหลียง เมื่อนางเห็นสิ่งของข้างใน สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” ซูอันและฉู่ชูเหยียนต่างก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติและถามด้วยความกังวล
เพ่ยเหมียนหมานกัดริมฝีปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความขัดแย้ง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง จึงพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจว่า “อาซู ข้าอาจจะไม่สามารถไปที่เมืองหลวงกับเจ้าได้ มีบางอย่างที่ข้าต้องทำ ข้าต้องกลับไปที่ตระกูลของข้า”
“เกิดอะไรขึ้น?” ซูอันเป็นห่วงนาง เพ่ยเหมียนหมานมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเสมอ เขาแทบไม่เคยเห็นนางเป็นแบบนี้เลย
“แม่ของข้าส่งข้อความมาให้ข้า แต่นางไม่ได้ระบุรายละเอียด ข้าไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน” เพ่ยเหมียนหมานมองไปรอบ ๆ นางหยิบของข้างในซองจดหมายออกมาแล้วพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ข้าตกลงกับแม่ของข้าว่าเราจะไม่ใช้สัญญาณนี้ เว้นแต่สถานการณ์จะเร่งด่วนอย่างยิ่ง นี่เป็นเหตุผลที่ข้าต้องกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
น้ำเสียงของซูอันเริ่มจริงจัง “รีบไปเถอะ ระวังตัวด้วย ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น?”
เพ่ยเหมียนหมานลังเลเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง และท้ายที่สุดนางก็ตัดสินใจพูดออกมา “อาซู ข้าจากไปครั้งนี้ ข้าเกรงว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก…” นางรู้ว่าหลังจากเดินทางครั้งนี้ นางอาจจะไปเมืองหลวงไม่ทัน เมื่อถึงเวลาที่นางกลับไปหาเขามันอาจจะสายเกินไปแล้ว
ซูอันลูบหัวของนางด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคิดอะไรอยู่? แมลงสาปอย่างข้ามันตายง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? ข้าจะรอเจ้าที่เมืองหลวง ข้าเป็นห่วงเจ้ามากกว่า เจ้าต้องดูแลตัวเอง ข้าไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหลังจากที่ข้าจัดการกับสถานการณ์ของตัวเองได้แล้ว”
“ฮึ่ม! พูดอะไรที่มันดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรืออย่างไร?” เพ่ยเหมียนหมานกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ นางมองไปที่ฉู่ชูเหยียน “ชูเหยียน ได้โปรดดูแลอาซูด้วย”
ฉู่ชูเหยียนมีสีหน้าแปลก ๆ “เหมียนหมาน เจ้าลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าอาซูเป็นสามีของข้า? ต่อให้เจ้าไม่ได้พูดอะไรข้าก็จะต้องดูแลเขาอยู่แล้ว”
“แต่เจ้าหย่าแล้ว!” เพ่ยเหมียนหมานโต้กลับ นางโผเข้าไปในอ้อมแขนของซูอันและเขย่งปลายเท้าจูบเขาครั้งใหญ่
แม้ว่าซูอันจะพูดอย่างสบาย ๆ แต่นางก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเขามากนัก ถ้าจักรพรรดิต้องการชีวิตเขา ใครจะสามารถปกป้องเขาได้?
นางรู้ว่าการแยกจากกันนี้อาจเป็นการแยกจากชั่วนิรันดร์ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนางจึงทุ่มเททุกอย่างลงในจูบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะสายตาใคร ๆ ที่จ้องมองอยู่ นางคงยอมมอบตัวทั้งหมดให้กับเขาแล้วด้วยซ้ำ
ภายในมิติลับมีเพียงจิตวิญญาณของพวกเขาเท่านั้นที่ผูกพันไว้ด้วยกัน ในโลกแห่งความเป็นจริง นางยังคงเป็นสาวพรหมจรรย์ นางจะรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งหากพลัดพรากจากกันชั่วนิรันดร์
สายตาของผู้คนโดยรอบและทูตยุทธ์เสื้อแพรเบิกกว้าง นี่มันอะไรกัน? ทำไมนักโทษประหารถึงมีโชคเรื่องผู้หญิงจนน่าอิจฉา?
แม่นางฉู่ ทำไมเจ้าไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้เลย!
—
ท่านยั่วยุทหารสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024…1024 …1024…
—
ฉู่ชูเหยียนถอนหายใจ นางเห็นใจเพ่ยเหมียนหมานจริง ๆ อย่างไรก็ตาม นางสังเกตเห็นทุกคนรอบตัวมองมาที่นางด้วยท่าทางแปลก ๆ และรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง นางรู้สึกว่าควรจะทำอะไรบางอย่างในตอนนี้ แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่ควรทำคืออะไร?
ในท้ายที่สุดนางทำได้เพียงหันศีรษะไปด้านข้างเท่านั้น เมื่อตามองไม่เห็นใจก็หมดกังวล
ทุ่งนาเขียวขจีสวยงาม ต้นไม้ที่อยู่ห่างไกลเหล่านั้นมีกิ่งก้านสีเขียวอ่อนและแม้แต่นกก็ยังดูเหมือนนกแก้วสีเขียวเข้ม…
เป็นฉากที่สวยงาม เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
แต่ทำไมข้ารู้สึกแปลก ๆ?
เมื่อริมฝีปากของพวกเขาแยกออกจากกันในที่สุด ใบหน้าที่งดงามของเพ่ยเหมียนหมานก็ดูสวยงามยิ่งขึ้น นางมองคนรักอย่างโหยหา และพูดผ่านกระแสพลังชี่ว่า “อาซู ถ้าเกิดอะไรขึ้นในเมืองหลวง ข้าจะตายตามเจ้าไป”
ซูอันกระโดดเหยงด้วยความตกใจ “อย่าพูดอะไรโง่ ๆ แบบนั้น!” เขาพูดอย่างเร่งรีบ “เจ้าอย่าแน่ใจว่าข้าตายแล้ว เว้นแต่จะเห็นศพของข้า! ไม่สิต่อให้เจ้าเห็นศพข้า ข้าอาจจะยังมีชีวิตอยู่! ข้ามีอุบายตั้งเยอะ ถ้าเจ้าฆ่าตัวตายทั้งที่ข้ายังไม่ตาย! ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าคงร้องไห้ไม่ออก! หากเจ้าอยากจะฆ่าตัวตายจริง ๆ โปรดรออย่างน้อยหนึ่งทศวรรษหลังจากที่เจ้าแน่ใจว่าข้าจากไปแล้ว…”
เพ่ยเหมียนหมานรู้ว่าเขาตั้งใจพูดเพื่อบรรเทาความวิตกกังวลของนาง ดังนั้นนางจึงไม่โต้เถียงและตอบว่า “ก็ได้ ข้าจะตัดสินใจหลังจากข้าแน่ใจแล้วเท่านั้น แต่ข้าก็ยังหวังว่าเราทั้งสองจะได้พบกันอีก ข้า…ร่างกายของข้ากำลังรอเจ้าอยู่…”
คำพูดเหล่านี้ทำให้เลือดลมของซูอันพลุ่งพล่านทันที เขารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในการทดสอบเป็นเพียงการร่วมรักทางดวงวิญญาณของพวกเขา
เพ่ยเหมียนหมานยิ้มเมื่อสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเขา นางรีบเดินออกมาด้วยใบหน้าของนางแดงก่ำ “ข้าหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น”
จูเซี่ยฉือซินรู้สึกประหลาดใจ “ระดับการบ่มเพาะของคุณหนูเพ่ยดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย”
อ๋องเหลียงพยักหน้า “ดูเหมือนว่านางจะถึงจุดสูงสุดของขั้นที่หกแล้ว บางทีอาจจะแตะขั้นต้นของระดับเจ็ดแล้วก็ได้! นางยังเด็กอยู่เลย!”
หลิวเหย่าดูค่อนข้างหดหู่ “เป็นเรื่องจริงที่คนรุ่นใหม่มักจะก้าวข้ามคนรุ่นก่อนอยู่เสมอ”
เมื่อตอนที่เขาอายุเท่าเพ่ยเหมียนหมาน เขายังไม่สำเร็จถึงระดับห้าด้วยซ้ำ
จูเซี่ยฉือซินและอ๋องเหลียงรู้สึกหงุดหงิดแปลก ๆ เจ้าควรพูดแบบนี้ตอนนี้จริง ๆ เหรอ?
อย่างไรก็ตาม ภายในใจของพวกเขาต่างก็มีความรู้สึกที่คล้ายคลึงกัน เพ่ยเหมียนหมานอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับหกในขณะที่ฉู่ชูเหยียนอยู่ที่ระดับเจ็ดแล้ว ทั้งคู่เป็นเพียงคนรุ่นเยาว์ ความเร็วที่พวกนางบ่มเพาะนั้นน่ากลัวจริง ๆ
แต่แล้วทำไมสตรีที่น่าทึ่งทั้งสองจึงพากันตกหลุมรักซูอัน?
เนื่องจากซูอันใช้วิชาบังบดเร้นซ่อน ทำให้คนอื่นมองเห็นว่าเขาอยู่ในระดับห้าเท่านั้น ซึ่งทำให้เขาดูเหมือนกองอุจจาระข้างดอกไม้ที่งดงาม
ไม่ใช่สิ เขาเป็นกองอึที่อยู่ตรงกลางระหว่างดอกไม้ที่สวยงามสองดอก
—
ท่านยั่วยุจูเซี่ยฉือซินสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
—
ท่านยั่วยุอ๋องเหลียงจ้าวอี้สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
—
ท่านยั่วยุหลิวเหย่าสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—