เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 850 เพื่อนไม่กอดกันแบบนี้
บทที่ 850 เพื่อนไม่กอดกันแบบนี้
บทที่ 850 เพื่อนไม่กอดกันแบบนี้
ซูอันกำลังจะหัวเราะกับชื่อแปลก ๆ เหล่านี้ แต่เขานึกถึงคาบเรียนของซางหลิวอวี้ที่เคยอธิบายเกี่ยวกับตำแหน่งของคนทั้งสองนี้ได้…
ผู้บัญชาการทัพด่านหน้ารับผิดชอบกองทัพทั้งหกทางเหนือ กองกำลังชั้นยอดของราชวงศ์ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
กองกำลังทั้งสองที่หลิวเหย่าผู้อวดดีสั่งการนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพทั้งหกนี้ ภายใต้การบังคับบัญชาของแม่ทัพใหญ่ด่านหน้า
แม่ทัพใหญ่รักษามาตุภูมินั้นแทบมีอำนาจไม่ต่างจากเสนาบดีกลาโหม เขาคือผู้ที่คอยกำกับควบคุมเหล่าบุคลากรทางทหารไม่ว่าจะยศเล็กหรือใหญ่ทั้งหมดและยังเป็นผู้ที่คอยจัดการเกี่ยวกับกำลังทหารทั้งหมดที่สังกัดอยู่นอกวังหลวง
สรุปแล้วหากนับอิทธิพลในกองทัพทหารทั้งหมดของต้าโจว ตาใหญ่และตาน้อยของฉู่ชูเหยียนคือเบอร์หนึ่งและเบอร์สอง เป็นรองเพียงแค่องค์จักรพรรดิก็แค่นั้น!
ซูอันค่อนข้างตกตะลึง “ตระกูลตาของเจ้าใหญ่โตขนาดนี้ แต่ทำไมถึงมีผู้คนมากมายในเมืองจันทร์กระจ่างกล้าที่จะกลั่นแกล้งตระกูลฉู่ของเจ้าได้?”
ฉู่ชูเหยียนถอนหายใจ “มันเป็นเรื่องเก่า ย้อนกลับไปในตอนนั้น ท่านตาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของท่านแม่กับท่านพ่อ และพยายามจัดงานแต่งใหม่ให้กับแม่ของข้า ซึ่งต่อมาท่านแม่เลือกที่จะหนีไปกับท่านพ่อ ทำให้เขาโกรธจัดและตัดสัมพันธ์ทั้งหมดกับพวกเรา
“ทั้งท่านตาและท่านแม่ต่างดื้อรั้นไม่มีใครยอมใครง่าย ๆ พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันเลย แม้จะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม…
“ท่านตาเกลียดท่านพ่อ ความจริงที่ว่าเขาไม่ได้พยายามทำอะไรกับท่านพ่อของข้าก็ถือว่าโชคดีแล้ว”
ซูอันหัวเราะแล้วจับต้นขาของนาง “ข้าไม่เคยคิดเลย! ข้าแต่งงานกับสตรีผู้สมบูรณ์แบบที่สุดในอาณาจักร หลานสาวของแม่ทัพที่ทรงอำนาจที่สุด! ข้าจะเกาะแข้งเกาะขาใหญ่ ๆ ของเจ้าให้แน่นเหมือนปลิงเลยที่รัก!”
ฉู่ชูเหยียนพยายามหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ ในที่สุดนางก็ต้องปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการ ใบหน้าของนางเป็นสีแดงก่ำ “เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร? ในเมืองหลวงมีผู้หญิงจำนวนมากที่มีภูมิหลังคล้ายกับข้าหรืออาจจะดีกว่าซะอีก! ยิ่งกว่านั้นข้าเป็นคนเลือกที่จะแต่งงานกับเจ้า…ว่าแต่เจ้าหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าขาของข้าใหญ่!?”
นางอ้วนกว่าเพ่ยเหมียนหมานหรืออย่างไร? แน่นอนว่านางอายเกินกว่าจะถามเขาแบบนั้น
ตอนนี้ซูอันเพิ่งจำได้ว่าเขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูล แต่เขาไม่สนใจ “ในเมื่อเราหย่ากันไปแล้ว อดีตจึงไม่ควรนับ คราวนี้ข้าเป็นฝ่ายเลือกที่จะเกาะเจ้าแน่ ๆ”
ภายนอกที่เย็นชาและไร้อารมณ์ของฉู่ชูเหยียนแตกสลายในทันทีเมื่อนางรู้สึกว่ามือของซูอันกำลังลูบไล้ไปเรื่อยตามต้นขาของนาง ใบหน้าของนางแดงก่ำ
เจ้านี่ช่างร้ายกาจจริง!
“หยุดเลย…!” ฉู่ชูเหยียนร้องออกมาและหยุดมืออันซุกซนของเขา “มีคนอยู่ข้างนอกเยอะแยะ!”
ซูอันรู้ว่านางขี้อายและอาจจะไม่สามารถทำอะไรที่ใกล้ชิดกับนางภายในรถม้านี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เซ้าซี้และโอบแขนรอบเอวของนางแทน “ถ้าแค่นี้ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ร่างกายของฉู่ชูเหยียนเย็นจนน่าสัมผัส มันเป็นความรู้สึกที่น่าพึงใจในฤดูร้อนที่อบอ้าวอย่างนี้
“เราหย่ากันแล้ว เราไม่ควรทำเช่นนี้…” ใบหน้าของฉู่ชูเหยียนแดงระเรื่อ
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้แม้ว่าจะหย่าร้างกัน ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยกอดกันมาก่อน” ซูอันพูดอย่างไร้ยางอาย
“เจ้ารู้จักเพื่อนคนไหนที่กอดกันแบบนี้…?” ฉู่ชูเหยียนพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจ อย่างไรก็ตามนางรู้ว่าเหตุผลที่พวกนางหย่ากันเพียงเพราะไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงไม่ผลักไสเขาออกไป นางซุกศีรษะไว้ในอกของเขาแทน “อาซู เรื่องของเจ้ากับเพ่ยเหมียนหมานนี่มันอย่างไรกันแน่? เจ้าบอกข้าได้ไหม?”
ซูอันหัวเราะคิกคักและถามกลับ “เจ้าน่าจะอยากรู้ว่าข้ากับเพ่ยเหมียนหมานเราเป็นอะไรกันแล้วมากกว่าหรือเปล่า?”
“เจ้านี่มันช่างกล้านักนะ!” ฉู่ชูเหยียนยืดตัว นางรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา “ข้าไม่ได้พบเจ้าสองสามเดือน จากนั้นข้าก็สูญเสียสามีไป และตอนนี้ข้าพบว่าเขาคบหากับเพื่อนของข้าอีก…แต่ก็ช่างเถอะ ข้าไม่ถือโทษเจ้าหรอก”
ซูอันกอดนางและปลอบโยนทันที “ภรรยาของข้าต้องการรู้อะไร? ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างเลย…”
ใจของฉู่ชูเหยียนอ่อนลงเมื่อนางได้ยินคำว่า ‘ภรรยาของข้า’ แม้ว่าทั้งสองคนจะหย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ แต่นั่นไม่ใช่ความรู้สึกภายในใจของนาง นางยังคงมีความสุขมากที่เขาเรียกนางเช่นนี้
ทั้งคู่อิงแอบกันอย่างใกล้ชิด จากนั้นพวกเขาเล่าถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวพวกเขาเองในช่วงที่ผ่านมา แน่นอนว่าซูอันเป็นผู้พูดเยอะกว่า
“เจ้าใช้เวลาหลายสิบปีกับเหมียนหมานในมิติลับเหรอ!?” ฉู่ชูเหยียนรู้สึกอิจฉา ก่อนหน้านี้ที่นางไม่บังเกิดความรู้สึกอิจฉาเป็นเพราะนางไม่แน่ใจว่าชะตากรรมของซูอันจะเป็นอย่างไร และเพ่ยเหมียนหมานคือเพื่อนที่ดีของนางและไม่ใช่คนอื่น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เมื่อนางรู้ว่าพวกเขาใช้เวลาหลายสิบปีร่วมกันในฐานะคู่ครองที่แท้จริง นางก็เริ่มไม่สามารถควบคุมให้อารมณ์ของตนเองเยือกเย็นได้ ทำไมสองคนนี้จึงดูเหมือนเป็นคู่สามีภรรยากันจริง ๆ มากกว่านางที่แต่งงานกับซูอันแล้ว?
ซูอันรู้สึกผิดเล็กน้อย “พูดตามตรง ข้าไม่คิดว่ามันเป็นเวลาถึงสองสามทศวรรษอย่างแท้จริง การไหลของกาลเวลาในมิติลับค่อนข้างแปลก หากบอกว่าเป็นแค่เวลาสองสามปีข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้มากกว่า เพราะในโลกความเป็นจริงมันเป็นเพียงเวลาแค่ครู่เดียวเท่านั้น เราไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันหลายสิบปีในความเป็นจริง”
“ถึงแม้จะไม่ใช่สองสามทศวรรษ แต่อย่างน้อย ๆ มันก็ไม่น่าต่ำกว่าสองสามปี!” ฉู่ชูเหยียนพูดด้วยแววตาวาวโรจน์ นางไม่รู้ว่าทำไมนางถึงโกรธมาก แต่ยิ่งคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกแย่
—
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233…233…233…
—
ซูอันค่อย ๆ ดึงนางเข้ามาในอ้อมแขนอีกครั้ง “ภรรยาของข้า ข้ามีความสุขมากที่เจ้าอิจฉากับสิ่งที่เกิดขึ้น ข้าคิดว่าเจ้าไม่สนใจข้าแล้ว”
ในที่สุดฉู่ชูเหยียนก็สูญเสียท่าทีที่สงบนิ่ง “ทำไมเจ้าถึงมีความสุขเมื่อทำให้คนอื่นโกรธ? สมองของเจ้ากลับด้านไปแล้วหรืออย่างไร?”
ซูอันรู้ดีว่าการพูดเรื่องนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดและอาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ เขารีบเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “ภรรยาที่รัก เล่าเรื่องเมืองหลวงให้ข้าฟังอีกหน่อยสิ ข้าได้จะไม่ไปที่นั่นโดยไม่รู้อะไรเลย”
เขาเคยได้ยินเรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับเมืองหลวงจากพ่อและลูกสาวตระกูลซ่างก่อนหน้านี้ แต่พวกเขามีเวลาพูดคุยกันอย่างอิสระน้อยมาก เขาจึงไม่ค่อยรู้เรื่องเมืองหลวงมากนัก
——————–