เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 889 ตั้งคำถามต่อชีวิต
บทที่ 889 ตั้งคำถามต่อชีวิต
บทที่ 889 ตั้งคำถามต่อชีวิต
ชิวฮัวเล่ยเก็บกระจกบานเล็ก ยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะเดินไปที่ประตูอย่างเงียบ ๆ
จิ๊! คิดว่าข้าจะกระโดดข้ามกำแพงเหรอ?
แม้ว่าสิ่งกีดขวางเหล่านี้จะไม่มีความหมายสำหรับข้า แต่การกระโดดข้ามกำแพงเป็นสิ่งที่สตรีไร้มารยาทเท่านั้นที่จะทำ
ในฐานะสตรีที่มีเกียรติและสูงส่ง ข้าจะเดินเข้าไปทางประตูหน้าเท่านั้น!
นางกำลังจะเคาะประตูด้วยนิ้วที่เรียวยาว แต่ทันใดนั้นนางกลับได้ยินเสียงครวญครางหลากโทนราง ๆ จากภายใน รอยยิ้มของนางก็ถึงกับแข็งค้างในทันที
นางโกรธมากจนเตะก้อนหินที่อยู่ข้างถนน ถ้านางรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะกลายเป็นแบบนี้ นางคงปล่อยให้ลูกน้องของตัวเองเผาที่นี่ให้วอดวาย!
มารดามันเถอะ!
—
ท่านยั่วยุชิวฮัวเล่ยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999…999…999…
—
น่าเสียดายที่ซูอันหมกมุ่นอยู่แต่กับกิจกรรมในอ่างอาบน้ำมากเกินไปจนไม่ทันได้เห็นคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามานี้
ชิวฮัวเล่ยต้องการที่จะจากไป แต่มันขัดใจนางเกินไปกับการจากไปอย่างเฉย ๆ เช่นนี้
ฮึ่ม! นั่นฉู่ชูเหยียนอยู่ข้างในเหรอ? นางมักจะมีภาพลักษณ์อย่างเทพธิดาน้ำแข็ง แต่ดูนางตอนนี้สิ! ทำตัวไม่ต่างจากคณิกาในหอสุขนิรันดร์เลย!
นางต้องการดู ‘ช่วงเวลาไร้ยางอาย’ ของเทพธิดาน้ำแข็งด้วยตัวเอง ด้วยวิธีนี้นางจะไม่รู้สึกด้อยกว่าเมื่อได้เผชิญหน้ากันในอนาคต
ความคิดนี้ทำให้นางลอบปีนกำแพงเข้าไป
นางรู้ว่าทั้งสองคนเป็นผู้บ่มเพาะ ดังนั้นนางจึงต้องระมัดระวัง นางย่องเดินไปอย่างเงียบ ๆ เหมือนแมวตัวหนึ่งกำลังล่าเหยื่อ
เสียงครวญครางดังขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่นางค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้
พวกเขากำลังทำมันในอ่างอาบน้ำ? ชิวฮัวเล่ยสาปแช่งอย่างเงียบ ๆ ฉู่ชูเหยียนกล้าขนาดนี้เลยเหรอ?!
ภาพลักษณ์ของนางในฐานะเทพธิดาน้ำแข็งเป็นเพียงหน้ากากทั้งหมด!
นางมองเข้าไปข้างใน ดวงตาของนางถึงกับเบิกกว้างทันที
ฉู่ชูเหยียนไม่ได้ถอดเสื้อผ้าเหรอ? เนื่องจากตำแหน่งของนางทำให้ไม่สามารถเห็นใบหน้าของผู้หญิงได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้สวมชุดสีขาวแบบเดียวกับที่ฉู่ชูเหยียนชื่นชอบ
นางเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตอย่างกะทันหัน โลกนี้เป็นอะไรไปแล้ว? ทำไมเจ้าถึงอาบน้ำขณะใส่เสื้อผ้า? พวกเจ้าไม่รีบร้อนเกินไปหรือ?
เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ…ปากใช้ได้มากกว่าแค่กินอาหารเหรอ?
ทว่าไม่นานนัก นางก็หายงุนงงเมื่อทั้งสองคนออกจากอ่างอาบน้ำ และซูอันช่วยทำให้เสื้อผ้าของผู้หญิงแห้งด้วยลูกไฟในมือ
ซูอันปลุกธาตุไฟ?
เปลวไฟของเขาดูอยู่ในระดับสูงอีกทั้งไม่ธรรมดา
เดี๋ยวนะ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ฉู่ชูเหยียนนี่นา!?
นางได้พบกับฉู่ชูเหยียนระหว่างทางมายังเมืองหลวง ดังนั้นนางจึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ฉู่ชูเหยียน แต่เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลซ่าง เจิ้งตานที่กำลังสวมชุดไว้ทุกข์!
ช่างเป็นนางจิ้งจอกอะไรเช่นนี้! สามีของเจ้าเพิ่งเสียชีวิตไป แต่เจ้ามาอยู่กับชายอื่นแล้ว!
แม้ว่านางจะเคยพยายามคาดเดาถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างสองคนนี้ แต่ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น การได้เห็นด้วยตาตัวเองเช่นนี้น่าตกใจเกินไป
เมื่อเสื้อผ้าแห้ง เจิ้งตานรีบสวมเสื้อคลุมและจากไปอย่างรีบร้อน
ทว่าท่าเดินของเจิ้งตานนั้นดูคล้ายกับคนแข้งขาอ่อนแถมยังเดินขาถ่างอย่างแปลกประหลาดอีกต่างหาก
ชิวฮัวเล่ยขมวดคิ้วเมื่อเห็น
สมควรแล้ว! พวกเจ้าทำกันดุเดือดราวกับคนบ้า!
แต่แล้วขณะที่นางเย้ยหยันเจิ้งตานซึ่งลับสายตาไปแล้ว สมาธิของนางก็ลดลง และเกิดช่องโหว่ในการพรางตัว
“ใครกัน? ออกมานะ!” ซูอันรู้ว่าคน ๆ นี้อาจจะเห็นทุกอย่าง ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะเมตตา เขาพุ่งตัวไปซัดฝ่ามือใส่อีกฝ่ายทันที
แต่โดยไม่คาดคิด…อีกฝ่ายไม่ขยับหนีแถมยังจ้องกลับมองที่เขาอย่างเย็นชาจากบนต้นไม้ที่ซ่อนตัวอยู่!
ซูอันตกใจมากเมื่อเห็นหน้านาง เขารีบเปลี่ยนทิศทางของฝ่ามือ การเปลี่ยนท่าทางกะทันหันนี้ทำให้เสียหลักล้มลงไปที่พื้น
ชิวฮัวเล่ยยิ้มเยาะปนเย้ายวนแบบฉบับปกติของนาง “เป็นอะไรไป นายน้อยซู? แค่เห็นข้าก็คำนับให้เลยเหรอ? ข้าจะยอมรับการเคารพจากเจ้าได้อย่างไร?”
บัดซบ! เขามันก็แค่ชายเจ้าชู้ไร้ยางอาย! ข้าไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขาเลยสักนิด!
ซูอันลุกขึ้นจากพื้นด้วยความอับอาย “ค…คือเจ้านี่เอง ฮัวเล่ย ฮ่า ๆ…”
นางตัดบทก่อนที่เขาจะพูดจบ “ฮัวเล่ย? เรียกข้าแบบนี้ เราสองคนสนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ซูอันพูดไม่ออก
เมื่อก่อนหน้านี้เจ้ายังยิ้มให้ข้าอยู่เลย…
ซูอันแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ทำไมไม่เรียกข้าก่อนจะเข้ามาเล่า”
ชิวฮัวเล่ยพ่นลม “ข้าจะได้เห็นฉากสนุกเมื่อกี้ได้อย่างไร หากข้าให้เจ้ารู้ล่วงหน้า?”
“เกี่ยวกับเมื่อกี้… ฮ่า ๆ…” ไม่ว่าซูอันจะไร้ยางอายแค่ไหน เขาก็ยังรู้สึกขัดเขิน “ข้าดีใจจริง ๆ ที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง”
ชิวฮัวเล่ยหัวเราะเยาะ “จริงเหรอ? แต่ดูเหมือนว่าข้าจะมาผิดเวลามากกว่า เหมือนกับว่าข้ามาขัดจังหวะเจ้า!”
“เจ้าไม่ได้ขัดจังหวะอะไรเลย! เราทำเสร็จแล้ว…เอ้ย! ฮัวเล่ย เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่?” ซูอันเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าการอาบน้ำของเขาจะเสียเปล่า เขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่ออีกครั้ง ไม่ใช่แค่จากความร้อนเท่านั้น
“คนสกุลติ้งที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่เป็นคนของสำนักศักดิ์สิทธิ์ของข้า แต่เจ้ากำจัดพวกเขาและย้ายเข้ามาอยู่ แน่นอนว่าข้าต้องมาดู!” ความเสียใจของชิวฮัวเล่ยกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ นางควรจะให้ลูกน้องของนางมาจัดการที่นี่แทนที่จะมาด้วยตัวเอง มาดูกันว่าชายเจ้าชู้ผู้นี้จะกล้าทำกิจกรรมในร่มผ้าต่อไปหรือไม่?!
“อ้อ เขาเป็นหนึ่งในคนของเจ้า…” ซูอันกล่าวขอโทษ “ขอโทษด้วยจริง ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าข้าเองก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดได้ จูเซี่ยฉือซินจัดการทุกอย่างเร็วเกินไป”
“ไม่มีใครสามารถหยุดจูเซี่ยฉือซินจากการฆ่าคนที่เขาต้องการให้ตายได้” ชิวฮัวเล่ยไม่ได้อารมณ์เสียเพราะเรื่องนี้ นางอารมณ์เสียเพราะนางแต่งตัวดีเพื่อเขา แต่กลับได้รับรางวัลเป็นฉากที่น่าขยะแขยงแทน นางยังไม่ได้แสดงความโกรธออกมาอย่างเต็มที่
ซูอันกล่าวว่า “ฮัวเล่ย เจ้าช่วยลงมาจากต้นไม้ก่อนได้ไหม? แหงนมองแบบนี้ข้าปวดคอ”
นางอยู่บนต้นไม้และซูอันยังอยู่บนพื้นดิน เขาต้องแหงนศีรษะขึ้นไปมองนางตลอด
“ไม่มีทาง ข้ารู้สึกดีที่เจ้าพูดกับข้าท่านี้” มุมริมฝีปากของชิวฮัวเล่ยโค้งขึ้น ขาของนางแกว่งไปมาในอากาศ อารมณ์ของนางดีขึ้นอย่างมาก
ซูอันอดไม่ได้ที่จะบอก “เอ่อ…กระโปรงของเจ้าบาน…จนข้ามองเห็น…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ชิวฮัวเล่ยกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกและกระโดดลงมาจากต้นไม้
นางเลื่อนชุดของนางลงและจ้องมองเขา ใบหน้าของนางแดงก่ำ “ทำไมเจ้าไม่บอกก่อนหน้านี้!?”
“ข้าพยายามใบ้บอกแล้ว แต่เจ้าไม่เข้าใจข้า!” ซูอันรู้สึกผิดอย่างมาก
ชิวฮัวเล่ยมองเขาโดยไม่พูดอะไร
ซูอันหัวเราะ “ฮัวเล่ย เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ ข้างนอกนี้อากาศหนาวนิดหน่อย”
“เจ้าผิดเองที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย” ชิวฮัวเล่ยโต้กลับด้วยความโกรธเกรี้ยว นางหันหน้าหนีไม่อยากมองร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา
ซูอันหัวเราะด้วยความเขินอาย และรีบหาเสื้อผ้าใส่
ชิวฮัวเล่ยมองไปข้างใน “โอ้? ผ่านไปไม่นานเอง แต่เจ้าทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าเจ้ามีทักษะดูแลจัดการบ้านด้วย”
“ฮ่า ๆ…เจ้าชมเกินไปแล้ว…!” ซูอันไม่ได้บอกนางว่านี่เป็นงานของเฉียวเสวี่ยอิง
แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับชิวฮัวเล่ยจะยังไม่ชัดเจน แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดยังคงบอกว่า เขาไม่ควรเปิดเผยเรื่องนี้กับนางหากเขาไม่อยากจะเจ็บตัว