เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 892 หรือว่าเจ้าไม่กล้า?
บทที่ 892 หรือว่าเจ้าไม่กล้า?
บทที่ 892 หรือว่าเจ้าไม่กล้า?
เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของซูอัน รัชทายาทชี้ไปที่ซือคุน “เขาบอกข้าเองว่าระดับการบ่มเพาะของเจ้าค่อนข้างต่ำ แต่ถึงแม้นักฆ่าจำนวนมากได้ติดตามเจ้ามาที่เมืองหลวง แต่ก็ไม่มีใครสามารถฆ่าเจ้าได้ เขาบอกว่าเป็นเพราะเจ้าคงกระพันกันดาบกันอาวุธได้”
ซือคุนอาเจียนจนแทบจะสำรอกน้ำดีของตัวเองออกมา เขาอยู่ในระดับที่หกแล้ว จึงใช้พลังชี่ขับปัสสาวะออกจากร่างกาย เขาโก่งคออาเจียนใส่ถังครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบเต็ม
เมื่อได้ยินคำพูดของรัชทายาท ซือคุนก็สำทับทันที “ถูกต้อง! ถ้าองค์รัชทายาทไม่เชื่อข้า ก็ให้เขายืนที่ประตูแล้วปามีดใส่!”
“ได้! ได้!” รัชทายาทอ้วนปรบมืออย่างตื่นเต้น
ซูอันพูดไม่ออก แม้ว่าตอนนี้รัชทายาทจะถือว่าซูอันเป็นเพื่อน แต่อีกฝ่ายกลับเต็มใจที่จะไม่สนใจความปลอดภัยของเพื่อนเพื่อความสนุกสนานของตัวเอง
เขามองซือคุนอย่างโกรธเคือง เจ้าควรดื่มปัสสาวะอย่างเงียบ ๆ ทำไมต้องพ่นขยะออกมาตั้งมากมาย?
ซือคุนแสดงสีหน้าชั่วร้าย ไม่เพียงแต่เขาจะล้มเหลวในการแกล้งซูอันเท่านั้น แต่เขายังทำให้ตัวเองอับอายแทน! เขาจะทิ้งโอกาสนี้ได้อย่างไร?
เขาไม่รู้ว่าทำไมองค์รัชทายาทถึงยอมยกโทษให้ซูอันหลังจากที่เปียกโชก ตอนนี้เขาจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่
เขาหยิบมีดหลายเล่มที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมาแล้วมอบให้กับรัชทายาท พวกมันถูกเบิกออกจากคลังของตระกูลซือโดยเฉพาะ พวกมันเป็นอาวุธระดับสวรรค์ชื่อว่า ‘ชุดมีดเทพสังหาร’ พวกมันสามารถเจาะการป้องกันของผู้บ่มเพาะและทำให้วิญญาณบาดเจ็บได้
ใครก็ตามที่โดนมีดเหล่านี้จะได้รับความเสียหายต่อจิตวิญญาณ และต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะหายจากอาการบาดเจ็บดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ แม้แต่สำหรับอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ต้องสูญเสียการบ่มเพาะที่สั่งสมมาหลายทศวรรษโดยไม่อาจกู้คืนได้
หากอาการบาดเจ็บรุนแรงพอ มันสามารถยับยั้งไม่ให้ผู้บ่มเพาะก้าวหน้าต่อไปได้
ต่อให้เป็นผู้บ่มเพาะระดับที่แปดหรือเก้าก็ไม่ต้องการเผชิญกับอาวุธเหล่านี้ แต่แน่นอนว่าผู้บ่มเพาะระดับต่ำก็ไม่มีความสามารพอจะใช้มีดเช่นนี้โจมตีผู้บ่มเพาะระดับแปดหรือเก้าได้สำเร็จเช่นกัน
ซูอันขมวดคิ้วขณะที่จ้องมองมีดเหล่านั้น มีคลื่นพลังจาง ๆ แต่อันตรายล้อมรอบ พวกมันไม่ได้ดูพิเศษเมื่อมองจากภายนอก แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่
ชายหนุ่มไม่ได้กำลังจะตกหลุมพรางของซือคุน เขาประสานมือทำความเคารพเข้าหารัชทายาทอ้วนและกล่าวว่า “องค์ชายรัชทายาท ข้าพระองค์ไม่มีความสามารถใด ๆ ที่จะทำให้คงกระพันได้ ไม่ต้องทดสอบก็ได้พะย่ะค่ะ”
รัชทายาทลังเล ซูอันดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของเขา และเนื่องจากเพื่อนของเขาไม่เต็มใจจะทดสอบ เขาเลยจะปล่อยให้เรื่องจบลง
อย่างไรก็ตาม ซือคุนรีบพูดขึ้น “ทุกคนรู้เกี่ยวกับทักษะอันน่าทึ่งของปรมาจารย์ซูที่แสดงในงานประลองระหว่างตระกูลในเมืองจันทร์กระจ่าง เช่นเดียวกับความสำเร็จที่โดดเด่นของเขาในมิติลับหยกจรัส ทั้งยังเอาชนะผู้บ่มเพาะจำนวนมากระหว่างทางมายังเมืองหลวง คนที่ครอบครองวิชาวัฏจักรหงส์อมตะที่แม้แต่องค์จักรพรรดิยังต้องการเช่นนี้ใยต้องถ่อมตัวด้วยเล่า?”
ดวงตาขององค์รัชทายาทเป็นประกาย “พี่ใหญ่ เจ้าสุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ไม่เลย” ซูอันพูดไม่ออก ซือคุนมีเจตนาไม่ดีแน่ ๆ ถ้าชมเชยเขาแบบนี้
ซือคุนกล่าวเสริมว่า “ข้ารับใช้ผู้ต่ำต้อยคนนี้รู้ว่าองค์รัชทายาทนั้นเถรตรงและเปี่ยมล้นด้วยเมตตาเสมอมา แต่บุคคลนี้รู้วิธีที่จะได้รับความเป็นอมตะ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ เขาควรจะสามารถฟื้นตัวได้ทันที องค์รัชทายาทไม่ต้องเป็นห่วงพะย่ะค่ะ”
ซูอันเกือบจะระเบิดหัวเราะออกมา เถรตรงและเมตตา?
เมื่อพิจารณาจากครั้งแรกที่พบกันจนถึงตอนนี้ รัชทายาทเป็นเพียงคนไร้เหตุผลและไม่มีวี่แววของความเมตตาเลย!
ซูอันเย้ยหยัน “พี่ซือ เจ้าลืมคำสั่งของจักรพรรดิหรือเปล่า? ที่สั่งให้ฆ่าทุกคนที่กล่าวถึงความเป็นอมตะ?”
สีหน้าของซือคุนเคร่งขรึมลง “แน่นอน ข้าจำได้ แต่ข้าไม่ได้พูดถึงความเป็นอมตะ ข้าแค่บอกว่าทักษะที่เจ้าบ่มเพาะนั้นแข็งแกร่ง แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังชื่นชมและแต่งตั้งเจ้าเป็นขุนนาง ในเมื่อเจ้ามารับใช้เป็นราชเลขาขององค์รัชทายาท เจ้าควรช่วยองค์รัชทายาทเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น”
“ใช่ ๆ ข้าอยากเห็น!” รัชทายาทกำลังตื่นเต้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ซูอันขมวดคิ้ว “ข้าเกรงว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะสาธิตวิชาวัฏจักรหงส์อมตะเพียงลำพัง นายน้อยซือ เจ้ายินดีที่จะร่วมมือกับข้าในการสาธิตให้องค์รัชทายาทดูหรือไม่?”
สีหน้าของซือคุนเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เขาเกือบถูกฆ่าตายที่ทางเข้ามิติลับหลังสถาบันจันทร์กระจ่าง แม้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ซูอันก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้แม้จะผ่านการเผชิญหน้ากับแม่ชียุง แปดเดียวดายแห่งสำนักมาร ภูติดำ และการพยายามลอบสังหารทุกรูปแบบ เขาไม่กล้าสู้กับคนแบบนี้ ถ้าซูอันใช้โอกาสนี้เพื่อล้างแค้น เขาคงจะตายก่อนที่จะเริ่มรู้สึกเสียใจกับตัวเองด้วยซ้ำ
เขารีบพูด “ทักษะของนายน้อยซูมีชื่อเสียง ข้าผู้ถ่อมตัวไม่กล้าหลอกตัวเอง”
“ถ้าเจ้าไม่เต็มใจจะทดสอบ แล้วทำไมถึงพูดจาเหลวไหลมาถึงขนาดนี้?” ซูอันถอนหายใจมองดูอีกฝ่ายด้วยความรังเกียจ
ซือคุนยิ่งโกรธเคือง ไอ้นี่เป็นแค่อันธพาลจากข้างถนน! ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมคุณหนูฉู่ถึงชอบผู้ชายพรรค์นี้
—
ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 456!
—
ซือคุนสูดหายใจเข้าลึก ๆ “เราแค่ต้องการให้พระองค์เปิดโลกทัศน์ด้วยตัวเอง การปามีดขององค์รัชทายาทคงดีกว่าคนธรรมดาปาใส่เจ้าเพียงเล็กน้อย แค่นี้เจ้าก็ไม่กล้าเหรอ?”
ซูอันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยซือ เจ้าหมายความว่าระดับการบ่มเพาะขององค์รัชทายาทต่ำและเป็นคนโง่งั้นเหรอ?”
“ซือคุน เจ้าหมายความอย่างนี้เหรอ?” รัชทายาทอ้วนถาม จ้องมองซือคุนอย่างโกรธเคือง
ซือคุนโพล่งออกมาทันทีด้วยเหงื่อเย็นเยียบ “ข้าพระองค์ไม่ได้หมายความเช่นนั้น! องค์รัชทายาทเป็นทายาทแห่งราชบัลลังก์และไม่จำเป็นต้องบ่มเพาะเลยพะย่ะค่ะ พวกเราผู้บ่มเพาะอยู่ที่นี่เพื่อรับใช้และปฏิบัติงานที่พระองค์มอบหมายทุกสิ่ง”
องค์รัชทายาทพยักหน้าอย่างพอใจ “แบบนั้นนั่นแหละ”