เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 9 ของรางวัลแสนประหลาด (ต้น)
บทที่ 9 ของรางวัลแสนประหลาด (ต้น)
“นี่มันบ้าอะไรเนี่ย?” ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซูอันกลับรู้สึกว่าระบบกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่!
ทันใดนั้น คำอธิบายก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอถัดมา ชายหนุ่มรีบอ่านมันทันที
———————————————————————————————
เส้นใยสุขสันต์:
ตำนานกล่าวว่ามีเหล่าหญิงสาวร่ำรวยกลุ่มหนึ่งมีการละเล่นที่แปลกประหลาดซึ่งก็คือพวกนางชอบมอบความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดให้กับเหล่าทาสรับใช้ชาย
ดังนั้นเพื่อเป็นการเอาตัวรอดเหล่าทาสหนุ่มทั้งหลายจึงพากันสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง
ผลของสิ่งประดิษฐ์:
หลังจากที่ใช้สิ่งนี้ ความทุกข์ทรมานทุกอย่างที่ท่านได้รับจากสตรีที่มีเงินมากกว่าท่าน
จะเปลี่ยนเป็นความสุขทั้งสิ้น
คำเตือน:
สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ไม่ลดความเสียหายที่คุณจะได้รับ แต่พลังชีวิตของคุณจะถูกล็อคอยู่ที่
ค่าพลังชีวิตสุดท้ายถึงแม้ว่าสตรีผู้ร่ำรวยจะสร้างความเสียหายถึงตายให้กับคุณ
ท่านต้องการจะเก็บสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ไว้บนแป้นใช้สิ่งประดิษฐ์หรือไม่?
ท่านสามารถใช้มันได้ตามต้องการโดยการกดปุ่ม ‘Q’
———————————————————————————————
ให้ตายเถอะ เลิกล้อเล่นกันได้แล้ว! ซูอันมองก้อนเส้นใยสีเทาทรงกลมคล้ายฝอยขัดหม้อในมือของตัวเองอย่างมึนงง จากนั้นจึงลองปามันลงกับพื้น ของชิ้นนี้มันจะใช้ทำอะไรได้?
มันแทบจะไร้ประโยชน์เลยด้วยซ้ำ แถมมันยังมาพร้อมกับเงื่อนไขอีกมากมายด้วย เขาจะไม่ยอมเป็นของเล่นของผู้หญิงมีเงินคนไหนทั้งนั้นแหละ แล้วเขาจะไปใช้มันได้ยังไง?
ชายหนุ่มเก็บเส้นใยสุขสันต์ไว้บนชั้นสิ่งประดิษฐ์ของเขา จากนั้นเขาจึงไปที่อ่างน้ำและกวักน้ำมาล้างหน้าเพื่อชำระความโชคร้ายออกไปให้หมด จากนั้นก็ล้างมือของตัวเองอีกสามครั้ง หลังจากนั้นก็เริ่มสุ่มของรางวัลชิ้นที่สามต่อ
แป้นคีย์บอร์ดตรงหน้าเริ่มกะพริบแสงอีกครั้งขณะที่ซูอันจ้องมองมันอย่างใจจดใจจ่อ “ขอร้องล่ะ อย่าเป็นสเปซบาร์ อย่าเป็น Q…”
ในที่สุดแสงกะพริบก็ไปหยุดลงตรงแป้น ‘B’ เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นในหูของเขาอีกครั้ง
———————————————————————————————
ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านได้รับ ‘แท่งพิษ’!
———————————————————————————————
“? !? !” ซูอันตกตะลึงเมื่ออ่านชื่อของรางวัลนี้ นี่มันรางวัลบ้าอะไรวะเนี่ย? จนกระทั่งที่เขาเห็นภาพของมีดสั้นสีดำสนิทที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอเขาถึงได้รู้ว่าที่ลามกนั่นคือความคิดของเขาเองต่างหาก
———————————————————————————————
แท่งพิษ:
ครั้งหนึ่งเคยมีบุคคล ๆ หนึ่งที่เลียมีดเล่มนี้เพื่อฉลองชัยชนะที่อยู่ในมือของเขา
แต่แล้วเมื่อเขาเลียมันเสร็จเขาก็เสียชีวิตทันที แต่ก่อนที่ชายผู้นั้นจะหมดลมหายใจ
คำสุดท้ายที่เขาได้กล่าวเอาไว้ก็คือ ‘แท่งพิษ’! แล้วก็ตายไป
ผลของสิ่งประดิษฐ์:
มีดต้องสาป ใครก็ตามที่ได้รับความเสียหายจากมีดเล่มนี้จะเสียชีวิตในทันที
———————————————————————————————
ท้ายที่สุดซูอันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ถึงแม้ว่าชื่อของมันจะแปลกไปสักหน่อย แต่ในทางปฏิบัติก็ถือว่ามันเป็นอาวุธที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ปัญหาหลักตอนนี้ก็คือเขาจะต้องจัดการกับศัตรูให้ได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะโจมตีเขาก็เท่านั้น
แต่เมื่อเขานึกย้อนไปว่าเสวี่ยเอ๋อร์และฉู่ชูเหยียนแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็รู้เลยว่าหากสู้กันจริง ๆ เขาอาจจะไม่สามารถแตะตัวอีกฝ่ายได้เลยด้วยซ้ำ แล้วจะนับประสาอะไรกับสร้างความเสียหายให้กับทั้งคู่
อืม…ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราก็ไม่ควรจะแสดงออกจนโฉ่งฉ่างมากเกินไป เราต้องอาศัยการลอบโจมตีเป็นสำคัญ!
ขนาดในเรื่อง ‘จอมยุทธ์อุ้ยเสี่ยวป้อ’ ตัวเอกยังสามารถใช้มีดแค่เล่มเดียวในการเอาชนะใจหญิงงามทั้งเจ็ดได้ เพราะฉะนั้นเขาก็มั่นใจว่าตัวเองน่าจะทำได้อย่างน้อย 70 คนเป็นอย่างต่ำ
เดี๋ยวก่อนนะ…ซูอันกริบพริบตาปริบ ๆ ถ้าหากเขาเผลอทำมันบาดตัวเองล่ะ เขาจะตายหรือเปล่า? ชายหนุ่มจ้องมองมีดที่เงาวับในมือของตัวเอง ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขากลับรู้สึกอยากที่จะลองทำมันดู แต่สุดท้ายเขาก็สลัดความคิดที่จะใช้ตัวเองเป็นหนูทดลองทิ้งไป
ถ้าพลาดละก็…มันจะเป็นการตายที่โง่เกินไป
ซูอันรีบหาทางสุ่มใหม่อีกครั้งแต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนระบบก็ไม่ตอบสนองเลยสักนิด สิ่งเดียวที่เขาเห็นมีแค่คำว่าคะแนนความโกรธแค้นไม่เพียงพอ
“คะแนนความโกรธแค้นเหรอ? นั่นง่ายชะมัด!” ชายหนุ่มลูบคางตัวเองขณะที่เริ่มนึกถึงเสวี่ยเอ๋อร์ จากนั้นเขาก็เริ่มพึมพำกับตัวเอง ฮ่าฮ่า! นี่เราหัวเราะเหมือนตัวร้ายในนิยายเลยแฮะ! แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา!
ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องของเสวี่ยเอ๋อร์ เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ที่น่าอับอายเมื่อคืน พลันใบหน้าของซูอันเริ่มเหยเก ความดีใจที่ได้สมบัติล้ำค่าสลายไปทันที สิ่งสำคัญอันดับแรกของเขาตอนนี้ก็คือแก้ไขเรื่องซูอันน้อยนี่!
เดี๋ยวก่อนนะ เคล็ดวิชาวัฏจักรหงส์อมตะเพิ่งถูกดูดเข้าไปในคีย์บอร์ดใช่ไหม? ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด นี่โชคชะตาของเขาถูกกำหนดให้เป็นขันทีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? ชายหนุ่มรีบหันไปมองคีย์บอร์ดตรงหน้าทันที สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือแป้น F2 ที่ยังคงเรืองแสงอยู่ และเมื่อกดที่ตัวแป้นนั้น บนหน้าจอกลับปรากฏคำว่า
———————————————————————————————
ท่านต้องการจะฝึกฝนเคล็ดวิชาวัฏจักรหงส์อมตะใช่หรือไม่?
ใช่/ไม่ใช่
———————————————————————————————
เขารีบกดไปที่ ‘ใช่’ ทันที ทันใดนั้นลำแสงบางอย่างก็พุ่งออกมาจากแป้นและปกคลุมไปรอบตัวเขา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายไปทั่วทั้งตัว
ขอร้องล่ะให้มันเป็นระดับสูงสุดเลยทีเถอะได้โปรด!
ให้มันเป็นระดับสูงสุดโดยไม่ต้องฝึกเพิ่มเหมือนในนิยายที! ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองซ้ำ ๆ หลังจากผ่านไปสักพัก แสงสีทองก็สลายหายไปในที่สุด ซูอันลืมตาขึ้นอีกครั้ง บรรยากาศรอบ ๆ ตัวดูหอมหวานและสดชื่นขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย และโลกก็ดูเปลี่ยนไป ถึงเวลาที่จะทดลองพลังใหม่ของเขาแล้ว ชายหนุ่มรีบปล่อยหมัดไปยังก้อนหินที่อยู่ใกล้ ๆ อย่างเต็มกำลัง
“โอ๊ยยยยย แม่งเอ๊ย!” ซูอันรีบชักมือของตัวเองกลับมาดูทันที เจ็บจนน้ำตาไหลแทบจะไหล!
มันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด! ไม่สิ ตอนนี้ผิวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยอักขระโบราณที่เขาไม่เข้าใจตั้งเก้าตัวแถมพวกมันยังดูเหมือนถูกเชื่อมกันโดยเส้นพลังบางอย่างอีกต่างหาก!
ครู่ต่อมา อักขระโบราณทั้งหลายก็ค่อย ๆ จางลงและหายไปในผิวหนังของเขา และขณะที่ซูอันกำลังจะตื่นตระหนก เขาก็พบว่าอักขระโบราณทั้งหมดเริ่มสั่นไหวอีกครั้งในร่างของตัวเอง
“นี่มันอะไรกัน?” ซูอันสังเกตเห็นของเหลวสีทองแปลกประหลาดจำนวนน้อยนิดที่ถูกเติมไปที่อักขระโบราณที่อยู่ส่วนล่างสุดของร่างกายเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสิ่งที่ชายสูงวัยพูดเกี่ยวกับเคล็ดวิชาแปลกประหลาดนี้และเงื่อนไขในการทะลวงระดับของมัน จากนั้นเขาจึงก้มหน้าลงมองกำปั้นที่โชกไปด้วยเลือดของตัวเอง แล้วอยู่ ๆ ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที
ไอ้เคล็ดวิชาบ้านี่ต้องใช้พลังงานในการเลื่อนระดับจริง ๆ ด้วย ตอนอยู่ที่โลกเขาเคยเล่นวิดีโอเกมมามากมาย ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าระบบคีย์บอร์ดได้ทำให้การใช้เคล็ดวิชานี้ของเขาง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือเติมของเหลวสีทองนั่นเข้าไปในอักขระโบราณที่อยู่ในร่างของเขาจนเต็ม จากนั้นเขาก็น่าจะสามารถเลื่อนระดับได้
ส่วนวิธีที่จะได้ของเหลวสีทองนั่นมาน่ะเหรอ? เห็นได้ชัดว่าเขาจะได้มันมาก็ต่อเมื่อทำให้ตัวเองเจ็บปวด!
เอาเถอะ เพื่อซูอันน้อยของเขา…เอ้ย! เพื่อศักดิ์ศรีและความสุขของเขา! ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเคล็ดวิชาที่โคตรจะซาดิสม์ แต่เขาก็ต้องฝึกฝนมันอยู่ดี ซูอันกัดฟันแน่นและต่อยไปที่กำแพงหินอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ปริมาณของเหลวสีทองในอักขระโบราณกลับแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ถึงแม้ว่าความเจ็บปวดที่เขาจะได้รับนั้นไม่ได้น้อยลงเลยก็ตาม ชายหนุ่มจ้องมองกำปั้นของตัวเอง…
จนถึงตอนนี้เขาเริ่มจะเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่เหมือนกับการต่อยครั้งแรก เพราะเขาได้เตรียมใจเอาไว้แล้วสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นสมองของเขาจึงป้องกันร่างกายของตัวเองตามสัญชาตญาณโดยการทำให้เขายั้งมือเอาไว้ ซึ่งนั่นทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาลดลงอย่างชัดเจน
แสดงว่าเราจะฝึกด้วยการทำร้ายร่างกายตัวเองไม่ได้เลยสินะ? ดูเหมือนว่าตัวเลือกเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือหาใครคนอื่นมาซัดเราให้น่วม…
แต่ว่าจะเป็นใครกันล่ะ?
ให้ตายเถอะ! ยิ่งคิดเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูไร้สาระมากขึ้นและทำให้เขาโกรธมากกว่าเดิม
ทันใดนั้น ซูอันก็เหลือบไปเห็นหนูตัวหนึ่งกำลังคุ้ยหาอาหารอยู่ใกล้ ๆ เท้า นั่นยิ่งทำให้เขาโมโหกว่าเดิม ชีวิตเรามันห่วยชะมัด แค่ต้องมาอาศัยอยู่ในสถานที่เส็งเคร็งนี่ก็แย่พอแล้ว แถมเขายังต้องมาใช่ชีวิตอยู่กับพวกหนูด้วยเนี่ยนะ? ! เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็เตะหนูตัวนั้นกระเด็นออกนอกหน้าต่างไปทันที
ผัวะ
แต่ขณะที่เขากำลังชื่นชมทักษะการยิงประตูที่สุดยอดของตัวเองได้สักพัก เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น
“ไอ้สารเลว! เจ้าปาหนูตัวนี้ใส่ข้างั้นเหรอ? !” น้ำเสียงที่เต็มไปด้สวยความเดือดดาลดังขึ้นทันที ตามมาด้วยร่างของหญิงสาวที่เดินผ่านประตูเข้ามา ตัวของนางไม่ได้สูงมากนัก รูปร่างผอมบาง ริมฝีปากสีแดงสดตัดกับฟันที่ขาวสะอาด ผมของนางสั้นแต่ก็ถูกตัดอย่างประณีตเรียบร้อยและยังมีหน้าม้าที่ยาวลงมาจนแทบจะปิดตานั่นอีก ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าในมือของนางกำลังถือหนูเอาไว้ ซูอันคงจะเรียกอีกฝ่ายว่าสาวน้อยสุดน่ารักไปแล้ว
จี๊ด! จี๊ด!
เจ้าหนูตัวดังกล่าวพยายามส่งเสียงร้องและดิ้นไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน ชายหนุ่มที่เห็นแบบนั้นจึงเอ่ยเตือนออกไป “ระวังด้วย หนูตัวนั้นอาจจะกัดเจ้าได้”
“ข้าไม่ได้กลัวมัน” หญิงสาวเอ่ย จากนั้นนางก็บีบมือแน่นกว่าเดิม หนูตัวนั้นยิ่งส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสังเวช จากนั้นมันก็นิ่งไป
อึก! ซูอันกลืนน้ำลายกลับลงไปอย่างยากลำบาก นี่ใช่ผู้หญิงจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย? เขามองอีกฝ่ายโยนซากหนูในมือไปอีกทาง จากนั้นก็เช็ดมือของตัวเองกับกระโปรงของนางอย่างรังเกียจ
สุดท้ายนางก็เหลือบตามามองเขาอย่างเย็นชา “ข้าไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าท่านพี่คิดอะไรอยู่ถึงพาเจ้ากลับมา แถมยังไม่ลงโทษเจ้าอีก?”
ซูอันตกตะลึงกับคำพูดของอีกฝ่าย “ฮะ? พี่เหรอ?”