เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 906 พบเจอโดยบังเอิญราวถูกลิขิต
บทที่ 906 พบเจอโดยบังเอิญราวถูกลิขิต
บทที่ 906 พบเจอโดยบังเอิญราวถูกลิขิต
“อา!!” สตรีชุดดำส่งเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนก กระบี่ของทหารคนหนึ่งพุ่งมาหานาง
แม้นางจะหลบได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังทิ้งรอยบาดไว้บนร่างกาย
ซูอันจะรอช้าได้อย่างไร? เขารีบวิ่งเข้าไปและพูดว่า “พี่น้อง ให้ข้าช่วยพวกเจ้า!”
ทหารองครักษ์ทั้งสองสังเกตเห็นชุดทางการที่ซูอันใส่ และซูอันก็ไล่ตามนักฆ่าคนนี้มาก่อนด้วย ดังนั้นจึงไม่มีใครกันเขาออกไป “ถอยออกไปปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของนาง! เจ้าจะขวางทางเราถ้าเจ้าเข้าร่วมการต่อสู้”
“ตกลง!” ซูอันตอบอย่างกระตือรือร้น แต่ทว่ากลับยังคงพุ่งเข้าใส่พวกเขาต่อไป
“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่!?” ทหารองครักษ์ในวังชั้นในเหล่านี้มีความระแวดระวังอย่างยิ่ง พวกเขารู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่าการกระทำของซูอันนั้นผิดปกติและตั้งการป้องกันทันที อย่างไรก็ตาม หลุมดำดูเหมือนจะปรากฏขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง ดูดพลังชี่ของพวกเขาจนแห้ง
ความรู้สึกถูกดูดพลังอย่างกะทันหันเกือบจะทำให้พวกเขาอาเจียน
ซูอันใช้โอกาสนี้ปล่อยดัชนีเข้าใส่ทหารทั้งสอง หนึ่งครั้งต่อหนึ่งคนเป็นการจบชีวิต
แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ชอบการสังหารผู้คน แต่เขาไม่เคยใจอ่อนเมื่อคนที่เขารักตกอยู่ในอันตราย
หลังจากจัดการกับทหารองครักษ์ทั้งสองแล้ว ซูอันก็หันไปทางผู้หญิงที่สวมชุดดำ “เสวี่ยเอ๋อร์ อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ห้ะ? เจ้าจำข้าได้ด้วยเหรอ?” สตรีชุดดำถอดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงาม นางจะเป็นใครไปได้อีกนอกจากเสวี่ยเอ๋อร์?
“ข้าคิดว่าเจ้าดูคุ้น ๆ แต่ข้าไม่แน่ใจเพราะเจ้าพูดเสียงผู้ชาย” ซูอันรู้สึกปีติยินดีที่ได้พบนาง
เฉียวเสวี่ยอิงถอดจี้หยกขนาดเล็กออกจากคอของนาง “นี่เป็นหนึ่งในสมบัติของกลุ่มเงาสังหาร มันสามารถเปลี่ยนเสียงและปกปิดตัวตนของผู้สวมใส่ได้ในระดับหนึ่ง”
หลังจากให้คำอธิบายนางก็โกรธจัด “ฮึ่ม! ใช่สิก่อนหน้านี้ที่เจ้าจำไม่ได้เพราะเจ้ากำลังยุ่งอยู่กับจักรพรรดินี!”
“นั่นเป็นเรื่องเข้าใจผิด…” ซูอันโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบ เขากำลังจะอธิบายตัวเอง แต่ขณะเดียวกันเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา แน่นอนว่ามีทหารกำลังผ่านมา
“นักฆ่าอยู่ตรงนั้น!” ทหารบางคนสังเกตเห็นพวกเขาแล้ว
สีหน้าของเฉียวเสวี่ยอิงเปลี่ยนไป นางต้องตายแน่นอนถ้านางติดอยู่ที่นี่ และนางอาจจะลากซูอันให้เดือดร้อนไปด้วย
“ตามข้ามา!” ซูอันดึงนางเข้าไปในตรอก
เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกสบายใจขึ้นทันทีเมื่อมีเขาอยู่ข้าง ๆ ไม่มีอะไรที่ดูเป็นอันตรายอีกต่อไป
นางได้ตัดสินใจไปแล้ว ถ้านางหนีไม่พ้นจริง ๆ นางจะหาวิธีตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดที่มีกับเขา เพื่อไม่ให้ลากเขาเดือดร้อนด้วย
ขณะที่นางกำลังครุ่นคิด นางพบว่าตัวเองกำลังเดินไปตามเส้นทางที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ นางตกใจมาก “อาซู เจ้าคุ้นเคยกับเส้นทางเหล่านี้ได้อย่างไร?”
“เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้ข้ามีตำแหน่งทางการแล้ว?” ซูอันพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก พวกเขาอยู่หน้าบ้านพักแล้ว
เฉียวเสวี่ยอิงมึนงงเมื่อเห็นเขาเปิดประตูเข้าไปอย่างสบาย ๆ คนรักของนางเริ่มเหลือเชื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ!
ซูอันปิดประตูตามหลังนางและหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมา “เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วสวมหน้ากากนี้”
เฉียวเสวี่ยอิงตกใจเมื่อเห็นงานปักที่เป็นเอกลักษณ์ “นี่คือชุดเครื่องแบบทูตยุทธ์เสื้อแพร!”
ซูอันยิ้ม “ข้าบอกอะไรเจ้าไป จำได้ไหม? ความจำของเจ้าแย่ขนาดนี้เลยเหรอ?”
เขามีเครื่องแบบมากกว่าหนึ่งชุด พวกมันใหญ่เกินไปเล็กน้อยสำหรับเฉียวเสวี่ยอิง แต่ด้วยการปรับเปลี่ยนบางอย่างมันจึงพอดูใช้ได้ ด้วยทหารที่วิ่งไปทุกหนทุกแห่งในวังทำให้เป็นเรื่องยากที่นางจะหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม การแต่งกายเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรจะทำให้การหลบหนีง่ายขึ้นมาก
เสวี่ยเอ๋อร์แลบลิ้น “มีเรื่องเกิดขึ้นมากจนข้าลืมไปหมดเลย”
นางหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา และใบหน้าของนางก็แดงขึ้น “หันหลังไปก่อนได้ไหม?”
ซูอันหัวเราะ “เราเป็นคนรักกันแล้ว มีอะไรให้อายอีก?”
“เจ้าเรียกใครว่าคนรัก?” เฉียวเสวี่ยอิงพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว พลางหลบไปเปลี่ยนชุดอีกด้านหนึ่ง
“ทำไมพวกเจ้าถึงพยายามลอบสังหารจักรพรรดินี?” ซูอันถามจาก “เจ้าไม่รู้เหรอว่ามันอันตรายแค่ไหน?”
ในความเห็นของเขา มันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย
“นี่เป็นภารกิจที่กลุ่มเงาสังหารรับมา ผู้ว่าจ้างเสนอค่าตอบแทนมหาศาลสำหรับภารกิจนี้ ตราบใดที่ค่าตอบแทนสูงพอ กลุ่มเงาสังหารก็เต็มใจที่จะฆ่าได้แม้กระทั่งเทพเซียน” เฉียวเสวี่ยอิงอธิบาย “นี่เป็นงานสุดท้ายของข้าที่กลุ่มเงาสังหารมอบหมายให้ ในตอนแรกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าภารกิจคืออะไร ข้าเพิ่งรู้รายละเอียดหลังจากถูกพาเข้ามาในวัง แต่ถึงเวลานั้น มันก็สายเกินไปแล้ว ข้าทำได้แค่ปฏิบัติตามเพราะมันเป็นโอกาสในการเริ่มชีวิตใหม่ ใครจะคิดว่าข้าจะพบว่าเจ้ากำลังทำอะไรจักรพรรดินีนั่น? ฮึ่ม!”
—
ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +23…23…23…
—
“มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด!” ในที่สุดซูอันก็มีโอกาสให้อธิบายตัวเอง “ข้าไม่มีทางเลือก ข้าต้องทำเพื่อปกป้องตัวเอง…”
เขาอธิบายคร่าว ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนาง
เฉียวเสวี่ยอิงตกตะลึง นางโผล่หัวออกมาจากอีกด้าน มองเห็นกระดูกไหปลาร้าของนางได้จาง ๆ “เจ้าบอกว่าเจ้าตบก้นจักรพรรดินีและจูบนาง? แถมไม่เพียงแต่ไม่ได้ถูกลงโทษเท่านั้น นางยังต้องปกป้องเจ้าด้วย?”
“นั่นแหละ” ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ “ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริง ๆ หากไม่ได้เจ้าทำให้นางตกใจ นางอาจจะไม่ตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันกับข้าง่าย ๆ”
เฉียวเสวี่ยอิงมองดูเขาเป็นเวลานาน มีความคิดมากมายในหัวของนางจนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน “มันเป็นเพราะแผนของเจ้าเองต่างหาก ไม่เกี่ยวกับข้าหรอก” นางพูดในที่สุด
ซูอันยิ้มด้วยความเขินอายกระอักกระอ่วนแล้วเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่เหรอว่าเจ้าต้องมาแจ้งกับข้าก่อนที่เจ้าจะออกไปทำภารกิจสุดท้าย? ขอบคุณสวรรค์ ที่ข้าบังเอิญอยู่ในพระราชวังเช่นกัน ไม่งั้นข้าคงต้องเสียใจเพราะเจ้าแน่ ๆ!”
เฉียวเสวี่ยอิงหลบไปหลังม่าน “ข้าไม่เห็นเจ้าที่บ้านพักและไม่มีเวลามากพอ ข้าต้องออกเดินทางมากับกลุ่มเงาสังหาร” นางหัวเราะ “แต่ความจริงที่ว่าตอนนี้เจ้าได้ช่วยข้าอีกครั้ง หมายความว่าเราถูกลิขิตมาเพื่อกันและกันจริง ๆ”
“คราวหน้าเราอาจจะไม่โชคดีอย่างนี้” ซูอันส่ายหัวเมื่อเห็นรอยยิ้มของนาง ดูเหมือนว่าผู้หญิงทุกคนจะให้ความสนใจเรื่องเกี่ยวกับโชคลาง “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ว่าจ้างเป็นใคร?”
เฉียวเสวี่ยอิงส่ายหัว “ข้าไม่รู้ กลุ่มเงาสังหารรักษาความลับไว้เสมอเมื่อเป็นเรื่องของผู้ว่าจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภารกิจสำคัญเช่นนี้”
“หลังจากเรื่องในวันนี้ ราชสำนักจะต้องตามล่ากลุ่มเงาสังหารอย่างแน่นอน เจ้าไม่ควรกลับไปอีก…”
“ข้าได้ทำตามข้อตกลงแล้ว ดังนั้นตอนนี้ข้าก็เป็นอิสระแล้ว” เฉียวเสวี่ยอิงพูดขณะที่จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
ดวงตาของซูอันเป็นประกาย เฉียวเสวี่ยอิงเป็นคนที่มีรูปร่างน่าดึงดูด และเสื้อผ้าเหล่านี้ทำให้เห็นทรวดทรงชัดเจนยิ่งขึ้น
เฉียวเสวี่ยอิงก้มลงมองชุดของนางทันทีเมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองของเขา “มีอะไรเหรอ? ข้าใส่อะไรกลับด้านหรือเปล่า?”
ชายหนุ่มตอบด้วยการกอดนางแน่น ๆ และจุมพิตที่เร่าร้อน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งซูอันก็แยกตัวจากนางอย่างไม่เต็มใจ เขามองหญิงสาวในอ้อมแขนและพูดว่า “เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าสวยมาก”
หญิงสาวดีใจอย่างยิ่งที่ได้ยินคำชมของเขา ดวงตาของนางเป็นประกาย “อาซู…”
ซูอันรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาอุ้มนางไปที่โต๊ะ แล้วกวาดทุกอย่างลงจากโต๊ะ
หัวใจของเฉียวเสวี่ยอิงเริ่มเต้นแรงขึ้น “ข้าเพิ่งใส่เสื้อผ้าพวกนี้เสร็จ…”
“ได้เวลาถอดแล้วล่ะ” ซูอันจูบนาง
“อืม…”
…
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังขึ้นด้านนอก ตามด้วยเสียงของทหารราชองครักษ์ที่ดังขึ้น “ดูเหมือนว่านักฆ่าจะหนีไปทางนี้ ทุกคน ปูพรมค้นหาจุดนี้ให้ละเอียด!”