เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 907 ความเศร้าโศกของการจากลา
บทที่ 907 ความเศร้าโศกของการจากลา
บทที่ 907 ความเศร้าโศกของการจากลา
“อา!!” เฉียวเสวี่ยอิงร้องออกมาด้วยความตกใจจึงรีบผลักคนรักของนางออกไป ใบหน้าแดงก่ำขณะที่จัดเสื้อผ้าให้เรียบ
ซูอันรู้สึกหงุดหงิด ทำไมคนพวกนี้ต้องมาตอนเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ด้วย?
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มก็รู้ว่าไม่ใช่เวลาที่จะคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขาสวมชุดทูตยุทธ์เสื้อแพรเช่นกัน และช่วยเฉียวเสวี่ยอิงสวมหน้ากาก หลังจากจัดแจงเครื่องแต่งกายกันเรียบร้อย ภายในห้องกลับกลายเป็นเหมือนมีทูตยุทธ์เสื้อแพรสองคนอยู่จริง ๆ
ซูอันมองนางและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แม้ว่านางจะมีรูปร่างเล็ก แต่ก็ไม่ได้ดูแตกต่างจากทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่นมากนัก
ในโลกนี้มีผู้ชายร่างเล็กเยอะแยะ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่
เมื่อพร้อม เขาและเฉียวเสวี่ยอิงก็เดินออกไป
“พวกเจ้าเป็นใคร!?” ทหารรีบรุมล้อมพวกเขา
ซูอันจับตราคำสั่งโบกมือต่อหน้าพวกเขา
“ทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง!” เหล่าทหารอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะทำความเคารพเขาทันที ทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นกลุ่มคนลึกลับที่มีสถานะสูงส่ง และทูตยุทธ์เสื้อแพรทองเป็นรองเพียงจูเซี่ยฉือซินเท่านั้น
ทูตยุทธ์เสื้อแพรเพียงสิบคนเท่านั้นที่ได้รับเข็มกลัดทอง และตำแหน่งนี้มีทูตยุทธ์เสื้อแพรเงินและทองแดงจำนวนมากอยู่ใต้บังคับบัญชา ทหารราชองครักษ์เหล่านี้ย่อมไม่กล้าที่จะยั่วยุหนึ่งในนั้น
หัวหน้าทหารราชองครักษ์รวบรวมความกล้าเพื่อถามคำถาม “ท่านเห็นนักฆ่าวิ่งผ่านมาบ้างไหม?”
ซูอันตอบเสียงดุดัน “ข้าไม่เห็นนักฆ่าสักคนแถวนี้!”
หัวหน้าทหารราชองครักษ์รู้สึกโล่งใจ “ถ้าท่านว่าอย่างนั้นก็ต้องเป็นอย่างนั้น ข้าน้อยขอตัว!”
เขาโบกมือนำกลุ่มทหารไปทางอื่น
จากนั้นซูอันและเฉียวเสวี่ยอิงต่างก็เดินไปที่ประตูพระราชวัง เฉียวเสวี่ยอิงกระโดดโลดเต้น “ไม่คิดเลยว่าสถานะของเจ้าจะมีประโยชน์ขนาดนี้!”
ซูอันหัวเราะ “คนรักของเจ้ามีความสามารถมากเลยเจ้าไม่รู้เหรอ?”
เฉียวเสวี่ยอิงพ่นลมหายใจ “ฮึ่ม ขี้โม้!” อย่างไรก็ตาม ไม่มีร่องรอยของความรำคาญในเสียงของนาง
ทหารที่จากไปเริ่มพูดคุยกันเอง “ท่านหัวหน้า มีบางอย่างที่ดูไม่ถูกต้องสำหรับสองคนนั้น ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีทูตยุทธ์เสื้อแพรสองคนออกจากห้องเดียวกันมาก่อน”
หัวหน้าทหารราชองครักษ์พ่นลมหายใจ “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังพยายามจะพูดอะไร ข้าอาจจะสงสัยถ้าเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรคนอื่น แต่นั่นเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง! ซึ่งมีระดับการบ่มเพาะที่สูงยิ่ง นักฆ่าจะหลุดพ้นจากหนึ่งในสองคนนั้นได้อย่างไร?”
คนอื่น ๆ หัวเราะคิกคัก “จริงของหัวหน้า”
“แต่ข้าได้ยินมาเสมอว่าทูตยุทธ์เสื้อแพรแต่ละคนมักจะชอบอยู่อย่างสันโดษ รู้สึกแปลกจริง ๆ ที่เห็นพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน”
“เจ้าสังเกตไหมว่าคนข้าง ๆ ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองนั้นดูเตี้ย ๆ?”
“นางเป็นผู้หญิงเหรอ? มีผู้หญิงในหมู่ทูตยุทธ์เสื้อแพรด้วยเหรอ?”
“ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิง แต่ก็ต้องเป็นคนตัวเล็ก ๆ น่าเอ็นดู…เอิ่ม…บางทีพวกบุคคลชั้นสูงหลายคนก็ชอบอะไรแบบนี้ เขาเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง ไม่แน่เขาอาจจะจงใจเลือกลูกน้องแบบนั้น…”
“หัวหน้า ทำไมท่านดูกระสับกระส่ายเมื่อพูดถึงเรื่องนี้? ได้โปรดอย่ามีความคิดแบบนั้นกับพวกเรา!”
“ป๊ะ! พวกเจ้าควรส่องกระจกให้ดีก่อนจะมาพูดกับข้า!”
…
ซูอันได้พาเฉียวเสวี่ยอิงไปที่ประตูวัง แม้ว่าการรักษาความปลอดภัยรอบ ๆ พระราชวังจะเข้มงวด แต่เข็มกลัดสีทองของทูตยุทธ์เสื้อแพรนั้นมีอำนาจล้นเหลือ ทหารองค์รักษ์ไม่ถามคำถามแม้แต่ประโยคเดียวเมื่อเห็นเข็มกลัดสีทองและปล่อยให้พวกเขาผ่านไปอย่างง่ายดาย
“อาซู เราต้องแยกกันแล้ว ข้าต้องพาคนในตระกูลกลับบ้าน” เฉียวเสวี่ยอิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจ ปกตินางอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้นและทำงานให้กับตระกูลซือเพื่อช่วยเหลือเผ่าเอลฟ์พฤกษาของนางที่ตกค้างอยู่จากสงครามครั้งก่อน
ต่อมานางพบว่า แม้ตระกูลซือสัญญาว่าจะช่วยเหลือเผ่าของนาง แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนางก็ยิ่งเข้าใจชัดเจนเรื่อย ๆ ว่าพวกเขาเพียงแค่ใช้ข้ออ้างนี้เป็นเหมือนสายจูงที่คล้องคอของนางเท่านั้น ตระกูลซือไม่ได้ช่วยเหลืออะไรและยังมีส่วนร่วมในการค้าทาสชาวเอลฟ์พฤกษาอีกด้วย
หลังจากที่นางหันหลังให้กับตระกูลซือ นางใช้เส้นสายที่สะสมมาหลายปีและความแข็งแกร่งของกลุ่มเงาสังหารช่วยชีวิตพรรคพวกหลายคนได้สำเร็จ
นางได้ส่งพรรคพวกเผ่าเอลฟ์พฤกษาหลายกลุ่มออกจากเมืองหลวงไปแล้ว นี่เป็นกลุ่มสุดท้าย เมืองมนุษย์ไม่ใช่บ้านของนาง และนางก็มีฐานะพิเศษในเผ่าทำให้มีภารกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
ซูอันรู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง “เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าไม่ต้องการที่จะแยกจากเจ้า แต่ข้ายังมีหลายสิ่งที่ต้องดูแล จึงไม่อาจไปกับเจ้าได้”
เฉียวเสวี่ยอิงพ่นลมหายใจ “เจ้าพูดเหมือนข้าเป็นผู้ร้ายที่หาทางทำให้เจ้าทิ้งคุณหนูฉู่และทุกสิ่งเพื่อกลับไปกับข้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง ข้าจะอยู่กับเผ่าเอลฟ์พฤกษาของข้า”
“ข้าจะไปหาเจ้าอย่างแน่นอน” ซูอันกล่าวอย่างจริงจัง
เฉียวเสวี่ยอิงยิ้ม นางเขย่งปลายเท้าจุมพิตเขาที่แก้ม “อาซู ข้าจะรอเจ้า!”
ซูอันถอนหายใจ การพลัดพรากเป็นเรื่องเจ็บปวดเสมอ
อารมณ์ที่ขัดแย้งกันเกิดขึ้นในตัวเขา เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เข็มกลัดสีทองของทูตยุทธ์เสื้อแพรส่องแสงเรืองรองกะทันหัน “ทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งหมดที่อยู่บริเวณพระราชวังจงหยุดสิ่งที่กำลังทำและไปสนับสนุนวังตะวันออกทันที!”
เมื่อซูอันต้องแยกทางกับเสวี่ยเอ๋อร์ เขายังมีอีกหลายสิ่งที่อยากจะพูดกับนาง อย่างน้อยที่สุด เขาต้องการที่จะยืนส่งเมื่อนางจากไป
น่าเสียดายที่ข้อความที่ส่งมายังเข็มกลัดทองทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
คนที่ส่งข้อความนี้มาคือจูเซี่ยฉือซิน!
นอกจากเป็นเครื่องแสดงฐานะแล้ว เข็มกลัดของทูตยุทธ์เสื้อแพรยังทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์สื่อสารคล้ายกับวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสามารถถ่ายทอดคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาได้อย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าใช้ได้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
นอกจากนี้ หากทูตยุทธ์เสื้อแพรไม่ตอบสนองในทันที เขาจะถูกเอาผิดโทษฐานทำงานหย่อนยาน อักขระบนเข็มกลัดสีทองสามารถบันทึกทุกอย่างได้ เช่น ระยะห่างจากจุดเกิดเหตุฉุกเฉินและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รางวัลและการลงโทษจะถูกพิจารณาอย่างเหมาะสมในหมู่ทูตยุทธ์เสื้อแพรเมื่อจบภารกิจ
จูเซี่ยฉือซินเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่แรกที่เขาได้รับตำแหน่งทูตยุทธ์เสื้อแพร โชคดีที่เข็มกลัดสีทองบันทึกเฉพาะระยะทางและข้อมูลอื่น ๆ ดังกล่าว แต่ไม่สามารถบันทึกวิดีโอเหมือนกล้องรักษาความปลอดภัยจากโลกก่อนหน้านี้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกเปิดโปงพฤติกรรมทั้งหมด
เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจนัก เนื่องจากทูตยุทธ์เสื้อแพรทุกคนรักสันโดษและภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีและความสามารถของตนเอง จะมีใครยอมพกกล้องวงจรปิดที่คอยบันทึกทุกการกระทำติดตัวไปไหนมาไหนด้วย?
การที่เข็มกลัดมีความสามารถในการสื่อสารและบันทึกข้อมูลพื้นฐานสำหรับการแบ่งรางวัลและการลงโทษเป็นการประนีประนอมที่ดีที่สุด
“มีอะไรเหรอ?” เฉียวเสวี่ยอิงถาม นางสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ซูอันอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่ตัวเองกำลังสงสัยเช่นกัน มีเพียงกลุ่มนักฆ่าในวังของจักรพรรดินี เหตุใดจึงมีนักฆ่าในวังตะวันออกของรัชทายาทด้วย?
ทหารราชองค์รักษ์ทุกคนนัดแนะกันอู้งานพร้อม ๆ กันหรือไง?
นอกจากนี้ จักรพรรดิเป็นผู้บ่มเพาะอันดับหนึ่งของโลก มีข่าวลือว่าประสาทสัมผัสของเขาครอบคลุมทั่วทั้งพระราชวัง ทำไมเขาถึงยังวางเฉยทั้งที่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นขนาดนี้?