เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 910 อาจารย์ปรากฏตัว
บทที่ 910 อาจารย์ปรากฏตัว
บทที่ 910 อาจารย์ปรากฏตัว
ซูอันตกตะลึงกับคำอุทานของนักฆ่าคนนี้ ข้าตั้งใจเปลี่ยนรูปแบบทักษะของข้าแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำได้!
มีคนเพียงไม่กี่คนในโลกที่รู้จักทักษะนี้ และผู้ที่รู้ชื่อของมันยิ่งมีจำนวนน้อยลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยได้ยินเสียงของนักฆ่าคนนี้มาก่อน!
ทันใดนั้น เขาจำได้ว่าเฉียวเสวี่ยอิงเคยเปลี่ยนเสียงเพื่อซ่อนตัวตนของนาง ซูอันแสร้งเบี่ยงมือไปทางด้านข้างอย่างแนบเนียนเพื่อให้อีกฝ่ายสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของเขาได้ “ฮัวเล่ย?”
ไม่แปลกเลยที่นักฆ่าคนนี้มีท่าทางการหลบหลีกที่อ่อนช้อยเหลือเกิน! เฮ้อ…ข้าไม่คุ้นเคยกับร่างกายของนางมากพอ ไม่อย่างนั้นข้าคงจำนางได้ตั้งแต่แรก
“อาซู?” นักฆ่าร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ เสียงของนางกลับมาเป็นเสียงที่ซูอันคุ้นเคยอีกครั้ง
ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่พวกเขาต่อสู้กัน ซูอันพูดผ่านกระแสพลังชี่ “ทำไมเจ้าถึงเป็นส่วนหนึ่งของการลอบสังหารครั้งนี้?”
นางดูอ่อนแอกว่าปกติมาก อาจเป็นเพราะนางไม่มีโคมจักรพรรดินี การใช้มันจะเปิดเผยตัวตนของนางได้
“เจ้าเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรได้อย่างไร?” ชิวฮัวเล่ยตอบด้วยคำถาม
“เรื่องมันยาว” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
ซูอันรู้สึกปวดหัวกับสถานการณ์ “ให้ข้าหาทางออกให้เจ้าก่อน”
ชิวฮัวเล่ยส่ายหัว “ไม่ เราทุกคนไม่มีทางหนีพ้น เราต้องฆ่ารัชทายาท”
“สำนักมารของเจ้าขัดแย้งกับองค์รัชทายาทตั้งแต่เมื่อไร?” ซูอันรู้สึกสับสน
“ตอนนี้มันยากที่จะอธิบายทุกอย่าง ข้าไม่สามารถทิ้งเพื่อนของข้าได้”
ชิวฮัวเล่ยสับสน นางเคยเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในภารกิจนี้หรือจบสิ้นทุกสิ่งด้วยความตาย แต่ตอนนี้นางได้พบกับซูอันอีกครั้ง นางยังไม่อยากตาย น่าเสียดายที่นางไม่มีทางหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวได้
ทั้งสองยังคงสนทนากันต่อไปขณะต่อสู้ ภายนอกดูเหมือนการต่อสู้ของพวกเขารุนแรง แต่คนฉลาดสองคนที่ร่วมกันเล่นละครตบตาสามารถทำให้ทุกสถานการณ์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ทหารที่เหลือสับสน ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองคนนี้เพิ่งจัดการผู้บ่มเพาะระดับเจ็ดได้ในฝ่ามือเดียว เหตุใดเขาจึงมีปัญหากับคู่ต่อสู้ใหม่ผู้นี้ซึ่งอยู่ในระดับที่หกเท่านั้น?
ทุกคนในวังตะวันออกสงสัยว่านักฆ่าระดับหกผู้นี้มีทักษะลับอะไรหรือไม่?
นักฆ่าที่เหลือต่างพากันยินดี “บุตรีสวรรค์ของเรา! นางช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”
สีหน้าของชิวฮัวเล่ยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และนางส่งคำเตือนให้ซูอัน “ระวังด้วย! อาจารย์ของข้ามาถึงแล้ว!”
แม้จะไม่มีคำเตือนจากชิวฮัวเล่ย ซูอันก็สัมผัสได้ถึงอันตรายถึงชีวิต ผมทั้งหัวของเขาชี้ตั้ง
เขาเห็นแสงเย็นวาบพุ่งเข้ามาหา ความรู้สึกมันคล้ายกับเห็นเคียวของยมฑูตสับฟันมาที่เขาและห่างจากคอของเขาเพียงข้อนิ้ว
ด้วยความกลัว เขาจึงใช้จ้าววายุหลบทันที จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าลำแสงนั้นเป็นกระบี่เล็กบางที่งดงาม
กระบี่บิน?
เขาเคยตื่นตาเมื่อเห็นหรืออ่านเกี่ยวกับการต่อสู้ของมือกระบี่ในภาพยนตร์หรือนวนิยาย แต่ตอนนี้เขาเกลียดกระบี่บินพวกนี้เพราะพวกมันตั้งใจจะฆ่าเขา!
ชายหนุ่มไม่ได้ถอยหลัง แต่เลือกหลบในทิศตรงข้ามกับวิถีของกระบี่ แต่มันกลับกลายเป็นว่ากระบี่บินสามารถหยุดกลับตัวกลางอากาศและพุ่งใส่เขาต่อได้
บัดซบ! มันเป็นขีปนาวุธนำวิถีหรือไง? นี่มันเกินไปแล้ว!
ซูอันใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันและแยกร่างเป็นสี่เคลื่อนตัวออกไปในสี่ทิศทางที่ต่างกัน
กระบี่บินยังคงไล่ตามตัวจริงของเขาต่อไป โดยไม่สนใจร่างปลอมทั้งสาม
ซูอันแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเห็น
เขาเรียกหงส์หิมะอย่างรวดเร็ว พยายามทำให้กระบี่บินช้าลง
ทันทีที่หงส์หิมะถูกอัญเชิญ รอบด้านกลายเป็นดินแดนน้ำแข็ง กระบี่บินถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งทันที
อย่างไรก็ตาม มันหยุดแค่เพียงอึดใจเดียวก่อนที่จะสลัดชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมและพุ่งตรงมาหาเขาเหมือนเดิม
ซูอันใช้จ้าววายุสามครั้งติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม กระบี่บินนี้เคลื่อนที่ได้เร็วพอ ๆ กับทักษะการเคลื่อนไหวของเขา กระบี่บินเกือบจะเสียบร่างเขาทุกครั้งทันทีที่เขาหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง บังคับให้เขาใช้จ้าววายุอีกครั้ง
ชายหนุ่มรู้ว่าไม่มีทางที่เขาจะสามารถใช้จ้าววายุได้อย่างไม่รู้จบ ตอนนี้ที่ตัวเองสามารถใช้มันได้บ่อยเพียงเพราะเขาดูดซับการบ่มเพาะของแม่ชียุง ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาอย่างมาก
หลังจากหลบไปอีกสองสามครั้ง กระบี่บินก็ยังไล่ตามเขาอย่างไม่ลดละ
สมองของชายหนุ่มแล่นปราด แม้แต่ขีปนาวุธนำวิถีในโลกก่อนก็ยังต้องพึ่งพาอินฟราเรดหรือเรดาร์ กระบี่บินนี้ใช้อะไรชี้เป้าข้า?
เดี๋ยวนะ? ขีปนาวุธนำวิถีต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายเพื่อติดตาม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลความร้อนหรือข้อมูลอื่น ๆ ข้าจะทำให้กระบี่บินนี้สับสนโดยเปลี่ยนข้อมูลของข้าเองได้ไหม?
เมื่อพูดถึงผู้บ่มเพาะ อะไรทำให้แต่ละคนโดดเด่นกว่าคนอื่น? คลื่นพลังของพวกเขาแน่นอน!
เมื่อผู้บ่มเพาะมีระดับการบ่มเพาะถึงระดับหนึ่งแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสายตาก็สามารถบอกได้ว่าคู่ต่อสู้เป็นใครผ่านคลื่นพลังของอีกฝ่ายล้วน ๆ คลื่นพลังของทุกคนแตกต่างกัน แม้จะคล้ายกันเพียงใด ก็ยังมีความแตกต่างอยู่บ้าง แน่นอนว่าเราสามารถเปลี่ยนคลื่นพลังของตัวเองได้ด้วยวิธีการบางอย่าง ตัวอย่างเช่น เข็มกลัดของทูตยุทธ์เสื้อแพรสามารถซ่อนและเปลี่ยนคลื่นพลังของตัวเอง ไม่ให้ใครสามารถบอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้าของได้
ซูอันใช้ทักษะวิชาบังบดเร้นซ่อน ซึ่งชิวฮัวเล่ยเคยสอนเขา คลื่นพลังของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ ทำให้คลื่นพลังของตัวเองไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
“หืม?”
เสียงอุทานประหลาดใจดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ฟังดูเหมือนเป็นเสียงผู้หญิง เนื่องจากชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย ซูอันไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมความไพเราะของน้ำเสียงนี้
แผ่นหลังของเขาชนเข้ากับกำแพง หลังชื้นไปด้วยเหงื่อ กระบี่บินปักตัวเองลึกเข้าไปในกำแพงเช่นกันคมของมันห่างจากคอของเขาแค่เพียงหนึ่งชุ่น
สิ่งก่อสร้างของพระราชวังหลวงทั้งหมดได้รับการเสริมความแข็งแกร่งโดยใช้การจารึกหรืออักขระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังตะวันออกแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญสูงสุดแห่งหนึ่ง อักขระที่จารึกเอาไว้จึงแข็งแกร่งพอที่จะรองรับการโจมตีเต็มกำลังของผู้บ่มเพาะระดับสูงโดยไม่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม กระบี่เล่มนี้สามารถเจาะทะลุกำแพงได้โดยตรงลึกไปจนถึงด้ามจับกระบี่ มันคงจะน่ากลัวมากหากกระบี่เล่มนี้แทงเข้าไปในร่างของเขา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา
ชิวฮัวเล่ยไม่มีเวลาแม้แต่จะอ้อนวอนให้อาจารย์ของนางยั้งมือ
ทุกคนในวังตะวันออกเห็นฉากนี้ เหล่านักฆ่าเริ่มมีกำลังใจ การโจมตีของพวกมันจึงดุร้ายยิ่งขึ้นไปอีก