เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 913 อธิบายอย่างท้อแท้
บทที่ 913 อธิบายอย่างท้อแท้
บทที่ 913 อธิบายอย่างท้อแท้
ชิวฮัวเล่ยรีบวิ่งเข้าหาพวกเขาด้วยความโกรธพร้อมกระบี่ในมือ นางไม่ได้โจมตีซูอัน แต่มุ่งเป้าไปที่องค์หญิงองค์รัชทายาทในอ้อมแขนของซูอันแทน
ซูอันปกป้ององค์หญิงรัชทายาทในขณะที่แอบพูดกับชิวฮัวเล่ยผ่านกระแสพลังชี่ “ฮัวเล่ย เจ้าเป็นอะไรของเจ้า?”
“ข้าไม่ได้เป็นอะไร! ข้าแค่จะจัดการกับนังจิ้งจอกในอ้อมแขนของเจ้า! ไร้ยางอายยิ่งนัก จู่ ๆ ก็ทำเป็นล้มใส่เจ้า! คิดว่าพวกเราทุกคนเป็นคนโง่หรือไง?”
ชิวฮัวเล่ยตอบกลับด้วยความหงุดหงิด ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน นางมองออกว่านี่เป็นเพียงมารยาของหญิงสาวในการยั่วยวนใจผู้ชาย
นางมองดูองค์หญิงรัชทายาทด้วยความรังเกียจ
ซูอันหัวเราะ “นางเป็นองค์หญิงรัชทายาทผู้สูงส่ง นางจะยั่วยวนข้าทำไม? นางแค่หมดแรงจากการต่อสู้มากกว่า”
“ฮึ่ม! นังจิ้งจอกตัวนี้หลอกลวงคนโง่อย่างเจ้าได้ง่ายจริง ๆ ผู้หญิงย่อมเข้าใจผู้หญิงด้วยกัน!” ชิวฮัวเล่ยพูดพร้อมกับสูดหายใจขณะที่โจมตีอย่างดุร้ายยิ่งขึ้น
ซูอันพูดไม่ออก
เขาอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ชายหนุ่มต้องปกป้องไม่ให้ชิวฮัวเล่ยทำร้ายองค์หญิงรัชทายาท แต่เขาก็ไม่อาจทำร้ายชิวฮัวเล่ยได้เช่นกัน ช่างน่าอึดอัดใจจริง ๆ
นักฆ่าคนอื่น ๆ ต่างก็กรูกันเข้ามาปกป้องบุตรีสวรรค์ของตนเอง
ตอนนี้ชิวฮัวเล่ยรู้สึกขัดแย้ง นางกังวลว่าซูอันอาจได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ภายใต้สายตาของสมาชิกร่วมสำนัก นางก็ไม่สามารถปล่อยให้เป้าหมายหลุดรอดไปอย่างเปิดเผยได้ นี่เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบาก
ไม่นานนักองค์หญิงรัชทายาทได้ฟื้นฟูความแข็งแกร่งของนางหลังจากที่ตกอยู่ในภาวะอ่อนแอชั่วขณะ เมื่อนางได้สติและพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง นางก็รู้สึกเขินอายในทันที
นางมาจากตระกูลที่สูงส่ง และไม่เคยถูกชายอื่นประคองกอดแบบนี้มาก่อน ไม่เคยแม้แต่จะจับมือกับผู้ชายคนไหนมาก่อนด้วยซ้ำในชีวิต
แม้หลังจากแต่งกับรัชทายาทแล้ว นางก็ไม่เคยรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้สามี
นอกจากนี้ องค์รัชทายาทเป็นเพียงคนไม่เต็มบาท ดังนั้นนางจึงไม่ยอมให้เขาแตะต้องเนื้อต้องตัว แต่ตอนนี้เนื้อตัวของนางกลับอยู่ในอ้อมแขนของทูตยุทธ์เสื้อแพรคนหนึ่ง?
ในสายตาของนาง ทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นเพียงทหารหน่วยพิเศษในวังเท่านั้น!
การอยู่ในอ้อมแขนชายอื่นในที่สาธารณะสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของนางอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม นางสามารถอ่านสถานการณ์ได้เช่นกัน ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองผู้นี้กำลังถูกรุมโจมตี หากนางพยายามดิ้นรน อาจเกิดช่องโหว่ในการป้องกันของเขาได้
นางอดกลั้นไม่ผลักเขาออกไปและสังเกตการต่อสู้ของชายผู้นี้
แขนที่โอบรอบเอวของนางนั้นแข็งแรงมาก ความร้อนจากแขนนั้นทะลุผ่านเสื้อผ้าบาง ๆ ของนางจนนางรู้สึกได้ มันราวกับมีพลังที่มองไม่เห็นได้แผ่ซ่านไปทั่วตัวนางค่อย ๆ ดึงเอาหัวใจของนางไป
ความรู้สึกถูกปกป้องส่งผลให้กำแพงในหัวใจเริ่มพังทลาย…
ผู้หญิงคนไหนไม่โหยหาความรัก?
นางเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายรักอยู่แล้ว นางเคยยิ้มอย่างโง่เขลาขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและอ่านนิยายเหล่านั้น แต่เมื่อนางต้องมาเป็นองค์หญิงรัชทายาท จินตนาการในวัยเด็กของนางก็ค่อย ๆ เลือนหายไป นางจึงไม่อ่านนิยายเหล่านั้นอีกเลย
นี่เป็นฉากที่นางใฝ่ฝันมาตลอดไม่ใช่หรือ? ผู้ชายของนางจะปกป้องนางแบบนี้แม้ว่าโลกทั้งโลกจะต่อต้าน?
ถ้าเพียงแต่รัชทายาทจะเป็นเช่นนี้ ข้าจะมีความสุขสักเพียงใด…?
นางมองไปที่รัชทายาทโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นใบหน้าที่อวบอ้วนของอีกฝ่ายและดวงตาหรี่เล็กซึ่งแทบจะมองไม่เห็นภายใต้ชั้นไขมัน นางก็ถอนหายใจ
ยิ่งกว่านั้นคือรัชทายาทไม่ได้โกรธที่นางอยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น ตรงกันข้าม เขากลับปรบมือให้กำลังใจทูตยุทธ์เสื้อแพร!
แม้ว่าเขาจะยกย่องความแข็งแกร่งของทูตยุทธ์เสื้อแพร แต่รัชทายาททำอย่างนี้นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
นางไม่ได้คาดหวังให้สามีของนางเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ แต่อย่างน้อยก็ควรมีความคิดอ่านเป็นเหมือนคนปกติธรรมดา
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ทูตยุทธ์เสื้อแพรที่กอดนางอยู่นี้ ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งกว่าราวฟ้ากับเหว
แต่แล้วนางสังเกตเห็นสายตาของนักฆ่าคนหนึ่งจ้องมาที่นางอย่างดูแคลน องค์หญิงรัชทายาทหน้าแดง ช่างน่าอายจริง ๆ! แม้คนที่มองนางจะเป็นนักฆ่านางก็ยังละอาย นางจะเผชิญหน้ากับคนอื่นในวังอีกครั้งได้อย่างไร?
นางรีบดิ้นออกจากอ้อมกอดของซูอันและรีบวิ่งไปที่ด้านข้างของรัชทายาท หัวใจของนางเต้นแรง
“หลิงหลง ทำไมหน้าเจ้าแดงขนาดนี้?” รัชทายาทถามด้วยความสงสัย “เจ้าไม่สบายหรือเปล่า? หลังจากนี้ให้ข้าพาไปหาหมอหลวงไหม?”
“หุบปาก!” องค์หญิงรัชทายาทตวาดด้วยความหงุดหงิด
“อื้อ…” ความกลัวต่อภรรยาทำให้รัชทายาทไม่กล้าพูดอะไรอีก
การโจมตีของชิวฮัวเล่ยรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าถึงพยายามหยุดข้าอย่างสุดความสามารถ มันเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้นี่เอง! เจ้าเห่อคนรักใหม่โดยไม่สนใจน้ำตาของคนรักเก่าที่เจ้าไม่ดูดำดูดี!” นางพูดตัดพ้อผ่านกระแสพลังชี่
แค่นึกถึงภาพองค์หญิงรัชทายาทที่อยู่แนบอกของซูอันก็เพียงพอแล้วที่ชิวฮัวเล่ยจะเสียสติ
—
ท่านยั่วยุชิวฮัวเล่ยสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +233… 233… 233…
—
หัวของซูอันกำลังจะระเบิด “ข้าผิดตรงไหน!! เจ้าก็เห็นอยู่ว่าเมื่อครู่ข้ากำลังจะปลีกตัวออกไปแล้ว ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่า จู่ ๆ องค์หญิงรัชทายาทจะวิ่งมาหาข้าเองแบบนั้น?”
ว่าแต่เจ้าเคยเป็นคนรักเก่าที่ข้าไม่ใส่ใจตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ชิวฮัวเล่ยหน้าบึ้ง “แล้วทำไมเจ้าต้องปกป้องนางขนาดนั้นด้วยเล่า!?”
ซูอันรู้สึกท้อแท้ “ก็ข้าเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพร! ถ้าข้าไม่ช่วยนาง หลังจากนี้ข้าคงโดนโทษประหาร…”
ชิวฮัวเล่ยรู้ว่าซูอันกำลังพูดความจริง แต่เรื่องนี้ช่วยปลอบนางได้เพียงเล็กน้อย “เจ้าอย่ามาแก้ตัว! ความจริงก็คือเจ้าเห็นว่านังจิ้งจอกนั่นสวย ถ้านางหน้าตาเหมือนรัชทายาท เจ้าจะปกป้องนางไหม?”
ซูอันอ้าปาก แต่ไม่มีคำพูดใดออกมา
เขาไม่มีอะไรจะพูดจริง ๆ ถ้าองค์หญิงรัชทายาทดูเหมือนหมู ก็จริงอยู่ว่าเขาอาจจะไม่เต็มใจเข้าไปช่วยเหลือนาง
ชิวฮัวเล่ยเยาะ “ฮึ นิสัยผู้ชาย!”
ซูอันกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซือเหมี่ยวกรีดร้องอย่างน่าเวทนาขึ้นก่อน ร่างของเสนาบดีสงครามพุ่งชนตำหนักใกล้ ๆ ก่อนจะกระอักเลือดออกมาคำโต เจ้าสำนักมารเบนสายกลับมาที่องค์รัชทายาททันที ก่อนจะพุ่งเข้าหา หมายจะสังหารให้เสร็จสิ้นภารกิจ
สีหน้าของซูอันเปลี่ยนไป การโจมตีของอาจารย์ของชิวฮัวเล่ยน่ากลัวอย่างยิ่ง เขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถรับมืออีกฝ่ายได้หรือไม่ หากเขาต้องปกป้องรัชทายาทและองค์หญิงรัชาทายาทไปด้วย แค่เอาตัวให้รอดก็เป็นเรื่องยากแล้ว
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังลังเล สงสัยว่าถึงเวลาที่ตัวเองจะต้องถอนตัวหรือยัง ทันใดนั้น เข็มกลัดของเขาสั่นรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในสมองของเขา
ซูอันยืดอกก่อนจะขยับกายไปกำบังองค์หญิงรัชทายาทเอาไว้และตะโกนเสียงดังลั่น “องค์หญิงรัชทายาทรีบดึงองค์รัชทายาทมายืนอยู่หลังกระหม่อมเอาไว้ด้วย กระหม่อมจะปกป้องพวกพระองค์เอง!”
เจ้าสำนักมารพุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวกำลังทำให้เขาหายใจลำบาก
แต่ทันใดนั้น เสียงอันเย็นชาดังก้องกังวานขึ้น “วายร้ายตัวไหนที่กล้าสร้างปัญหาในวังหลวง?!”