เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 923 อ้อมกอดแห่งความตาย
บทที่ 923 อ้อมกอดแห่งความตาย
บทที่ 923 อ้อมกอดแห่งความตาย
สีหน้างุนงงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางทันที
ขณะที่นางยังคงตกใจ ซูอันโอบนางไว้ในอ้อมแขนและโคจรใช้วิชาเทพยุทธ์กลืนสวรรค์ พยายามดูดซับการบ่มเพาะของนางอย่างบ้าคลั่ง
นี่คือวิธีที่เขาฆ่าแม่ชียุง! เขาเรียกมันว่า ‘อ้อมกอดแห่งความตาย’!
ทั้งสองคนกอดรัดกันอย่างแน่นหนา ทำให้หญิงสาวทั้งตกใจและโกรธจัด นางยกมือขึ้นและรัศมีแสงอันตรายปรากฏขึ้น
ทว่าอึดใจต่อมามันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
อีกครั้งที่หญิงสาวต้องงุนงง
อย่างไรก็ตาม นางใช้เวลาเพียงชั่วครู่ในการตระหนักว่าคู่ต่อสู้ของนางใช้ทักษะแปลก ๆ เพื่อดูดกลืนการบ่มเพาะและพลังชี่ของนาง
แน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับความตกใจ นางตั้งสมาธิอย่างรวดเร็ว โคจรพลังชี่ของตัวเองมากกว่าเดิมเพื่อตอบโต้การดูดซับพลังอันทรงพลังของซูอัน
ในตอนแรกทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับซูอัน แต่เขาก็ต้องขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว เขาไม่สามารถดูดพลังชี่ของนางได้อีกต่อไป!
รากฐานพลังชี่ของอีกฝ่ายมั่นคงอย่างเหลือเชื่อ เหมือนภูเขาหินขนาดมหึมาที่ไม่มีวันสั่นคลอน เขาสามารถดูดตะกอนที่หลุดออกมาบางส่วนได้ แต่นั่นไม่ส่งผลแม้แต่น้อยต่อความแข็งแกร่งของภูเขา
แน่นอนว่าถ้าชายหนุ่มดูดซับต่อไปอีกสักสองสามทศวรรษ เขาอาจจะสูบพลังของอีกฝ่ายได้ทั้งหมด แต่สถานการณ์นั้นเป็นไปไม่ได้เลยในความเป็นจริง
ทางด้านหญิงสาวก็สั่นสะท้านไม่แพ้กัน นางเก่งกาจเหนือผู้บ่มเพาะอื่นมาอย่างยาวนาน นางกำลังจะพ่ายแพ้แก่ทูตยุทธ์เสื้อแพรนิรนามคนหนึ่งจริง ๆ หรือไง?!
ด้วยร่างกายของนางที่ถูกกอดรัดไว้อย่างแน่นหนา และแรงดูดซับอันทรงพลังที่เขมือบพลังชี่ของนางออกไปเรื่อย ๆ นางไม่สามารถรวบรวมกำลังใด ๆ เพื่อตอบโต้ ทำได้เพียงปกป้องรากฐานการบ่มเพาะของตนเองไม่ให้ถูกสูบออกไปเท่านั้น
โชคดีที่การบ่มเพาะของนางนั้นสูงกว่าอีกฝ่ายมาก ดังนั้นการบ่มเพาะของนางจึงยังคงอยู่และนางก็รักษารากฐานของตัวเองไว้ได้ ไม่อย่างนั้นนางอาจจะถูกดูดจนแห้งไปแล้ว
โลกนี้มีทักษะที่น่ากลัวขนาดนี้ได้อย่างไร?
เอ๊ะ หรือคนผู้นี้คือแม่ชียุง? ไม่ใช่สิ…แม่ชียุงเป็นผู้หญิง หรือว่านี่คือลูกบุญธรรมของนาง? หรืออาจจะเป็นคนอื่นจากเผ่าพันธุ์อสูรโลหิต?
ทำไมจักรพรรดิถึงแต่งตั้งคนจากเผ่าพันธุ์อสูรโลหิตเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพร …?
ในไม่ช้าจิตใจของนางยิ่งฟุ้งซ่านด้วยความคิดที่รบกวนจิตใจเหล่านี้
กระแสโลหิตและพลังชี่ของนางปั่นป่วนอย่างฉับพลัน อาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ปะทุขึ้น นางกระอักเลือดสด ๆ ออกมาเคลือบพื้นผิวด้านในของหน้ากาก
ซูอันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รู้สึกว่าการป้องกันที่แข็งแกร่งของคู่ต่อสู้พังทลายลง เขาใช้โอกาสนี้โหมโจมตีทันที
แววแน่วแน่ผุดขึ้นในดวงตาของหญิงสาวเมื่อสัมผัสได้ถึงรากฐานการบ่มเพาะที่ดูดออกไปจากตัวนาง ถ้าเป็นอย่างนี้ นางก็แค่พาผู้ชายคนนี้ลงนรกไปด้วยกัน!
ซูอันรู้สึกว่าชัยชนะอยู่แค่เอื้อม อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สมองเขาผ่อนคลายลง เขาก็สังเกตเห็นว่าเส้นผมของผู้หญิงในอ้อมแขนของเขานั้นยาวกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเห็นมายกเว้นคนหนึ่ง ๆ ที่เขาเพิ่งเจอไม่นานมานี้…
คลับคล้ายคลับคลา…
เขาอยากจะส่ายหน้าปฏิเสธ
สวนหินมืดสลัวและคับแคบ เขาไม่ได้มองนางให้ดีนักและตั้งแต่ถูกลากเข้ามาเขาก็เกือบตายไปหลายรอบไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่สิ่งอื่นใดนอกจากการเอาตัวรอด
ซูอันหยุดสูบรากฐานการบ่มเพาะของนางทันที “เจ้าคืออวิ้นเจียนเยว่?” เขาถาม
ใบหน้าของหญิงสาวแข็งค้างเมื่อได้ยินซูอันเอ่ยชื่อของนาง แต่แน่นอนตอนนี้นางพร้อมจะตายไปกับชายผู้นี้แล้วนางไม่มีวันยอมโดนจับแน่นอน
ซูอันสัมผัสได้ถึงกระแสพลังชี่ภายในร่างกายของอีกฝ่ายที่หมุนเวียนอย่างบ้าคลั่งราวกับว่ามันสามารถระเบิดออกได้ทุกเมื่อ เขาตกใจและพูดทันทีว่า “ข้าเป็นเพื่อนของชิวฮัวเล่ย!”
“ฮัวเล่ย?” หญิงสาวตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าบุคคลนี้จะรู้จักลูกศิษย์ของนาง
ซูอันรู้สึกโล่งใจเมื่อเขาสัมผัสได้ว่ากระแสพลังชี่ในกายนางสงบลงบ้าง “ใช่ ข้าเพิ่งช่วยชีวิตและพานางออกจากวัง นางขอให้ข้ามาช่วยชีวิตเจ้า”
“ฮัวเล่ยมาเป็นเพื่อนกับทูตยุทธ์เสื้อแพรตั้งแต่เมื่อไร?” ทันใดนั้นความคิดก็เกิดขึ้นกับอวิ้นเจียนเยว่ “เจ้าคือทูตยุทธ์เสื้อแพรที่รอดชีวิตจากกระบี่ของข้า?”
ด้วยสถานะและระดับการบ่มเพาะของนาง นางจึงไม่สนใจว่าเขาจะเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง เงิน หรือทองแดง ทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งหมดล้วนเหมือน ๆ กันซึ่งไม่น่าจดจำ
ซูอันหัวเราะ “ความจำของท่านเยี่ยมมากผู้อาวุโส”
อวิ้นเจียนเยว่ตอนนี้มั่นใจเก้าในสิบส่วน “ฮึ่ม! ถ้าข้าฆ่าเจ้าตั้งแต่ตอนนั้น ข้าคงไม่อยู่ในสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้!”
นางรู้สึกท้อแท้ ก่อนหน้านี้นางสามารถฆ่าเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้นางตกเป็นรองอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด
ซูอันรู้สึกประหลาดใจ “ตอนนั้นเจ้าแสดงความเมตตาแล้วเหรอ?”
อวิ้นเจียนเยว่หัวเราะ “ถ้าข้าไม่ได้สังเกตว่าเจ้าใช้วิชาบังบดเร้นซ่อน เจ้าคิดว่าเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ไหมล่ะ?”
วิชาบังบดเร้นซ่อนเป็นหนึ่งในทักษะลับของนาง และนางได้ส่งต่อมันให้กับลูกศิษย์ของนาง ‘ชิวฮัวเล่ย’ นั่นคือเหตุผลที่นางตกใจเมื่อเห็นเขาใช้มัน
“โชคของข้าดีจริง ๆ” ซูอันคิดย้อนไปถึงตอนนั้น
อวิ้นเจียนเยว่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วเสียงของทหารราชองค์รักษ์ซึ่งกำลังลาดตระเวนอยู่ดังขึ้น “ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”
ใบหน้าของอวิ้นเจียนเยว่แข็งค้าง สภาพร่างกายปัจจุบันของนาง นางเทียบได้กับผู้บ่มเพาะระดับต่ำเท่านั้น หากทหารเหล่านี้ตามล่านาง มันคงเป็นเรื่องยากที่จะหลบหนี และนางจะต้องตายอย่างแน่นอน!
นางไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน แต่ในตอนนี้นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาผู้ชายตรงหน้า
อวิ้นเจียนเยว่ตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของทหาร
ความรู้สึกกลัวนี้เป็นเรื่องแปลกสำหรับนางเป็นสิ่งที่นางไม่เคยรู้สึกตั้งแต่การบ่มเพาะของนางพัฒนาขึ้นจนแข็งแกร่งเหนือผู้อื่น
ทันใดนั้นแมวสองตัวก็กระโดดออกมาส่งเสียงขู่ทหาร
โดยเฉพาะแมวตัวเมียนั้นดุร้ายเป็นพิเศษ
พวกทหารหัวเราะเสียงดังอย่างโล่งอก “โธ่ ก็แค่แมวตัวเมียที่ร้อนรน เรามาขัดจังหวะเวลาอยู่กับคู่ของมัน!”
“ฮ่า ๆ เจ้าทำให้มันโกรธแบบนี้ระวังเถอะ คืนนี้มันตามไปเล่นงานเจ้าแน่!”
“เฮอะ ถ้ามันเป็นแมวสาวสวย ๆ ข้าก็ยินดี”
…
เหล่าทหารเดินจากไปด้วยความแน่ใจว่าเสียงที่ตัวเองได้ยินก่อนหน้านี้เป็นเสียงแมวสองตัวนั้น
สีหน้าของอวิ้นเจียนเยว่ซีดเผือด เพราะตอนนี้นางอยู่ในอ้อมกอดของชายคนหนึ่ง
“เจ้าสั่งให้พวกแมวทำแบบนั้นเหรอ?” นางถามด้วยความสงสัยขณะที่พวกเขาพากันออกจากสวน
“ใช่” ซูอันเหลือบมองไปที่รอยสักตราหยกบริเวณหลังมือของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่อาวุธร้ายแรง แต่ก็มีประโยชน์ในตัวเองจริง ๆ
“ทำไมเจ้าถึงเลือกแมวตัวเมียและตัวผู้” อวิ้นเจียนเยว่ถามพลางขมวดคิ้ว
“เอ่อ…เจ้าสองตัวนี้บังเอิญอยู่ใกล้ ๆ ทหารอาจไม่เชื่อว่าแมวตัวเดียวจะทำเสียงดังได้” ซูอันขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้แปลกมาก…ทำไมนางไม่ถามว่าข้าควบคุมแมวได้อย่างไร?
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องหาเหตุผลมาแก้ตัว
แต่ทันใดนั้นร่างกายของซูอันแข็งค้าง ก่อนหน้านี้จิตใจของเขาตึงเครียดมาก แต่ตอนนี้เมื่อพ้นอันตรายแล้ว เขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างกดทับที่หน้าอก
ตามที่คาดไว้…ร่างกายของผู้หญิงคนนี้นุ่มนิ่ม เหมือนกับลูกพีชเชื่อม…!