เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 925 มาโดยบังเอิญ?
บทที่ 925 มาโดยบังเอิญ?
บทที่ 925 มาโดยบังเอิญ?
“ในอนาคตท่านคงไม่เก็บเป็นความแค้นที่ต้องสะสางแล้วมาตามฆ่าข้าทีหลังเพียงเพราะข้าจับมือท่านใช่ไหม?”
ซูอันยังฝังใจกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เพียงแค่สัมผัสองค์หญิงรัชทายาทก็ทำให้ชีวิตเกิดปัญหามากมาย เขาไม่ต้องการที่จะใช้ความพยายามทั้งหมดในการช่วยชีวิตใครสักคนเพียงเพื่อจะถูกเนรคุณในภายหลัง
“ข้าจะฆ่าเจ้าทำไม?” อวิ้นเจียนเยว่มองเขาอย่างประหลาด “เพียงเพราะเจ้าสัมผัสมือของข้า?”
ตอนนี้ถึงตาของซูอันที่ต้องตกใจ “หรือว่าท่านถูกผู้ชายจับมือบ่อย ๆ?”
นางเคยชินกับเรื่องแบบนี้เหรอ?
“ตอนนี้ข้าเริ่มรู้สึกอยากจะฆ่าเจ้าแล้ว!” อวิ้นเจียนเยว่ตอบด้วยความโกรธเกรี้ยว
น่าแปลกที่ซูอันพอใจกับคำตอบของนาง แสดงว่ายังไม่มีใครแตะต้องท่าน…ดีมาก ดีมาก…!
อวิ้นเจียนเยว่ขมวดคิ้ว “อย่าเสียเวลาพูดจาไร้สาระกันแบบนี้ ข้าไม่อยากเจอเข้ากับทหารระหว่างทางในขณะที่เราอ้อยอิ่ง!”
ตามปกติแล้ว จิตสัมผัสของนางมีระยะครอบคลุมหลายสิบลี้ ไม่มีสิ่งใดภายในพื้นที่สามารถหลบหนีการตรวจจับของนางได้ น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บของนางทำให้ความสามารถนี้ลดลง
ตอนนี้นางรู้สึกคล้ายกับตัวเองเป็นคนหูหนวก ซึ่งทำให้นางรู้สึกจิตใจไม่สงบอย่างมาก
ซูอันหัวเราะ “ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีใครอยู่แถวนี้หรอก”
อวิ้นเจียนเยว่สับสน นางไม่รู้ว่าความมั่นใจนี้ของซูอันมาจากไหน หรือว่าชายคนนี้มีทักษะลับบางอย่างที่สามารถขยายจิตสัมผัสออกไปได้ด้วยหรือ?
จากนั้นยิ่งเมื่อพวกเขาเดินลัดเลาะไปในวังเรื่อย ๆ อวิ้นเจียนเยว่ก็ยิ่งรู้สึกตกตะลึง หลายครั้งที่ซูอันดึงนางไปด้านข้าง ความคิดแวบแรกคือเขาต้องการหาเศษหาเลยจากนาง แต่นางก็สังเกตเห็นกลุ่มทหารเดินผ่านไปในอึดใจต่อมา เมื่อเห็นเช่นนี้นางจึงต้องโยนความคิดไม่ดีเกี่ยวกับเขาทิ้งไปและแอบรู้สึกผิดไม่น้อย
พวกเขาสามารถหลบเลี่ยงทหารได้หลายครั้ง ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าทหารจะผ่านมา
ในที่สุดอวิ้นเจียนเยว่ก็ไม่สามารถต้านทานความอยากรู้ของนางได้ “เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร?”
ซูอันยิ้ม “ความลับ”
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถขยายจิตสัมผัสได้ แต่เขามีวิธีอื่นที่ได้ผลเช่นเดียวกัน
เขามีตราหยกที่ได้จากมิติลับซากเมืองอินซวี ซึ่งทำให้เขาสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อยู่รายรอบได้ พระราชวังเต็มไปด้วยแมกไม้เขียวขจี มีไม้พุ่ม ต้นหญ้า ซึ่งเป็นที่ซุ่มซ่อนอย่างดีของแมว หนู นก และแมลงมากมาย เหล่าทหารจะไม่มีวันมองว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นภัยคุกคาม และไม่มีทางที่ใครจะรู้ได้ว่าสัตว์พวกนี้กลายเป็นหูและตาของซูอัน
ด้วยการใช้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้ ซูอันสามารถรู้ที่อยู่ของทหารล่วงหน้าได้ นี่คือเหตุผลที่เขาสามารถพานางไปที่เรือนพักของเขาได้อย่างใจเย็น
คำตอบของซูอันหยุดอวิ้นเจียนเยว่จากการหาคำตอบเรื่องนี้ต่อไป สำหรับผู้บ่มเพาะทักษะส่วนตัวของพวกเขาคือไพ่ตาย มันไม่ฉลาดเลยที่จะเปิดเผยต่อบุคคลอื่น
นางคิดจะถามลูกศิษย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในอนาคต เพื่อดูว่าชิวฮัวเล่ยรู้อะไรบ้าง?
ซูอันใช้ตราคำสั่งปลดกลอนของเรือนพัก จากนั้นจึงพาอวิ้นเจียนเยว่เข้าไปข้างใน “นี่คือที่อยู่อาศัยของข้าในฐานะทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง คงไม่มีใครมาที่นี่ ดังนั้นท่านสามารถใช้พักฟื้นได้”
เขาจงใจยืดอกเมื่อพูดถึงตำแหน่งทูตยุทธ์เสื้อแพร เขาต้องการอวดฐานะเพื่อสร้างความประทับใจให้นาง
“ขอบคุณ” อวิ้นเจียนเยว่มองไปรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะจะกบดานรักษาตัว
เมื่อเห็นว่านางไม่สนใจจะชื่นชมตำแหน่งของเขา ซูอันจึงพูดเปลี่ยนเรื่องทันที “ว่าแต่ ท่านมาอยู่ในสวนหินได้อย่างไร? ที่นั่นค่อนข้างใกล้กับห้องหนังสือส่วนพระองค์ ท่านไม่กลัวใครมาเจอเหรอ?”
อวิ้นเจียนเยว่ผ่อนคลายตัวเองบนเก้าอี้ แม้ว่านางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่าทางของนางยังดูสง่างาม
ริมฝีปากของนางเผยอ เสียงของนางเย็นชา “สถานที่ที่อันตรายที่สุดมักจะปลอดภัยที่สุด เป็นเพราะว่ามันอยู่ใกล้สถานที่สำคัญ พวกทหารจะมองข้ามพื้นที่นั้นโดยไม่รู้ตัว จึงเป็นเหตุผลที่ข้าสามารถใช้วิชาบังบดเร้นซ่อนเพื่อซ่อนคลื่นพลังของข้าและหลบหนีการตรวจจับได้ แต่แน่นอนว่า…”
นางหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “…ถ้าจักรพรรดิอยู่ในวังจริง ๆ ข้าคงไม่กล้าเสี่ยงขนาดนี้”
ดวงตาของซูอันเป็นประกาย เขานึกถึงงานที่จักรพรรดิมอบให้เขาได้และถามอย่างรวดเร็วว่า “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าจักรพรรดิไม่อยู่ในวัง?”
อวิ้นเจียนเยว่มองเขาอย่างเฉยเมย ไม่ตอบอะไร
ซูอันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้คำตอบ “แล้วถ้าข้าให้ข้อมูลตอบแทนท่านล่ะ? ท่านไม่สงสัยหรือว่าข้าหลีกเลี่ยงการตรวจจับของพวกทหารได้อย่างไร?”
อวิ้นเจียนเยว่เย้ย “ไม่มีทาง ข้อมูลสองเรื่องนี้มีมูลค่าไม่เท่ากัน นอกจากนี้ต่อให้เจ้ามีข้อมูลที่คุ้มค่ามากกว่าข้าก็ไม่มีทางเผยเรื่องของข้าให้เจ้ารู้อยู่ดี”
ซูอันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับท่าทีที่แน่วแน่ของนาง ข้าเดาว่าข้าต้องลองทางอื่น
“เจ้าพบกับฮัวเล่ยได้อย่างไร?” จู่ ๆ อวิ้นเจียนเยว่เอ่ยถามขึ้นพลางจ้องมองซูอันที่อยู่ตรงข้ามนางด้วยความสงสัย
นางรู้จักลูกศิษย์คนนี้ของนางดีที่สุด แม้ว่าชิวฮัวเล่ยจะชอบยิ้มแย้มให้กับทุกคน แต่จริง ๆ แล้วเป็นผู้หญิงที่ถือตัวมาก ชิวฮัวเล่ยไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้และทำกับพวกเขาเหมือนเป็นของเล่นเท่านั้น
ทว่าศิษย์อันล้ำค่าของนางได้ผูกมิตรกับบุคคลนี้ และยังสอนทักษะ ‘วิชาบังบดเร้นซ่อน’ ให้กับเขาอีกด้วย และในทางกลับกัน ชายผู้นี้ก็เต็มใจที่จะเสี่ยงกับโทษประหารเก้าชั่วโคตรเพื่อช่วยนางตามคำขอของชิวฮัวเล่ย
“เราพบกันที่เมืองจันทร์กระจ่าง”
อวิ้นเจียนเยว่เลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบของเขา “เจ้าคือซูอัน?”
ซูอันประหลาดใจและถอดหน้ากากออก “ไม่คิดเลยว่าท่านจะรู้เรื่องของข้า”
“ฮึ่ม! มันคงแปลกถ้าข้าไม่รู้เรื่องของเจ้า!” อวิ้นเจียนเยว่เคยได้รับรายงานที่ว่าชิวฮัวเล่ยกำลังจะแต่งเข้าตระกูลฉู่ในฐานะอนุภรรยา! ย้อนกลับไปในตอนนั้น นางคิดว่าลูกศิษย์ของตนเองกำลังพยายามวางแผนทำลายตระกูลฉู่ซะมากกว่า
แต่แล้วจากรายงานถัดมาของเหล่าแปดเดียวดาย ในระหว่างที่ซูอันถูกพาตัวมายังเมืองหลวง ชิวฮัวเล่ยได้แสดงน้ำใจต่อซูอันหลายครั้ง
เมื่อรวมกับการช่วยเหลือครั้งนี้ คงจะแปลกถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา
ซูอันกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อเขาได้ยินเสียงของจูเซี่ยฉือซิน “สิบเอ็ด เจ้าอยู่ในนั้นหรือเปล่า?”
เสียงของจูเซี่ยฉือซินทำให้ซูอันสะดุ้งโหยง สีหน้าของอวิ้นเจียนเยว่ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
นางที่กำลังบาดเจ็บต้องจบลงด้วยความตายอย่างแน่นอนหากจูเซี่ยฉือซินจับนางได้
เขาพบข้าได้อย่างไร? ซูอันแจ้งเขาหรือไม่? ทูตยุทธ์เสื้อแพรอาจมีวิธีการสื่อสารเฉพาะตัว…
นางรีบดับความสงสัยนี้ ถ้าซูอันต้องการให้นางตายจริง ๆ เขาสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนที่เขาดูดการบ่มเพาะของนางแล้ว ทำไมต้องลากยาวมาจนถึงตอนนี้?
สมองของซูอันเต็มไปด้วยความคิด เขาคิดว่าจะแสร้งทำเป็นไม่อยู่และไม่สนใจจูเซี่ยฉือซินด้วยความหวังว่าอีกฝ่ายจะกลับไปเอง
อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักดีว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล จังหวะเวลาของจูเซี่ยฉือซินสมบูรณ์แบบเกินกว่าที่การมาเยือนครั้งนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญ อีกฝ่ายคงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่แต่แรกแล้ว
เป็นไปได้ไหมที่จูเซี่ยฉือซินเห็นข้าพาอวิ้นเจียนเยว่กลับมาด้วย?
ความสงสัยนี้ทำให้เขาตื่นตระหนก
ซูอันวิเคราะห์ความเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่ ข้าไม่คิดอย่างนั้น ข้าระมัดระวังตลอดเวลาและให้สัตว์ตัวเล็ก ๆ เหล่านั้นคอยดูทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี จูเซี่ยฉือซินจะต้องเป็นเทพเจ้าถึงจะจับข้าได้
เขามองลงไปที่เข็มกลัดคำสั่งของเขา เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเล็กน้อย นี่คือสิ่งที่ทำให้จูเซี่ยฉือซินตามเขามา?
“สิบเอ็ด?” เสียงของจูเซี่ยฉือซินบ่งบอกถึงความไม่อดทน
“กำลังไป กำลังไป” ซูอันตอบทันที
จากนั้นซูอันพูดผ่านกระแสพลังชี่ไปยังอวิ้นเจียนเยว่ “ซ่อนตัวให้ดีข้าจะไปรับหน้าเขาก่อน”
อวิ้นเจียนเยว่พยักหน้า นางไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงตอบ
ซูอันรีบออกไปต้อนรับจูเซี่ยฉือซินที่กำลังยืนอยู่ข้างนอกในลานบ้าน
ไม่เห็นมีทหารอยู่กับเขาเลย… เขาคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อจับข้า…