เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1001
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1001
“ผู้อาวุโสโม่! ท่านไม่สามารถ…..”
ตาเฒ่าซูใกล้คลั่งแล้ว ท่าทางทำอะไรไม่ถูกของเขา เห็นได้ชัดว่าตกใจมาก
ยากที่จะได้เห็นเฮ่อจงมีความคิดเดียวกับตาเฒ่าซู เขาก็พูดเสียงดังว่า “ผู้อาวุโสโม่ จะให้ป้ายจัดการดูแลกับคนอื่นตามใจชอบได้ยังไงครับ!”
ผู้อาวุโสโม่ปรายตามองทั้งสองคน พูดเสียงเย็นชาว่า “อย่าบอกนะว่าพวกนายไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด”
จู่ๆ ตาเฒ่าซูกับเฮ่อจงไม่กล้าพูดอะไรมาก ทั้งสองค่อยๆ ใจเย็นลง
พวกเขาเข้าใจอยู่แล้วว่าอสูรวิเศษบนตัวลู่ฝานหมายถึงอะไร และรู้ว่าถ้าเทียบกับอนาคตของโลกผู้ฝึกชี่ ป้ายดูแลจัดการอันเล็กๆ ของเจดีย์ยา ไม่นับประสาอะไรเลย
แต่พวกเขาแย้งการกระทำนี้ตามสัญชาตญาณ
เพราะพวกเขาดิ้นรนในเจดีย์ยามาครึ่งชีวิต กว่าจะได้ป้ายจัดการดูแลอันนี้มา ได้รับตำแหน่งผู้ดูแลเจดีย์ยาที่ใครๆ ต่างให้ความเคารพเลื่อมใส
นี่คือความภูมิใจของพวกเขา คือทุกสิ่งของพวกเขา
แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านี้เหมือนสมุนไพรต้นหนึ่ง เหมือนยาเม็ดหนึ่งในมือผู้อาวุโสโม่ เอาไปแลกเปลี่ยนตามใจชอบ
ทั้งสองคนรู้สึกว่าความพยายามกว่าครึ่งชีวิตของตัวเองโดนดูถูก
ลู่ฝานก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ป้ายจัดการดูแลงั้นเหรอ
เขาเคยได้ยินสิ่งนี้
นับดูแล้วเขาก็อยู่ที่เจดีย์ยามาระยะหนึ่งแล้ว
แน่นอนว่าต้องรู้ว่าจัดการดูแลเจดีย์ยา แสดงถึงฐานะอย่างไร ลู่ฝานไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะกลายเป็นคนจัดการดูแลของเจดีย์ยา
ฐานะแบบนี้เมื่อคิดดูแล้ว ต้องสูงกว่าผู้ตรวจการชั้นกลางมาก
และตอนนี้ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหน้า จะเอามันมาแลกกับเจ้าดำสองสามวัน
ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหรือเปล่า
เจ้าดำใบหน้าสับสน ไม่รู้เลยว่าตัวเองกลายเป็นหัวใจสำคัญ ของผลประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนไปแล้ว
ผู้อาวุโสโม่หันมา มองลู่ฝานอย่างราบเรียบแล้วพูดว่า “ว่ายังไง มีป้ายจัดการดูแลอยู่ในมือ ทั้งเมืองหลวง ถึงเป็นราชวงศ์ก็ยังต้องไว้หน้านาย แค่นายไม่ทำเรื่องที่ร้ายแรงใหญ่โต ก็ไม่มีใครแตะต้องนายได้ นี่เป็นการยอมอ่อนข้อครั้งใหญ่ ที่ฉันสามารถทำได้ในนามของเจดีย์ยา”
ลู่ฝานได้ยินคำว่าราชวงศ์ก็กัดฟันพูดว่า “ได้ แต่ผมต้องเตือนพวกคุณก่อน เจ้าดำไม่ได้เก่งอย่างที่พวกคุณจินตนาการไว้!”
ผู้อาวุโสโม่ยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “เรื่องนี้เราตัดสินเองได้ นายแค่เอาอสูรวิเศษของนายให้เรายืมสองสามวันก็พอแล้ว ฉันรับรองกับนายได้เลยว่าจะปฏิบัติกับมันอย่างดี”
ลู่ฝานพยักหน้า อีกฝ่ายพูดถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธอีกแล้ว
เอาเจ้าดำลงมาจากไหล่แล้ววางลง ลู่ฝานพูดกับเจ้าดำว่า “เจ้าดำ แกอยู่กับพวกเขาสองสามวันได้ไหม”
เจ้าดำมองผู้อาวุโสโม่ แล้วมองลู่ฝานอีกครั้ง ใช้สองข้างหน้าทำท่าทำทางอยู่ครู่หนึ่ง
ผู้อาวุโสโม่ถามว่า “มันพูดอะไรเหรอ”
ลู่ฝานพูดอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “มันถามพวกคุณว่ามีของอร่อยต้อนรับไหม”
ผู้อาวุโสโม่หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “มีอยู่แล้ว มันอยากกินอะไรได้หมดไม่มีปัญหา”
เจ้าดำทำท่าทำทางอีกครู่หนึ่ง สีหน้าลู่ฝานไม่สู้ดีเข้าไปอีก คิดคำพูดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดว่า “เจ้าดำบอกว่ามันจะกินยาชั้นดี และต้องการสมุนไพรเยอะๆ รวมถึงแก้วหินสัตว์อสูรด้วย”
ผู้อาวุโสโม่พูดอย่างแน่วแน่ว่า “ไม่มีปัญหาเหมือนกัน”
เจ้าดำได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสโม่ มันพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นโบกกรงเล็กให้ลู่ฝาน
ท่าทางนั้นเหมือนกำลังบอกว่า นายเดินทางดีๆ ฉันจะไปเสวยสุขแล้ว
จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเจ้าดำเลย ไอ้หมอนี่ฉลาดกว่าคนธรรมดาเยอะมาก
เจ้าดำเดินอกผายไหล่ผึ่งออกไปข้างนอก