เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1003
หลังผ่านไปสามวัน บนเจดีย์ยา
ตรงปากมังกรชั้น 88
ตรงนี้เป็นจุดชมวิวของเจดีย์ยาที่มีอยู่ไม่กี่แห่ง ตั้งอยู่ตรงปากมังกรของตัวหม้อยาขนาดใหญ่ของเจดีย์ยาพอดี
ยืนอยู่บนลิ้นมังกร สามารถมองเห็นความเจริญของเมืองหลวงได้ทั้งหมด
หิมะปลิวว่อน ช่วงก่อนหน้านี้หิมะยังลอยเพียงเบาบาง ตอนนี้ทั้งเมืองหลวงถูกปกคลุมไปด้วยสีขาว
มองจากตรงนี้ ใต้หล้าเต็มไปด้วยหิมะ
ลู่ฝานเอาสองมือไพล่หลัง จิบเหล้าอึกเล็กๆ
สิบสามต้มเหล้าอยู่ด้านหลังเขา เหล้าเป็นเหล้ายา เมื่อดมแล้วจะเป็นกลิ่นยา
สิบสามต้มอย่างเงียบๆ การเคลื่อนไหวช้ามาก แต่ก็มั่นคงมาก
ระยะนี้ทำงานในเจดีย์ยากับลู่ฝาน ได้เห็นได้ยินบ่อยๆ ก็ทำให้สิบสามเรียนรู้วิธีใช้ยามาบางส่วน
อย่างน้อยการต้มเหล้ายาก็ไม่ใช่ปัญหา
“พี่ลู่ฝาน พี่ลู่ฝาน!”
เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลัง เซียวเฮ่าวิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เซียวเฮ่าหอบหายใจ แล้วตะโกนว่า “พี่ลู่ฝาน มีคนมาหาพี่ด้านล่าง ดูเหมือนมาจากวัง บอกว่าเป็นคนของไท่จื่อ”
ลู่ฝานหันมาพูดว่า “คนของไท่จื่อเหรอ มาท้าประลองกับฉันเหรอ”
เซียวเฮ่าส่ายหน้าพูดว่า “เหมือนจะไม่ใช่ พี่รีบลงไปเถอะ!”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ เดินตามเซียวเฮ่าลงไปช้าๆ
สิบสามหิ้วเหล้ายาที่ยังต้มไม่เสร็จตามไป การเคลื่อนไหวยังคงรวดเร็วราวกับผี
เดินตามบันไดเมฆลงไป เจอผู้ฝึกชี่จำนวนมากตลอดทาง
เมื่อคนพวกนี้เห็นลู่ฝาน ใบหน้ามีความดูหมิ่นขึ้นมาทันที หลังจากนั้นสะบัดแขนเสื้อไปยืนอีกด้าน ทำท่าเหมือนไม่เต็มใจเป็นพวกเดียวกับลู่ฝาน
ลู่ฝานรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีอะไรนอกจากการที่พวกเขาจำนวนมากโกรธ เพราะฐานะผู้จัดการดูแลเจดีย์ยาของเขา ทำให้ผู้ฝึกชี่จำนวนไม่น้อยขยะแขยงเขา
แต่ลู่ฝานไม่สนใจ เห็นคนพวกนี้เป็นแค่อากาศ
เซียวเฮ่าที่เดินตามหลังเขาก้มหน้าลง รีบเดินอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้เว้นระยะห่างกับลู่ฝาน
ทันใดนั้น ผู้ฝึกชี่วัยกลางคนคนหนึ่งเดินสวนมา คนคนนี้สวมเสื้อคลุมยาวสีฟ้า ตรงแขนเสื้อมีลายดิ้นทอง อักษรยันต์รูปยาสี่เม็ด นี่คือเครื่องหมายของผู้จัดการดูแลเจดีย์ยา!
เมื่อเห็นลู่ฝาน ผู้ฝึกชี่วัยกลางคนคนนี้ส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีท่าทีจะหลีกทางให้
ลู่ฝานก็ไม่สนใจเขา เดินอ้อมเขาแล้วเดินต่อไปข้างหน้า
ผู้ฝึกชี่วัยกลางคนปรายตามองลู่ฝานอย่างดูหมิ่น เขาไม่ได้เรียกลู่ฝานไว้ แต่กลับดึงเซียวเฮ่าแล้วพูดว่า “เซียวเฮ่า นายเดินเร็วขนาดนี้ทำไม อย่าบอกนะว่าเบื่อการเป็นผู้ฝึกชี่ อยากฝึกขาและเท้าเหมือนนักบู๊เหรอ”
เสียงของผู้ฝึกชี่วัยกลางคนดังมาก จู่ๆ ก็เรียกสายตาของคนจำนวนไม่น้อยให้หันมา คนกลุ่มหนึ่งหัวเราะเยาะออกมาทันที
เซียวเฮ่าพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ผู้อาวุโสหลิ่วซ่าน ผมแค่มาแจ้งผู้ดูแลลู่ฝานว่ามีคนมาหาเขาข้างล่าง”
หลิ่วซ่านหัวเราะพรืด แล้วพูดว่า “ผู้ดูแลลู่ฝานงั้นเหรอ ฉันเคยได้ยินแค่นักบู๊ลู่ฝาน นักกระบี่แห่งตงหวาลู่ฝาน แต่ไม่เคยได้ยินผู้จัดการดูแลเจดีย์ยาลู่ฝาน!”
“พูดได้ดี!”
ขณะนั้นผู้ฝึกชี่กลุ่มหนึ่ง พากันปรบมือส่งเสียงเชียร์
ลู่ฝานชะงักฝีเท้าลง มองหลิ่วซ่านแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “ป้ายจัดการดูแลของผม ผู้อาวุโสโม่เป็นคนมอบให้ ถ้าท่านไม่พอใจ ก็ไปแสดงความเห็นกับผู้อาวุโสโม่ แต่ถ้าท่านไม่รู้ ผมคงพูดได้เพียงว่าท่านแก่จนสายตาเลือนรางแล้ว!”
“เด็กปากดี ฉันไปแสดงความเห็นกับผู้อาวุโสโม่แน่นอน อย่าคิดว่ามีอสูรวิเศษกลั่นยาเป็น แล้วจะเจ๋งมาก ฉันจะบอกนายไว้นะ แค่เจดีย์ยาของเราไม่เคยคิดเรื่องที่อสูรวิเศษกลั่นยาเป็นเท่านั้น อีกไม่นานก็จะมีอสูรวิเศษกลั่นยาเป็น ที่แข็งแกร่งกว่าอสูรวิเศษของนายสิบเท่า ร้อยเท่า ปรากฏในเจดีย์ยา ดูสิว่าเมื่อถึงตอนนั้นนายยังจะมีหน้าเป็นผู้จัดการดูแลในเจดีย์ยาต่ออีกหรือเปล่า!”
หลิ่วซ่านพูดอย่างโมโหฟึดฟัด